ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 757 ทราบกระจ่าง(1)
ตอนที่ 757 ทราบกระจ่าง(1)
เยวี่ยจงจีมองฉินมู่หลานด้วยความสงสัยและถามว่า “ทำไมคุณถึงได้สอบถามเรื่องของจงเฉียนจิ้นขึ้นมาอย่างกะทันหันแบบนี้ล่ะ?”
เนื่องจากต้องให้เยวี่ยจงจีช่วยเหลือ ฉินมู่หลานจึงไม่ปิดบังและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง สุดท้ายถามว่า “คุณช่วยพูดให้จงเฉียนจิ้นให้ความร่วมมือได้ไหม?”
เยวี่ยจงจีไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อฉินมู่หลานต้องการความช่วยเหลือ เขาก็พยักหน้าตกลง
“แน่นอนว่าได้ ตระกูลจงในฮ่องกงเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ เท่านั้น ที่ผมรู้จักจงเฉียนจิ้นก็เพราะบังเอิญได้พบกันครั้งหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะรู้จักเขาหรือเปล่า ถ้าผมจะพูดให้เขาทำอะไร เขาน่าจะยอมรับนะ”
พูดแบบนั้น ฉินมู่หลานก็รู้ว่าครั้งนี้เป็นหนี้บุญคุณเยวี่ยจงจี
“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกว่าอยากเปิดร้านขายยาใช่ไหม โรงงานยาซิ่งหลินของพวกเราจัดหายาให้คุณได้นะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เยวี่ยจงจีจึงหัวเราะพลางพูดว่า “เรื่องนี้ผมแค่พูดไปอย่างนั้นเอง คุณไม่ต้องทำแบบนี้หรอก”
ฉินมู่หลานหัวเราะตามไปด้วย “การที่โรงงานยาซิงหลินมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นก็นับเป็นเรื่องดี แต่เราต้องพูดให้ชัดเจนก่อนว่าเราจัดหายาบางชนิดให้ได้ แต่บางชนิดก็จัดให้ไม่ได้ ถ้าถึงเวลานั้นคุณก็อย่ามาเรียกร้องให้เราต้องจัดหายาอะไรให้ก็แล้วกัน”
เยวี่ยจงจีฟังแล้วก็เข้าใจความหมายของฉินมู่หลานทันที หล่อนกลัวว่ายาสำคัญบางอย่างจะถูกเผยแพร่ไปยังฮ่องกง จึงไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่พยักหน้าพูดว่า “ได้”
เมื่อเห็นเยวี่ยจงจีตกลง ฉินมู่หลานจึงยื่นมือออกไปทันที
“ขอให้ร่วมมือกันอย่างราบรื่น”
เยวี่ยจงจีจับมือฉินมู่หลานไว้แน่น พูดตามว่า “ขอให้ร่วมมือกันอย่างราบรื่น”
มองหญิงสาวที่สดใสและเปิดเผยตรงหน้า เยวี่ยจงจียิ่งชื่นชมเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ทำไมเขาถึงไม่ได้พบฉินมู่หลานเร็วกว่านี้นะ
ส่วนฉินมู่หลานไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย หลังจากตกลงกับเยวี่ยจงจีแล้ว เธอก็ปล่อยมือทันที พูดว่า “ทางฉันจะออกสัญญาอย่างละเอียด เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็ลองดูให้ดีๆ นะ ถ้าตกลงแล้ว หลังจากฉันกลับเมืองหลวง ฉันจะไปหาผู้อำนวยการหลิวอีกที เมื่อถึงตอนนั้นก็จะจัดหายาให้พวกคุณได้แล้ว”
“ตกลง”
เยวี่ยจงจีค่อยๆ ดึงมือกลับ มองที่ฝ่ามืออีกครั้ง ตรงนั้นราวกับยังคงเหลือความอบอุ่นจากการจับมือเมื่อครู่
“คุณเยวี่ย ครั้งนี้ขอบคุณคุณมาก พอคุณคุยกับจงเฉียนจิ้นเสร็จแล้ว ช่วยแจ้งฉันอีกทีนะ ในตอนนั้นฉันจะพาพี่ชายใหญ่ไปยังจุดนัดพบ”
ได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานแล้ว เยวี่ยจงจีจึงยิ้มตอบกลับไปว่า “ได้ ไม่มีปัญหา”
“งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
“อืม”
หลังจากที่ฉินมู่หลานจากไปแล้ว เยวี่ยจงจีจึงลุกขึ้นยืนแล้วจากไป ซึ่งเขาก็ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ตอนบ่ายก็มาแจ้งฉินมู่หลานแล้ว
“จงเฉียนจิ้นเพิ่งมาถึงเซินเจิ้นเมื่อเช้านี้ พอเขาฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว เขาก็โมโหสุดขีด ผู้หญิงคนนั้นกล้าดียังไงทั้งๆ ที่คบหากับเขาอย่างหวานชื่น แต่ยังไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีก เขาจึงยินดีให้ความร่วมมือ คืนนี้เขาจะพาผู้หญิงคนนั้นไปที่ตงหูเจียหยวน พวกคุณไปที่นั่นเลยก็ได้”
ตงหูเจียหยวนก็คือบ้านหลังนั้นที่เจียงเพ่ยหลิงจดชื่อไว้ ฉินมู่หลานจึงรู้จักสถานที่แห่งนั้น เธอพยักหน้าตอบทันทีว่า “ได้ค่ะ พวกเราจะตรงไปที่นั่นเลย”
หลังแยกจากเยวี่ยจงจีแล้ว ฉินมู่หลานก็ไปหาเหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนทันที
“แม่ พี่สะใภ้ ทางเยวี่ยจงจีก็คุยกับคนนั้นเรียบร้อยแล้ว คืนนี้ที่ตงหูเจียหยวน เจียงเพ่ยหลิงกับเสี่ยเลี้ยงของหล่อนจะอยู่ที่นั่น เราไปตามพี่ชายมาให้เขาดูให้ชัดๆ เลยว่าเจียงเพ่ยหลิงเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนรู้ว่าช่วงนี้ฉินมู่หลานพยายามช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่ แต่สองวันที่ผ่านมาหล่อนรู้สึกหมดกำลังใจ รู้สึกทันใดนั้นว่าการตัดสินใจก่อนหน้านี้ของหล่อนอาจจะผิดไป
“มู่หลาน เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่คิดเลยว่าตัวเองผิด เขาคิดว่าเขากับเจียงเพ่ยหลิงไม่ได้มีอะไรกัน พวกเขาก็เลยไม่มีความสัมพันธ์อะไร ดังนั้นต่อให้ให้เขาพบว่าเจียงเพ่ยหลิงมีชายอื่นแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถึงไม่มีเจียงเพ่ยหลิง ต่อไปก็จะมีหลี่เพ่ยหลิง หวังเพ่ยหลิงอยู่ดี ฉันขอเลือกจับงานธุรกิจดีกว่า”
ฉินมู่หลานเห็นด้วยกับคำพูดนี้มาก เธอคิดว่าหลี่เสวี่ยเยี่ยนทำถูกแล้ว
แต่เหยาจิ้งจือก็ยังอยากเห็นลูกชายคนโตมีความสุข หล่อนจึงรีบพูดขึ้นมาว่า “เสวี่ยเยี่ยน ยังไงพวกเราก็ต้องทำให้เจ๋อเหว่ยเห็นธาตุแท้ของยัยเจียงเพ่ยหลิงคนนั้นอยู่ดี เราจะปล่อยให้เจ๋อเหว่ยถูกหลอกไปตลอดไม่ได้นะ”
ได้ยินคำพูดของแม่สามี หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เพียงพยักหน้าและพูดว่า “ได้ค่ะ พวกเราจะพาเซี่ยเจ๋อเหว่ยไปด้วยกันคืนนี้ แต่…หากเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเราพูด และไม่ไปกับพวกเราล่ะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะพูดให้เจ๋อเหว่ยเชื่อเอง”
เหยาจิ้งจือรับปากเป็นมั่นเหมาะ
ฉินมู่หลานและหลี่เสวี่ยเยี่ยนไม่มีความเห็นอะไร พวกเธอยังคงดูข้อมูลเกี่ยวกับตลาดวัสดุก่อสร้างด้วยกันต่อไป
ส่วนเหยาจิ้งจือไปหาเซี่ยเจ๋อเหว่ย
“เจ๋อเหว่ย คืนนี้แกตามแม่ไปที่หนึ่งนะ”
ได้ยินคำพูดของแม่แล้ว เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็นึกสงสัย “ที่ไหนหรือครับ”
“ไปถึงแล้วก็รู้เอง อย่าถามมากนัก”
เห็นแม่ไม่อยากพูดมาก เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ไม่อยากไป แต่เหยาจิ้งจือจ้องมองเขาและพูดว่า “อย่างนั้นหรือ ตอนนี้แกไม่ฟังคำพูดแม่แล้วสินะ แกไม่อยากมีพ่อแม่แล้วใช่ไหม งั้นต่อไปนี้ก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าแม่อีกแล้ว”
เห็นแม่มีท่าทางโกรธมาก เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็รีบพยักหน้าและพูดว่า “ครับๆ ผมเข้าใจแล้ว”
เห็นลูกชายคนโตตกลงแล้ว เหยาจิ้งจือก็โล่งใจในที่สุด
ทุกคนกินมื้อเย็นด้วยกัน หลังจากกินเสร็จ เหยาจิ้งจือก็มองฉินมู่หลาน และพูดว่า “มู่หลาน พวกเราไปกันได้แล้ว”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วมองเหยาจิ้งจือ และพูดว่า “แม่ครับ ไม่ใช่แค่เราสองคนหรอกหรือ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ พวกเราไปด้วยกันนี่แหละ”
อย่างไรก็ตาม หลี่เสวี่ยเยี่ยนกลับลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ฉันขอไม่ไปด้วยนะคะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสะใภ้คนโต เหยาจิ้งจือก็ขมวดคิ้วกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉินมู่หลานก็เอ่ยปากขึ้นมาก่อน “งั้นพี่สะใภ้ก็อยู่พักผ่อนที่นี่แล้วกัน พวกเราไปกันเถอะ”
เมื่อเห็นลูกสะใภ้คนเล็กพูดแบบนั้น เหยาจิ้งจือก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่อยากไปกับฉินมู่หลานเลย เหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้เป็นเพราะน้องสะใภ้คนนี้ไปพูดจาส่งเดชจนทำให้สถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีท่าทีที่ซับซ้อนมากต่อฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานไม่ใส่ใจท่าทางของเซี่ยเจ๋อเหว่ย เธอมองเหยาจิ้งจือแล้วพูดว่า “แม่คะ พวกเราไปกันเถอะ”
เมื่อทั้งสามมาถึงตงหูเจียหยวน ก็พบว่าเยวี่ยจงจีมาถึงก่อนแล้ว
ฉินมู่หลานเห็นเยวี่ยจงจี ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณมาด้วยเหรอ?”
เยวี่ยจงจีได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมกลัวพวกคุณหาไม่เจอ เลยมาด้วย เดี๋ยวผมพาไปนะ”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเยวี่ยจงจีที่นี่ด้วย เขาเริ่มสงสัยเรื่องคืนนี้ขึ้นมา “เรามาทำอะไรที่นี่กันแน่”
เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นย่านที่อยู่อาศัย หรือพวกเขาจะมารอพบใครบางคน?
ทุกคนต่างไม่ตอบคำถามของเซี่ยเจ๋อเหว่ย แต่เดินเข้าไปข้างใน
เมื่อเห็นทุกคนเมินเฉย เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็มีสีหน้าไม่ค่อยดี ตั้งแต่ครอบครัวย้ายไปเมืองหลวง เขาไม่ได้รับการดูถูกแบบนี้มานานแล้ว
เหยาจิ้งจือเห็นลูกชายคนโตไม่ตามมา ก็หันกลับไปจ้องเขาแล้วพูดว่า “ยืนเซ่ออยู่ทำไม รีบตามมาสิ”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินดังนั้นก็ได้แต่เดินตามไปเงียบๆ คนข้างหน้าทั้งหมดไม่มีใครที่เขาจะโต้แย้งได้ แม่ของเขาไม่ต้องพูดถึง กระทั่งฉินมู่หลานน้องสะใภ้ที่เขารู้สึกซับซ้อน เขาก็ไม่กล้าไปขัดใจ เพราะน้องสะใภ้คนนี้เก่งมาก ส่วนเยวี่ยจงจีก็เป็นคุณชายใหญ่จากฮ่องกง เขายิ่งไม่กล้าหาเรื่องแล้วใหญ่
ทุกคนค่อยๆ เดินเข้าไป เมื่อมาถึงตึกหนึ่ง เยวี่ยจงจีก็หยิบกุญแจออกมา หันไปมองทุกคนแล้วพูดว่า “ชู่ว…อย่าส่งเสียงนะ”
ฉินมู่หลานและเหยาจิ้งจือไม่ได้พูดอะไร กระทั่งเซี่ยเจ๋อเหว่ยที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็เงียบลง อยากจะดูว่าเหตุการณ์คืนนี้จะเป็นอย่างไรกันแน่
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ปฏิบัติการกระชากหน้ากากนางจิ้งจอกแซ่เจียงเริ่มขึ้นแล้ว ทีนี้ขอให้พี่ใหญ่ตาสว่างเสียที
ไหหม่า(海馬)