ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 733 เตรียมงานวันเกิด(2)
ตอนที่ 733 เตรียมงานวันเกิด(2)
ฉินมู่หลานเห็นด้วยกับความคิดนี้ ดังนั้นเมื่อคุณนายเหยาเอ่ยปากอีกครั้งว่าจะให้ไปรับพวกหลานอยู่บ้านตระกูลเหยา เธอก็ปฏิเสธไปว่าอยากให้พวกเด็ก ๆ อยู่บ้าน เพราะอย่างไรก็ให้ชุยเสี่ยวผิงมาช่วยดูแลเด็กอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีคนดูแลพวกเขา
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ซูหว่านอี๋ก็คอยตักอาหารให้เซี่ยเจ๋อหลี่และเล่าเรื่องของเหยาจิ้งจือในตอนนี้
“อาหลี่ ตอนนี้แม่เธอยุ่งมาก ฉันเองก็ไม่ได้เจอหล่อนมาพักใหญ่แล้ว”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่รู้จริง ๆ ว่าช่วงนี้แม่ของเขาเป็นอย่างไร เขาจึงถามไปสองสามคำ ซูหว่านอี๋เลยเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ก่อนจะพูดว่า “เอาเป็นว่าแม่ของเธอเก่งมาก ทำอะไรได้คล่องแคล่วขึ้น ฉันได้ยินมาว่าคุณตาเธอยินดีมากเลยล่ะ”
เรื่องนี้ฉินมู่หลานก็ได้ยินมาบ้าง ก่อนจะเสริมขึ้นว่า “ใช่ค่ะ ฉันได้ยินมาว่าคุณแม่ทำงานได้ดีมากเลย”
แน่นอนว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ย่อมดีใจกับแม่ของตน “งั้นก็ดีแล้วครับ”
ฉินเคอวั่งนั่งเงียบอยู่ข้างๆ และเด็ก ๆ ก็เรียกหาน้าอย่างเขาตลอด ทำให้เขาอยู่เฉยไม่ได้เลย จนเมื่อกินข้าวเสร็จถึงได้มีเวลาอยู่กับตัวเองจริง ๆ การเลี้ยงเด็กนี่มันเหนื่อยเหลือเกิน
ส่วนฉินมู่หลานก็หาโอกาสพูดเรื่องงานวันเกิดของเสี่ยวฮวากับชิงชิงและเฉินเฉิน
แต่ไม่ทันที่ฉินมู่หลานจะสั่งให้เด็ก ๆ ไปถามวันเกิดของเสี่ยวฮวา ทั้งคู่ก็พูดด้วยความตื่นเต้น “แม่ ใกล้จะถึงวันเกิดเสี่ยวฮวาแล้ว แม่ของหล่อนชวนเราไปงานวันเกิดที่บ้านด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็ต้องตกใจเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าแม่ของเสี่ยวฮวาจะชวนชิงชิงและเฉินเฉินด้วย
“พวกลูกตกลงกันแล้วหรือยังว่าจะไปงานวันเกิดเสี่ยวฮวาไหม”
ชิงชิงและเฉินเฉินพยักหน้าพร้อมกันพลางพูดว่า “ครับ/ค่ะ พวกเราตกลงกันแล้ว”
ตอนนี้ฉินมู่หลานจึงคิดว่าการเชิญพวกเขามาที่บ้านคงเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมแล้ว เธอคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แม่ได้ยินมาว่านอกจากพวกลูกสองคนแล้ว เสี่ยวฮวาก็ไม่มีเพื่อนคนไหนเลย ดังนั้นเราไปจัดงานวันเกิดให้เสี่ยวฮวาที่โรงเรียนอนุบาลกันดีกว่า ให้ทุกคนในโรงเรียนมาร่วมฉลองวันเกิดให้กับเสี่ยวฮวา แบบนี้เสี่ยวฮวาอาจจะได้มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น”
เมื่อได้ยินคำนี้ ชิงชิงก็พูดขึ้นด้วยแววตาเป็นประกาย “ใช่ค่ะ โรงเรียนอนุบาลก็ดีนะคะ”
เฉินเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดี “คุณแม่สุดยอดเลยฮะ มีความดี ๆ อยู่ตลอด”
ฉินมู่หลานยิ้มพลางโบกมือ แล้วเขียนขั้นตอนการจัดงานวันเกิดลงไป “งั้นตกลงกันแบบนี้ ไว้แม่จะคุยกับแม่เสี่ยวฮวาอีกที แล้วจะไปแจ้งคุณครูหลิวให้ทราบด้วย”
“ดีเลย”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่คิดว่าการจัดงานวันเกิดให้เด็กคนหนึ่งจะต้องยุ่งยากถึงขนาดนี้ จึงถามย้ำไปอีกครั้ง
ฉินมู่หลานเลยเล่าเรื่องราวของเฟิงจื่อจวิ้นให้เซี่ยเจ๋อหลี่ฟังโดยไม่มีการปิดบัง แล้วพูดทิ้งท้ายว่า “เราก็เลยตัดสินใจจัดที่โรงเรียนอนุบาล เฟิงจื่อจวิ้นจะได้ไปดูลูกที่โรงเรียนอนุบาลได้”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวอะไรแบบนี้อยู่ด้วย แต่เมื่อมู่หลานตัดสินใจที่จะเข้าไปจัดการแล้ว เขาก็จะไม่พูดอะไร ทำเพียงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ในเมื่อทุกคนตัดสินใจกันแบบนี้แล้ว งั้นตอนนั้นเราคงต้องรวบรวมรายชื่อคนที่จะไปช่วยงานแล้วล่ะ”
“ได้ ฉันจะคุยกับครูหลิวอีกทีค่ะ”
หลังตัดสินใจที่จะทำ ฉินมู่หลานก็เริ่มคิดแล้วว่าจะจัดงานวันเกิดให้เสี่ยวฮวาอย่างไร
เมื่อฉินมู่หลานไปรับพวกเด็ก ๆ เธอก็ได้พบกับซือฮุ่ยซิน และก็เล่าเรื่องนี้ให้หล่อนฟัง
ซือฮุ่ยซินไม่คิดว่าฉินมู่หลานจะคิดอะไรได้มากมายขนาดนี้ เพื่อให้ลูกสาวสามารถเข้ากับเพื่อน ๆ ในโรงเรียนอนุบาลได้ดีขึ้น หล่อนจึงพยักหน้าเห็นด้วยทันที
“แม่ชิงชิง คุณนี่คิดอะไรได้ดีจริง ๆ งั้นตอนนั้นฉันจะซื้อขนมไปฝากเด็ก ๆ ด้วยดีกว่า”
เมื่อได้ยินคำนี้ ฉินมู่หลานก็ออกตัวว่า “เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเถอะค่ะ ช่วงหลัง ๆ นี้ ชิงชิงและเฉินเฉินชอบกินขนม ฉันเลยทำขนมให้พวกเขากินเยอะเลย วันเกิดเสี่ยวฮวาทั้งที ฉันก็จะทำให้เยอะขึ้น ให้เด็ก ๆ เอามาแจกที่โรงเรียน ฉันเชื่อว่าเด็กคนอื่น ๆ ต้องชอบแน่ ๆ”
เมื่อซือฮุ่ยซินเห็นฉินมู่หลานรับหน้าที่ในส่วนนี้ไป หล่อนจึงเริ่มคิดว่าตนจะซื้ออะไรได้บ้าง
“แม่เสี่ยวฮวาเหนื่อยหน่อยนะคะ อาจต้องเตรียมบะหมี่ให้เยอะหน่อย เพราะตอนฉลองวันเกิดต้องกินบะหมี่กัน”
“ใช่ ๆ ต้องกินบะหมี่สินะ”
ซือฮุ่ยซินก็วางแผนว่าจะปรึกษากับคุณครูหลิวสักหน่อย ว่าทางโรงเรียนอนุบาลสามารถให้หล่อนยืมใช้ครัวเพื่อทำบะหมี่ให้เด็ก ๆ ได้หรือไม่
เรื่องราวก็เลยลงเอยแบบนี้ ฉินมู่หลานพูดคุยกับซือฮุ่ยซินต่ออีกสักพัก แล้วก็พาชิงชิงกับเฉินเฉินกลับบ้าน
แต่ทันทีที่พวกเขากลับถึงบ้าน ก็ได้พบกับเซี่ยปิงหรุ่ยและเฟิงจื่อจวิ้น
เซี่ยปิงหรุ่ยมองฉินมู่หลานอย่างไม่เต็มใจนักและพูดว่า “ เฟิงจื่อจวิ้นรบเร้าจะมาให้ได้ ตัวเขาใจร้อนอยากรู้ว่าวันเกิดของเสี่ยวฮวาคือวันไหนกันแน่”
เฟิงจื่อจวิ้นรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย แต่เขาก็อยากรู้วันเกิดลูกสาวจริง ๆ จึงมองไปที่ฉินมู่หลานอย่างใจจดใจจ่อ
ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปกปิดและบอกไปตรง ๆ ว่า “วันเกิดของเสี่ยวฮวาคือวันศุกร์นี้ เราได้ตัดสินใจกันแล้วว่าจะจัดงานวันเกิดให้หล่อนที่โรงเรียนอนุบาล”
“จริงเหรอ วันเกิดของเสี่ยวฮวาคือวันศุกร์นี้เหรอ?”
เฟิงจื่อจวิ้นนับวันในใจและรู้สึกตื่นเต้นมาก “ฮุ่ยซินก็โกหกผมจริงๆ สินะ เสี่ยวฮวาคือลูกสาวของผม เราเคยอยู่ด้วยกันตอนที่หล่อนกำลังตั้งท้อง แต่ถึงอย่างนั้น…ตอนที่หล่อนหนีหายไป หล่อนก็คงรู้แล้วสินะว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แล้วทำไมหล่อนยังทิ้งผมไป”
ฉินมู่หลานส่ายหัวและพูดว่า “เรื่องนี้ฉันไม่รู้ แต่ฉันคิดว่าคุณควรจะสืบเรื่องราวในตอนนั้นให้ดี ๆ ลองดูสิว่ามันมีเงื่อนงำอะไรหรือเปล่า ดูจากอาการของแม่เสี่ยวฮวาแล้ว ฉันคิดว่าหล่อนอาจจะเข้าใจคุณผิด”
แม่ของเสี่ยวฮวาไม่ยอมให้เฟิงจื่อจวิ้นเข้าไปในบ้านทั้งคืน แสดงให้เห็นว่าหล่อนคงโกรธแค้นเฟิงจื่อจวิ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นเรื่องราวในตอนนั้นคงมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นจึงทำให้กลายมาเป็นแบบนี้
“ผมกำลังเริ่มสืบแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยู่ปักกิ่ง เลยทำให้การสืบเรื่องบางอย่างค่อนข้างลำบาก”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เฟิงจื่อจวิ้นจะต้องสืบหาความจริงให้ได้
หลังรู้วันเกิดของเสี่ยวฮวา และรู้แล้วว่าจัดงานที่โรงเรียนอนุบาล เฟิงจื่อจวิ้นก็อยากจะช่วยอีกแรง “พวกคุณว่าผมควรจะซื้ออะไรดี?”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ถนัดเรื่องแบบนี้จึงให้ความเห็นอะไรไม่ได้ ยังดีที่ฉินมู่หลานพอจะให้คำแนะนำได้ “คุณเตรียมพวกของเล่นไปก็ได้ เด็ก ๆ จะได้มีความสุขกันถ้วนหน้า แล้วเสี่ยวฮวาก็จะยิ่งเป็นที่รักมากขึ้น”
เฟิงจื่อจวิ้นรีบจดจำเอาไว้ทันที “ได้เลย เดี๋ยวผมไปซื้อของเล่นและของขวัญเล็ก ๆ น้อยๆ เดี๋ยวนี้แหละ”
เฟิงจื่อจวิ้นได้รับคำแนะนำก็ตื่นตัวและรีบไปจัดการทันที เซี่ยปิงหรุ่ยจึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “เฟิงจื่อจวิ้นบอกว่าอยากไปดูโรงงานยาของเราไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เหมือนว่าจะไม่สนใจแล้ว”
พูดจบ เซี่ยปิงหรุ่ยก็กลับไปเช่นกัน
พอถึงวันศุกร์ ฉินมู่หลานก็เตรียมขนมไว้ตั้งแต่เช้า แล้วก็ไปโรงเรียนอนุบาลพร้อมกับชิงชิงและเฉินเฉิน
ฝั่งของเฟิงจื่อจวิ้นก็มาถึงโรงเรียนอนุบาลก่อนแล้ว พอเห็นฉินมู่หลาน เขาก็รีบเอ่ยถาม “คุณหมอฉิน ของพวกนี้จะวางไว้ที่ไหนครับ?”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โดนตระกูลฝั่งผู้ชายกีดกันแหง มาทรงหาสะใภ้ไว้แล้วเตรียมคลุมถุงชน
ไหหม่า(海馬)
……….