ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 543 อยากไปเซินเจิ้น(1)
ตอนที่ 543 อยากไปเซินเจิ้น(1)
ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่อยู่จนถึงเวลาเที่ยงคืนและกลับไปที่ห้องของพวกเขา และในตอนนี้ถวนถวนและหยวนหยวนก็ถูกพาตัวมาแล้วเช่นกัน หลังจากมู่หลานให้นมพวกเขาแล้ว ก็นอนพร้อมกับเซี่ยเจ๋อหลี่และลูก ๆ ทั้งสองคน
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ในบ้านก็มีชีวิตชีวา ได้ยินเสียงประทัดตั้งแต่เช้าตรู่ ชิงชิงและเฉินเฉินก็มองดูตรงหน้าบ้านด้วยความตื่นเต้นขณะที่พ่อบ้านเหยากำลังพาคนมาจุดประทัด เมื่อพวกเขาเห็นฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่เดินมา ก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ปะป๊า หม่าม้า ปีใหม่สนุกจังเลย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดลูบหัวลูก ๆ ทั้งสองคนไม่ได้ แล้วกล่าวว่า “จ้ะ ปีใหม่สนุก แล้วพวกลูกกินข้าวเช้าหรือยัง?”
“กินแล้ว”
เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองกินข้าวแล้ว ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่จึงเดินไปที่ห้องทานอาหาร
วันนี้เป็นวันแรกของปีใหม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปอวยพรวันปีใหม่ แต่ก็มีคนมาที่บ้านไม่น้อย เป็นเพราะนายท่านเหยาและคุณนายเหยามาร่วมฉลองวันปีให่ที่นี่ ผู้คนมากมายจึงมาเยี่ยมเยียนและอวยพรวันปีใหม่
จนกระทั่งวันที่สองของปีใหม่ ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ก็พาชิงชิงและเฉินเฉินไปที่บ้านตระกูลเซี่ย
เซี่ยฉางชิงเห็นลูกสาวพาครอบครัวมาหาก็ดีใจมาก แต่เมื่อไม่เห็นถวนถวนและหยวนหยวน จึงรู้สึกเสียใจนิดหน่อย “เดี๋ยวอีกสองสามวันพ่อจะไปหาพวกเขา”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมทั้งยกยิ้ม
ตอนนี้ทัศนคติของคุณนายเซี่ยที่มีต่อฉินมู่หลานก็ดีขึ้นมาก เพราะเริ่นม่านนีตั้งครรภ์ได้ ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณฉินมู่หลาน “มู่หลาน กินเยอะ ๆ นะ”
“ค่ะ”
จากนั้นคุณนายเซี่ยก็บอกให้ชิงชิงและเฉินเฉินรับประทานอาหารให้เยอะขึ้นอีก เฝ้ามองฝาแฝดหน้าตาสวยหล่อคู่แบบนี้แล้วก็ให้รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเข้าใจว่าพวกเขาเป็นตระกูลรองที่ปักกิ่ง แต่ก็ยังถือว่าเป็นสมาชิกตระกูลเซี่ย ดูมู่หลานสิ มีลูกกี่ครั้งก็ได้ลูกแฝดตลอด น่าเสียดายที่ม่านนีไม่มีหวังเลย พวกเขาลองไปตรวจที่โรงพยาบาลมาแล้ว แต่เป็นเด็กแค่คนเดียว
“ชิงชิง เฉินเฉิน ลองกินลูกชิ้นปลานี้ดูสิ เพิ่งทำมาใหม่ ๆ เลย ถ้าพวกหลานไม่ลองคงเสียดายแย่”
“ขอบคุณคุณทวด”
เมื่อเห็นเด็กทั้งสองเป็นเด็กดีแบบนี้ คุณนายเซี่ยก็รู้สึกว่าช่างหาได้ยาก
เริ่นม่านนีมองเด็กทั้งสอง ก่อนจะอดพูดไม่ได้ “ต่อไปก็หวังว่าลูกของพวกเราจะเป็นเด็กดีแบบนี้บ้างนะ”
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลังรับประทานมื้อกลางวันเสร็จ ฉินมู่หลานและพวกเซี่ยเจ๋อหลี่ก็จะกลับแล้ว แต่เมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่ามีแขกมาหาด้วย
ล
“มู่หลาน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ฉินมู่หลานไม่คิดว่าวันที่สองของปีใหม่ เผยเจิ้งผู่จะมาหา “อาเผย ไม่เจอกันนานเลยค่ะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าเผยเจิ้งผู่มีเรื่องจะคุยด้วย จึงพาเด็กทั้งสองกลับเข้าไปก่อน
หลังจากทั้งสองนั่งลง เผยเจิ้งผู่ก็กล่าวขอโทษถึงสิ่งที่ข่งไฉ่อิงภรรยาของเขาทำเป็นอันดับแรก “มู่หลาน ขอดทษด้วจริง ๆ นะ ฉันไม่คิดว่าไฉ่อิงจะทำตามใจตัวเอง จนมาลงเอยแบบนี้” เขาเคยโน้มน้าวภรรยามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ข่งไฉ่อิงก็ไม่ฟัง
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้จึงรีบกล่าวทันที “อาเผยคะ การร่วมงานกันก็ต้องอาศัยโชคชะตามาช่วยค่ะ บางทีโชคชะตาของฉันกับคุณข่งอาจจะจบกันไปแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เผยเจิ้งผู่จึงทราบว่าฉินมู่หลานไม่คิดอยากจะร่วมงานด้วยอีกต่อไปแล้ว “ก็จริง การร่วมงานกันบางทีก็ต้องอาศัยโชคชะตา ไฉ่อิงคงพลาดโชคชะตาที่จะได้ร่วมงานกับเธอไปแล้ว วันนี้ที่มาหาก็เพราะอยากจะพูดเรื่องนี้กับเธอ รวมถึงมาแสดงความยินดีกับเธอด้วย ยินดีด้วยที่ได้ลูกชายฝาแฝด”
“ขอบคุณค่ะอาเผย”
เมื่อเห้นว่าเผยเจิ้งผู่ไม่พูดเรื่องข่งไฉ่อิงแล้ว ฉินมู่หลานก็กล่าวเพิ่ม หลังจากเผยเจิ้งผู่มอบของขวัญครบรอบหนึ่งรอยวันให้กับถวนถวนและหยวนหยวน เขาก็กลับไป
“อาเผย นี่มันมากเกินไปแล้วค่ะ”
จริง ๆ แล้วหากจะพูดถึง ทั้งสองก็เป็นแค่เพื่อนบ้านกันเท่านั้น แต่เผยเจิ้งผู่กลับมอบจี้หยกคนละอันให้กับเด็กทั้งสอง มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าจี้หยกนี้ราคาแพงมาก
เผยเจิ้งผู่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เหมาะแล้ว” พูดจบเขาก็ไม่ให้โอกาสมู่หลานได้ปฏิเสธ รีบเดินหนีไปทันที
เมื่อเหยาจิ้งจือเดินมาหาก็อดถามไม่ได้ “เจิ้งผู่กลับไปแล้วเหรอ ทำไมกลับไปไวจังเลย” พูดจบก็เอ่ยถามจุดประสงค์ที่เผยเจิ้งผู่มาหา
ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปิดบัง แล้วเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่
“อาจเป็นเพราะทางฝั่งของข่งไฉ่อิงยังอยากร่วมงานกับพวกเราต่อค่ะ แต่ว่าฉันปฏิเสธไปแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยาจิ้งจือก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ ร่วมงานกันแบบนั้นพวกเราไม่ต้องการหรอก ใครจะไปรู้ว่าข่งไฉ่อิงจะร่วมงานด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือเปล่า”
สองแม่ลูกคุยกัน ส่วนทางด้านตระกูลเผย เผยเจิ้งผู่ก็บอกลูกชายเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน
“พ่อ ผมกลับมาแล้ว”
แต่เมื่อเห็นท่าทางของเผยเจิ้งผู่ดูไม่ค่อยดีนัก เผยกวงซินจึงอดถามไม่ได้ “หรือว่าการเจรจาไม่ดี?” อันที่จริงแล้วสิ่งที่แม่ทำนั้นมันทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีเลย หากเขาเป็นฉินมู่หลาน ก็คงไม่อยากร่วมงานต่อเหมือนกัน
เผยเจิ้งผู่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ มู่หลานไม่อยากร่วมงานกับแม่ของแกแล้ว มันก็เป็นเพราะหล่อนที่ไม่ดีด้วย ฉันเคยเตือนหล่อนแล้ว แต่หล่อนก็ไม่ยอมฟัง”
คราวนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้นที่เดินทางกลับมาเมืองหลวงเพื่อฉลองวันปีใหม่ ข่งไฉ่อิงอยู่ที่ฮ่องกง แต่ก่อนที่พวกเขาจะกลับมา ข่งไฉ่อิงก็ยังขอให้เผยเจิ้งผู่ไปถามฉินมู่หลาน
เผยเจิ้งผู่ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพียงแต่เห็นว่าฉินมู่หลานเพิ่งคลอดลูก จึงเป็นเหตุผลที่ควรไปหา ดังนั้นเผยเจิ้งผู่จึงยอมไป แต่โชคร้าย ตอนที่เขามา มู่หลานออกไปข้างนอกพอดี เขาจึงต้องรอสักพักกว่าพวกเขาจะกลับ
“พ่อ ในเมื่อร่วมงานไม่ได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้เราก้ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”
เผยเจิ้งผู่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่แล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”
เผยเจิ้งผู่ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป ก่อนจะพูดกับลูกชายว่า “กวงซิน พรุ่งนี้พวกเราไปอวยพรวันปีใหม่แถวบ้านเกิดกัน”
“ครับ”
ฉินมู่หลานไม่มีความกังวลใจเรื่องนี้แล้ว ถึงอย่างไรก็ได้บอกกับทางเผยเจิ้งผู่เรียบร้อยแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
จริงๆ ถ้าไม่โลภมากกับมู่หลานก็คงได้ร่วมงานกัน มีปีใหม่ที่ดีต่อกัน พอเป็นแบบนี้ก็ทางใครทางมันดีกว่าล่ะ
ไหหม่า(海馬)