ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 599 แจ้งข่าว
ตอนที่ 599 แจ้งข่าว
ได้ฟังสิ่งที่เผยเจิ้งผู่กล่าว ฉินมู่หลานก็อดหันไปมองไม่ได้ แล้วเอ่ยถาม “เป็นฝีมือของตู้เยว่เอ๋อร์จริงเหรอคะ?”
“ใช่ เป็นฝีมือของหล่อนจริง ๆ ตอนนั้นตู้เยว่เอ๋อร์ยังไม่ได้เข้าตระกูลเยวี่ย และตอนนั้นเด็กคนนั้นก็เพิ่งจะอายุเก้าขวบเท่านั้น เป็นเพราะแม่ของเขารู้สึกหึงหวงที่เยวี่ยหรงกวงปฏิบัติต่อตู้เยว่เอ๋อร์แปลกไป จึงคอยสร้างปัญหามากมายให้กับตู้เยว่เอ๋อร์ เพื่อเป็นการแก้แค้น ตู้เยว่เอ๋อร์จึงฆ่าลูกชายของหล่อนโดยอำพรางว่าเป็นอุบัติเหตุ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ตู้เยว่เอ่อร์ก็กลายเป็นเมียน้อยคนที่สามของเยวี่ยหรงกวง”
หลังจากพูดจนถึงตอนท้าย เผยเจิ้งผู่ก็กล่าวเพิ่มอีก
“ตอนแรกแม่ของเด็กคนนั้นเป็นเมียน้อยคนที่สาม แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น หล่อนก็เสียสติ ถูกไล่ออกจากตระกูลเยวี่ย และตู้เยว่เอ๋อร์ก็อาศัยจังหวะนี้ขึ้นเป็นเมียน้อยคนที่สามแทน”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ท่าทางของฉินมู่หลานก็ดูเย็นชาลงนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเธอจะทราบมาก่อนแล้วว่าวิธีการของตู้เยว่เอ๋อร์คงไม่ธรรมดา แต่ก็นึกไม่ถึงว่าตู้เยว่เอ๋อร์จะโหดเหี้ยมขนาดนี้ แม้แต่เด็กหนึ่งคนก็ไม่ละเว้น
เผยเจิ้งผู่เห็นว่าสีหน้าของฉินมู่หลานดูไม่ค่อยดี จึงอดพูดไม่ได้ “เรื่องนี้อาไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพิ่งจะรู้หลังจากไปตามสืบมานี่แหละ อาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเยวี่ยหรงกวงคิดอะไรอยู่ ทำไมเขาถึงหลงผู้หญิงที่ทำร้ายลูกชายตัวเองได้ ดูเหมือนจิตใจของเขาจะแปลกพิกล”
ตอนแรกฉินมู่หลานมีสีหน้าเย็นชา แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเผยเจิ้งผู่ ก็อดหัวเราะไม่ได้ “อาเผยคะ นึกไม่ถึงเลยว่าอาจะบ่นคนอื่นเป็นด้วย”
“อาก็ไม่ได้ว่าแรงขนาดนั้น แต่ยังมีเรื่องที่แปลกอีกอย่าง ตู้เยว่เอ๋อร์ไม่ได้กลับฮ่องกงนานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน” หลังจากพูด เขาก็หันมองฉินมู่หลานอีกครั้ง แล้วกล่าว “มู่หลาน เธอร่วมงานกับคนแบบนั้นต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิมหน่อยนะ ระวังจะโดนหล่อนหลอกโดยไม่รู้ตัว”
“ไม่ต้องห่วงค่ะอาเผย ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าหล่อนเป็นคนยังไง จะระวังตัวให้มากขึ้นแน่นอนค่ะ แต่ครั้งนี้ฉันเองก็ประมาทไปเหมือนกัน ก่อนจะร่วมธุรกิจไม่ได้ทราบว่าหล่อนเป็นเมียน้อยของเยวี่ยหรงกวง มิฉะนั้น ฉันคงไม่ร่วมงานกับหล่อนหรอกค่ะ”
เผยเจิ้งผู่กล่าวตามตรง “เรื่องนี้ก็โทษเธอไม่ได้หรอก อย่าว่าแต่ในแผ่นดินใหญ่เลย แม้แต่ทางฝั่งฮ่องกงก็น้อยคนที่จะรู้ว่าตู้เยว่เอ๋อร์เป็นเมียน้อยคนที่สามของเยวี่ยหรงกวง มีแค่บางคนที่เป็นสหายคนสนิทของตระกูลเยวี่ยเท่านั้นแหละที่ทราบ ตระกูลเผยและตระกูลเยวี่ยไม่เคยคบค้ากันมาก่อน เพราะฉะนั้นอาก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องนี้”
หากไม่ใช่เพราะฉินมู่หลานร่วมงานกับตู้เยว่เอ๋อร์ เขาก้คงไม่ได้สนใจตู้เยว่เอ๋อร์สักเท่าใด ใครจะไปคิดว่าตู้เยว่เอ่อร์มีเบื้องหลังอะไรมากมาย
“แต่ว่ามู่หลาน เธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ตู้เยว่เอ๋อร์อยู่ที่ไหน ทำไมเหมือนหล่อนจะหายหน้าหายตาไป”
ฉินมู่หลานส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าหล่อนไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ก่อนหน้านี้ฉันก็เห็นอกเห็นใจจึงจ่ายยาให้หล่อนไป ช่วยให้หล่อนได้ตั้งครรภ์ ตอนนี้พอหล่อนเห็นว่าฉันรู้จักกับเยวี่ยจงจี ก็กลัวว่าฉันกับเยวี่ยจงจีจะร่วมมือกัน เลยเก็บเป็นความลับแม้แต่กับฉันด้วยค่ะ”
“อะไรนะ…ตู้เยว่เอ๋อร์ท้องแล้วเหรอ?”
เผยเจิ้งผู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงว่าที่ตู้เยว่เอ๋อร์หายไปไหน เป็นเพราะหล่อนตั้งครรภ์จึงกำลังซ่อนตัว
“ใช่ค่ะ ท้องแล้ว หล่อนจึงกลัวว่าจะมีคนมาทำอะไรเด็กในท้อง แต่หล่อนก็ทำเรื่องเลวทรามมาเยอะขนาดนั้น ควรจะกลัวตัวเองเสียมากกว่า”
หลังจากพูดถึงตอนท้าย ฉินมู่หลานก็หันไปมองเผยเจิ้งผู่แล้ววกล่าวว่า “อาเผยคะ อาช่วยฉันอีกเรื่องได้ไหมคะ?”
เผยเจิ้งผู่ได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าตอบตกลงอยู่แล้ว “ได้อยู่แล้ว เธอว่ามาเลย ขอแค่อาทำได้ อาจะช่วยเธอทุกวิถีทางแน่นอน”
“อาเผย อาลองคิดหาวิธีกระจายข่าวเรื่องที่ตู้เยว่เอ๋อร์ตั้งท้องแล้วให้หน่อยสิคะ บอกกับพวกคนตระกูลเยวี่ย มันถึงเวลาแล้วที่ตระกูเยว่สมควรที่จะได้ทราบเรื่องนี้”
ก่อนหน้านี้เธอตั้งใจจะช่วยตู้เยว่เอ๋อร์เก็บความลับเอาไว้ แต่ในเมื่อตู้เยว่เอ๋อร์สงสัยในตัวเธอไปแล้ว เธอจะช่วยเก็บเป็นความลับเอาไว้เพื่ออะไร
เผยเจิ้งผู่ได้ยินแบบนี้ ก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้สิ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวอาจะหาทางแจ้งเรื่องนี้ให้ตระกูลเยวี่ยทราบ ให้พวกเขาร่วมดีใจด้วย”
ฉินมู่หลานทราบดีว่าครั้งนี้กำลังรบกวนเผยเจิ้งผู่อย่างมาก เพราะฉะนั้นเธอจึงมอบของขวัญที่ตั้งใจทำให้
ตอนแรกเผยเจิ้งผู่ไม่อยากยอมรับ แต่เขาทราบดีว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องตรงหน้าคืออะไร หลังจากได้กินยาเสริมสุขภาพร่างกายแล้ว เขาก็ยังยอมรับเอาไว้ “ขอบคุณนะมู่หลาน ยาของเธอใช้ได้ผลดีมาก ก่อนหน้านี้หลังจากที่อากินยาของเธอแล้ว ก็รู้สึกเหมือนสุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “อาเผย อาชอบก็ดีแล้วค่ะ”
หลังจากฉินมู่หลานกลับไป เผยเจิ้งผู่ก็พยายามคิดหาวิธีติดต่อกับทางฝั่งฮ่องกงอย่างเต็มที่ พยายามเร่งปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของตู้เยว่เอ๋อร์
“อะไรนะ…ตู้เยว่เอ๋อร์ท้องแล้วเหรอ”
เมื่อเยวี่ยจงจีทราบข่าว สีหน้าก็ยับยู่บูดบึ้ง ขณะเดียวกันก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว ไม่รู้ว่าข่าวนี้จริงหรือปลอม
วันนี้หลี่หมิงฮุ่ยมาเพื่อบอกเรื่องนี้กับเยวี่ยจงจี
“จงจี นายคงคิดไม่ถึงแน่ว่าใครเป็นคนปลอยข่าว”
“ใครกัน?”
หลี่หมิงฮุ่ยก็ลีลาไม่ยอมบอก สุดท้ายจึงกล่าวว่า “เป็นคนจากเซิงซื่อกรุ๊ป ฉันได้ข่าวมานานแล้ว ว่าคุณเผยมาจากเมืองหลวง แล้วตอนนี้บ้านของคุณเผยก็อยู่ติดกับบ้านของฉินมู่หลานด้วย” หลังจากพูดจบ เขาก็หันมองเยวี่ยจงจีด้วยสายตาสื่อความหมาย แล้วกล่าวว่า “นายคงจะเดาได้แล้วสินะ ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ”
หลี่หมิงฮุ่ยพูดชัดเจนหมดทุกอย่างแล้ว เยวี่ยจงจีจึงคาดเดาได้อยู่แล้ว เพียงแต่เขารู้สึกสับสนนิดหน่อย
“ก่อนหน้านี้พวกเราก็เคยถามฉินมู่หลาน แตหล่อนไม่ยอมบอก แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้ทำแบบนี้ล่ะ การปล่อยข่าวมันต้องใช้ความพยายามมากเลยนะ”
หลี่หมิงฮุ่ยคาดเดาเอาไว้แล้ว “คงเป็นเพราะฉินมู่หลานรู้จักนิสัยของตู้เยว่เอ๋อร์ จึงคิดได้แล้ว ”
หลังจากฉินมู่หลานทราบว่าข่าวการตั้งครรภ์ของตู้เยว่เอ๋อร์ลือไปจนถึงฮ่องกงแล้ว ก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียหมด เชื่อว่าหากตระกูลเยวี่ยทราบเรื่องนี้แล้ว จะต้องจัดการอะไรบางอย่างแน่นอน ทางด้านเธอจึงไม่ต้องลงมือจัดการอะไรกับตู้เยว่เอ๋อร์เลย
ตอนนี้สิ่งที่เธอกำลังเป็นกังวล คือเรื่องของซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือ
“แม่คะ แม่ตัดสินใจจะไปไห่เฉิงกันหรือยังคะ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ถ้าตู้เยว่เอ๋อร์รู้ว่าใครปล่อยข่าวจะมาจัดการมู่หลานไหมเนี่ย
ไหหม่า(海馬)