ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 720 ขอไปด้วย(1)
ตอนที่ 720 ขอไปด้วย(1)
พอฉินมู่หลานพูดจบประโยต หน้าประตูโรงเรียนก็มีหญิงสาวหน้าตาตื่นตระหนกวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นว่ายังมีผู้คนมากมายที่โรงเรียนอนุบาล หล่อนก็ตกใจเล็กน้อย รีบวิ่งไปหาเสี่ยวฮวาแล้วพูดว่า “เสี่ยวฮวา แม่มารับช้าไปหน่อย กลับบ้านกันเถอะ”
หลิวอิ๋งเห็นคุณแม่เสี่ยวฮวามาถึงก็รีบพูดว่า “แม่เสี่ยวฮวามาแล้วเหรอคะ”
เมื่อเอ่ยทักทายจบแล้วเธอก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฟัง ก่อนจะพูดปิดท้ายว่า “เสี่ยวฮวาขี้กลัว คุณแม่ควรพาน้องออกไปสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านให้มากขึ้นนะคะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณแม่เสี่ยวฮวาก็รีบพยักหน้าตอบรับ แล้วหันไปทางฉินมู่หลานก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “วันนี้ขอบคุณพวกคุณมากจริง ๆ นะคะ”
ฉินมู่หลานเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปประคองตัวหล่อนไว้แล้วพูดว่า “แม่เสี่ยวฮวาไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะ ชิงชิงและเฉินเฉินเป็นเพื่อนของเสี่ยวฮวา พวกเขาก็ควรช่วยเหลือเสี่ยวฮวา”
ถึงแม้จะพูดเช่นนั้น แต่คุณแม่เสี่ยวฮวาก็ยังกล่าวคำขอบคุณอย่างจริงใจ หันไปทางเฉินเฉินพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “ต้องขอบคุณเฉินเฉินด้วยนะ”
แต่เฉินเฉินกลับส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ยอมให้ใครแกล้งเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักได้อยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็อดขำไม่ได้ เฉินเฉินนี่เป็นพวกชอบความสวยงามสินะ
คุณแม่เสี่ยวฮวาก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน “ยังไงก็ต้องขอบคุณเฉินเฉินนะ วันนี้ให้น้าเลี้ยงข้าวพวกหนูสักมื้อดีไหม?”
อย่างไรก็ตาม เฉินเฉินยังคงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพวกผมกลับไปกินที่บ้าน”
ฉินมู่หลานก็พูดขึ้นมาว่า “แม่เสี่ยวฮวา ไม่เป็นไรเลยค่ะ นี่ก็เย็นมากแล้ว พวกเรารีบกลับบ้านเถอะค่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ เอ่ยปฏิเสธอย่างเกรงใจ คุณแม่เสี่ยวฮวาก็จำต้องยอมแพ้
“ก็ได้ งั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ เดี๋ยวไว้คราวหน้าจะเชิญเฉินเฉินและชิงชิงไปกินของอร่อย ๆ กันนะ”
“ค่ะ”
คราวนี้ฉินมู่หลานไม่ปฏิเสธ เธอพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแล้วครอบครัวก็เดินทางกลับบ้านในที่สุด
ขณะเดินทางกลับเฉินเฉินพูดขึ้นราวกับผู้ใหญ่ว่า “เสี่ยวฮวาขี้กลัวเกินไปแล้ว โดนคนอื่นรังแกได้ง่าย ๆ”
ทว่าชิงชิงกลับพูดบางสิ่งที่น่าตกใจว่า “อาจจะเป็นเพราะเสี่ยวฮวาไม่มีพ่อ เลยไม่มีใครปกป้องหล่อน หล่อนเลยขี้กลัว”
ฉินมู่หลานถามชิงชิงตรง ๆ ว่า “ชิงชิง ลูกรู้ได้ยังไง?”
“ครั้งหนึ่ง เสี่ยวฮวาร้องไห้แล้วบอกหนู หล่อนบอกว่าหล่อนอยู่กับแม่เพียงลำพัง เคยเจอคนร้ายรังแก พวกหล่อนเลยหนีมา แล้ว…เสี่ยวฮวาก็เลยขี้กลัว”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นแล้วก็เข้าใจเพื่อนของลูก ๆ ทั้งสองมากขึ้น
“เป็นอย่างนี้เอง แต่พวกลูกห้ามพูดเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ คนอื่นนะ หลังจากนี้ต้องช่วยดูแลเสี่ยวฮวามากกว่าเดิมนะ เข้าใจไหม?”
“ครับ/ค่ะ”
เด็ก ๆ ทั้งสองพยักหน้า และชิงชิงก็พูดต่อว่า “หนูกับเสี่ยวฮวาเล่นด้วยกันตลอดเลย”
เมื่อทุกคนกลับถึงบ้าน คุณย่าฉินโล่งใจเมื่อเห็นว่าหลาน ๆ ทั้งสองกลับมาแล้ว คุณปู่ฉินพร้อมด้วยซูหว่านอี๋กับฉินเคอวั่งก็เช่นกัน พวกเขากลับมาถึงบ้านแล้วก็ได้รับรู้เรื่องที่เด็ก ๆ ยังไม่กลับถึงบ้าน และในตอนนี้ทุกคนในบ้านก็ได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
“มู่หลานเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงกลับช้าแบบนี้?”
ฉินมู่หลานเล่าเรื่องราวสั้น ๆ ก่อนจะกล่าวสรุป “ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กินข้าวกันเถอะค่ะ เด็ก ๆ คงหิวแย่แล้ว”
“ใช่ ๆ กินข้าวกันเถอะ”
คุณย่าฉินรีบเชิญทุกคนไปที่ห้องอาหาร
เมื่อทุกคนกินข้าวเสร็จ คุณย่าฉินก็พาเด็ก ๆ ทั้งสองไปถามเรื่องราวต่าง ๆ ที่โรงเรียนอนุบาล เมื่อเรื่องราวของเสี่ยวฮวาถูกบอกเล่า คุณย่าฉินก็อดที่จะบอกให้ชิงชิงและเฉินเฉินชวนเพื่อนมาเล่นที่บ้านไม่ได้
“ดีเลย จะได้ชวนเสี่ยวฮวามาเล่นด้วยกัน”
ชิงชิงและเฉินเฉินพากันพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเซี่ยปิงหรุ่ยและฟู่โฮ่วหลิ่นแยกตัวออกมา พวกเขาก็ไปที่ร้านอาหาร จากนั้นฟู่โฮ่วหลิ่นก็พูดเรื่องไปซีอานขึ้นมา
“ปิงหรุ่ย ก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ว่าจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของคุณแต่ติดเรื่องที่ผมเพิ่งย้ายงานมา ตอนนี้งานผมเริ่มลงตัวแล้วจนได้ลาพักร้อนมา 2-3 วัน เราไปซีอานด้วยกันเลยไหม”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่คิดว่าฟู่โฮ่วหลิ่นจะมีความคิดนี้ แต่หล่อนก็รู้ว่าฟู่โฮ่วหลิ่นลางานค่อนข้างยาก ตอนนี้ลาได้แล้ว ถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ว่าจะลางานได้อีกเมื่อใด จึงพยักหน้าตอบว่า “ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปลางานที่โรงพยาบาล แล้วเราไปซีอานกัน”
เห็นเซี่ยปิงหรุ่ยตกลง ฟู่โฮ่วหลิ่นก็รู้สึกปีติยินดี
แต่พอพูดถึงการไปเจอผู้ใหญ่ เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดหันไปพูดกับฟู่โฮ่วหลิ่นไม่ได้ว่า “พูดถึงเรื่องนี้ ฉันเองก็ยังไม่เคยไปที่บ้านคุณเลย แต่กลับกลายเป็นว่าคุณจะมาที่บ้านฉันก่อน เราสลับกันหรือเปล่า?”
นึกถึงคนและเรื่องราวในบ้าน สีหน้ายิ้มแย้มบนใบหน้าของฟู่โฮ่วหลิ่นก็หม่นลง
“ไม่ต้องไปที่บ้านผมหรอก พรุ่งนี้เราไปกินข้าวกับคุณปู่ด้วยกันเถอะ”
เมื่อครู่เซี่ยปิงหรุ่ยแค่พูดเล่นอยู่เฉยๆ ไม่ได้หมายความว่าอยากไปบ้านตระกูลฟู่สักนิด เพราะรู้ดีถึงสถานการณ์ในบ้านตระกูลฟู่ และเรื่องของฟู่โฮ่วหลิ่นก็เป็นเรื่องที่เขาจัดการเองได้อยู่แล้ว คนสองคนไม่จำเป็นต้องไปรายงานพ่อและแม่เลี้ยงของฟู่โฮ่วหลิ่น แต่หล่อนไม่ได้คิดว่าฟู่โฮ่วหลิ่นจะพาหล่อนไปเจอคุณปู่ของเขาโดยตรง
“แบบนี้…คุณปู่จะยอมออกมาพบพวกเราเหรอ”
“ใช่ ผมเคยเล่าเรื่องของคุณให้คุณปู่ฟัง ท่านอยากจะพบคุณน่ะ”
เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่ปฏิเสธอะไร พยักหน้าตอบตกลงว่า “ได้ งั้นพรุ่งนี้เราไปกินข้าวกับคุณปู่กัน”
ฟู่โฮ่วหลิ่นเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยตกลงก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดว่า “คุณปู่ต้องชอบคุณแน่ ๆ งั้นพรุ่งนี้เที่ยงผมจะไปรับที่โรงพยาบาลนะ”
“ค่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้า “พรุ่งนี้เช้าฉันมีออกตรวจ เสร็จงานแล้วฉันจะไปลาหัวหน้าแผนก แล้วเราไปกินข้าวเที่ยงกับปู่กัน ก่อนออกเดินทางไปซีอานในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้”
ฟู่โฮ่วหลินก็เห็นด้วยกับความคิดนี้
“ตกลง”
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น เซี่ยปิงหรุ่ยก็ได้บอกฉินมู่หลานถึงเรื่องการลาหยุด
“เธอกับฟู่โฮ่วหลินจะไปซีอานงั้นเหรอ ดีเลย เดินทางปลอดภัยนะ”
“ขอบคุณนะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยพูดคุยกับฉินมู่หลานอีกสักพักก่อนจะแยกย้าย จากนั้นก็รีบไปที่แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล หลังจากทำงานช่วงเช้าเสร็จเธอก็รีบไปหาหลินหย่งเฉียง
“หัวหน้าแผนกหลิน ฉันจะมาขอลาหยุดสักสองสามวัน ฉันเลยอยากของดเว้นตารางออกตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอกในช่วงนี้น่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินหย่งเฉียงก็อดถามไม่ได้ว่า “ทำไมจู่ ๆ ถึงจะลาหยุดล่ะ งานของคุณที่แผนกกำลังเข้าที่ ผมว่าช่วงนี้ไม่ควรลานะ”
“พอดีฉันมีธุระต้องกลับบ้านเกิดนิดหน่อย เลยอยากจะลาหยุดสักสองสามวัน”
“คุณจะกลับซีอานเหรอ”
หลินหย่งเฉียงนึกถึงตระกูลเซี่ยแห่งซีอาน ก็อดสงสัยไม่ได้ “มีธุระอะไรต้องกลับไปเหรอ?”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่คิดว่าหลินหย่งเฉียงจะซักไซ้ไล่เลียงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะพาแฟนกลับบ้าน จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
เมื่อหลินหย่งเฉียงได้ยินดังนั้น เขาก็พูดอะไรไม่ได้มากนัก ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตกลง เดี๋ยวคุณเขียนใบลาให้ผมหน่อยนะ”
“ได้ค่ะหัวหน้า”
เพียงแต่เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยเขียนใบลา หลินหย่งเฉียงก็เกิดลังเลอีกครั้ง สุดท้ายก็ยังคงอดถามไม่ได้ “หมอเซี่ย ไม่ทราบว่า…พวกเราขอไปเยี่ยมบ้านคุณได้หรือเปล่า?”
“อะไรนะคะ…”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารน้องเสี่ยวฮวา ดูแลเพื่อนด้วยนะคะชิงเชิงเฉินเฉิน
ซีอานครึกครื้นแน่ๆ หมอหลินจะต้องตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของตระกูลเซี่ย
ไหหม่า(海馬)