ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 626 ฉลองตรุษจีนของคนสองคน(1)
ตอนที่ 626 ฉลองตรุษจีนของคนสองคน(1)
…………….
ตอนที่ 626 ฉลองตรุษจีนของคนสองคน(1)
สำหรับซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือแล้ว การเดินทางไปไห่เฉิงครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อไม่มีมู่หลาน พวกหล่อนก็ยังจัดการเรื่องพวกนี้กันเพียงลำพังได้
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใช่แล้วค่ะแม่ พวกแม่เก่งมากจริง ๆ ได้ยินมาว่าการเปิดตัวในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลย ทั้งหมดนี้ต้องยกให้เป็นผลงานของพวกแม่กับพี่สะใภ้เลยนะคะ”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนนึกไม่ถึงว่าตัวเองก็ได้รับคำชมเหมือนกัน จึงยิ้มอย่างมีความสุข เซี่ยเจ๋อเหว่ยเห็นภรรยาของเขามีความสุข เขาก็มีความสุขด้วย ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจเรื่องหนึ่งเอาไว้แล้ว จนกระทั่งกลับถึงบ้านในตอนกลางคืน เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็บอกเรื่องนี้กับหลี่เสวี่ยเยี่ยนตามตรง “เสวี่ยเยี่ยน หลังตรุษจีน ผมว่าจะไปเซินเจิ้นกับพวกพ่อ ลุงฉินและคนอื่น ๆ นะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็มีสีหน้าประหลาดใจ
“คุณจะไปร่วมทีมก่อสร้างกับพวกพ่อเหรอ?”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยส่ายหัวแล้วกล่าว “ไม่ใช่หรอก ผมจะลองไปดูว่าที่เซินเจิ้นยังมีโอกาสหางานอื่นได้อีกไหม”
อันที่จริงเขามีความคิดอยู่ในใจแล้ว แต่ต้องลองไปดูที่เผิงเฉิงก่อนว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่า
เมื่อเห็นว่าสามีเหมือนไม่ได้วางแผนอะไรเลย หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “งานปัจจุบันที่คุณทำตอนนี้ก็ไปได้ดีไม่ใช่เหรอ”
“งานตอนนี้มั่นคงมาก แต่ติดตรงที่ไม่มีทางคิดพัฒนาต่อยอดได้เลย เพราะฉะนั้นผมจึงอยากลองหาทางอื่นด้วย เห็นแม่กับคุณประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมรู้สึกว่ามันสะเทือนใจนิดหน่อย”
ตอนนี้หลี่เสวี่ยเยี่ยนพูดอะไรไม่ออก สามีเห็นว่าหล่อนกับแม่ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในใจเขาจึงรู้สึกมีช่องว่าง หล่อนจึงไม่ว่าอะไรมาก และคอยให้กำลังใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ในเมื่อคุณตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ก็ลองไปหางานที่เซินเจิ้นพร้อมกับพวกพ่อแล้วกัน ถ้ามีโอกาสก็รีบคว้าเอาไว้เลย แต่หากไม่มี คุณก็กลับมาได้นะ ฉันได้ยินว่าช่วงนี้ก็มีพนักงานบางส่วนลาหยุดเหมือนกัน”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะขึ้นมาแล้วเอ่ย “ใช่ เพราะฉะนั้นถ้าผมจะหยุดงานสักช่วงก็คงไม่เป็นไร ”
ทั้งสองคนทางฝั่งนี้พูดคุยปรึกษาหารือกันอย่างรอบคอบ ในอีกด้านหนึ่ง ซูหว่านอี๋ก็กำลังพูดคุยกับฉินมู่หลาน
“มู่หลาน แม่เล่าเรื่องที่เดินทางไปไห่เฉิงในครั้งนี้ให้ฟังหมดแล้ว ลูกลองพิจารณาดูว่าพวกแม่จัดการเรื่องได้ถูกต้องไหม” ถึงแม้ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าโหย่วอี้ที่ตั้งอยู่ในไห่เฉิง แต่ทางฝั่งนั้นก็ดำเนินกิจการได้ดีมาก พวกหล่อนจึงกลัวว่าจะทำอะไรได้ไม่ดีพอ
ฉินมู่หลานได้ฟังสิ่งที่เกิดขึ้น ก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “แม่ พวกแม่ทำได้ดีมากเลยค่ะ แม่ไม่ต้องสงสัยในตัวเองหรอก ต่อไปก็แค่ทำตามนี้”
หลังจากนั้นเธอก็กล่าวต่อ “เรื่องทางฝั่งโรงงานเครื่องสำอาง ต่อไปยกให้เป็นหน้าที่แม่และแม่สามีตัดสินใจเลยนะคะ ไม่ต้องมาถามหนูแล้ว หนูจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของพวกแม่ค่ะ หนูคิดเอาไว้แล้วว่าจะมุ่งเน้นไปที่กิจการหลักของซิ่งหลินถัง”
ตอนแรกซูหว่านอี๋รู้สึกประหม่านิดหน่อย รู้สึกว่าพวกหล่อนอาจจะจัดการมันไม่ได้ แต่เมื่อได้รับกำลังใจจากลูกสาว หล่อนจึงคิดจะลองดูสักตั้ง
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ทางฝั่งมู่เสวี่ยปล่อยให้เป็นหน้าที่แม่กับจิ้งจือจัดการเอง ส่วนลูกไปยุ่งกับงานของตัวเอง”
ตอนนี้หล่อนก็เริ่มมีความมั่นใจในตัวเองบ้างแล้ว
ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้ก็อดยิ้มไม่ได้ รู้สึกว่าแม่และคนอื่น ๆ พัฒนาตัวเองได้มากขึ้นจริง ๆ
และหลังจากซูหว่านอี๋พูดเรื่องนี้จบแล้ว ก็อดถามถึงเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้
“ปีใหม่นี้อาหลี่หยุดไหม จะกลับมาฉลองปีใหม่ที่บ้านได้หรือเปล่า”
เมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉินมู่หลานก็ถอนหายใจแล้วกล่าว “ครั้งนี้เขาลาหยุดช่วงปีใหม่ไม่ได้ค่ะ เพื่อให้สหายคนอื่นได้ลาหยุดกลับบ้านบ้าง”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ซูหว่านอี๋ก็กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เป็นไรหรอก ถึงเวลาลูกก็ไปฉลองปีใหม่ด้วยกันกับเขาก็ได้ ยังไงก็ไม่ได้ไกลกันอยู่แล้ว”
ฉินมู่หลานก็คิดแบบนั้น จึงหันมองซูหว่านอี๋พร้อมรอยยิ้มแล้วกล่าว “แม่คะ ถ้าอย่างนั้นวันส่งท้ายปีหนูจะไปที่นั่นนะ ไม่ได้พาพวกเด็ก ๆ ไปด้วย แต่แม่ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูจะกลับมาในวันที่หนึ่ง” ที่บ้านก็มีเหมาชุนเถาและลูกชายอยู่ด้วย หากเธอไม่อยู่ เกรงว่าพวกเขาคงไม่สบายใจ
“ได้ เดี๋ยวพวกแม่ดูแลพวกเด็ก ๆ เอง ลูกไปเถอะ”
พูดจบ ซูหว่านอี๋ก็ถามถึงเรื่องเหมาชุนเถาอีกครั้ง “แล้วสามีเก่าของชุนเถากลับบ้านเกิดไปแล้วใช่ไหม คนบ้านนั้นก็ทำเกินไป ก่อนหน้านี้ก็ยอมหย่าอย่างไม่สนใจใยดีอะไร ไล่พวกเขาสองแม่ลูกออกมา ตอนนี้พอไม่ได้ลูกชาย ก็อยากจะเอาจี๋เซียงกลับไป ทำเกินไปแล้ว”
“ซุนหนานกลับบ้านเกิดไปแล้วค่ะ ต่อไปอาจจะไม่โผล่หน้ามาที่นี่อีกแล้วด้วย ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าคงไม่ได้กลับไปง่าย ๆ แน่” ฉินมู่หลานก็ดูแคลนพวกตระกูลซุนเหมือนกัน เจอแบบนี้ใคร ๆ ก็ต้องช่วยเหมาชุนเถา เพียงแต่ครั้งนี้คนที่ช่วยเอาไว้มากที่สุดก็คือกู้วั่งหลาน
ซูหว่านอี๋ก็ทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น จึงพยักหน้าแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ดีแล้ว ต่อไปทุกอย่างก็คงเรียบร้อย”
แต่บางทีด้วยความที่อายุมากขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นจึงมากขึ้นตาม หล่อนจึงอดถามไม่ได้ “ผอ.กู้ตอนนี้โสดใช่ไหม?”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็หันมองแม่ด้วยความสงสัย พลางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ค่ะ ตัวคนเดียว ที่บ้านไม่มีใครเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นลูกว่า…เขากับชุนเถาเหมาะสมกันไหม”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็รีบกล่าวทันที “แม่คะ แม่อย่าพูดอย่างนั้นสิ ผอ.กู้อายุมากกว่าชุนเถาเยอะมาก และหนูก็เห็นว่าผอ.กู้กับชุนเถาไม่ได้อยากจะสานสัมพันธ์กันเลย เพราะฉะนั้นแม่อย่าพูดให้พวกเขาต้องกระอักกระอ่วนใจต่อกันเลยค่ะ”
เมื่อเห็นลูกสาวพูดแบบนี้ ซูหว่านอี๋จึงไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป จริง ๆ แล้วอายุไม่ใช่ปัญหาเลย ขนาดสือเหิงกับปิงชิงยังอายุห่างกันขนาดนั้น แต่หากพวกเขาไม่อยากหาคู่จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นหล่อนก็จะไม่พูดมากแล้ว
จนกระทั่งถึงวันส่งท้ายปีเก่า หลังจากฉินมู่หลานจัดเตรียมห่ออาหารเสร็จเรียบร้อย ก็ตรงไปหาทางฝั่งเซี่ยเจ๋อหลี่ เหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงก็ตามเธอไปด้วย แต่เมื่อไปถึง เธอก็บอกให้พวกหล่อนกลับไป
“เหวินเชี่ยน เสี่ยวผิง ฉันอยู่ที่นี่มั่นใจได้เลยว่าไม่เป็นอันตรายแน่นอน ตอนเย็นพวกเธอกลับไปกินข้าวฉลองกับที่บ้านเถอะ แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมารับฉัน”
เหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงได้ยินแบบนี้ ก็ยังลังเลนิดหน่อย
ในตอนนั้นเองเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เพิ่งกลับมาถึง เขาทราบล่วงหน้าแล้วว่าในวันนี้ฉินมู่หลานจะมา จึงหมั่นเดินมาหาที่หน้าประตูใหญ่ตลอด นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะทำให้คนรอ
“มู่หลาน คุณมาแล้วเหรอ” จากนั้นเขาก็หันมองเหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงก่อนจะเอ่ย “พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ อยู่ที่นี่ไม่เป็นไรหรอก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงก็ไม่พูดอะไรมาก หลังจากส่งของที่นำมาให้กับเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็กลับไป
เซี่ยเจ๋อหลี่ถือของบางส่วนเอาไว้ในมือข้างเดียว ส่วนอีกมืออีกข้างจับมือของฉินมู่หลานเอาไว้ แล้วเดินตรงไปยังบ้านพักครอบครัว “มู่หลาน ที่บ้านเรียบร้อยดีไหม”
“วางใจได้ค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยหมด”
เธอก็ไม่ได้เจอเซี่ยเจ๋อหลี่มาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อได้เจอเขาตอนนี้ จึงอดกล่าวไม่ได้ “ช่วงนี้ยุ่งมากเลยเหรอ ท่าทางคุณดูซีด ๆ นะคะ”
ช่วงนี้เซี่ยเจ๋อหลี่เหนื่อยมากจริง ๆ ตั้งแต่ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็มีเรื่องมากมายเข้ามาหาเขา ความรับผิดชอบก็หนักขึ้นด้วย มีเวลาพักผ่อนน้อยมาก โชคดีที่ครั้งนี้ภรรยามาหาเขา ทั้งสองจึงจะได้ใช้เวลาฉลองปีใหม่ด้วยกัน
“ก็ยุ่งนิดหน่อย แต่ก็ยังดีที่ผมยุ่งแล้วยังออกมาได้”
ทั้งสองพูดคุยกันขณะเดิน ไม่นานก็มาถึงบ้านพักครอบครัว เป้ยไห่หงเห็นฉินมู่หลานมา จึงรีบกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลาน เธอก็มาฉลองปีใหม่ที่นี่ด้วยเหรอ ดีจังเลย คนจะได้เยอะ ๆ แล้วทำไมถึงไม่พาลูกมาด้วยล่ะ”
หลังจากพูดจบ สีหน้าของหล่อนก็ดูเหมือนจะเสียดาย เพราะพวกลูก ๆ ของฉินมู่หลานน่ารักเหลือเกิน
เมื่อเห็นท่าทางของเป้ยไห่หง ฉินมู่หลานจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ค่ะพี่สะใภ้ ฉันมาฉลองปีใหม่กับอาหลี่ที่นี่ ไม่ได้พาเด็กๆ มาด้วย เพราะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันก็กลับแล้วค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เป้ยไห่หงจึงพยักหน้า แล้วกล่าว “นั่นก็จริง พวกเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไป”
หลังจากทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกไม่กี่คำ ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เข้าไปในบ้าน
“อาหลี่ ฉันเตรียมอาหารมาให้คุณเยอะมากเลยนะคะ คุณลองดูสิว่าอยากกินอะไร” ฉินมู่หลานนำของทั้งหมดที่นำติดตัวมาด้วยออกมา จากนั้นก็หันไปมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แต่เพียงแค่หันไป เธอก็พบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่เดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเธอ พลางสวมกอดเธอเอาไว้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เห็นภรรยาประสบความสำเร็จแล้วก็อยากพัฒนาตัวเองให้ไม่น้อยหน้าบ้างสินะ
พี่หลี่ไม่ได้กลับบ้านนาน คิดถึงมู่หลานแย่เลยสิเนี่ย
ไหหม่า(海馬)