ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 597 ผลการวิจัย(1)
ตอนที่ 597 ผลการวิจัย(1)
ทุกคนได้ยินคำพูดของคังอันเหอ แววตาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“จริงเหรอ วันนี้หมอฉินจะตรวจชีพจให้เราฟรีเหรอครับ?”
คังอันเหอได้ยินแบบนี้ก็พูดว่า “จริงแท้แน่นอนค่ะ นี่เป็นรางวัลตอบแทนในการเปิดร้านซิงหลินถังอันยิ่งใหญ่ของเรา แต่ว่าวันนี้คนมาเยอะมาก ทุกคนต้องเข้าแถวกันให้เรียบร้อยนะคะ”
“แน่นอน พวกเราจะเข้าแถวให้เรียบร้อย”
คนที่มาร่วมงานล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายและคนในครอบครัวทั้งนั้น จึงทราบทักษะทางการแพทย์ของฉินมู่หลาน ในตอนนั้นเองหญิงชราก็พาสมาชิกตัวน้อยของตระกูลไปเข้าร่วมด้วย ข่าวเรื่องตำรับยาที่ช่วยให้คลอดบุตรได้ของฉินมู่หลานแพร่ไปทั่ว และคนพวกนั้นก็ตั้งครรภ์ได้สำเร็จด้วย ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่ลังเลอะไรอีก รีบก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ฉินมู่หลานนั่งลงเรียบร้อยแล้ว คังอันเหอและเซี่ยปิงหรุ่ยก็ไปประจำอย่างฝั่งเคาน์เตอร์ขายยา ส่วนเซี่ยปิงชิงนั่งอยู่ข้างฉินมู่หลาน เตรียมจดใบสั่งยาให้เอ
ทุกคนต่างเห็นว่าพวกเธอนั่งประจำตำแหน่ง จึงทราบว่าพวกเธอเตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดี หญิงชราที่เข้าแถวเป็นคนแรกก็รีบนั่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “หมอฉินคะ ฉันรู้สึกท้องอืดหลังกินอาหารผ่านไปนานแล้ว ช่วยตรวจให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”
คนผู้นี้คือญาติของคุณนายเซี่ย ตอนแรกนางไม่คิดอยากจะมานัก แต่เมื่อนึกถึงความสามารถของลูกสาวเซี่ยฉางชิง ในที่สุดก็ยอมมา
การผูกมิตรกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ดีได้ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็เริ่มตรวจชีพจรทันที หลังจากนั้นเอ่ยสูตรยาขึ้น โดยมีเซี่ยปิงชิงคอยนั่งจดอยู่ข้าง ๆ เจี่ยงสือเหิงก็ไหวพริบดีส่งใบสั่งยาไปให้เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ขายยา จากนั้นเซี่ยปิงหรุ่ยและคังอันเหอก็ช่วยกันจัดยา ไม่นานยาก็พร้อมเสร็จ
งานราบรื่นเพราะทุกคนร่วมมือกัน เพียงช่วงเวลาอันสั้น ก็จัดยาจีนหนึ่งชุดได้สำเร็จ
หลังจากหญิงชรารับถุงยาไป ก็รีบจ่ายเงินทันที “หมอฉินรักษาให้พวกเราแบบฟรี ๆ นอกจากนี้ยาก็ลดราคาด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คังอันเหอก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “แม่เฒ่าคะ วันนี้เป็นโปรโมชั่นวันเปิดร้าน ต้องมีส่วนลดอยู่แล้วค่ะ ต่อไปถ้ามาอีกอย่าหลงโปรโมชั่นนี่เพลินไปนะคะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปก็ไม่มีโปรโมชั่นนี้แล้วนะคะ”
“ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือทำหน้าที่เป้นฝ่ายคิดเงินชั่วคราว หลังจากได้รับเงินแล้ว ก็กล่าวลาหญิงชราพร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
มีคนแรกก็ต้องมีคนที่สอง หลังจากนั้นทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น ฉินมู่หลานก็ตรวจชีพจรให้หมด บางคนรู้สึกไม่สบายและจำเป็นต้องรับยา แต่บางคนก็ไม่จำเป็น “คุณปู่ใหญ่ คูณปู่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่ต้องกินยาค่ะ”
ชายชราได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะขึ้น แล้วกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย แต่ผมได้ยินมาว่าคุณมียาที่ช่วยบำรุงสุขภาพด้วย ทำไมถึงไม่เอามาให้ผมสักหน่อยล่ะ อายุมากขึ้นกินอาหารเสริมเอาไว้ก็ดีเหมือนกัน”
“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นทางเราจะจัดยาของพวกเราให้นะคะ กินวันละเม็ดก่อนนอนก็พอแล้วค่ะ”
นี่คือยาบำรุงสุขภาพที่มู่หลานสกัดขึ้นมาก่อนหน้านี้ มีฤทธิ์บำรุงร่างกาย
“ครับ”
เซี่ยเจ๋อหลี่พาเด็ก ๆ ไป เห็นฉินมู่หลานกำลังยุ่งอยู่กับการตรวจชีพจรให้คนอื่น จึงอดหันไปมองเซี่ยฉางชิงแล้วเอ่ยไม่ได้ “พ่อครับ มู่หลานกำลังยุ่ง ก็เลยไม่มีเวลามาทักทายทุกคน เดี๋ยวผมพาทุกคนไปทางหลังบ้านเองครับ”
เซี่ยฉางชิงได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ได้เลย”
แต่สุดท้ายแล้วมีเพียงเซี่ยฉางชิงเท่านั้นที่ตามเข้าไปข้างหลัง ว่านจี้อวิ๋นและเริ่นม่านนีอยากให้มู่หลานตรวจชีพจรให้ จึงยังรอต่อคิวอยู่ตรงนั้น
ทางฝั่งฉินมู่หลานยุ่งมาก และเซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าพวกเด็ก ๆ เล่นกับเซี่ยฉางชิงอยู่ ก็เดินออกไปช่วยตรงข้างหน้าอีกครั้ง ส่งแขกที่ไม่ต้องการตรวจชีพจรกลับไป นอกจากนี้ยังออกไปจองโต๊ะอีกสองโต๊ะ วางแผนว่าจะให้มาส่งตอนเที่ยง เพราะจากรูปการณ์ตอนนี้ ทุกคนคงไม่มีเวลากลับไปกินอาหารแน่นอน
“พี่สะใภ้ ในกรณีของพี่สะใภ้ควรไปโรงพยาบาลดีกว่านะคะ ต้องทำการผ่าตัดนิดหน่อยค่ะ”
“อะไรนะ…ยังต้องผ่าตัดด้วยเหรอ หรือว่าอาการของฉันร้ายแรง?”
เมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนมีท่าทางตื่นตระหนกเล็กน้อย ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยปลอบโยน “เปล่าค่ะ พี่สะใภ้ไม่ต้องกังวลนะคะ อาการของพี่สะใภ้ไม่ได้รุนแรงเลย การกินยาจีนจะช่วยแค่บรรเทาอาการเท่านั้น ถ้าอยากจะหายขาด จะต้องทำการผ่าตัดเล็กค่ะ เชื่อฉัน ว่าไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จแล้วค่ะ”
เนื้องอกในมดลูกของผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ยังมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพราะฉะนั้นการรักษาด้วยการผ่าตัดจึงสะดวกกว่า
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้ไม่มีแผนที่จะเข้ารับการผ่าตัด “แค่กินยาไม่ได้เหรอ?”
“กินยาก็ได้ค่ะ แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเปล่า”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หญิงวัยกลางคนคนนั้นก้ตัดสินใจทันที “ถ้าอย่างนั้นฉันขอเลือกกินยาก่อน”
ฉินมู่หลานเห็นสีหน้ามุ่งมั่นของคนไข้ จึงไม่พูดอะไรมากมาย แล้วจ่ายสูตรยาให้โดยตรง “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ลองเอายากลับไปกินก่อนนะคะ”
หลังตรวจคนไข้รายนี้ผ่านไป เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อดมองทุกคนแล้วกล่าวขึ้นเสียไม่ได้ “ทุกคนกินข้าวกันก่อนไหมครับ แล้วค่อยให้มู่หลานช่วยตรวจชีพจรให้ต่อ ไม่อย่างนั้นจะหิวและไม่ค่อยสบายตัวเอาได้”
พูดจบก็ให้คนมาส่งโต๊ะแล้ววางอาหารเอาไว้อยู่ตรงด้านหลังร้าน
“ผมจองเพิ่มมาอีกสองโต๊ะ ทุกคนกินกันก่อนเถอะครับ”
ทุกคนได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มแล้วพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ พวกคุณนี่ใส่ใจจังเลยนะ”
หลังจากกินข้าวเสร็จ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็พาพวกเด็ก ๆ กลับบ้านไปนอน เซี่ยฉางชิงก็พาคนอื่นกลับไปด้วยเหมือนกัน คนที่ยังอยู่จึงมีเพียงแขกบางส่วนที่ต้องการให้ฉินมู่หลานตรวจชีพจรให้
เพียงแต่ขณะที่ใกล้จะตรวจเสร็จ ก็มีชาวต่างชาติผมสีบลอนด์คนหนึ่งเดินเข้ามา
ทุกคนเห็นชาวต่างชาติก็แปลกใจมาก จึงพากันหันมองเขา
ฉินมู่หลานก็เห็นเหมือนกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “แอนดี้ มาได้ยังไงคะเนี่ย”
แอนดี้เห็นฉินมู่หลานกำลังยุ่งอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “หมอฉิน คุณจัดการงานก่อนเถอะครับ วันนี้ที่ผมมาก็เพราะอยากให้คุณช่วยตรวจชีพจรให้ด้วย” เขาเห็นคนรอเข้าคิวอยู่หลายคน จึงไปต่อคิวอยู่ข้างหลังพวกเขา
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก และตรวจชีพจรให้ทุกคนต่อไป
แต่ถึงอย่างนัน้คนอื่นก็ยังมองแอนดี้ด้วยความสงสัย คนที่รู้ภาอังกฤษก็ถึงกับเอ่ยถาม “พวกเรากำลังตรวจแพทย์แผนจีนอยู่นะครับ คุณก็เชื่อถือแพทย์แผนจีนเหมือนกันเหรอ?”
คนที่ถามคำถามนี้เป็นแขกที่เพิ่งเข้ามา ตอนแรกเขาไม่ได้อยากมา เพียงแต่บังเอิญได้ยินบทสนทนาระหว่างผู้เฒ่าทั้งสองที่รับยาแล้วเดินออกไปเข้าพอดี จึงเข้ามาด้วยความสงสัย ตอนนี้เมื่อเห้นชาวต่างชาติคนหนึ่ง จึงอยากถามเพิ่มเติม
แอนดี้ได้ฟังคำพูดนี้ ก็หันมองคนนั้น แล้วกล่าว “ผมก็อยู่ตรงนี้แล้ว แน่นอนว่าก็ต้องเชื่อในแพทย์แผนจีนอยู่แล้ว นอกจากนี้หมอฉินก็ฝีมือการรักษาดีมาก แก้อาการนนไม่หลับที่กวนใจผมมาหลายปีได้ด้วย”
“คุณเคยตรวจกับหมอคนนี้มาก่อนแล้วเหรอครับ?”
แอนดี้พยักหน้าแล้วกล่าว “แน่นอนครับ หมอฉินมีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมมาก”
หลังจากพูดจบ เขาก็ตระหนักได้ว่าชายตรงหน้ายังไม่รู้ถึงความเก่งกาจของฉินมู่หลาน จึงอดกล่าวเพิ่มเสียไม่ได้ “วันนี้คุณโชคดีนะครับที่ทำให้หมอฉินช่วยตรวจให้ได้ ปกติแล้วหล่อนไม่ตรวจให้คนอื่นพร่ำเพรื่อหรอกครับ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ชายวัยกลางคนคนนั้นก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตารอขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว
“อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลยครับ ดูเหมือนว่าผมจะมาได้ถูกจังหวะพอดี”
เมื่อถึงคิวของผู้ชายวัยกลางคนคนนั้น ฉินมู่หลานก็ตรวจชีพจรให้เขาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา พลางหันมองชายคนนั้นแล้วกล่าวว่า “คุณมีปัญหาเกี่ยวกับโรคปอดนะคะ ทางที่ดีลองไปตรวจที่โรงพยาบาล ถึงตอนนั้นจะได้เห้นรอยโรคในปอดของคุณได้ชัดเจนค่ะ”
อันที่จริงเธอมองปัญหาออกหมดแล้ว เพียงแต่ที่ซิงหลินถังของพวกเขามีเพียงยาจีนเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด เพราะฉะนั้นเธอจึงแนะนำให้ผู้ป่วยคนนี้ไปโรงพยาบาล
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น
“กินยาจีนไมได้เหรอครับ ผมแค่อยากลองดูว่ากินยาจีนแล้วจะได้ผลหรือเปล่า”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงทราบว่าคนตรงหน้าทราบอาการป่วยของตัวเองแล้ว เธอจึงชี้แจงให้อย่างชัดเจน “อาการของคุณกินยาจีนไม่ค่อยเห็นผลหรอกค่ะ เข้ารับการผ่าตัดจะดีกว่า”
“แต่…หมอบอกว่า การผ่าตัดก็มีความเสี่ยงสูงมาก ผมอาจจะพิการติดเตียงลุกเดินไม่ได้อีก”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
“ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ อาการของคุณไม่ได้หนักขนาดนั้น เข้ารับการผ่าตัดไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเยอะ” อาการของคนผู้นี้ คล้ายกับคนไข้ที่เธอช่วยผ่าตัดปอดให้ก่อนหน้านี้มาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
บางอาการควรไปพึ่งพาการแพทย์แผนตะวันตกนะ จะได้ทราบอาการชัดเจนว่าเป็นอะไร
ไหหม่า(海馬)