ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 719 เด็กทะเลาะกัน(2)
ตอนที่ 719 เด็กทะเลาะกัน(2)
……….
ตอนที่ 719 เด็กทะเลาะกัน(2)
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนั้น ใบหน้าของหล่อนก็แดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
“มู่หลาน ถ้าอย่างนั้น…ฉันกับโฮ่วหลิ่นกลับก่อนนะ เธอเองก็รีบกลับบ้านเถอะ”
เมื่อเห็นว่าเซี่ยปิงหรุ่ยดูเขินอาย ฉินมู่หลานจึงไม่ได้พูดอะไรมาก ทำแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “ตกลง งั้นฉันก็กลับบ้านเลยแล้วกัน”
ฟู่โฮ่วหลิ่นเห็นทั้งสองสาวเดินมาก็ยิ้มเป็นการทักทาย จากนั้นก็หันไปถามฉินมู่หลาน “พี่สะใภ้ พี่ชายก็กลับบ้านแล้วครับ คงกำลังรอพี่สะใภ้กลับบ้านอยู่”
ฉินมู่หลานเพิ่งรู้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาบ้านแล้ว เมื่อคิดว่าทั้งคู่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว เธอก็อยากจะรีบกลับเช่นกัน “ปิงหรุ่ย โฮ่วหลิ่น งั้นฉันไปก่อนนะ”
ทว่าเมื่อฉินมู่หลานกลับถึงบ้าน เธอก็พบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้อยู่ที่บ้านเลย ทั้งชิงชิงกับเฉินเฉินที่ควรจะกลับมาแล้วก็ยังไม่กลับมาเช่นกัน
คุณย่าฉินเห็นฉินมู่หลานกลับมาก็รีบพูดว่า “มู่หลาน กลับมาได้ทันเวลาพอดี ย่ากำลังจะไปดูที่โรงเรียนอนุบาลเลย แต่ตอนนี้หนูมาก็ดีแล้ว ย่าจะได้ขอไปด้วย”
“ชิงชิงกับเฉินเฉินยังไม่เลิกเรียนเหรอคะ?”
“ย่าไม่รู้เหมือนกัน แต่วันนี้บ่ายอาหลี่กลับมา เลยไปรับเด็กสองคนหลังเลิกเรียน ใครจะรู้ว่าจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่กลับมา ย่าเป็นห่วงมากเลย”
ได้ยินดังนั้น คิ้วของฉินมู่หลานก็ขมวดเข้าหากันทันที แต่คุณย่าของเธอก็อายุมากแล้ว ให้ตามไปตามด้วยคงไม่ดีแน่ จึงรีบหันไปพูดกับนางว่า “คุณย่าคะ เดี๋ยวหนูจะไปดูที่โรงเรียนอนุบาลเอง คุณย่ารอที่บ้านเถอะค่ะ เผื่อว่าเด็ก ๆ กลับมา”
คุณย่าฉินได้ยินเช่นนั้นจึงหยุดฝีเท้าลง
“มู่หลาน งั้นหลานรีบไปโรงเรียนอนุบาลเถอะ ย่าจะรออยู่บ้าน”
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานออกเดินทางไปยังโรงเรียนอนุบาลของชิงชิงกับเฉินเฉินทันที เมื่อไปถึงก็พบเด็กทั้งสองกับเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังยืนอยู่ในห้องพักครู และมีเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่ข้างเด็กทั้งสาม ชิงชิงที่ยืนอยู่ข้างเด็กหญิงคนนั้นก็ยังพยายามปลอบอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
และด้านหน้าของพวกเขามีพ่อลูกคู่หนึ่งยืนอยู่กับครูประจำชั้นหลิวอิ๋ง
“อาหลี่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกคุณกลับบ้านกันช้าจัง?”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานมา จึงชี้ไปที่เฉินเฉินแล้วพูดว่า “ลูกคุณไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นน่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินก็รีบมองไปที่เฉินเฉินทันที และพบว่าบนใบหน้าของเขามีรอยเลือดถึง 2 แถบ ขณะที่ใบหน้าของเด็กชายตรงข้ามก็มีแผลเช่นเดียวกัน เพียงแต่เธอยังไม่ทันซักถามอะไร พ่อของเด็กตรงข้ามก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย
“ลูกชายพวกคุณทำร้ายลูกผมขนาดนี้ ผมบอกพวกคุณเอาไว้เลยนะ เรื่องวันนี้จะปล่อยผ่านไปไม่ได้แน่ ๆ พวกคุณต้องจ่ายค่าเสียหายให้เรา”
ครูประจำชั้นอย่างหลิวอิ๋งก็รีบพูดแทรก “คุณพ่อจวินจวิน เรื่องนี้คงมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่นอนค่ะ เฉินเฉินเป็นเด็กนิสัยดี ไม่น่าจะไปรังแกใครได้”
“คุณครูหมายความว่าไง หมายความว่าจวินจวินของเราผิดงั้นเหรอ?”
เมื่อครูหลิวเห็นท่าทางของพ่อจวินจวินเกรี้ยวกราด จึงอดถอยหลังไปหนึ่งก้าวไม่ได้ จากนั้นก็หันไปทางเฉินเฉินแล้วเอ่ยถามว่า “เฉินเฉิน หนูเล่าให้ครูฟังหน่อยได้ไหม ว่าทำไมถึงไปชกต่อยกับจวินจวินได้?”
เฉินเฉินเม้มปากเข้าหากัน และไม่ยอมเอื้อนเอ่ยออกมาแม้แต่คำเดียว
ครูหลิวเห็นเฉินเฉินเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกหมดหนทาง ตั้งแต่เกิดเรื่อง เด็กคนนี้ยังไม่ยอมพูดอะไรเลยว่าทำไมถึงได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ตอนนั้นชิงชิงก็ไปเข้าห้องน้ำพอดีจึงทำให้ไม่รู้เรื่องราว ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ยังคงร้องไห้ไม่หยุด
ครั้นคิดเช่นนี้ ครูหลิวก็รีบเดินไปปลอบเด็กหญิงตัวน้อย
“เสี่ยวฮวาไม่ต้องร้องนะลูก เดี๋ยวคุณแม่คงมารับแล้ว”
เด็กหญิงคนนี้ขี้กลัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คาดว่าคงจะเป็นเพราะเฉินเฉินและจวินจวินทะเลาะกัน หล่อนจึงตกใจกลัวและร้องไห้จนถึงตอนนี้
เสี่ยวฮวาร้องสะอื้นอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ พยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองร้องไห้อีก “ครูคะ…”
“เฉินเฉินเค้า…ช่วยหนู…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็พากันตกใจ
แต่ครูหลิวกลับหันไปหาเด็กหญิงตัวน้อยแล้วถามว่า “เสี่ยวฮวา หนูเล่าให้ครูฟังสิ เฉินเฉินช่วยหนูยังไงเหรอ?”
“เขา…เขาตีหนู เฉินเฉินก็เลยตีเขากลับ”
เสี่ยวฮวาชี้ไปทางจวินจวิน แล้วสีหน้าก็เต็มไปด้วยความกลัว
คนอื่น ๆ จึงได้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทันที ฉินมู่หลานหันไปทางลูกชายและพูดว่า “เฉินเฉิน แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่พูด?”
“หึ…เขาแกล้งเสี่ยวฮวา ก็สมควรที่จะโดนตีอยู่แล้ว แต่ตัวผมเองก็ผิด เพราะลงมือตีเขาเหมือนกัน”
พอว่ามาถึงตรงนี้ เฉินเฉินก็ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองหน้าพ่อกับแม่
ฉินมู่หลานเห็นลูกชายเป็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะย่อตัวลงไปนั่งข้าง ๆ เขาและลูบหัวเขาเบาๆ “เฉินเฉินปกป้องเสี่ยวฮวา ถึงจะลงมือตีเขา แต่ลูกก็กล้าหาญมากนะ เพียงแต่การลงมือตีคนอื่นมันไม่ถูก ยังไงก็ต้องขอโทษเพื่อนร่วมชั้นเรียนสักหน่อยนะ”
“แต่ผม…”
เฉินเฉินยังรู้สึกไม่พอใจที่จวินจวินยังไม่ขอโทษ แต่ได้ยินแม่พูดแบบนี้เขาก็เลยจะขอโทษ ในจังหวะนั้นเองฉินมู่หลานก็ลุกขึ้นมาพูดกับพ่อของจวินจวินว่า “เราทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว ต้นเหตุมาจากจวินจวินเป็นคนเริ่มก่อน ดังนั้นพอจวินจวินขอโทษเสี่ยวฮวาแล้ว เฉินเฉินก็จะขอโทษจวินจวินค่ะ”
พอได้ยินแม่พูดแบบนั้น เฉินเฉินก็มองฉินมู่หลานด้วยดวงตาเป็นประกาย แล้วหันไปมองจวินจวินอย่างมั่นใจแล้วพูดว่า “ขอโทษเร็ว”
พอเห็นว่ามีคนมากมายรวมถึงครูจ้องมาที่ตัวเอง จวินจวินก็ร้อนรนจนหน้าซีด
แต่พ่อของจวินจวินกลับยืดคอแล้วพูดว่า “ทำไมต้องให้ลูกผมขอโทษด้วย ทั้งที่ลูกผมโดนตีจนบาดเจ็บที่สุด”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นผู้ปกครองอีกฝ่ายทำตัวไร้เหตุผลก็ตรงเข้าไปหาแล้วจ้องหน้าเขาก่อนจะพูดว่า “ลูกชายของคุณจะไม่ขอโทษจริง ๆ เหรอ?”
ตอนแรกเขาไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดจึงไม่รู้ว่าลูกชายผิดหรือเปล่า แต่เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วว่าลูกชายของเขาทำร้ายคนอื่นเพราะมีเหตุผล เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร
เซี่ยเจ๋อหลี่มีท่าทีจริงจังจนทำให้รู้สึกหนาวหลัง และใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็ดูเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก
พอเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่เป็นแบบนี้ พ่อของจวินจวินก็เผลอถอยหลังไปแล้วผลักลูกชายของตัวเอง “จวินจวินรีบ…รีบขอโทษเถอะ”
“พ่อ…”
จวินจวินรู้สึกไม่เต็มใจนัก แต่พอเห็นบิดาของตนทำแบบนั้นแล้วหันไปดูพ่อของเฉินเฉิน เขาก็ได้แต่ก้มหน้าขอโทษ “ขอโทษครับ ผมไม่ควรแกล้งเสี่ยวฮวา”
เสี่ยวฮวามองจวินจวินขอโทษตน แม้ใบหน้าของเด็กหญิงยังมีความโกรธ แต่ก็พูดว่าไม่เป็นไร
ส่วนเฉินเฉิน พอเห็นจวินจวินกับเสี่ยวฮวาขอโทษ เขาก็พูดอย่างคล่องแคล่วว่า “ขอโทษด้วยนะจวินจวิน ฉันไม่ควรทำร้ายนายแรงขนาดนั้น”
พอได้ยินคำพูดนั้น ฉินมู่หลานก็หันไปมองลูกชายอีกที ถือเป็นการขอโทษที่ลงมือหนักเกินไป ไม่ใช่การขอโทษที่ทำร้ายคนอื่น ลูกชายของเธอนี่เก่งจริง ๆ ทั้งที่ยังตัวแค่นี้
แต่พ่อลูกคู่นั้นกลับไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะโบกมือทั้งสองราวกับว่าให้จบเรื่องกันไป
ครูหลิวรู้สึกโล่งใจที่ทั้งสองฝ่ายขอโทษซึ่งกันและกัน แล้วก็ให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายรับบุตรหลานกลับไป
“เรากลับก่อนนะครับ”
พ่อของจวินจวินรีบพาลูกชายออกไปทันที
ส่วนฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ก็พาเด็กสองคนเตรียมตัวกลับบ้านเช่นกัน แต่พอเห็นว่าเสี่ยวฮวาอยู่เพียงลำพังก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เสี่ยวฮวาพักอยู่ที่ไหน ให้พวกเราจะไปส่งไหม?”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ทำผิดก็ต้องกล้าขอโทษ ไม่งั้นอาจจะโดนสังคมทำโทษหนักกว่านี้ก็เป็นได้
ไหหม่า(海馬)
……….