ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 740 มีบางอย่างผิดปกติ(1)
ตอนที่ 740 มีบางอย่างผิดปกติ(1)
คณะแพทย์ที่ไม่เคยเห็นฉินมู่หลานทำผ่าตัดมาก่อนต่างก็ตกใจกันหมด ผู้อำนวยการถังที่อยู่ด้านข้างนั้นยิ่งไม่กระพริบตาเลย เพราะกลัวว่าจะพลาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไป
และเมื่อฉินมู่หลานตัดเนื้องอกออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปเธอก็ส่งต่อหน้าที่ให้หลี่ปิ่งฉวน
ถึงแม้ว่าหลี่ปิ่งฉวนจะยังไม่สามารถผ่าตัดในลักษณะนี้ได้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็ทำหน้าที่ที่ฉินมู่หลานมอบหมายได้ดีมาก และไม่ได้ทำให้การฝึกฝนที่เขาได้พยายามมานั้นสูญเปล่า
หลิวซิ่นและคนอื่น ๆ มองหลี่ปิ่งฉวนด้วยความอิจฉา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะได้ลงมือบ้าง
แต่ความคิดนี้ก็ผ่านไปเพียงชั่วครู่ จากนั้นพวกเขาก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
เมื่อสิ้นสุดการผ่าตัด ฉินมู่หลานก็อดพยักหน้าไม่ได้ เพราะว่าคุณหมอหลี่เริ่มคุ้นชินกับการผ่าตัดลักษณะนี้แล้ว จากนั้นเธอก็มองไปที่ผู้อำนวยการถังแล้วกล่าวว่า “ผู้อำนวยการถัง การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี รอให้ผ่านช่วงเฝ้าเกตการณ์ไปก่อน ก็ย้ายคนไข้กลับห้องพักได้ค่ะ”
“ครับ ผมจะจัดการเรื่องที่เหลือให้เรียบร้อย”
ผู้อำนวยการถังเรียกคณะแพทย์มามาทันทีเพื่อให้ช่วยจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และจากนั้นเขากับแพทย์อีกคนหนึ่งที่แซ่ชวีก็พาฉินมู่หลานและคณะออกจากห้องผ่าตัด
เมื่อเหวยซิ่วลี่เห็นว่าประตูห้องผ่าตัดเปิดออก หล่อนก็รีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับมองฉินมู่หลานด้วยความกังวลก่อนจะเอ่ยถามว่า “คุณหมอฉิน การผ่าตัดของสามีฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”
“ไม่ต้องห่วง การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดีค่ะ แต่เขาต้องพักสังเกตอาการอยู่ในห้องผ่าตัดสักพัก เมื่อไม่มีปัญหาอะไรแล้วถึงย้ายกลับห้องพักได้”
“จริง…จริงเหรอคะ?”
เหวยซิ่วลี่ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก หล่อนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพูดว่า “ค่ะ เรื่องแบบนี้เราไม่โกหกคุณหรอก”
เหวยซิ่วลี่พยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดว่า “เพราะได้คุณหมอฉินลงมือก็เลยไม่มีปัญหา ยังไงแล้วฉันจะรอเขาที่นี่นะคะ”
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะคะ”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานกำลังจะจากไป ผู้อำนวยการถังก็รีบเรียกเธอเอาไว้ “หมอฉิน พวกคุณผ่าตัดมานาน คงหิวกันแย่แล้ว เดี๋ยวผมจะพาพวกคุณไปกินข้าว”
ตอนนี้เลยเวลากินข้าวไปแล้ว โรงอาหารคงไม่มีอะไรให้กินแล้ว
ฉินมู่หลาน หลี่ปิ่งฉวน รวมไปถึงคนอื่น ๆ ก็ไม่เกรงใจและตอบตกลงทันที “ดีเหมือนกัน พวกเราไปกินข้าวกัน”
“งั้นพวกเราไปเจอกันที่หน้าโรงพยาบาล”
ฉินมู่หลานและหลี่ปิ่งฉวนกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องพักก่อนจะไปรวมตัวกับคนอื่นที่หน้าโรงพยาบาล โดยที่ผู้อำนวยการถังและหมอชวีรออยู่แล้ว
“ผู้อำนวยการถัง พวกคุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ รอนานหรือเปล่า”
เมื่อได้ยินฉินมู่หลานถาม ผู้อำนวยการถังก็รีบส่ายศีรษะปฏิเสธว่า “ไม่เลยครับ พวกเราก็เพิ่งมา”
พูดจบก็เชิญฉินมู่หลานและคณะให้เดินตามเข้าไป “ข้างโรงพยาบาลมีร้านอาหารอร่อย เดี๋ยวเราไปกินกันที่นั่นนะครับ”
หลังจากฉินมู่หลานและคณะกินข้าวเสร็จก็ตรงไปเยี่ยมเหยียนอีผิงที่เพิ่งกลับมาที่ห้องผู้ป่วย
เมื่อเหวยซิ่วลี่เห็นฉินมู่หลานเดินเข้ามา หล่อนก็รีบลุกขึ้นขอบคุณ “หมอฉิน ขอบคุณมากจริง ๆนะคะ”
หล่อนได้ยินมาจากหมอที่โรงพยาบาลว่าฉินมู่หลานเป็นหมอที่มีฝีมือดีมาก ๆ คราวนี้สามีของหล่อนคงหายจากอาการป่วยได้แน่ ๆ
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น ก็กล่าวว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”
เหวยซิ่วลี่รีบพยักหน้าอย่างไม่ลังเลว่า “ได้ค่ะหมอฉิน ฉันจะดูแลอีผิงอย่างดีที่สุด”
แต่หล่อนก็กลัวว่าสามีของเธอจะมีอะไรแทรกซ้อนขึ้นมากอีก จึงรีบถามว่า “หมอฉิน ช่วงนี้คุณจะอยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่าคะ?”
ฉินมู่หลานมาที่นี่เพราะได้รับคำเชิญ ทำให้หล่อนกลัวว่าหลังผ่าตัดเสร็จแล้วหมอฉินก็จะจากไป
“ไม่ต้องห่วง พวกเราจะอยู่ที่นี่อีกสักระยะค่ะ”
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ เหวยซิ่วลี่ก็วางใจ
“ดีเลยค่ะหมอฉิน หลังจากนี้ถ้าฉันมีคำถาม ฉันขอคำปรึกษาจากคุณหมอได้ไหมคะ?”
“ได้แน่นอนค่ะ”
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ฉินมู่หลานและคณะก็ขอตัวลา
ผู้อำนวยการถังนึกขึ้นได้ว่าฉินมู่หลานจะพักอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นในใจ ถึงไม่รู้ว่าฉินมู่หลานจะตกลงหรือไม่ แต่เขาก็ยังต้องลองดู จึงได้หาโอกาสพูดคุยถึงเรื่องการบรรยายกับฉินมู่หลาน
“หมอฉิน อาจจะดูเหมือนผมจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ผมอยากจะถามคุณว่า ในช่วงที่คุณยังอยู่ที่นี่ คุณพอจะมีเวลาช่วยบรรยายให้แพทย์ในโรงพยาบาลของเราสักเล็กน้อยได้ไหม วันนั้นพวกเราเฝ้าดูการผ่าตัดอย่างจริงจัง แต่กลับมีบางจุดที่ไม่เข้าใจ จึงอยากให้คุณช่วยอธิบายให้กระจ่าง”
ฉินมู่หลานพยักหน้าตอบตกลงทันที “ได้ค่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานตอบตกลงอย่างอย่างรวดเร็ว ผู้อำนวยการถังก็รู้สึกดีใจจนออกนอกหน้า “เยี่ยมเลย ผมจะรีบแจ้งให้แพทย์ในโรงพยาบาลทราบ แล้วจะติดต่อคุณไปอีกครั้งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย”
“ค่ะ”
ผู้อำนวยการถังก็รีบจัดการเรื่องทุกอย่างอย่างรวดเร็วเพื่อสำรวจความต้องการของแพทย์ที่ประสงค์จะเข้าฟังการบรรยาย จากนั้นก็จัดตารางเวลาและสถานที่เรียบร้อย ก่อนจะแจ้งให้ฉินมู่หลานทราบ
ในช่วงสองสามวันต่อมา ฉินมู่หลานก็ได้บรรยายให้กับแพทย์ในโรงพยาบาลเสาซื่อพร้อม ๆ กับติดตามอาการของเหยียนอี้ผิง
หลี่ปิ่งฉวนและหลิวซิ่นเองก็เข้าร่วมฟังการบรรยาย แล้วบางครั้งก็ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับแพทย์ที่นี่
เมื่ออาการของเหยียนอีผิงเริ่มทรงตัว ฉินมู่หลานก็ตัดสินใจที่จะเดินทางกลับ
ผู้อำนวยการถังทราบว่าฉินมู่หลานและคณะจะเดินทางกลับ ก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แพทย์ในโรงพยาบาลได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มากมาย คงจะดีไม่น้อยถ้าฉินมู่หลานตัดสินใจอยู่ต่อ แต่ตอนนี้เหยียนอีผิงก็ฟื้นตัวเป็นอย่างดีแล้ว เขาจึงไม่มีเหตุใดที่จะรั้งเธอไว้ “หมอฉิน งั้นคืนนี้เราไปกินข้าวด้วยกันนะครับ ถือเป็นการเลี้ยงส่งพวกคุณ”
ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปฏิเสธ และเมื่อถึงตอนเย็น ฉินมู่หลาน หลี่ปิ่งฉวนและหลิวซิ่นก็ออกไปรับประทานอาหารกับผู้อำนวยการถัง
อาหารมื้อค่ำมื้อนี้อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก แพทย์ที่ติดตามผู้อำนวยการถังมาต่างก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และได้เอ่ยขอบคุณฉินมู่หลาน ก่อนจะพากันยกแก้วชนให้ แต่พวกเขากลับเลือกดื่มกันเอง และให้ฉินมู่หลานจิบน้ำอัดลมแทน
กว่าที่มื้ออาหารค่ำจะเสร็จสิ้นก็เป็นเวลาสองทุ่ม จากนั้นฉินมู่หลานและคณะก็ได้กลับไปที่ห้องพัก
“คุณหมอฉิน พรุ่งนี้คุณจะไม่กลับไปกับเราจริง ๆ เหรอครับ?”
เมื่อหลี่ปิ่งฉวนนึกถึงฉินมู่หลานที่จะต้องเดินทางไปคนเดียวก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “คุณไปเซินเจิ้นคนเดียว ต้องนั่งรถเป็นครึ่งวัน จะไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ?”
เมื่อเห็นพวกหลี่ปิ่งฉวนเป็นห่วง ฉินมู่หลานก็รีบพูดว่า “วางใจเถอะค่ะ ไม่มีปัญหาหรอก คุณพ่อของฉันอยู่ที่เซินเจิ้น ฉันมาที่กวางตุ้ง ก็เลยถือโอกาสไปเยี่ยมท่าน”
ถึงเธอจะพูดแบบนี้ แต่พวกเขาก็ยังเป็นห่วงกันอยู่
เมื่อเห็นพวกเขามีท่าทีเป็นห่วง ฉินมู่หลานก็บอกว่า “พวกคุณลืมไปหรือเปล่าว่าฉันมีคนไปด้วย?”
เมื่อได้ยินคำนี้ หลี่ปิ่งฉวนและหลิวซิ่นก็ถึงกับอึ้งไป แล้วก็คิดถึงเหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิง พวกเขารีบมองไปด้านหลังฉินมู่หลาน แต่ก็ไม่เห็นใคร “พวกหล่อนยังอยู่เหรอครับ?”
“อยู่ค่ะ พรุ่งนี้พวกหล่อนจะไปเซินเจิ้นพร้อมกับฉัน พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“อ่อ…ครับ”
พวกเขาเจอกับเหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงแค่วันแรกที่มาถึงที่นี่ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นกันอีกเลย เพราะงั้นตอนนี้พวกเขาถึงได้ลืมไปแล้วว่าตอนที่ฉินมู่หลานมาที่นี่ก็มีพวกหล่อนสองคนมาด้วย
ที่แท้ก็…
พวกหล่อนทั้งสองคนคอยติดตามคุณหมอฉินอยู่ตลอด สงสัยจะคอยคุ้มกันเธอตลอดเวลา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ตารางงานมู่หลานยุ่งจริงๆ ผ่าตัด+บรรยายที่นี่เสร็จก็ไปดูงานที่เซินเจิ้นต่อ
ไหหม่า(海馬)
……….