ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 760 พิจารณาอย่างถี่ถ้วน (2)
ตอนที่ 760 พิจารณาอย่างถี่ถ้วน (2)
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็ยิ้มเย็นชา แล้วพูดว่า “ตอนนี้เซี่ยเจ๋อเหว่ยเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ เขาตัดสินใจอะไรไม่ได้หรอก”
เจียงเพ่ยหลิงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว พร้อมกับด่าสาดเสียเทเสียเหยาจิ้งจืออยู่ในใจ เซี่ยเจ๋อเหว่ยเป็นลูกแท้ๆ ของหล่อน แต่สุดท้ายหล่อนกลับไปอยู่ข้างลูกสะใภ้ มีแม่แบบไหนกันที่ทำแบบนี้ “ฉันไม่สน ถ้าเซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่ไล่ฉันออก ฉันก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ฮึ่ม…งั้นก็อย่าโทษฉันที่ไม่สุภาพแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้คนโยนตัวคุณกับข้าวของคุณออกไปเลย”
“คุณ…”
เมื่อเห็นหลี่เสวี่ยเยี่ยนทำหน้าจริงจัง เจียงเพ่ยหลิงก็รู้ว่าหล่อนทำได้จริงๆ “ทำไมคุณไม่หย่ากับเซี่ยเจ๋อเหว่ยล่ะ ผู้ชายของคุณคบชู้กับฉันแล้ว คุณยังทนได้อีกเหรอ”
“เฮอะ…ดูเหมือนคุณจะอยากให้ฉันกับเซี่ยเจ๋อเหว่ยหย่ากันมากเลยนะ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว ฉันจะไม่หย่ากับเซี่ยเจ๋อเหว่ยหรอก”
ตอนนั้นหล่อนโกรธมากจริงๆ และคิดจะหย่าขาดกับเซี่ยเจ๋อเหว่ย แต่พอคิดอีกทีก็พบว่าหล่อนจะต้องหลีกทางให้คนอื่นทำไม ในเมื่อตอนนี้คนในบ้านต่างก็อยู่ข้างหล่อน ดังนั้นหล่อนควรจะคว้าทุกอย่างที่คว้าได้มาให้อยู่ในมือ และก้าวแรกของหล่อนก็เริ่มต้นจากตลาดค้าวัสดุก่อสร้าง
พอเจียงเพ่ยหลิงได้ยินหลี่เสวี่ยเยี่ยนพูดแบบนี้ ในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองประมาทไปแล้ว
ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่แม่บ้านที่ไม่รู้ประสา หล่อนรู้ชัดเจนว่าตัวเองต้องการอะไร ดังนั้นถึงได้ยึดเซี่ยเจ๋อเหว่ยไว้ไม่ปล่อย “ที่แท้คุณก็ไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เห็นภายนอกเหมือนกันนี่ คุณจ้องจับฐานะของเซี่ยเจ๋อเหว่ยแบบนี้ น้องสะใภ้ของคุณรู้ความคิดของคุณหรือเปล่า คุณไม่กลัวพวกเขารังเกียจคุณหรือไง ครั้งนี้คุณไม่ได้ออกหน้าเลย แต่ให้แม่สามีกับน้องสะใภ้ออกหน้าแทน คุณนี่มันเสือนอนกินชัดๆ”
“ก็เพราะแม่สามีกับน้องสะใภ้เป็นห่วงฉันไง”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนรู้ดีถึงน้ำใจของฉินมู่หลานและเหยาจิ้งจือ หล่อนรู้สึกขอบคุณพวกหล่อนอย่างลึกซึ้งอยู่ในใจ และไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเจียงเพ่ยหลิงอีกต่อไป จึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “คุณไปได้แล้ว อย่าทำให้พวกเราเสียหน้ากันทั้งคู่เลย”
“คุณ…”
เจียงเพ่ยหลิงชักสีหน้าไม่พอใจสุดขีด แต่หลี่เสวี่ยเยี่ยนตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายอยู่ต่อแน่นอน เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่ยอมไป หล่อนจึงเรียกคนมาไล่เจียงเพ่ยหลิงออกไป
“พวกคุณกำลังทำอะไรน่ะ?”
ตอนที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยเดินมาถึง เจียงเพ่ยหลิงก็ถูกโยนตัวออกไปพร้อมกับข้าวของของหล่อนพอดี
เจียงเพ่ยหลิงเห็นเซี่ยเจ๋อเหว่ยแล้วก็รีบโผคว้าแขนเขาและพูดขึ้นทันที “เจ๋อเหว่ย พวกเขารังแกฉัน”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยเห็นเจียงเพ่ยหลิงแล้วก็นึกถึงการปฏิบัติและบทสนทนาระหว่างหล่อนกับจงเฉียนจิ้นเมื่อคืนนี้ขึ้นมา สีหน้าของเขาจึงเย็นชาลง สะบัดมือของหล่อนออกทันที “มีแต่คุณนั่นแหละที่รังแกคนอื่น ใครจะไปรังแกคุณได้”
“ฉัน…”
เจียงเพ่ยหลิงเห็นเซี่ยเจ๋อเหว่ยมีท่าทางเย็นชาใส่ตน หล่อนก็ชะงักไปชั่วขณะ
ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยเห็นเจียงเพ่ยหลิงยังไม่ยอมไป เขาจึงหันไปมองพนักงานสองคนแล้วพูดว่า “พวกคุณยังยืนงงอยู่ทำไม รีบไล่คนออกไปเร็ว”
“โอ้ ได้ครับ”
ทั้งสองไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป เชิญเจียงเพ่ยหลิงออกไปทันที
เจียงเพ่ยหลิงยืนด่ากราดอยู่ที่หน้าประตูพักใหญ่ สุดท้ายจึงจากไปอย่างไม่เต็มใจ
เหยาจิ้งจือเห็นลูกชายคนโตเพิ่งมาถึง จึงถามขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ “เจ๋อเหว่ย แกเพิ่งมาทำงานเหรอ”
“ผมตื่นสายเลยมาช้าน่ะครับ”
เหยาจิ้งจือได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่บอกให้เขารีบไปทำงานให้ดี
“ครับแม่ ผมจะไปทำงานแล้ว”
หลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นเซี่ยเจ๋อเหว่ยกลับมาแล้วก็มีสีหน้าเรียบเฉย หันไปมองฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “มู่หลาน ฉันอาจจะต้องอยู่ต่ออีกสองสามวัน ถ้าเธอยุ่งก็กลับไปก่อนเถอะ”
จากนั้นก็หันไปมองเหยาจิ้งจือ “แม่ คุณกลับไปพร้อมกับมู่หลานก็ได้นะคะ”
เหยาจิ้งจือได้ยินดังนั้นก็รีบส่ายหน้าพูดว่า “ช่วงนี้แม่ไม่ยุ่ง แม่จะกลับไปพร้อมกับเธอแล้วกัน”
ส่วนฉินมู่หลานเห็นเหยาจิ้งจืออยู่ต่อ เธอจึงตัดสินใจกลับไปก่อน “แม่ พี่สะใภ้ งั้นฉันกลับเมืองหลวงก่อนนะคะ พวกคุณค่อยอยู่ต่ออีกสักพักหนึ่งนะ”
“ได้จ้ะ”
เหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนไม่มีความเห็นอะไร ครั้งนี้พวกหล่อนทำให้ฉินมู่หลานเสียเวลาไปพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่นี่ก็แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปพวกหล่อนก็จัดการกันเองได้
ฉินมู่หลานตัดสินใจแล้วว่าจะกลับเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ แต่เธอก็ยังคงบอกให้เหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนระวังความปลอดภัยให้มาก “แม่ พี่สะใภ้ พวกคุณออกไปข้างนอกแล้วอย่าลืมพาเหยาอู่กับเหยาลิ่วไปด้วยนะคะ ถึงเจียงเพ่ยหลิงจะถูกไล่ออกไปแล้ว แต่ถ้าหล่อนไม่ยอมแพ้แล้วคิดจะทำอะไรอีก พวกคุณต้องระวังตัวให้มากๆ นะ”
“สบายใจได้มู่หลาน พวกเราจะระวังตัวแน่นอน”
เหยาจิ้งจือและหลี่เสวี่ยเยี่ยนต่างรับปากกันทั้งคู่ พวกหล่อนจะต้องระมัดระวังให้มากแน่นอน
“มู่หลาน ไหนๆ พรุ่งนี้เธอก็จะกลับไปแล้ว งั้นเย็นนี้เราไปกินอาหารดีๆ กันสักมื้อเถอะ” ช่วงนี้เหยาจิ้งจือยุ่งอยู่กับเรื่องของลูกชายคนโตและลูกสะใภ้คนโต พวกเขาจึงไม่ค่อยได้เจอกับเซี่ยเหวินปิงและฉินเจี้ยนเซ่อสักเท่าไร ถือโอกาสที่จะไปส่ง ฉินมู่หลาน พวกเขาควรได้รวมตัวกันพร้อมหน้าสักหน
พอถึงตอนเย็น ทุกคนก็ไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ กัน และสั่งอาหารเต็มโต๊ะ
“มู่หลาน กินเยอะๆ นะ”
เหยาจิ้งจือตักอาหารให้ฉินมู่หลานไม่หยุด บอกให้เธอกินเยอะๆ
ฉินเจี้ยนเซ่อพูดเสริม “ใช่แล้ว มู่หลาน กินให้เยอะๆ นะ ช่วงนี้พวกลูกไม่ค่อยได้กินข้าวดีๆ เลย ในเมื่อคืนนี้มีโอกาส ก็กินให้เยอะๆ หน่อย”
เขารู้ว่าลูกสาวยุ่งอยู่กับเรื่องของเซี่ยเจ๋อเหว่ยจนไม่ค่อยได้กินอาหารเป็นปกติ
พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก
คืนนี้เขาก็มาด้วย ถึงอย่างไรเขาก็ต้องทำงานที่ตลาดวัสดุก่อสร้างต่อ และต้องอยู่กับคนในครอบครัว เขาจึงไม่อาจตัดขาดจากครอบครัวได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ยังเป็นเพราะเขาโง่เองที่ไม่เห็นธาตุแท้ของเจียงเพ่ยหลิงคนนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากได้ยินใครพูดถึงเรื่องพวกนี้อยู่ดี
เซี่ยเหวินปิงก็รู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมด เขามองลูกชายคนโตอย่างรังเกียจ สุดท้ายก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
หลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนฉินมู่หลานเดินทางไปสนามบินแต่เช้าตรู่และเตรียมบินตรงกลับเมืองหลวง แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับเยวี่ยจงจีเข้าพอดี
“คุณจะไปไหนเหรอคะ?”
เยวี่ยจงจี ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมจะไปเมืองหลวง ”
“ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินคุณพูดถึงเลย”
ฉินมู่หลานงงไปหมด อดไม่ได้ที่จะมองเยวี่ยจงจีอีกครั้ง
เยวี่ยจงจีมองฉินมู่หลานอย่างไม่ค่อยพอใจ แล้วพูดว่า “ไม่ใช่ว่าคุณกับผมตกลงกันแล้วหรือไงว่าจะร่วมมือกัน ครั้งนี้ผมจะไปเยี่ยมชมโรงงานยาของพวกคุณที่เมืองหลวงน่ะ”
พอได้ยินแบบนั้น ฉินมู่หลานก็มองไปที่เยวี่ยจงจีอย่างสงสัย แล้วพูดว่า “รีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอคะ ฉันยังคิดว่าจะรอกลับไปก่อน แล้วค่อยร่างสัญญาดีๆ พอยืนยันแล้วค่อยแจ้งคุณอีกที”
“พอดีว่าช่วงนี้ผมว่าง ก็เลยจะกลับไปเมืองหลวงพร้อมกับคุณ ถ้าเป็นไปได้ก็จะเซ็นสัญญากับคุณที่เมืองหลวงเลย”
ฉินมู่หลานได้ยินแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ขึ้นเครื่องบินกลับเมืองหลวงพร้อมกับเยวี่ยจงจี
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ไล่ยัยเจียงออกแล้วส่งรายงานความประพฤติพนักงานให้บริษัทอื่นด้วยก็ดี จะได้ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน ทีนี้ล่ะเน่าของแท้เลยยัยเจียงเอ๋ย
ส่วนพี่ใหญ่ก็กู้เครดิตตัวเองคืนมาให้ได้นะ คนในครอบครัวมองเขม่นใส่ขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)