ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 768 ฤดูกาลจบการศึกษา(2)
ตอนที่ 768 ฤดูกาลจบการศึกษา(2)
ฉินมู่หลานเห็นดังนั้นก็หัวเราะและพูดว่า “แม่ ถ้าคิดถึงพ่อล่ะก็ ไปหาเขาที่เซินเจิ้นเลยสิคะ”
ซูหว่านอี๋จ้องมองลูกสาวและพูดว่า “คิดถึงอะไรกัน ฉันไม่ได้คิดถึงเขาสักนิด”
ตอนนี้เองที่หล่อนนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “จริงสิ วันนี้คุณเยวี่ยพาเพื่อนมาส่งของอย่างหนึ่ง ตอนนั้นลูกออกไปข้างนอกแล้ว พวกลูกเลยไม่ได้เจอกัน”
“ของอะไรเหรอคะ?”
ฉินมู่หลานไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเยวี่ยจงจีจะมา “วันนี้เขาไม่ต้องกลับบ้านแล้วเหรอ ทำไมยังมาส่งของอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูหว่านอี๋อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วันนี้เขาและหลี่หมิงฮุยกลับไปแล้ว ลูกนี่ก็แย่จริงๆ รู้ว่าพวกเขาจะกลับไป ทำไมไม่ไปส่งเลยล่ะ”
เยวี่ยจงจีถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ ลูกสาวมีท่าทางเย็นชาต่อพวกเขาเกินไป
“พวกเขาสองคนกลับไปด้วยกันก็ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันไปส่งหรอก”
ซูหว่านอี๋เห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ ก็ยิ้มแล้วส่ายหัว จากนั้นก็หยิบของที่เยวี่ยจงจีส่งมาให้ “ลูกลองเปิดดูสิ ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไร”
ฉินมู่หลานรับกล่องมาแล้วเปิดออกทันที แล้วก็เห็นสร้อยเพชรน้ำงามระยับอยู่ข้างใน ดูจากลักษณะก็รู้ว่ามูลค่าไม่ใช่น้อย เพชรเม็ดหลักมีขนาดใหญ่มาก ล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ ราวกับดวงดาว
เห็นของขวัญชิ้นนี้แล้ว ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “เยวี่ยจงจีส่งของขวัญราคาแพงขนาดนี้มาทำไมกัน”
“อ้อใช่ มีจดหมายฉบับหนึ่งด้วย เธอลองอ่านดูสิ”
ฉินมู่หลานรับจดหมายมาอ่าน คิ้วก็คลายลงเล็กน้อย “ไม่ได้ส่งให้ฉัน และของขวัญชิ้นนี้ก็ไม่ได้เป็นของเยวี่ยจงจี แต่เป็นของหลี่หมิงฮุยส่งให้ปิงหรุ่ย ให้ฉันรอจนกว่าปิงหรุ่ยจะแต่งงาน แล้วค่อยส่งของขวัญชิ้นนี้ให้”
ซูหว่านอี๋ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ
“เป็นของขวัญแต่งงานที่หลี่หมิงฮุยส่งให้ปิงหรุ่ยเหรอ แต่ของขวัญชิ้นนี้ก็แพงเกินไปนะ”
ฉินมู่หลานอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว รู้สึกว่าหลี่หมิงฮุยช่างหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ กลัวว่าปิงหรุ่ยจะไม่รับ เลยให้ตนเองเป็นคนส่งให้ปิงหรุ่ยงั้นเหรอ แต่เธอไม่คิดจะส่งให้เลยหรอก อย่างไรก็ต้องถามความเห็นของปิงหรุ่ยก่อน
“พรุ่งนี้ตอนที่ฉันเจอปิงหรุ่ย จะรีบบอกเรื่องนี้กับหล่อนเลยค่ะ”
วันต่อมา ตอนที่ฉินมู่หลานไปเจอเซี่ยปิงหรุ่ยที่โรงพยาบาล ก็เล่าเรื่องนี้ให้หล่อนฟัง
“ไม่ หลี่หมิงฮุยเขามีปัญหาหรือไง ถ้าจะให้ของขวัญฉัน ส่งให้ฉันตรงๆ เลยก็ได้ ทำไมต้องให้เยวี่ยจงจีส่งมาให้เธอ แล้วให้เธอส่งต่อให้ฉันอีก วกวนขนาดนี้เลย เขาคิดยังไงกันแน่”
ฉินมู่หลานหยิบกล่องผ้าไหมออกมาและพูดว่า “ฉันเอาของขวัญมาให้แล้ว เธอดูเองนะ”
เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยเห็นสร้อยเพชรหรูหราในกล่องผ้าไหม หล่อนก็ปิดฝากล่องทันที “ของขวัญชิ้นนี้ฉันรับไม่ได้ มันแพงเกินไป เดี๋ยวตอนเจอกับหลี่หมิงฮุย ฉันจะคืนให้เขา”
“งั้นฉันจะให้เธอไว้ ตอนนั้นเธอค่อยคืนให้หลี่หมิงฮุยนะ”
“ได้”
ฉินมู่หลานยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็ถามเกี่ยวกับวันแต่งงานของหล่อนกับฟู่โฮ่วหลิ่น
“พ่อแม่ฉันมาถึงเมื่อคืนแล้ว พรุ่งนี้ฟู่โฮ่วหลิ่นกับคุณปู่ของเขาจะมาพบพ่อแม่ฉันเพื่อปรึกษาเรื่องของพวกเรา”
“พอกำหนดวันได้แล้ว อย่าลืมรีบบอกนะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยยิ้มอย่างสดใส “แน่นอน พอกำหนดวันได้ ฉันจะบอกเธอเป็นคนแรก”
ทั้งสองคุยกันอีกสองสามประโยค แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน ตอนนี้ชื่อเสียงของพวกเธอทั้งสองใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ คนไข้ที่มาหาพวกเธอในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ละวันช่างยุ่งจริงๆ
หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยทำงานเสร็จแล้ว พวกเธอก็เตรียมตัวกลับบ้าน
“มู่หลาน พรุ่งนี้ฉันลางานนะ เจอกันมะรืนนี้”
“ได้”
ฉินมู่หลานยิ้มพลางพยักหน้า แล้วพูดต่อ “พ่อแม่เธอมาพักนานแค่ไหน เดี๋ยวฉันว่างเมื่อไหร่จะไปเยี่ยมท่านด้วย”
“ครั้งนี้พวกท่านน่าจะอยู่สักพัก พอเสร็จเรื่องของฉันแล้วถึงจะกลับ”
“งั้นเดี๋ยวฉันว่างเมื่อไหร่จะไปหาพวกท่าน”
เมื่อถึงวันที่สอง ขณะเซี่ยปิงหรุ่ยพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ฟู่โฮ่วหลิ่นก็พาคุณปู่ฟู่มาตั้งแต่เช้าตรู่
เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยเห็นคุณปู่ฟู่และฟู่โฮ่วหลิ่น หล่อนก็รู้สึกมึนงง เพราะคิดมาตลอดว่าพวกเขาจะมาตอนเที่ยง
แต่เมื่อเซี่ยฉางเจี๋ยและภรรยาเห็นท่าทางกระตือรือร้นของฟู่โฮ่วหลิ่นและคุณปู่ของเขา พวกเขาก็ยิ้มกว้างขึ้น รีบเชิญทั้งสองนั่ง “คุณปู่ เชิญนั่งเลยครับ”
เชิ่งลี่เคยไม่พอใจพ่อของฟู่โฮ่วหลิ่นและแม่เลี้ยงของเขา แต่ในเมื่อลูกสาวจะอยู่กับฟู่โฮ่วหลิ่นจริงๆ และท่าทีของคุณปู่ฟู่ก็ดีมาก สุดท้ายหล่อนก็ยอมรับ ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรได้ ลูกสาวคนเล็กมีลูกสองคนเข้าเรียนอนุบาลแล้ว แต่ลูกสาวคนโตยังไม่ได้แต่งงาน เรื่องนี้ทำให้หล่อนร้อนใจอยู่เหมือนกัน
“คุณปู่ วันนี้เรามากำหนดวันแต่งงานของเด็กทั้งสองกันเถอะ”
คุณปู่ฟู่ดีใจจนทันไม่ไหว รีบพยักหน้าพูดว่า “ใช่ๆ ผมก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ผมไปถามมาก่อนแล้ว วันเหล่านี้เป็นฤกษ์ดีทั้งนั้น” พูดพลางรีบหยิบกระดาษแดงออกมา มีวันที่เขียนไว้หลายวัน ล้วนเป็นวันมงคลที่คุณปู่ฟู่เลือกไว้
เชิ่งลี่ไม่คิดว่าคุณปู่ฟู่จะคิดเหมือนหล่อน
“คุณปู่ ฉันก็เลือกมาไว้แล้วสองสามวัน งั้นเรามาดูด้วยกันเถอะ”
“ดีๆ ดีมากเลย”
ทั้งสองเทียบวันที่ที่แต่ละคนเลือกมา สุดท้ายเลือกวันหลังปีใหม่ “วันที่ 11 เดือน 1 เป็นวันที่ดีที่สุดในนี้แล้ว เราเลือกวันนี้กันเถอะ”
“ใช่ๆ ผมก็มีวันที่ 11 เดือน 1 เหมือนกัน บอกว่าเป็นวันที่ดีที่สุด” คุณปู่ฟู่คิดว่าหลานชายจะแต่งงานหลังปีใหม่ก็ยิ้มจนหุบปากไม่ลง
สุดท้ายทั้งสองฝ่ายตกลงกัน กำหนดวันที่ 11 เดือน 1
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่คิดว่าพ่อแม่จะเลือกวันที่ใกล้ขนาดนี้ หมายความว่าหล่อนกับฟู่โฮ่วหลิ่นก็จะแต่งงานกันเลยน่ะสิ
คิดแล้วก็มองไปที่ฟู่โฮ่วหลิ่น
ไม่คิดว่าสายตาของฟู่โฮ่วหลิ่นก็กำลังมองมาพอดี เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นชัดเจนว่าหน้าของเขาแดงไปจนถึงใบหู
“ปิงหรุ่ย เราจะเป็นสามีภรรยากันแล้ว คุณสบายใจได้ ผมยื่นใบสมัครขอแต่งงานไปนานแล้ว อีกสองวันก็จะได้หลักฐานมา เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่รู้เลยว่าฟู่โฮ่วหลิ่นได้ยื่นใบจดทะเบียนสมรสไปแล้ว หล่อนทนไม่ไหวจึงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดเบาๆ ว่า “ถ้าเราสองคนไม่สำเร็จล่ะ คุณก็จะเป็นตัวตลกน่ะสิ”
อย่างไรก็ตามฟู่โฮ่วหลิ่นกลับพูดด้วยสีหน้ามั่นใจว่า “ไม่หรอก ภรรยาของผมต้องเป็นคุณแน่นอน ไม่ใช่คนอื่น”
ได้ยินแบบนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยจึงมองตรงไปที่ฟู่โฮ่วหลิ่น สุดท้ายก็อดหัวเราะไม่ได้ “ดีๆ ถือว่าคุณมีวิสัยทัศน์ไกล”
หลังจากทั้งสองฝ่ายกำหนดวันแล้ว ก็ต้องเริ่มเตรียมงานแต่งงาน
ฉินมู่หลานรู้วันแต่งงานแล้ว ก็รู้สึกประหลาดใจ “เร็วจัง งั้นก็ไม่เหลือเวลาอีกเท่าไหร่แล้วสิ”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้ว ดังนั้นพ่อแม่ของฉันก็เริ่มเตรียมการแล้ว”
หลังจากแจ้งฉินมู่หลานเป็นคนแรก เซี่ยปิงหรุ่ยก็บอกข่าวนี้กับ เหมาชุนเถา เฉินเซี่ยวอวิ๋น และเกาซุนชิว ส่วนสือหยวนฝูนั้นหล่อนยังลังเลอยู่ว่าจะเรียกหรือไม่ เพราะวันที่ 11 เดือน 1 นั้น หล่อนจบการศึกษาและกลับบ้านเกิดไปแล้ว
สือหยวนฝูรู้ข่าวนี้แล้ว รีบพูดว่า “ถึงจะกลับไปแล้ว ฉันก็ต้องมาร่วมงานแต่งงานของเธอนะ เธอสบายใจได้ ฉันจะรีบกลับมา”
หลังจากเซี่ยปิงหรุ่ยแจ้งข่าวนี้ไม่นาน คนทั้งหอพักก็กลับมาที่มหาวิทยาลัยแล้วเนื่องเพราะตอนนี้กำลังสอบปลายภาค โดยที่พวกเหมาชุนเถาได้สอบจบการศึกษาแล้ว ส่วนฉินมู่หลานกับเซี่ยปิงหรุ่ยยังต้องเข้าสอบปลายภาคอีก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ไวมาก แปบเดียวปิงหรุ่ยจะแต่งงานแล้ว
หมิงฮุยเอาของขวัญกลับไปเถอะ มันแพงมาก
ไหหม่า(海馬)