ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 63 คาดเดา
ตอนที่ 63 คาดเดา
ตอนที่ 63 คาดเดา
ฉินมู่หลานหันกลับไปมองอย่างไหวหวั่น แต่กลับไม่พบใครอยู่ข้างหลังเลยสักคน ราวกับว่าทั้งหมดนี้เป็นการคิดไปเอง
จะเป็นไปได้อย่างไร เธอรู้สึกได้ว่าตนสังหรณ์ไม่ผิดอย่างแน่นอน
คิดได้ดังนั้น ใบหน้าของฉินมู่หลานก็มืดมนลงนิดหน่อย หากเธอรู้สึกได้แต่หันไปแล้วไม่เจอใครเลย แสดงว่าคนผู้นั้นต้องมีฝีมือในการสะกดรอยตามมาก
เมื่อไตร่ตรองเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน นอกจากเปิดโปงพวกค้ามนุษย์นั้นแล้ว เธอก็ไม่ได้ไปทำอย่างอื่นที่จะทำให้มีคนคอยสะกดรอยตามได้เลย เว้นแต่ว่าจะเป็นผู้ชายคนที่มีแผลบนใบหน้าที่หนีไปได้ ผู้ชายคนนั้นเคยเห็นเธอ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะแค้นเธอ
หลังคาดเดาอยู่ภายในใจ จังหวะการก้าวเท้าของฉินมู่หลานก็เร็วขึ้นเรื่อย ๆ จุดมุ่งหมายของเธอชัดเจนมาก นั่นคือสถานีตำรวจประจำเขต
เมื่อเห็นฉินมู่หลานกำลังเดินจากไป คนที่กำลังซ่อนตัวอยู่ก็มีท่าทางร้อนใจนิดหน่อย แต่ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นห้ามปรามพวกเขาเอาไว้ก่อน พวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองฉินมู่หลานเดินจากไป
หลังจากที่ฉินมู่หลานไปแล้ว ก็มีใครคนหนึ่งรู้สึกทนไม่ไหว
“ไอ้หน้าบาก แกหมายความว่ายังไง แกขอให้พวกฉันช่วยจับนังผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเอาแต่ยืนดูอยู่ได้ ถ้าไม่ให้พวกฉันลงมือ หมายความว่าแกคงไม่อยากลงมือจับผู้หญิงนั่นแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นพวกฉันก็จะกลับแล้วล่ะ นายใหญ่มีเรื่องให้พวกเราต้องจัดการอีกเยอะ”
ผู้ชายคนนั้นมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เพราะแผลเป็นนั้นเอง จึงเป็นที่มาของชื่อเล่นนี้ หลายคนจึงไม่รู้จักชื่อจริงของเขา ทุกคนเพียงทราบแค่ชื่อเล่นของเขาเท่านั้น
ไอ้หน้าบากได้ยินดังนั้น จึงปรายตามองผู้ชายที่เพิ่งเอ่ยขึ้นเมื่อสักครู่ก่อนจะกล่าวว่า “ฉันก็เคยบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอว่านังผู้หญิงคนนี้มันร้ายกาจ ตอนนั้นมีทั้งเหล่าเอ้อร์ เหล่าซาน รวมถึงเหล่าฉี เป็นเพราะนังนี่เนี่ยแหละที่ทำให้พวกมันล้มลงไปกับพื้นจนลุกไม่ขึ้น ฉันเองก็เกือบไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะวิ่งเร็ว ป่านนี้คงโดนจับไปเรียบร้อยแล้ว”
ชายคนที่เอ่ยไม่ค่อยใส่ใจอะไรนักก่อนจะพูดขึ้น “ไอ้หน้าบาก แกคิดผิดหรือเปล่า นังนี่ดูแล้วไม่น่าทำอะไรได้ด้วยซ้ำ มันเพียงคนเดียว จะล้มพวกเหล่าฉีได้ยังไง ไม่ใช่เพราะพวกแกทำพลาดกันหรอกหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไอ้หน้าบากก็ปรายตามองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะเอ่ยขึ้น “แกจะบอกว่าฉันตาฝาดไปเองอย่างนั้นใช่ไหม”
อีกหลายคนได้ยินดังนั้นต่างขมวดคิ้วงุ่นแล้วจ้องมองไปที่ไอ้หน้าบาก ใจจริงพวกเขาก็อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้คนต่างไปกันหมดแล้ว พวกเขาจึงเริ่มหมดความอดทนลงเรื่อย ๆ “แล้วอย่างนี้พวกเราควรทำยังไงต่อ?”
“ควรทำยังไงอะไรเล่า พวกเราลองมองรอบตัวดี ๆ สิ ครั้งนี้พวกเราเตรียมตัวมาพร้อมแล้วไม่ใช่หรือ แล้วอย่างนี้จะเอาชนะนังนั่นไม่ได้เหรอ”
คนอื่นเห็นว่าไอ้หน้าบากดูจะเสียเวลาให้กับนังผู้หญิงคนนี้มากเกินไป ใบหน้าของพวกเขาจึงยับยู่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เดิมทีคิดว่าจะจัดการได้อย่างรวดเร้ว แต่กลับกลายเป็นว่าช้าจนน่ารำคาญ
อีกด้านหนึ่ง ฉินมู่หลานได้มุ่งหน้าตรงไปที่สถานีตำรวจ เมื่อไปถึงก็บังเอิญเห็นจวงเหวินกังกำลังเดินออกมาพอดี “เจ้าหน้าที่จวง กำลังจะไปไหนเหรอคะ?”
จวงเหวินกังได้ยินเสียงของฉินมู่หลาน จึงหันมามองด้วยสายตาแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเสียอดไม่ได้ “สหายฉิน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“เจ้าหน้าที่จวงคะ ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีคนสะกดรอยตามฉันค่ะ”
“อะไรนะครับ…”
จวงเหวินกังไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ฉินมู่หลานอยากจะพูดคือเรื่องนี้ เขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่าจะมีใครจะคอยตามฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานมองตรงไปที่จวงเหวินกังแล้วเอ่ยถาม “เจ้าหน้าที่จวงคะ คนที่หนีไปได้ครั้งก่อน ที่มีรอยแผลบนหน้า คุณจับเขาได้หรือยังคะ?”
“คุณ…สงสัยว่าคนร้ายนั่นกำลังตามคุณหรือ?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าตามตรง “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ”
จวงเหวินกังส่ายศีรษะพลางเอ่ยขึ้นว่า “ชายคนที่มีรอยแผลบนหน้านั้น ยังไม่เจอตัวเลยครับ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มีคนตามหลังมู่หลานจริงๆ ด้วย แถมยังลอยนวลอยู่อีกต่างหาก ไปไหนมาไหนต้องระวังตัวแล้วล่ะ
ไหหม่า(海馬)