ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 734 คำขอจากโรงพยาบาลอื่น(1)
ตอนที่ 734 คำขอจากโรงพยาบาลอื่น(1)
……….
ตอนที่ 734 คำขอจากโรงพยาบาลอื่น(1)
ฉินมู่หลานมองของเล่นและของว่างราคาแพงที่เฟิงจื่อจวิ้นนำมาให้ ก่อนจะพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “ทำไมคุณถึงซื้อมาเยอะขนาดนี้คะ”
“ผมคิดว่านี่เป็นวันเกิดครั้งแรกที่จัดในโรงเรียนอนุบาลของเสี่ยวฮวา ก็เลยซื้อมาเยอะหน่อย”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พาลูกทั้งสองและเฟิงจื่อจวิ้นเดินไปทางห้องเรียน
ชิงชิงและเฉินเฉินรู้สึกสนอกสนใจในตัวเฟิงจื่อจวิ้นมาก ๆ หลังจากที่ทุกคนมาถึงห้องเรียน ทั้งสองก็แอบถามฉินมู่หลานว่า “แม่คะ อาคนนั้นคือใครคะ เขาจะมาฉลองวันเกิดให้เสี่ยวฮวากับพวกเราด้วยเหรอ?”
ฉินมู่หลานจึงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ เขาจะมาฉลองวันเกิดให้เสี่ยวฮวากับพวกลูก”
“เยี่ยมเลย วันนี้คงต้องสนุกแน่ ๆ เลย”
เฟิงจื่อจวิ้นก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างเด็ก ๆ ทั้งสองกับฉินมู่หลานด้วย เขาจึงวางของแล้วเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “สวัสดีครับ อาเป็นพ่อของเสี่ยวฮวานะ ที่ผ่านมาอาขอบใจนะที่ดูแลเสี่ยวฮวาเป็นอย่างดี”
ทว่าชิงชิงและเฉินเฉินกลับมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ เสี่ยวฮวาไม่มีพ่อ”
เฟิงจื่อจวิ้นได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็เจือความเศร้าโศก หลังจากที่เขาสงบสติอารมณ์ลง เขาก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เพราะว่าอากับแม่ของเสี่ยวฮวามีเรื่องเข้าใจผิดกัน อาจึงไม่ได้อยู่เคียงข้าง เสี่ยวฮวาเพื่อเลี้ยงดูเธอให้เติบโตมา แต่หลังจากนี้อาจะดูแลเสี่ยวฮวาและแม่ของเธอให้ดีที่สุด”
ชิงชิงและเฉินเฉินไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเหล่านี้เท่าใด พวกเขารู้เพียงแค่ว่าอาชายตรงหน้าจะมาอยู่กับเสี่ยวฮวาและแม่ของเสี่ยวฮวา พวกเขาจึงพยักหน้าด้วยความเชื่อฟังและเรียกเขาว่า ‘อา’
เมื่อเห็นชิงชิงและเฉินเฉินที่น่ารักและขี้อ้อน เฟิงจื่อจวิ้นก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็หยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้แล้วส่งให้ทั้งคู่
ชิงชิงและเฉินเฉินไม่ได้รับของขวัญเอาไว้ แต่หันไปมองฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานจึงพยักหน้าให้เด็กๆ ทั้งสองและพวกเขาก็รับของขวัญไว้
เฟิงจื่อจวิ้นมอบของขวัญเป็นกำไลทองคำขนาดเล็กสองวง ซึ่งมีลวดลายมงคลประดับอยู่อย่างประณีต
ขณะที่ชิงชิงและเฉินเฉินกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพว่า “ขอบคุณครับ/ค่ะ”
เฟิงจื่อจวิ้นอดไม่ได้ที่จะลูบหัวเด็ก ๆ ทั้งสอง
ในเวลานั้น ครูประจำชั้นอย่างหลิวอิ๋งก็เดินเข้ามา หล่อนเห็นฉินมู่หลานมาถึงแล้ว จึงรีบยิ้มแย้มก่อนจะเข้าไปหาพร้อมกล่าวว่า “คุณแม่ชิงชิงมาเร็วจังเลย ขอบคุณคุณและคุณแม่เสี่ยวฮวามากจริง ๆ ค่ะ วันนี้เด็ก ๆ คงมีความสุขกันน่าดู”
เมื่อกล่าวจบ หล่อนก็เพิ่งสังเกตเห็นเฟิงจื่อจวิ้น จึงมองด้วยความสงสัยพร้อมถามว่า “คุณคนนี้คือ?”
ไม่รอให้ฉินมู่หลานแนะนำ เฟิงจื่อจวิ้นก็กล่าวขึ้นตรง ๆ ว่า “ผมเป็นพ่อของเสี่ยวฮวาครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของครูหลิวก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“แต่ว่า…”
หล่อนจำได้แม่นยำว่าเสี่ยวฮวาไม่มีพ่อ แต่เมื่อเฟิงจื่อจวิ้นพูดเช่นนี้ หล่อนจึงไม่กล้าซักถามอะไรมาก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวเสี่ยวฮวา
เฟิงจื่อจวิ้นและฉินมู่หลานร่วมกันนำของเล่นและขนมที่เตรียมมามอบให้ครูหลิวพร้อมกับกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “คุณครูครับ ขอฝากคุณครูช่วยแจกของพวกนี้ให้เด็ก ๆ ด้วยครับ”
ของเล่นและขนมนำเข้าเหล่านี้ล้วนบ่งบอกว่าราคาไม่เบา ครูหลิวจึงเกรงใจที่จะรับ “คุณพ่อเสี่ยวฮวา ของพวกนี้มันมีค่าเกินไปค่ะ”
แต่เฟิงจื่อจวิ้นกลับโบกมือปฏิเสธ “คุณครูครับ รับไว้เถอะครับ นี่เป็นวันเกิดครั้งแรกของเสี่ยวฮวาที่จัดขึ้นในโรงเรียนอนุบาล และผมก็อยากจะขอฝากคุณครูดูแลหล่อนเป็นพิเศษด้วยครับ”
ระหว่างที่พูด เฟิงจื่อจวิ้นก็แสดงสีหน้าจริงใจออกมา
เมื่อเห็นเช่นนั้นครูหลิวจึงไม่พูดอะไรอีก ทำเพียงพยักหน้าตอบว่า “ได้ค่ะ”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ก็ได้ยินเสียงเด็ก ๆ พูดคุยและหัวเราะกันเข้ามา นั่นเป็นเสียงของเหล่านักเรียนที่มาเข้าชั้นเรียนแล้ว
ฉินมู่หลานเห็นดังนั้น จึงหันไปพูดกับครูหลิวด้วยรอยยิ้ม “ครูคะ ฉันก็ทำขนมมาด้วยตัวเอง อยากจะแบ่งให้เด็ก ๆ ชิมค่ะ”
เมื่อได้ยินว่าเป็นฉินมู่หลานทำขนมมาให้เด็ก ๆ ด้วยตัวเอง ครูหลิวก็แสดงความยินดีอย่างเต็มที่
“ดีค่ะ เดี๋ยวฉันจะแบ่งให้เด็ก ๆ ทุกคน เด็กๆ ต้องชอบแน่เลยค่ะ”
จากนั้นฉินมู่หลานก็เหลือบมองเวลาก่อนจะเตรียมตัวกลับ
“ครูหลิว งั้นฉันกลับก่อนนะคะ”
“ได้ค่ะ”
ครูหลิวส่งฉินมู่หลานกลับออกไปอย่างยิ้มแย้ม แต่หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาถามเฟิงจื่อจวิ้นด้วยความสงสัย “คุณพ่อเสี่ยวฮวา มีธุระอะไรอีกหรือเปล่าคะ?”
เฟิงจื่อจวิ้นไม่ได้ตั้งใจจะกลับออกไป จึงรีบพยักหน้า “ครับ ผมยังมีเรื่องจะปรึกษาคุณครูอยู่หน่อยครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ครูหลิวจึงพยักหน้า พอฉินมู่หลานจากไปแล้วก็หันมาถามเฟิงจื่อจวิ้นว่ามีเรื่องอะไร
เฟิงจื่อจวิ้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเล่าเรื่องที่แม่ของเสี่ยวฮวาไม่ยอมรับเขาให้ครูหลิวฟัง จากนั้นจึงกล่าวทิ้งท้าย “ผมเพิ่งจะรู้เรื่องเสี่ยวฮวาเมื่อไม่กี่วันก่อนครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะเป็นพ่อ ผมเลยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี แค่อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่ว่าแม่ของเสี่ยวฮวาหล่อนไม่ให้ผมได้เข้าหาลูกเลย ผมก็เลยใช้วิธีนี้เพื่อที่จะได้เข้ามาหาเสี่ยวฮวา”
ครูหลิวไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ก็รับรู้ได้ว่าเฟิงจื่อจวิ้น ตั้งใจจะเข้าหาเสี่ยวฮวาอย่างจริงใจ หล่อนจึงพยักหน้า “ได้ค่ะ งั้นวันเกิดของเสี่ยวฮวา ฉันจะเอาของที่คุณเตรียมมาแจกให้กับเด็ก ๆ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า คุณพ่อของเสี่ยวฮวานำมาให้”
“ขอบคุณคุณครูครับ”
เฟิงจื่อจวิ้นกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็บอกเล่าแผนการของตัวเองต่อไป
“คุณครูครับ วันนี้ผมขออยู่ที่นี่ด้วยได้ไหมครับ ผมอยากช่วยเสี่ยวฮวาจัดงานวันเกิดด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจัดวันเกิดให้เธอ เพราะหลายปีที่ผ่านมาผมพลาดงานวันเกิดของเธอไป”
ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา บวกกับความเป็นพ่อที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ณ ขณะนั้นครูหลิวจึงรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะพยักหน้า “ได้ค่ะ”
เมื่อเสี่ยวฮวาพร้อมกับคุณแม่ของเสี่ยวฮวาเดินมา เฟิงจื่อจวิ้นก็ยืนมองแม่ลูกอยู่ไกล ๆ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อฉินมู่หลานส่งลูก ๆ เรียบร้อย เธอก็ตรงไปที่โรงพยาบาล
เซี่ยปิงหรุ่ยรีบยิ้มทักทายเมื่อเจอกับฉินมู่หลาน และทักทายพร้อมกับถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “เฟิงจื่อจวิ้นเป็นยังไงบ้าง ฉลองวันเกิดให้ลูกสาวแล้วเหรอ?”
เมื่อเห็นสีหน้าสนใจใคร่รู้อย่างเต็มที่ ฉินมู่หลานจึงเล่าเรื่องงานวันเกิดที่โรงเรียนอนุบาลของเสี่ยวฮวาให้ฟัง
หลังจากฟังจบ เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดที่จะอุทานไม่ได้ว่า “ไม่คิดเลยนะว่าเฟิงจื่อจวิ้นจะมีความคิดแบบนี้ ดูเขารักซือฮุ่ยซินมากนะ แล้วตอนที่ซือฮุ่ยซินหนีหายไปเมื่อก่อน หล่อนก็เพิ่งมีเสี่ยวฮวาด้วย แสดงว่าน่าจะมีเยื่อใยกับเฟิงจื่อจวิ้นอยู่แน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่คลอดลูกออกมาหรอก ฉันเลยสงสัยว่าทำไมเมื่อก่อนซือฮุ่ยซินถึงได้จากไปอย่างกะทันหัน”
“อันนี้คงต้องปล่อยให้เฟิงจื่อจวิ้นตามหาความจริงเองแล้วล่ะ”
“ใช่ ถ้าเขาไม่ตามหาเอง ใครจะตามหาล่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอให้ได้เห็นลูกในงานวันเกิดจากไกลๆ นะจื่อจวิ้น
ไหหม่า(海馬)