ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 566 ครบหนึ่งขวบ(1)
ตอนที่ 566 ครบหนึ่งขวบ(1)
เมื่อได้ฟังคำพูดของคังอันเหอ ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ พวกฉันวางแผนว่าจะเปิดร้านซิ่งหลิน”
ครั้นคังอันเหอเห็นว่าตัวเองเดาถูก ก็ครุ่นคิดบางอย่างในใจ
“หมอฉิน พวกคุณยังรับสมัครคนที่ร้านซิ่งหลินอยู่หรือเปล่าคะ คุณคิดว่าคนแบบฉันจะเข้าร่วมกับพวกคุณด้วยได้ไหมคะ?”
เดิมทีฉินมู่หลานสงสัยว่าคังอันเหอจะถามอะไร ไม่คิดเลยว่าหล่อนอยากจะสมัครงาน “หมอคัง คุณไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาลหรอกเหรอคะ ทำไมถึงคิดจะมาทำงานที่ร้านซิ่งหลินแล้วล่ะคะ?”
“ฉันลาออกแล้วค่ะ”
หลังจากการผ่าตัดครั้งนี้ ทั้งตัวหล่อนเองและคนในครอบครัวของหล่อนก็หวังว่าหล่อนจะดูแลสุขภาพให้ดีกว่านี้
เดิมทีหล่อนคิดว่าจะไม่ลาออก แต่แล้วก็ตระหนักดีว่าตนเองมีข้อบกพร่อง ตรวจไม่พบความผิดปกติในร่างกายตัวเองด้วยซ้ำ หล่อนจึงอยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อศึกษาต่อเพิ่มเติม แล้ววันนี้ก็บังเอิญได้เจอกับฉินมู่หลาน จึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมา
ฉินมู่หลานคาดไม่ถึง ว่าคังอันเหอจะลาออกจากงานที่โรงพยาบาลจริง ๆ เพราะงานนี้เป็นงานที่มั่นคงมากในสายตาของคนส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังต้องพูดให้ชัดเจน
“หมอคัง ร้านซิ่งหลินของพวกฉันเน้นไปที่การแพทย์แผนจีนเป็นหลัก เท่าที่ฉันรู้มา นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณเรียนมานี่คะ”
ความหมายก็คือ คังอันเหอมีคุณสมบัติไม่ผ่านมาตรฐานของร้านซิ่งหลิน
คังอันเหอไม่ยอมแพ้
“หมอฉิน คุณอาจไม่รู้ว่าฉันเป็นศัลยแพทย์แพทย์แผนจีน ถือว่าคุณสมบัติของฉันผ่านมาตรฐานร้านของพวกคุณค่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย ครั้งแรกที่เธอพบกับคังอันเหอก็มีความขัดแย้งกัน ครั้งที่สองเธอพบกับคังอันเหอในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลทหาร เธอจึงเผลอคิดไปว่าคังอันเหอคงเรียนแพทย์แผนตะวันตกมา ไม่คิดเลยว่าความจริงแล้วจะเป็นศัลยแพทย์แพทย์แผนจีน
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานไม่ได้พูด คังอันเหอก็พูดต่อ: “ฉันรู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของฉันยังไม่ดีพอ แต่ฉันจะตั้งใจเรียนให้หนัก อย่างแย่ที่สุด ฉันยังคงเป็นหมอจัดยาได้ค่ะ”
“ถ้าฉันให้คุณไปจัดยาจริง ๆ คุณจะไม่ทำแน่นอนค่ะ”
แต่คังอันเหอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “ไม่ค่ะ ฉันจะทำ และจะทำให้ดีด้วยค่ะ”
ฉินมู่หลานไม่คาดคิดว่าคังอันเหอจะมีความมุ่งมั่นเช่นนี้ เห็นหล่อนพูดเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจ “ก็ได้ค่ะ ในเมื่อคุณอยากมาทำงาน ฉันก็เห็นด้วยค่ะ แต่คุณต้องเตรียมใจไว้ให้ดีนะคะ เพราะงานที่ร้านซิ่งหลินไม่ง่ายเลย”
เดิมทีคังอันเหอคิดว่าตนจะถูกปฏิเสธ เพราะความสัมพันธ์ของหล่อนกับฉินมู่หลานนับว่าไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่คาดคิดว่าฉินมู่หลานจะยอมรับหล่อน สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความดีใจ “เยี่ยมมากเลยค่ะ ฉันจะทำงานหนักแน่นอน และจะพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุดค่ะ”
เป้าหมายของหล่อนคือการพัฒนาทักษะทางการแพทย์ของตัวเอง จึงน่าจะสามารถเรียนรู้ความรู้จากฉินมู่หลานได้ แม้จะเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อย แต่ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อหล่อนมาก
หลังจากพูดถึงเรื่องนี้จบแล้ว ในที่สุดคังอันเหอก็พูดถึงบ้านหลังนี้
“ตอนแรกฉันวางแผนไว้ว่าจะปล่อยเช่าบ้านหลังนี้ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันเข้าร่วมร้านซิ่งหลินแล้ว บ้านหลังนี้ก็ถือว่าเป็นน้ำใจของฉันก็แล้วกันนะคะ”
แต่ฉินมู่หลานปฏิเสธทันที
“เรื่องส่วนรวมกับเรื่องส่วนตัวต้องแยกกันค่ะ ในเมื่อคุณวางแผนไว้ว่าจะปล่อยเช่า ไม่ว่าจะยังไง พวกเราก็จะจ่ายค่าเช่าให้ทุกเดือน” เธอพูดอย่างจริงจัง เธอกับเซี่ยเจ๋อหลี่ต่างก็มีบ้านที่เป็นชื่อของพวกเขา แต่บ้านนั้นไม่เหมาะจะทำเป็นร้านยา จึงต้องมาหาบ้านหลังอื่น
เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนี้ คังอันเหอก็หยุดยืนกราน
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาทำตามที่สะดวกใจกันเลยนะคะ”
ในที่สุดฉินมู่หลานกับคังอันเหอ ก็ได้ลงนามในสัญญาเช่าหนึ่งปี
หลังจากที่คังอันเหอมอบกุญแจให้แล้ว ก็รีบถามว่า: “พรุ่งนี้ให้ฉันมาที่นี่ไหมคะ?”
เมื่อเห็นว่าคังอันเหอกระตือรือร้น ฉินมู่หลานจึงรีบพูดว่า: “อย่าวิตกกังวลเกินไปเลยค่ะ ช่วงนี้คุณควรพักฟื้นร่างกายให้ดีก่อน ถ้าคุณต้องมาทำงาน ฉันจะแจ้งให้คุณทราบเองค่ะ”
“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
แม้ว่าคังอันเหอจะกังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หล่อนทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ให้ฉินมู่หลานก่อนจากไป ตอนนี้หล่อนอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของตน และกลัวว่ามู่หลานจะหาตนไม่เจอ หล่อนจึงต้องทิ้งที่อยู่ของตัวเองไว้ให้
หลังจากที่คังอันเหอจากไปแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดมองฉินมู่หลานไม่ได้ แล้วถามว่า: “มู่หลาน เธอจะยอมรับคังอันเหอมาทำงานที่ร้านซิ่งหลินจริงเหรอ หล่อนคนนั้นนิสัยไม่ดีไม่ใช่เหรอ แต่ว่า… เจอกันครั้งนี้ คังอันเหอไม่ได้น่ารำคาญเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าจะอ่อนแอนิดหน่อยด้วย”
เซี่ยปิงชิงเคยได้ยินเรื่องคังอันเหอมาก่อน หล่อนจึงไม่ค่อยเข้าใจการตัดสินใจของฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานเล่าเรื่องคังอันเหอให้ฟัง และในที่สุดก็พูดว่า: “ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคังอันเหอกับฉันค่อนข้างคลี่คลายลงไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีนักหรอก รอให้หล่อนมาทำงานที่ร้านซิ่งหลินก่อน ถ้าคุณสมบัติผ่านก็ให้ทำงานต่อไปได้ แต่ถ้าไม่ผ่าน ค่อยคุยกันตอนนั้นก็ไม่สาย”
จิตใจของเซี่ยปิงชิงอ่อนโยนลงมากตั้งแต่เป็นแม่คน เมื่อได้ยินว่าในที่สุดคังอันเหอก็มีลูก แต่กลับกลายเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก หล่อนก็รู้สึกสงสารเล็กน้อย
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนี้หล่อนดูซีดเซียวนิดหน่อย ปรากฏว่าเพิ่งไปผ่าตัดเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง ในเมื่อหล่อนอยากจะมาทำงานด้วย และเราจำเป็นต้องมีกำลังคนในระยะแรก ก็ให้หล่อนลองมาทำดูก่อนเถอะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่พูดอะไรอีก แต่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้าน จากนั้นมองฉินมู่หลานแล้วถามว่า “มู่หลาน ที่นี่จำเป็นต้องปรับปรุงใหม่ก่อนหรือเปล่า”
ฉินมู่หลานพยักหน้า แล้วกล่าวว่า: “ต้องมีการปรับปรุงใหม่แน่นอน แต่น่าเสียดายที่พวกพ่อของฉันไม่อยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขาอยู่ เราก็คงไปหาพวกเขาได้ตอนนี้เลย”
หลังจากที่ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงมาที่นี่ พวกเขาก็ไปเซินเจิ้นอีก ซึ่งคราวนี้พวกเขาพาฉินเคอวั่งไปที่นั่นด้วย เพื่อให้เขาได้ใช้ประโยชน์จากวันหยุดเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างและฝึกฝนทักษะเพิ่มเติม
เซี่ยปิงหรุ่ยกล่าวว่า “ใช่แล้ว คงจะดีมากถ้าพวกคุณอาฉินยังอยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยปิงชิงก็นึกบางอย่างออก “มู่หลาน ถวนถวนกับหยวนหยวนจะอายุครบหนึ่งขวบเร็ว ๆ นี้ไม่ใช่เหรอ ถึงตอนนั้นพวกพ่อของเธอก็จะกลับมาหรือเปล่า?”
“ไม่น่าจะกลับมานะ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาอยู่ในเซินเจิ้นแล้วยุ่งมาก”
แต่คราวนี้ฉินมู่หลานเดาผิด ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดปีแรกของถวนถวนกับหยวนหยวน ฉินเจี้ยนเซ่อ ฉินเคอวั่งและเซี่ยเหวินปิงก็กลับมา
“พ่อ ทำไมพวกพ่อถึงมาที่นี่กันได้ล่ะคะ”
ฉินมู่หลานไม่รู้ข่าวมาก่อนเลย ตอนนี้เมื่อเห็นพ่อ น้องชายและพ่อสามีของเธอรีบกลับมา ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและดีใจ แม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็มองทั้งสามคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบเชิญพวกเขาให้เข้ามาในบ้าน
“พ่อ เคอวั่ง รีบเข้าไปนั่งในบ้านกันก่อนเถอะครับ”
“ฮ่าๆ… ดูเหมือนว่าเราจะกลับมาทันเวลาพอดี”
ฉินเจี้ยนเซ่ออดหัวเราะไม่ได้ ส่วนเซี่ยเหวินปิงที่อยู่ด้านข้างก็พูดว่า “ใช่แล้ว พวกเรากะเวลาได้แม่นยำมาก”
การออกไปข้างนอกครั้งนี้ ทำให้ผิวของฉินเคอวั่งกลายเป็นสีแทนอย่างเห็นได้ชัด ขณะนี้รอยยิ้มจริงใจปรากฏบนใบหน้าเข้มของเขา “พี่สาว เรารีบกลับมาเป็นพิเศษ เพื่อเข้าร่วมงานวันเกิดครั้งแรกของถวนถวนกับหยวนหยวน แล้วจะออกเดินทางไปเซินเจิ้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ตอนบ่ายครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของฉินมู่หลานก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ
“พ่อคะ ความจริงแล้วพวกพ่อไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ค่ะ งานเลี้ยงวันเกิดปีแรกของถวนถวนกับหยวนหยวน มีไว้เพื่อให้ครอบครัวของเราได้รวมตัวกันเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องรีบกลับมาขนาดนี้หรอกค่ะ”
ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงพูดอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย: “ทำไมจะไม่จำเป็นล่ะลูก พวกพ่อไม่ได้เจอถวนถวนกับหยวนหยวนมาตั้งนานแล้ว ครั้งนี้เลยต้องมาหาให้ได้”
……………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พวกคุณพ่อทุ่มเทมากเหลือเกิน งานครบขวบแรกของหลานก็เดินทางจากใต้ขึ้นเหนือมาเยี่ยมจนได้
ไหหม่า(海馬)