ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 736 ไปทำงานต่างเมือง(1)
ตอนที่ 736 ไปทำงานต่างเมือง(1)
เป็นไปตามที่หลี่ปิ่งฉวนคาดคิดไว้จริง ๆ เมื่อผู้อำนวยการเถาป๋อหลุนรับรู้เรื่องนี้ เขาก็โบกมือแล้วพูดขึ้นว่า “ทุกคนที่เคยผ่าตัดร่วมกับหมอฉินจงเดินทางไปกวางตุ้งกันให้หมด และทำให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จอย่างดีที่สุด”
หลี่ปิ่งฉวนพยักหน้ารับด้วยความเคร่งขรึม “ครับผู้อำนวยการ พวกเราจะทุ่มเทอย่างเต็มที่แน่นอน”
หลังจากพูดคุยกับผู้อำนวยการอีกสักพัก หลี่ปิ่งฉวนก็รีบไปหาฉินมู่หลาน
“หมอฉิน ผู้อำนวยการอนุมัติแล้ว ครั้งนี้พวกเราจะไปกันทั้งหมดห้าคน”
เมื่อฉินมู่หลานเห็นว่าผู้อำนวยการอนุมัติแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงพยักหน้าตอบรับ “ค่ะ ถึงเวลาเราจะออกเดินทางไปพร้อมกัน”
ทว่าเธอก็ยังคงถามความคิดเห็นของหลี่ปิ่งฉวน
“คุณคิดว่าเราควรจะไปช่วงไหนดีคะ”
“ยิ่งเร็วยิ่งดีครับ”
หลี่ปิ่งฉวนแค่ต้องการรีบไปรีบกลับและทำให้เรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างสวยงาม
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็พยักหน้า “ได้ค่ะ งั้นคุณรีบเตรียมตัวเลยค่ะ เมื่อพร้อมแล้วเราก็จะออกเดินทางกันเลย”
“ครับ”
เนื่องจากต้องไปที่กวางตุ้ง ฉินมู่หลานจึงตั้งใจจะจัดการเรื่องที่นี่ให้เรียบร้อย ดังนั้นทันทีที่เลิกงาน เธอก็ไปรับชิงชิงและเฉินเฉินทันที
เด็กทั้งสองดีใจมากเมื่อเห็นฉินมู่หลาน
“แม่ วันนี้สนุกมากเลยค่ะ”
ชิงชิงกับเฉินเฉินพยักหน้ารับพร้อมกัน
แต่ฉินมู่หลานมองไปรอบ ๆ แล้วไม่เห็นเสี่ยวฮวา
คุณครูหลิวจึงรีบเอ่ยอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “เสี่ยวฮวากลับไปกับพ่อแม่ของหล่อนแล้วค่ะ”
พอได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ นั่นแสดงว่าทางเฟิงจื่อจวิ้นน่าจะมีความคืบหน้าจนตามเสี่ยวฮวากับแม่ของหล่อนไปได้ แต่เธอก็ไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม และพาเด็ก ๆ กลับบ้านไป
กระทั่งทุกคนในบ้านมาพร้อมหน้า ฉินมู่หลานก็เล่าเรื่องที่จะเดินทางไปกวางตุ้งให้ฟัง ก่อนจะกล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “การเดินทางครั้งนี้คงจะใช้เวลาประมาณสิบวันนะคะ ฉันจะได้ไปเยี่ยมพ่อด้วย”
ซูหว่านอี๋กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ดีเหมือนกัน ลูกจะออกเดินทางเมื่อไหร่ แม่จะได้เตรียมของฝากให้เอาไปให้พ่อ”
“อีกไม่กี่วันก็ต้องออกเดินทางแล้วค่ะ”
ได้ยินดังนั้นซูหว่านอี๋ก็พยักหน้ารับ “เอาล่ะ พรุ่งนี้แม่จะคุยกับจิ้งจือเพื่อถามว่าหล่อนมีอะไรให้ลูกเอาติดไปไหม”
“ค่ะ ไว้ถ้าแม่เตรียมของเสร็จแล้วเดี๋ยวหนูไปเอานะคะ”
หลังจากพูดคุยเรื่องนี้เสร็จ ซูหว่านอี๋ก็เร่งให้ฉินมู่หลานติดต่อหาเซี่ยเจ๋อหลี่ “ไหน ๆ ลูกก็จะไปกวางตุ้งแล้ว ลูกควรจะคุยกับอาหลี่สักหน่อย แล้วก็ให้ตายายของลูกมาอยู่ที่นี่สักพัก มีผู้สูงอายุสองท่านคอยดูแลคงจะอุ่นใจกว่า”
“ได้ค่ะ หนูจะติดต่อหาอาหลี่และคุณตาคุณยายเดี๋ยวนี้เลย”
เมื่อนายท่านเหยาและคุณนายเหยาได้รับข่าว ก็เดินทางมาทันที “มู่หลาน เพราะหลานจะเดินทางไกล เราก็เลยจะมาอยู่ที่นี่สักพัก เพื่อช่วยเลี้ยงดูเด็ก ๆ “
“ขอบคุณมากค่ะ”
แม้จะมีเหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงคอยช่วยเหลือ แต่ครั้งนี้เธอต้องออกเดินทางไกล พวกหล่อนก็คงจะต้องติดตามไปด้วย ดังนั้นหากนายท่านเหยาและคุณนายเหยามาด้วยได้ก็คงจะดีที่สุด
“หลานเราขี้เกรงใจจริง ๆ “
คุณนายเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เรียกถวนถวนและหยวนหยวน “รีบมาหาทวดเร็ว”
“ตาทวด ยายทวด”
ถวนถวนและหยวนหยวนรีบวิ่งมาหาสองสามีภรรยาพร้อมเสียงหัวเราะ และเรียกสองคนด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้
นายท่านเหยาและคุณนายเหยารู้สึกเหมือนว่าหัวใจแทบละลาย
เมื่อครอบครัวนั่งลงพร้อมหน้ากันอีกครั้ง พวกเขาก็รับประทานอาหารพร้อมเสียงหัวเราะ
ส่วนฉินมู่หลานก็รีบติดต่อหาเซี่ยเจ๋อหลี่เพื่อแจ้งเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างเมือง
เมื่อไม่คาดคิดว่าเมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ได้รับข่าวก็รีบกลับมาในวันนั้นเลยและบอกให้เธอเดินทางไปทำงานอย่างหายห่วง “สบายใจได้ ที่บ้านมีพวกเราอยู่ คุณไปทำงานเถอะ อ้อ อย่าลืมพาเหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงไปด้วยนะ”
“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
ฉินมู่หลานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็หันไปถามเซี่ยเจ๋อหลี่ “ทำไมคุณถึงรีบกลับมาบ้านเร็วขนาดนี้ ที่กองทัพไม่มีอะไรให้ทำเหรอ”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าผมงานยุ่งผมคงไม่รีบกลับมาหรอก แต่ตอนนี้ไม่มีงาน ฟู่โฮ่วหลิ่นก็เพิ่งลาหยุดไป เขาคงจะพาปิงหรุ่ยกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็ยิ้มและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ปิงหรุ่ยก็พูดถึงอยู่เหมือนกัน หวังว่าครั้งนี้เธอจะโชคดี”
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อฉินมู่หลานไปทำงาน เซี่ยปิงหรุ่ยก็พูดถึงเรื่องนี้กับเธอ
“มู่หลาน ฟู่โฮ่วหลิ่นบอกว่าจะพาฉันไปที่บ้านสกุลฟู่พรุ่งนี้ เมื่อวานตอนที่ฉันรู้ ฉันก็ซื้อของที่ควรจะซื้อมาทั้งหมดแล้ว พรุ่งนี้มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่เสียมารยาท”
ได้ยินแบบนั้นฉินมู่หลานก็บอกว่า “อย่างนั้นก็ดี เมื่อวานฉันได้ยินเซี่ยเจ๋อหลี่พูดอยู่เลยว่าช่วงนี้พวกเขาไม่ค่อยยุ่ง ฟู่โฮ่วหลิ่นก็เลยลาไปด้วย นึกไม่ถึงว่าพรุ่งนี้พวกเธอก็จะไปที่บ้านตระกูลฟู่แล้ว”
พอพูดเรื่องนี้จบ ฉินมู่หลานก็พูดถึงเรื่องไปกวางตุ้งขึ้นมา
เรื่องนี้เซี่ยปิงหรุ่ยก็พอจะได้ยินมาบ้าง หล่อนหันไปหาฉินมู่หลานด้วยความตื่นเต้นแล้วพูดว่า “มู่หลานเก่งจริง ๆ เลย แม้แต่หมอที่กวางตุ้งก็ยังรู้จักเธอ ครั้งนี้ถ้าเธอผ่าตัดสำเร็จ ชื่อเสียงของเธอก็ยิ่งดังขึ้นอีกแน่”
แต่พอพูดไปพูดมา เซี่ยปิงหรุ่ยก็ถอนหายใจออกมาพลางพูดว่า “แต่ว่าเธอก็ต้องไปทำงานหลายวันเลย ฉันคงคิดถึงเธอแย่”
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก พวกเราจะกลับมาเร็วๆ นี้แหละ แล้วฉันจะซื้อของฝากจากกวางตุ้งมาให้เธอด้วย”
“ได้เลย”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่เธอก็นึกถึงจุดประสงค์ที่เฟิงจื่อจวิ้นเดินทางมาในครั้งนี้ขึ้นมาได้
“มู่หลาน เฟิงจื่อจวิ้นเดินทางมาปักกิ่งครั้งนี้ก็เพื่อมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตยาและฃร้านซิ่งหลินของพวกเราโดยเฉพาะ ถึงช่วงนี้เขาจะติดธุระส่วนตัวอยู่ แต่ถ้าเขาเสร็จธุระแล้วอยากจะไปที่โรงงานผลิตยาของเรา เธอจะให้ผู้จัดการกู้พาเขาไปชมได้ไหม”
ฉินมู่หลานครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วจึงว่า “ก็ได้นะ ถ้าเฟิงจื่อจวิ้นอยากจะไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตยา ก็ให้ผู้จัดการกู้พาเขาไปชมได้ แต่บางสถานที่เธอก็คงรู้แหละว่าไม่ควรให้ใครเห็น”
โดยเฉพาะสูตรยาลับที่ไม่ควรให้ใครเห็น
“สบายใจได้เลยมู่หลาน พวกเรารู้ แต่พูดถึงเฟิงจื่อจวิ้นแล้ว ฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตอนนี้เขากับแม่เสี่ยวฮวาเป็นยังไงบ้าง”
พอคิดถึงคำพูดของคุณครูหลิว ฉินมู่หลานก็แอบคิดว่าเขาอาจจะประสบความสำเร็จได้ในเร็ววัน
เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานก็พูดว่า “เขามีความสามารถไม่น้อยเลยนะ”
เป็นอย่างที่คิด พอตกเย็นตอนที่พวกเธอเลิกงาน ก็เห็นเฟิงจื่อจวิ้นเดินมาหาพวกเธอพอดี
“คุณหมอฉิน ปิงหรุ่ย”
พอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงจื่อจวิ้น ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็มองหน้ากัน ก่อนจะทักทายเขากลับไปด้วยรอยยิ้ม
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แสดงว่าจื่อจวิ้นปรับความเข้าใจกับเมียได้แล้วใช่ไหมเนี่ย แล้วตอนนั้นเข้าใจผิดกันเรื่องอะไรหนอ
ไหหม่า(海馬)