ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 542 ตรุษจีน(2)
ตอนที่ 542 ตรุษจีน(2)
ในตอนนั้นเอง เซี่ยปิงหรุ่ยก็ไล่ตามเธอมา “มู่หลาน ทำไมเธอเดินเร็วขนาดนี้”
เมื่อเห็นเซี่ยปิงหรุ่ย ฉินมู่หลานก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเคยบอกว่าจะไปหาปิงชิง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปเลย วันนี้ยังเช้าอยู่ จึงไปได้
“ปิงหรุ่ย เดี๋ยวฉันไปกับเธอ ไปหาปิงชิงกับน้องชายตัวน้อยทั้งสองของฉันกัน”
หลังจากพูดจบ เธอก็อดหัวเราะไม่ได้ เป็นเพราะเจี่ยงสือเหิงเป็นพ่อบุญธรรม ถ้าอย่างนั้นลูกชายฝาแฝดทั้งสองของปิงชิงก็ถือเป็นน้องชายของเธอไปโดยปริยาย
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เช่นกัน
“ใช่ ไปหาน้องชายเธอกัน”
ทั้งสองพูดคุยด้วยกันขณะเดิน แล้วตรงไปที่บ้านตระกูลเจี่ยง
เมื่อฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยมาถึง เจี่ยงสือเหิงก็กลับมาแล้วเหมือนกัน เห็นฉินมู่หลานมาก็รู้สึกดีใจมาก “มู่หลาน ทำไมวันนี้ถึงว่างมาล่ะ”
“ฉันไม่ได้มานานแล้ว ก็เลยแวะมาหาพวกพ่อค่ะ”
เจี่ยงสือเหิงได้ยินแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “รีบเข้ามาเร็ว”
เซี่ยปิงชิงได้พบฉินมู่หลานก็ดีใจมากเช่นกัน จึงพูดกับเธอเยอะมาก ซึ่งเรื่องที่พูดล้วนเป็นเรื่องของลูกๆ
ฉินมู่หลานมีประสบการณ์มาเยอะแล้ว จึงเล่าให้เซี่ยปิงชิงฟังเยอะมาก นอกจากนี้ยังบอกเคล็ดลับการเลี้ยงลูกอีกมากมายด้วย
“มู่หลาน ฉันยังอยากถามเธออีก วิธีที่แม่ฉันรู้มีแต่วิธีเลี้ยงลูกแบบเก่า บางอย่างมันดูไม่ค่อยดีเลย”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ จึงปรายตามองเซี่ยปิงชิง แล้วกล่าวว่า “เธอรีบหยุดพูดเลยนะ เกิดแม่ได้ยินเข้า เธอโดนบ่นหูชาอีกแน่”
เมื่อนึกถึงแม่ขึ้นมา เซี่ยปิงชิงก็รีบหยุดพูดทันที
และฉินมู่หลานก็ถามพวกเขาเรื่องแผนช่วงวันปีใหม่
“มู่หลาน ถึงตอนนั้นพวกเราคงกลับซีอาน พวกเด็ก ๆ ก็น่าจะไปด้วย กลับมาอีกทีก็วันที่เจ็ดของเทศกาลน่ะ”
“ก็ดี ตั้งแต่เธอคลอดลูกแล้วยังไม่ได้กลับไปเลย ควรกลับไปช่วงปีใหม่จริง ๆ นั่นแหละ”
เซี่ยปิงชิงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว ทางฝั่งซีอานกระตุ้นฉันหลายรอบแล้ว อยากจะให้ฉันพาเด็ก ๆ กลับไป” เมื่อนึกถึงความกระตือรือร้อนของพวกคนที่บ้าน เซี่ยปิงชิงก็รู้สึกตลกนิดหน่อยที่พวกเขาต่างตั้งหน้าตั้งตารอเจอฝาแฝดกัน
ฉินมู่หลานนั่งสักพัก ก่อนจะกลับไปโดยไม่แวะรับประทานข้าวเย็น เมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็ทันเวลาอาหารเย็นพอดี
ขณะรับประทานอาหาร นายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็ทราบว่าเซี่ยเหวินปิงและฉินเจี้ยนเซ่อจะกลับบ้านเกิดของพวกเขา จึงอดไม่ได้ที่จะหันมองเหยาจิ้งจือและซูหว่านอี๋ก่อนจะพูดขึ้นว่า “จิ้งจือ หว่านอี๋ ถึงช่วงปีใหม่แล้วทุกคนไปฉลองที่บ้านตระกูลเหยากันเถอะ”
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้กล่าว คุณนายเหยาก็เปิดปากก่อนแล้ว
“เทียวไปเทียวมาก็ลำบากอยู่นะ อยู่ฉลองที่นี่ก็ดีแล้วล่ะ พวกเราสองคนก็อยู่ที่นี่กันแล้ว ถึงตอนนั้นก็ให้พวกเสวี่ยเยี่ยนมาหาก็พอแล้ว”
ก่อนหน้านี้เหยาจิ้งจือก็คิดเหมือนกัน จึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ค่ะ ฉลองปีใหม่ที่บ้าน ให้พวกเจ๋อเหว่ยมาหาก็ได้ค่ะ”
นายท่านเหยาเห็นลูกสาวกล่าวแบบนี้ จึงไม่คัดค้านอะไร พยักหน้าพลางกล่าวว่า “ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้”
จนกระทั่งถึงช่วงที่ฉินมู่หลานหยุด บนถนนหนทางก็ค่อย ๆ เต็มไปด้วยบรรยากาศของวันปีใหม่ ส่วนทางด้านเซี่ยเหวินปิงและฉินเจี้ยนเซ่อก็กลับบ้านเกิดในวันที่ยี่สิบเดือนสิบสองตามปฏิทินจีน ส่วนฉินมู่หลานดูแลลูกอยู่ที่บ้านตลอดทั้งวัน และไม่กล้าพาลูกออกไปเจออากาศหนาวข้างนอก เพราะกลัวว่าเด็ก ๆ จะเป็นหวัด
ทั้งเหยาจิ้งจือและซูหว่านอี๋ต่างยุ่งมาก ดังนั้นหลี่เสวี่ยเยี่ยนและเซี่ยเจ๋อเหว่ยจึงมาหาล่วงหน้า
“มู่หลาน ตอนนี้แม่สุดยอดมากเลย ตอนที่หล่อนทำงานอยู่ในโรงงาน สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดีเลย” ตอนนี้หลี่เสวี่ยเยี่ยนชื่นชมแม่สามีของเธอมาก กับซูหว่านอี๋ก็เช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองต่างยุ่งมาก หล่อนจึงมาช่วยดูแลเด็ก ๆ ตอนที่มีเวลาว่างนิดหน่อย
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “แม่กับแม่สามีพัฒนาขึ้นมากจริง ๆ ต่อไปจะต้องบริหารงานของตัวเองได้แน่นอนค่ะ”
“จริงเหรอ ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนหยักหน้า แล้วเอ่ยถาม “จริงสิ แล้วช่วงปีใหม่อาหลี่จะกลับมาไหม?”
“ยังไม่รู้เลยค่ะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้กลับมาตั้งแต่ครั้งก่อน มู่หลานจึงไม่ทราบว่าเขาจะสามารถกลับมาช่วงปีใหม่ได้หรือเปล่า
“อาหลี่คงจะยุ่งมาก แต่ถ้าว่างเขาก็คงจะกลับมาแน่นอน”
หากเซี่ยเจ๋อหลี่ว่างจะกลับมาแน่นอน ในที่สุดเขาก็กลับมาบ้านทันช่วงปีใหม่พอดี
ตอนแรกเหยาจิ้งจือคิดว่าลูกชายคนเล็กจะกลับบ้านช่วงปีใหม่ไม่ได้ ทันทีที่เห้นคนมา สีหน้าจึงเต็มไปด้วยควาประหลาดใจ “อาหลี่ ในที่สุดแกก็กลับมาแล้ว รีบเข้ามาเร็ว”
谢哲礼进去后,一一喊了人,之后就直直的看向了秦木蓝。
หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่เข้ามา ก็ทักทายทีละคน หลังจากนั้นเขาก็มองหาฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานก็ไม่คิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่จะกลับมาได้ทันเวลา จึงรีบยกยิ้มแล้วโบกมือให้เขา จากนั้นก้กล่าวว่า “อาหลี่ มานั่งนี่ค่ะ”
ชิงชิงและเฉินเฉินจำพ่อตัวเองได้ แต่เจ้าสามและเจ้าสี่ยังจำไม่ได้ ขณะที่เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจะอุ้มพวกเขา ทั้งสองก็ปฏิเสธแล้วหันหลังกลับไม่ยอมให้อุ้ม
“เจ้าเด็กสองคนนี้ ลืมพ่อไปซะแล้ว”
ฉินมู่หลานอดหัวเราะไม่ได้ “ถวนถวนกับหยวนหยวนไม่ค่อยได้เจออาหลี่บ่อย จำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เดี๋ยวต่อไปก็จำได้เอง”
แต่สักพักหนึ่งเด็กทั้งสองก็เข้ากับเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ จึงยอมให้อุ้ม หลังจากนั้นก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อถึงวันส่งท้ายปีเก่า เซี่ยเจ่อหลี่ก้ให้มู่หลานพาเด็ก ๆ ไปพักผ่อน ส่วนเขานั่งรอวันส่งท้ายปีเก่า
ฉินมู่หลานส่ายหัวก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเองนะคะ ชิงชิงกับเฉินเฉินไปนอนกับแม่แล้ว เจ้าสามกับเจ้าสี่ก็อยู่กับคุณตาคุณยาย กว่าพวกเขาจะมาก็คงใกล้เที่ยงคืนพอดี”
ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องชิงชิงและเฉินเฉินอีกต่อไปแล้ว กลางคืนพวกเขานอนหลับสบายมาก
ส่วนเจ้าสามกับเจ้าสี่นั้นยังตื่นทุก ๆ สองชั่วโมง ช่วงนี้มักจะตื่นตอนเที่ยงคืนเป็นประจำ ก่อนหน้านี้ฉินมู่หลานว่าจะไปเอามาเลี้ยงเอง แต่นายท่านเหยาและคุณนายเหยากลับลังเลที่จะปล่อยเด็ก ๆ มา โชคดีที่พ่อบ้านเหยาและคนอื่นๆ มาช่วย ไม่เช่นนั้นคงกลัวว่าผู้เฒ่าทั้งสองคงจะเหนื่อย
“ก็ได้”
จนกระทั่งเสียงประทัดข้างนอกดังขึ้นมา ก็บอกเวลาว่าเที่ยงคืนแล้ว และภายในบ้าน พ่อบ้านเหยาก็ยังไม่ได้นอน แล้วพาคนอื่น ๆ ไปเริ่มจุดประทัด
เสียงที่มีชีวิตชีวารอบตัวดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าปีใหม่เริ่มต้นอีกครั้ง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
การเลี้ยงลูกตอนดึกนี่ก็ลำบากแม่เหมือนกันนะคะ ไม่ได้นอนเต็มอิ่มสักคืน
ไหหม่า(海馬)