ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 664 การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่(1)
ตอนที่ 664 การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่(1)
…………….
ตอนที่ 664 การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่(1)
ฉินเคอวั่งได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี “พ่อ งั้นผมออกไปก่อนนะ”
วันนี้เสิ่นหรูฮุ่ยไปที่บ้านตระกูลเกาเป็นเพื่อนฉินเคอวั่ง ในตอนนี้คนที่ยังไม่มีคู่ก็เหลือเพียงเขาเท่านั้น เมื่อคนอื่นๆ จากไปแล้ว ถงทิงผิงจึงอดไม่ได้ที่จะดึงซูหว่านอี๋เข้ามาพูดว่า “หว่านอี๋ ถ้ามีหญิงสาวคนไหนที่เหมาะสม เธอช่วยแนะนำให้กับหรูฮุ่ยของฉันด้วยนะ”
ซูหว่านอี๋พูดพลางหัวเราะว่า “วางใจเถอะ ถ้ามีคนที่เหมาะสม ฉันจะแนะนำให้แน่นอน”
เมื่อพูดจบ ซูหว่านอี๋ก็อดไม่ไหวที่จะมองไปที่เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้างๆ และกระซิบกับถงทิงผิงว่า “คุณคิดว่าปิงหรุ่ยเป็นยังไงบ้าง หนูคนนี้สนิทกับมู่หลานของฉันมาก และยังเก่งมากด้วย”
“ฉันคิดว่าหนูปิงหรุ่ยเหมาะสมเชียวล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องอยู่ที่ปิงหรุ่ยด้วยว่ามองหรูฮุ่ยยังไง”
“ไว้คราวหน้าฉันจะถามให้นะ”
“อื้ม”
ถงทิงผิงรู้สึกดีใจมาก โอกาสดีๆ ก็ควรคว้าเอาไว้
ฉินมู่หลานที่ได้ยินผ่านเข้าหู เมื่อหาโอกาสได้ก็เข้าไปบอกกับเซี่ยปิงหรุ่ยทันที
เซี่ยปิงหรุ่ยรีบโบกมืออย่างรวดเร็วและพูดว่า “ฉันยังไม่อยากมีใคร ขออย่าเพิ่งแนะนำเลย หลังจากที่งานวันนี้เสร็จแล้ว เธอไปบอกน้าซูตามตรงเลยนะ”
เมื่อเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยมีท่าทางปฏิเสธอย่างชัดเจน ฉินมู่หลานก็พูดพลางหัวเราะว่า “เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
เซี่ยเจ๋อหลี่ที่กลับมาเมื่อคืนวาน วันนี้เขาก็มาช่วยน้องเขยจัดการเรื่องต่างๆ มากมาย ในที่สุดก็มีเวลาได้พูดคุยกับภรรยาของเขา
“มู่หลาน ถูเฉิงเสียงบอกกับผมว่าฟู่โฮ่วหลิ่นกำลังจะมา เขาได้ยินเรื่องงานหมั้นของเคอวั่งก็เลยพาถูเฉิงเสียงและคนอื่นๆ มาร่วมงานด้วย”
ฉินมู่หลานไม่คาดคิดว่าฟู่โฮ่วหลิ่นจะมา แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้าและพูดว่า “ดีเลย งั้นถึงเวลาก็ให้เขานั่งกับถูเฉิงเสียงและพวกของอันเหอแล้วกันค่ะ”
ทั้งสองเพิ่งพูดจบ พวกของคังอันเหอก็เดินเข้ามา โดยมีฟู่โฮ่วหลิ่นเดินตามพวกเขามาจริง ๆ
“มู่หลาน พวกเราไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคังอันเหอพูดแบบนั้น ฉินมู่หลานก็พูดพลางหัวเราะ “ไม่ช้าหรอก ยังเช้าอยู่เลย เคอวั่งเพิ่งออกไปรับเชี่ยนเชี่ยนเอง”
และในเวลานี้ ฟู่โฮ่วหลิ่นก็เดินเข้ามา
“หมอฉิน ยินดีด้วยที่น้องชายคุณหมั้นหมายแล้ว” เขาพูดพลางยื่นของขวัญให้ จากนั้นก็พูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “วันนี้ผมอาจจะถือวิสาสะไปหน่อยที่ไม่ได้รับเชิญ เดี๋ยวยังไงผมกลับก่อนนะ”
เขาตั้งใจจะขอบคุณฉินมู่หลาน จริง ๆ ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าน้องชายของเธอจะหมั้น เขาก็รีบนำของขวัญมาให้ทันที
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น เธอก็พูดพลางหัวเราะ “คุณฟู่ ที่นั่งของคุณฉันจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว นั่งโต๊ะเดียวกับอันเหอนะคะ”
ถูเฉิงเสียงได้ยินดังนั้น ก็พูดพลางหัวเราะหันไปทางฟู่โฮ่วหลิ่น “โฮ่วหลิ่น มานั่งด้วยกันสิ”
เมื่อฉินมู่หลานเอ่ยปาก ฟู่โฮ่วหลิ่นก็เลยอยู่ต่อ
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฟู่โฮ่วหลิ่น จึงเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้าแปลกใจ “ฟู่โฮ่วหลิ่น คุณมาได้อย่างไร”
“หมอเซี่ย ผมได้ยินว่าน้องชายหมอฉินหมั้นวันนี้ จึงแวะมาแสดงความยินดี”
ถูเฉิงเสียงมองเซี่ยปิงหรุ่ยด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากข้อมูลที่เขามี เพื่อนของเขากลับมาปักกิ่งได้ไม่นานและก่อนหน้านี้ก็อยู่แต่ในโรงพยาบาล เขาไปรู้จักกับเซี่ยปิงหรุ่ยเมื่อไร แถมดูจะสนิทกันอีกต่างหาก
คังอันเหอเองก็ไม่รู้ว่าสามีของตัวเองคิดอะไร เห็นเซี่ยปิงหรุ่ยเดินเข้ามา จึงรีบแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน
“สวัสดีครับ ขอบคุณที่ดูแลอันเหอเป็นอย่างดีนะ”
เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนั้นก็รีบโบกมือ “ไม่เป็นไรๆ ปกติฉันแทบไม่มีเวลาอยู่ร้านซิ่งหลิน เลยไม่ได้ดูแลอันเหอสักเท่าไหร่”
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ถูเฉิงเสียงก็ยังกล่าวขอบคุณ เขารู้สึกได้ว่าตั้งแต่ที่ภรรยาของเขาไปทำงานที่ร้านซิ่งหลิน บุคลิกภาพของหล่อนก็อ่อนโยนและร่าเริงขึ้น
หลังจากนั้น คังอันเหอก็พาสามีไปแนะนำกับเซี่ยปิงชิง ผู้อาวุโสลั่ว และผู้อาวุโสฉิน
ถูเฉิงเสียงรู้ดีว่าคนเหล่านี้คือคนที่ภรรยาใช้เวลาด้วยทุกวัน เขาจึงพูดคุยกับทุกคนอย่างเป็นมิตร
เซี่ยปิงชิงเห็นเช่นนี้จึงเขยิบย้ายเข้าไปใกล้คังอันเหอแล้วพูดว่า “อันเหอ สามีของเธอดูนิ่งๆ แต่คาดไม่ถึงว่าคุยเก่งขนาดนี้นะ”
ในจังหวะนั้น เจี่ยงสือเหิงเพิ่งพาเด็กทั้งสองมาพอดี คังอันเหอจึงถือโอกาสแนะนำเจี่ยงสือเหิงด้วย
ถูเฉิงเสียงได้ฟังภรรยาพูดถึงเรื่องราวของทุกคนในร้านซิ่งหลิน เขาก็รู้ว่าคนที่ทำงานที่ร้านซิ่งหลินด้วยกันมาตลอดชื่อเซี่ยปิงชิง และเขายังรู้ด้วยว่าเซี่ยปิงชิง แต่งงานกับพ่อบุญธรรมของฉินมู่หลาน ถึงแม้ว่าภรรยาจะเล่าให้ฟังแล้วว่าเจี่ยงสือเหิงดูอ่อนกว่าวัย แต่พอได้เห็นตัวจริงแล้วเขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เพราะถ้าไม่ได้รู้เรื่องอายุของเจี่ยงสือเหิงมาล่วงหน้า เขาก็ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายอายุสี่สิบกว่าแล้ว
“สวัสดีครับ ผมคือสามีของคังอันเหอ ถูเฉิงเสียงครับ”
“สวัสดีครับ”
เจี่ยงสือเหิงก็ทักทายถูเฉิงเสียงพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าถูเฉิงเสียงและฟู่โฮ่วหลิ่นกำลังพูดคุยกัน ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกไปต้อนรับ เขาจึงไปช่วยฉินมู่หลานรับแขกที่หน้าประตูแทน
อีกด้านหนึ่ง ฉินเคอวั่งและเสิ่นหรูฮุ่ย ก็ไปถึงบ้านตระกูลเกาแล้ว
ทางตระกูลเกาก็เตรียมพร้อมรับรองแขกเรียบร้อยแล้ว โดยได้เชิญญาติมิตรที่สนิทมาในงานหมั้นหมาย เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับฉินเคอวั่ง
เกาจู่ต๋าพาฉินเคอวั่ง ไปแนะนำกับผู้คนมากมาย ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงรู้ว่าลูกสาวคนที่สองของตระกูลเกามีคู่หมั้นแล้ว และจะแต่งงานกันหลังจากเรียนจบ ผู้คนต่างหันไปทางเกาซุนชิวแล้วก็ถามว่า “ซุนชิว คู่หมั้นของลูกพี่ลูกน้องเธอหมั้นกันแล้ว เธอจะพาแฟนหนุ่มเข้าบ้านเมื่อไหร่”
“ใช่แล้ว เราก็อายุไม่น้อยแล้ว ถึงเวลาต้องหาแฟนแล้วนะ”
เกาซุนชิวได้ยินแบบนี้ก็ได้แต่ยิ้ม ตอนนี้หล่อนไม่มีเวลาคิดเรื่องหาแฟนเลย
บรรดาแขกเหรื่อพูดคุยกันเล็กน้อย เพราะพวกเขารู้ดีว่าเกาซุนชิวคือลูกสาวของเกาจู่เชียน หล่อนคงจะมีคู่ครองแบบไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขามาเป็นห่วง
“เคอวั่ง รอช้าอยู่อะไร รีบออกมาดื่มเหล้ากับพวกอาๆ ลุงๆ สิ”
หลังจากเกาจู่ต๋ารับฉินเคอวั่งเป็นลูกเขยแล้ว ก็เริ่มมองเห็นความดีในตัวเขา และเรียกให้เขาออกมาพบปะกับญาติๆ เหมือนจะช่วยขยายเส้นสายให้
ก่อนหน้านี้ฉินเคอวั่งแทบจะไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อนเลย ไม่รู้ว่าตัวเองจะไหวหรือไม่ จึงลังเลใจเล็กน้อย
เสิ่นหรูฮุ่ยยิ้มพลางตบบ่าฉินเคอวั่ง เมื่อมีใครนำเหล้ามาชนกับฉินเคอวั่ง เขาก็จะเป็นคนดื่มแทนตลอด ทนดื่มมาหลายโต๊ะแล้ว แต่เสิ่นหรูฮุ่ยยังคงนั่งนิ่งไม่เมา
ฉินเคอวั่งจึงทำท่าชูนิ้วให้เสิ่นหรูฮุ่ยเป็นการชื่นชม
“พี่ใหญ่เสิ่นเก่งจริงๆ วันนี้ถ้าไม่มีพี่คงแย่”
เสิ่นหรูฮุ่ยยิ้มกล่าว “วันนี้สบายใจเถอะ เรื่องอื่นๆ ปล่อยให้ฉันจัดการ”
เขาฝึกฝนความสามารถในการดื่มเหล้ามาเป็นอย่างดี วันนี้ที่มาเป็นเพื่อนฉินเคอวั่ง ส่วนใหญ่ก็เพื่อคอยดื่มเหล้าแทน
เมื่อทำความรู้จักกันพอสมควรแล้ว ก็ดื่มกันพอประมาณ เกาจู่ต๋าจึงหันไปทางฉินเคอวั่งแล้วกล่าวว่า “เดี๋ยวเชี่ยนเชี่ยนก็จะต้องย้ายเข้าบ้านเธอแล้ว ฝากเธอด้วยนะ”
“คุณอาวางใจได้เลยครับ ผมจะดูแลเชี่ยนเชี่ยนอย่างดี”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เหมือนยกคนรู้จักจากทั้งปักกิ่งมาอยู่ในงานนี้หมดเลยนะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)