ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 563 จัดการให้จบทีเดียว
ตอนที่ 563 จัดการให้จบทีเดียว
หลังจากที่ฉินมู่หลานออกจากบ้านพักไป เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เมื่อกลับถึงบ้านพร้อมลูกทั้งสองแล้วก็พบว่าที่บ้านยังคงคึกคักมาก
ซูหว่านอี๋เห็นฉินมู่หลานกลับมาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วพูดว่า “มู่หลาน ถึงทุกคนจะรู้ว่าลูกไปค่ายทหารแล้ว แต่ก็ยังมารอลูกที่นี่ทุกเช้าอยู่เลย”
ได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วมุ่น
ไม่รู้ว่านายท่านเซี่ยจัดการอย่างไร จนถึงป่านนี้แล้ว เขาก็ยังจัดการได้ไม่ดีเลย ไม่ต่างจากการอยู่นิ่งเฉยเลยจริง ๆ
เมื่อคนที่รออยู่เห็นฉินมู่หลานมาแล้ว ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และกำลังจะรีบเดินเข้ามาหา
ทันใดนั้น นายท่านเซี่ยที่ฉินมู่หลานคิดว่าไม่มีความสามารถก็เดินเข้ามา ทันทีที่เขาเดินเข้าประตูมาแล้วเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ในที่สุดก็รู้ซึ้งถึงพลังของข่าวลือ แม้เขาจะได้ยินมาว่าที่นี่คึกคักมาก แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะคึกคักเพราะคนมาเยอะขนาดนี้
คนอื่น ๆ ก็เห็นว่านายท่านเซี่ยมาแล้วเช่นกัน ทุกคนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันย่อมรู้จักกันดี แต่ที่นี่มีเพียงหญิงชรากับหญิงสาวมาเท่านั้น ทุกคนจึงไม่ได้สนิทสนมกับนายท่านเซี่ย เพียงแค่พยักหน้าและกล่าวสวัสดีเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ได้พูดคุยอีกแล้ว
เมื่อเห็นผู้คนมากันมากมาย นายท่านเซี่ยก็รีบก้าวไปข้างหน้า แล้วอธิบายว่า: “เป็นเพราะคุณย่าของมู่หลาน ข่าวลือเท็จก็เลยแพร่กระจายไปทั่ว ดังนั้นทุกคนอย่าไปเชื่อเลยครับ วันนี้โปรดรีบกลับไปเถอะ หลานสาวของผมไม่ได้มีสิ่งที่เรียกว่าสูตรลับช่วยให้มีลูกชายหรอกครับ”
เขาเคยขอให้คนมาอธิบายให้แล้ว มันก็ได้ผลอยู่บ้าง แต่คนที่เคยได้รับใบสั่งยาจากมู่หลานก่อนหน้านี้ ย่อมบอกว่ามู่หลานเก่งมาก จึงมีบางคนยังยืนกรานที่จะเชื่อว่า มู่หลานมีสูตรลับช่วยให้มีลูกชายจริง ๆ
และเขายังได้ยินมาด้วยว่า มู่หลานมีปัญหากับผู้คนที่มาหาเธอที่บ้าน วันนี้เขาจึงแวะเข้ามาดู ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นผู้คนมายืนรอมู่หลานเยอะขนาดนี้
แต่หลังจากที่คนเหล่านั้นได้ยินสิ่งที่นายท่านเซี่ยพูด พวกเขาก็ไม่ยอมออกไปเลย
“ท่านเซี่ย คุณพูดจาถ่อมตัวเกินไปแล้ว พวกเราทุกคนรู้ดีว่าหลานสาวของคุณมีความสามารถขนาดไหน เราถึงได้พาครอบครัวมาหาหล่อนที่นี่ ส่วนจะมีสูตรลับที่ช่วยให้มีลูกชายหรือเปล่า พวกเราไม่ได้เคร่งขนาดนั้น แค่อยากให้ลูกหลานในครอบครัวเราตั้งครรภ์เท่านั้นค่ะ”
นายท่านเซี่ยได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้ว
“พวกคุณมาที่นี่เพื่อขอสูตรลับช่วยให้มีลูกชายไม่ใช่เหรอครับ?” เขาคิดว่าทุกคนมาที่นี่เพราะอยากให้มีลูกชาย
“พวกเราไม่ได้จะเรียกร้องมากขนาดนั้นค่ะ ตราบใดที่ลูกหลานในครอบครัว สามารถมีทายาทสืบสกุลไว้ให้คนแก่อย่างพวกเราได้ จะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง พวกเราก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น”
นายท่านเซี่ยไม่คาดคิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้
ฉินมู่หลานก็มองทุกคน ดูเหมือนว่าคำอธิบายก่อนหน้านี้ของเธอยังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยทุกคนก็เชื่อว่าไม่มีสูตรลับที่ทำให้มีลูกชายแน่นอน ทุกวันนี้พวกหล่อนมาเพื่อขอสูตรยาที่ทำให้มีลูก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทนให้คนมารบกวนที่บ้านเยอะทุกวันไม่ได้
“ตอนนี้ฉันยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่เลย แล้วก็ไม่ได้เป็นหมอเต็มตัวด้วย ดังนั้นถ้าทุกคนอยากขอคำแนะนำจากแพทย์ แทนที่จะมาหาฉัน ก็สามารถไปที่โรงพยาบาลได้เลยค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นายท่านเซี่ยก็ตั้งสติได้ แล้วพูดเสริมว่า: “ใช่ หลานสาวของผมยังเรียนอยู่เลย พวกคุณอย่าทำให้หล่อนต้องลำบากใจเลยครับ”
แต่ทุกคนที่มาแล้ว ย่อมไม่เต็มใจกลับไปมือเปล่าแน่นอน
“พวกเรารู้ว่าหนูยังเรียนอยู่ แต่ทักษะทางการแพทย์ของหนูนั้นดีมากอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งกว่านั้นคือหนูไม่ได้อยากเปิดร้านขายยาแบบร้านทงเหรินเหรอ? ร้านทงเหรินมีหมอคอยตรวจ ดังนั้นร้านซิ่งหลินของหนูก็ต้องมีหมอคอยตรวจให้เหมือนกันใช่ไหม พวกเราก็แค่เข้ามาให้ตรวจล่วงหน้าเท่านั้นเองจ้ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมคำพูดของคนคนนี้ แต่ติดที่ว่าร้านซิ่งหลินของเธอยังไม่เปิด
“ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็รอให้ร้านซิ่งหลินเปิดก่อน ก็คงไม่สายเกินไปที่จะกลับมาอีกครั้งนะคะ”
เมื่อเห็นการปฏิเสธอันหนักแน่นของฉินมู่หลาน ทุกคนก็เริ่มวิตกกังวล สุดท้ายก็เริ่มพูดขอร้อง: “พวกเรามากันแล้ว ก็ช่วยตรวจให้เราวันนี้เลยสิจ๊ะ แล้วตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ก็ไม่ต้องเปิดประตูอีก คนจะได้เข้ามาไม่ได้ ตกลงไหมจ๊ะ”
คนที่พูดล้วนเป็นพวกแม่เฒ่าทั้งหมด ในที่สุดฉินมู่หลานก็ใจอ่อน หลังจากเห็นสีหน้าขอร้องของเหล่าแม่เฒ่า
“วันนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะคะ เพราะพรุ่งนี้เราจะไม่เปิดประตูบ้านอีก”
“ได้สิ ได้สิ พวกเราจะไม่มาที่นี่แล้วแน่นอน จะแค่รอให้ร้านซิ่งหลินของหนูเปิด แล้วก็จะไปที่ร้านซิ่งหลินโดยตรงเลยจ้ะ”
สุดท้ายฉินมู่หลานก็ต้องจับชีพจรของพวกหญิงสาวที่มาในวันนี้ แล้วเขียนใบสั่งยาให้ หลังจากส่งทุกคนออกไปแล้ว ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นายท่านเซี่ยยังไม่จากไป เมื่อเห็นหลานสาวเพิ่งจะเลิกยุ่ง ก็รีบพูดว่า: “มู่หลาน ขอบคุณที่ลำบากนะ”
ฉินมู่หลานส่ายหน้า แล้วชวนเขา: “คุณปู่ อยู่รับประทานอาหารกลางวันก่อนไหมคะ?”
“ได้สิ.”
นายท่านเซี่ยพยักหน้ารับ แล้วจากไปหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ
ฉินมู่หลานยุ่งตลอดทั้งช่วงเช้า จึงวางแผนว่าจะไปงีบหลับสักหน่อย แต่แล้วจู่ ๆ หลิวเสวียข่ายก็เข้ามาหา
ทันทีที่หลิวเสวียข่ายเห็นฉินมู่หลาน รอยยิ้มก็พลันปรากฏบนใบหน้า “ใบอนุญาตเปิดร้านซิ่งหลินออกมาแล้วครับ และยาหลายตัวที่คุณส่งไปตรวจสอบก่อนหน้านี้ ก็ผ่านเช่นกันครับ”
เมื่อได้ยินข่าวดี ฉินมู่หลานก็รู้สึกใจชื้นขึ้น
“จริงเหรอคะ ผ่านหมดทุกตัวแล้วเหรอคะ?”
หลิวเสวียข่ายพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “ใช่ครับ ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญนะครับ ทั้งสองชนิดผ่านหมดแล้วครับ ผมก็เลยรีบมาบอกข่าวดีคุณ”
“นี่เป็นข่าวดีจริง ๆ ค่ะ”
เมื่อเห็นสีหน้าดีใจของฉินมู่หลาน หลิวเสวียข่ายก็พูดอย่างมีเลศนัยว่า: “คราวนี้พวกคุณต้องเลี้ยงมื้อเย็นผมด้วยนะครับ”
พูดจบ เขาก็หยิบถุงเอกสารใบหนึ่งออกมา แล้วพูดว่า “ผมคิดว่าธุรกิจของพวกคุณ จะต้องยิ่งขยายเติบโตมากขึ้น ผมก็เลยขอใบอนุญาตให้พวกคุณเพิ่มอีกฉบับหนึ่งครับ”
“อะไรนะคะ?”
ฉินมู่หลานรับเอกสารที่หลิวเสวียข่ายมอบให้ด้วยความสงสัย เมื่อเธอได้อ่านเนื้อหาในช่วงแรกแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ “ผู้อำนวยการหลิว คุณช่วยให้เราได้รับคุณสมบัติทั้งหมด ที่ทำให้สามารถเปิดโรงงานได้แล้วค่ะ”
“ใช่ครับ ในเมื่อทำแล้วก็ทำทุกอย่างให้เสร็จไปเลย จัดการให้จบทีเดียว จะได้ไม่ต้องยุ่งยากไปทำแยกกันทีหลังครับ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ แล้วพูดว่า: “ผู้อำนวยการหลิว ฉันต้องขอบคุณคุณจริง ๆ ค่ะ อาหารมื้อเดียวยังน้อยไป ต่อให้ต้องเลี้ยงหลายมื้อก็ไม่มากเกินไปหรอกค่ะ”
หลิวเสวียข่ายยิ้ม แล้วโบกมือพลางพูดว่า: “มื้อเดียวก็พอแล้วครับ วันนี้ผมต้องกลับไปก่อน พอดีว่ามีธุระอย่างอื่นต้องทำน่ะครับ”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มให้ แล้วส่งหลิวเสวียข่ายไปที่ประตู หลังจากนั้นเธอก็ไม่นอนพักอีกต่อไป แต่ไปหาเซี่ยปิงหรุ่ยแทน
เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยรู้ว่าร้านซิ่งหลินพร้อมที่จะเปิดแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เยี่ยมมาก ในที่สุดร้านซิ่งหลินของเราก็จะเปิดได้แล้ว”
แต่หลังจากที่รู้ว่าโรงงานผลิตยาก็สามารถเปิดดำเนินการได้แล้วเช่นกัน เซี่ยปิงหรุ่ยก็ถามคำถามหนึ่งว่า “มู่หลาน จำเป็นต้องรับสมัครคนมาทำงานในโรงงานยาหรือเปล่า”
“แน่นอนว่าต้องรับสมัครคนสิ”
“ถ้าอย่างนั้น… คนในตระกูลเซี่ยของฉันจะมาทำด้วยได้ไหม?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอ แล้วถามว่า “คนตระกูลเซี่ยในเมืองซีอานจะมาเหรอ?”
“มีหลายคนในตระกูลของฉันที่เก่งเรื่องการสกัดยามาก ฉันอยากให้พวกเขามาทำงานที่นี่ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะเต็มใจมาหรือเปล่า”
ตอนแรกฉินมู่หลานคิดว่าเซี่ยปิงหรุ่ย ต้องการหางานให้สมาชิกในครอบครัว แต่นั่นจะถือว่าเป็นการโจมตีคู่แข่ง
“ปิงหรุ่ย ถ้าปู่ของเธอรู้เรื่องนี้เข้า อาจจะตีเธอก็ได้”
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ย่าช่างหาเรื่องลำบากมาให้มู่หลานจริงๆ แต่ก็ดีตรงที่ร้านยาของมู่หลานได้เปิดเร็วขึ้น
ไหหม่า(海馬)