ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 762 เซี่ยปิงหรุ่ยหมั้น(2)
ตอนที่ 762 เซี่ยปิงหรุ่ยหมั้น(2)
หลังจากที่ฉินมู่หลานจับชีพจรอย่างละเอียดแล้ว เธอก็หยิบประวัติการรักษาของเหยียนอีผิงขึ้นมาดู สุดท้ายก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดว่า “ไม่ต้องกังวล คนไข้ไม่มีปัญหาอะไร”
“จริงเหรอคะคุณหมอ สามีของฉันไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม” เหวยซิ่วลี่ยังรู้สึกไม่ค่อยเชื่อสักเท่าใด
ฉินมู่หลานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร แถมเขายังฟื้นตัวได้ดีด้วย ต่อไปก็แค่มาตรวจตามนัดเป็นประจำก็พอ”
“แต่ว่า…สามีของฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายตลอดเลย”
ฉินมู่หลานหัวเราะพลางกล่าวว่า “เขารู้สึกไม่สบายไม่ใช่เพราะปัญหาเกี่ยวกับปอด แต่เป็นเพราะกังวลมากเกินไป”
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เหยียนอีผิงกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองมาโดยตลอด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น
“นี่…คุณหมอฉิน ร่างกายของผมไม่มีปัญหาจริง ๆ หรือครับ”
เหยียนอีผิงรู้สึกว่าฉินมู่หลานอาจจะวินิจฉัยผิดพลาด เพราะช่วงนี้เขารู้สึกไม่สบายจริง ๆ
“ไม่ต้องกังวล ไม่มีปัญหาจริง ๆ เดี๋ยวฉันจะเขียนใบสั่งยาให้คุณ คุณกินยาตามเวลาก็พอ พอคุณไม่กังวลโน่นกังวลนี่แล้ว ร่างกายของคุณก็จะไม่มีปัญหาอะไรอีก”
“ครับ ขอบคุณคุณหมอฉิน”
เหวยซิ่วลี่ก็เข้าใจแล้วว่าสามีของหล่อนคิดมากไปเอง โชคดีที่มีคุณหมอฉิน เพียงแค่ตรวจก็พบสาเหตุแล้ว
หลังจากที่ฉินมู่หลานและหลี่ปิ่งฉวนออกจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว หลี่ปิ่งฉวนก็อดพูดไม่ได้ “ไม่คิดเลยว่าจะเป็นสาเหตุนี้ ผมไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนเลย คิดว่าร่างกายของเหยียนอีผิงมีปัญหาอย่างอื่นจริง ๆ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นจึงยิ้มและกล่าวว่า “คุณหมอหลี่ไม่ถนัดการแพทย์แผนจีน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะไม่เห็น ในเมื่อฝั่งนี้ตรวจเสร็จแล้ว ฉันขอตัวไปที่ห้องตรวจโรคแผนกผู้ป่วยนอกนะคะ”
“ครับ”
ฉินมู่หลานไม่ได้ออกตรวจมาสักพักแล้ว เมื่อผู้ป่วยที่มาจองคิววันนี้เห็นว่ามีคิวของเธอ พวกเขารีบจองทันที ดังนั้นฉินมู่หลานจึงยุ่งตลอดช่วงเช้า แม้แต่เวลาดื่มน้ำก็ไม่มี
หลังจากความวุ่นวายในช่วงเช้าผ่านไป เธอก็เดินออกจากห้องตรวจ และเห็น เซี่ยปิงหรุ่ยที่เพิ่งว่างเช่นกัน
“มู่หลาน…”
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลาน จึงยิ้มและวิ่งเข้ามาหา “เธอกลับมาจากเซินเจิ้นได้สักทีนะ ฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้เจอเธอนานมากแล้ว”
“ใช่แล้ว ไม่ได้เจอกันนานจริง ๆ”
ทั้งสองเดินไปที่โรงอาหารพลางคุยกันไป แต่ตอนที่ใกล้ถึงโรงอาหารแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ย ก็บอกข่าวใหญ่ทันที “มู่หลาน ฉันกับฟู่โฮ่วหลิ่นจะหมั้นกันแล้วนะ”
“อะไร…เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น ก็มองไปที่เซี่ยปิงหรุ่ยด้วยสีหน้าประหลาดใจ ถามว่า “ตัดสินใจตอนไหน ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้ล่ะ พ่อแม่เธอรู้เรื่องนี้หรือยัง?”
“พ่อแม่ของฉันก็รู้เรื่องนี้แล้ว พรุ่งนี้พวกท่านจะมาจากซีอาน”
พูดถึงเรื่องการหมั้นของตัวเอง สายตาของเซี่ยปิงหรุ่ยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ฉันกับฟู่โฮ่วหลิ่นต่างชอบพอกัน เราจึงหมั้นหมายกันก่อน หลังจากนั้นก็จะแต่งงานกัน”
เห็นเซี่ยปิงหรุ่ยดูมีความสุขมาก ฉินมู่หลานจึงอดยิ้มไม่ได้ “นี่เธอตัดสินใจแน่นอนแล้วสินะว่าจะเลือกฟู่โฮ่วหลิ่น?”
“ใช่แล้ว ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่ดีมาก”
เห็นว่าเซี่ยปิงหรุ่ยชอบจริงๆ และตัดสินใจได้แล้วจริงๆ ฉินมู่หลานจึงไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้ ทำเพียงยิ้มแสดงความยินดี “ถ้าอย่างนั้นขอแสดงความยินดีกับการหมั้นของเธอด้วยนะ”
“ตอนนั้นอย่าลืมมาร่วมงานเลี้ยงฉลองการหมั้นของพวกเรานะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไปแน่นอน”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันก็มาถึงโรงอาหาร หลังตักอาหารเสร็จก็หาที่นั่งว่างนั่งลง
“นี่มู่หลาน ฉันมีอีกเรื่องจะบอกเธอ” เซี่ยปิงหรุ่ยนึกถึงเรื่องที่เจอเฉินเซี่ยวอวิ๋นเมื่อไม่กี่วันก่อน “เซี่ยวอวิ๋น ชุนเถา ซุนชิว แล้วก็หยวนฝูกำลังจะจบการศึกษากันแล้ว พวกเราควรหาเวลามาพบปะสังสรรค์กันดีๆสักหน่อย แล้วฉันจะได้บอกพวกหล่อนด้วยว่าฉันกำลังจะหมั้น ถ้าพวกหล่อนว่างก็ให้มาร่วมงานด้วยกัน”
“ได้ งั้นก็ตกลงตามนี้นะ”
ทั้งสองกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ไปที่ห้องทำงานของฉินมู่หลาน พักผ่อนสักพักหนึ่ง แล้วก็เริ่มตรวจคนไข้ช่วงบ่ายต่อ
“เฮ้อ…วันนี้เหนื่อยจริงๆเลย”
เซี่ยปิงหรุ่ยและฉินมู่หลานเลิกงานพร้อมกัน แต่ทั้งสองไม่ได้ตรงกลับบ้าน แต่ไปแวะร้านขายยาซิ่งหลิน
“มู่หลาน ท้องของอันเหอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เลย ฉันรู้สึกว่าหล่อนใกล้จะคลอดแล้ว”
ฉินมู่หลานคำนวณเวลาแล้วพยักหน้าพูดว่า “ท้องของอันเหออายุครรภ์ไม่น้อยจริงๆ เดือนหน้าก็ถึงกำหนดคลอดแล้ว ถ้าหล่อนเหนื่อยก็ให้กลับบ้านพักผ่อนได้เลย”
เซี่ยปิงหรุ่ยส่ายหน้าพูดว่า “พวกเราบอกหล่อนไปแล้ว แต่หล่อนไม่ฟัง ตั้งใจจะทำงานจนกระทั่งคลอดเลย มู่หลาน เดี๋ยวตอนที่คุณเจอหล่อน ช่วยแนะนำเธออีกทีนะ”
แต่พอทั้งสองมาถึงร้านขายยา คังอันเหอไม่ได้ตั้งใจจะพักผ่อน ฉินมู่หลานแนะนำไปก็ไม่ได้ผล
“มู่หลาน หญิงตั้งครรภ์หลายคนทำงานจนถึงเวลาคลอดเลยนะ ฉันได้ยินมาว่าในชนบทยังมีคนทำงานอยู่แล้วคลอดลูกในไร่นาเลย ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องกลับไปพัก”
ฉินมู่หลาน ได้ยินแล้วอดหัวเราะไม่ได้ “หรือว่าคุณอยากคลอดลูกที่ร้านขายยาด้วย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันคิดไว้แล้วว่าจะไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลปักกิ่ง ถึงตอนนั้นเธอต้องช่วยฉันนะ”
“ได้ เมื่อไหร่ที่เธอไปคลอดโรงพยาบาล ฉันจะไปเยี่ยมทุกวันแน่นอน”
คังอันเหอพูดแบบนี้แล้ว ฉินมู่หลานก็ไม่ได้แนะนำอะไรอีก การเคลื่อนไหวมากๆ ก่อนคลอดก็เป็นเรื่องดี
เซี่ยปิงชิงที่อยู่ข้างๆกลับสนใจเรื่องที่เซินเจิ้นมาก เห็นฉินมู่หลาน พูดจบแล้ว จึงรีบถามว่า “มู่หลาน ตอนนี้พี่ชายและพี่สะใภ้ของเธอเป็นยังไงบ้าง”
เห็นเซี่ยปิงชิงพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยและคังอันเหอก็มองมา ในดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฉินมู่หลานเห็นอย่างนั้นจึงหัวเราะพูดว่า “ทุกคนสนใจขนาดนี้เลยเหรอ”
แต่เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปรอบหนึ่ง
เซี่ยปิงชิงฟังจบแล้วขมวดคิ้วพูดว่า “พี่สะใภ้ของเธอไม่ได้หย่าเหรอ”
เซี่ยปิงหรุ่ยและคังอันเหอก็รู้สึกโกรธเช่นกัน พวกเขาคิดว่าครั้งนี้เซี่ยเจ๋อเหว่ย ครั้ทำผิดพลาดอย่างมาก “ใช่แล้ว หล่อนหย่ากับเซี่ยเจ๋อเหว่ยได้เลย”
“การตัดสินใจของแต่ละคนไม่เหมือนกันน่ะ”
น้าชุยพอดีเดินมาส่งผลไม้ให้พวกเธอ จึงพลอยได้ยินด้วย คิดว่าหลี่เสวี่ยเยี่ยนทำถูกต้องมาก
“ฉันคิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของหมอฉินตัดสินใจไม่ผิด ถ้าหล่อนหย่า ตลาดวัสดุก่อสร้างที่เซินเจิ้นก็คงไม่ปล่อยให้หล่อนเป็นเจ้าของหรอก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ครอบครัวสามีก็ยืนอยู่ข้างหล่อน หล่อนจึงทำอะไรได้มากขึ้น แต่ถ้าหย่าแล้ว ผู้ชายของหล่อนไปแต่งงานมีลูกใหม่ ตอนนั้นชีวิตหล่อนจะเป็นยังไงก็ยากจะพูด ดังนั้นยึดทุกอย่างไว้ในมือจะดีกว่า”
ได้ยินแบบนี้เซี่ยปิงชิงและคนอื่นๆ อึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่ได้คิดลึกซึ้งขนาดนั้น
“ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ พี่สะใภ้ใหญ่เสวี่ยเยี่ยนไม่หย่าก็ถูกต้องแล้ว”
ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เห็นว่าเวลาเย็นมากแล้ว จึงพากันกลับไป
พอถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานยังไม่ทันออกจากบ้าน เยวี่ยจงจีก็มาหาแล้ว “เพื่อนร่วมชั้นฉิน วันนี้พาผมไปดูโรงงานยาหน่อยได้ไหม”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ปิงหรุ่ยใกล้จะมีข่าวดีแล้วสินะ
ไหหม่า(海馬)