ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 77 ตั้งครรภ์แล้ว
ตอนที่ 77 ตั้งครรภ์แล้ว
ตอนที่ 77 ตั้งครรภ์แล้ว
เสิ่นหรูฮวนที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น จึงรีบตามมาด้วยอย่างรวดเร็ว “ฉันจะไปด้วย ฉันเป็นห่วงมู่หลาน”
เซี่ยเจ่อหลี่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร ทั้งสามจึงพากันมาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดด้วยกัน
เมื่อฉินมู่หลานตื่นขึ้นมา เธอก็เห็นเซี่ยเจ๋อหลี่นั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าเป็นกังวลใจ คนทั้งคนดูตึงเครียดไปหมด
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว จึงเอ่ยถามด้วยความกังวล “มู่หลาน คุณรู้สึกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? เดี่ยวผมตามหมอให้นะ”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นก็รีบส่ายศีรษะ ก่อนจะพูดขึ้น “ฉันไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องไปตามหมอหรอกค่ะ ครั้งนี้ที่เป็นลมอาจเพราะเหนื่อยเกินไป พักผ่อนให้พอก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่กอบกุมมือของฉินมู่หลานด้วยท่าทางตื่นเต้น ก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลาน คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังตั้งท้อง?”
“อะ…อะไรนะ…”
ได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็รู้สึกตกตะลึง กำลังคิดสงสัยว่าตนหูฝาดไปหรือไม่
ในตอนนั้นเอง เสิ่นหรูฮวนก็นำกล่องข้าวอาหารกลางวันมา เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานตื่นขึ้นมาแล้ว จึงเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ “มู่หลาน ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว ทำเอาฉันกังวลแทบตาย”
เซี่ยเจ๋อหลี่หันมองเสิ่นหรูฮวนที่เพิ่งเข้ามา ก่อนจะเอ่ยพูดทันที “ตามหมอให้หน่อยครับ”
“อ๋อ ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
ได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหรูฮวนก็กลับออกไปข้างนอกอีกครั้ง
เมื่อหมอมาถึง ฉินมู่หลานก็พบว่าอีกฝ่ายเป็นชายชรา เขาหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ หลังจากนั้นจึงนั่งลงแล้วตรวจคลำชีพจรให้กับฉินมู่หลาน ก็กล่าวขึ้น “วางใจได้ ไม่เป็นอะไรแล้วครับ แค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ”
เมื่อเอ่ยจนจบ คุณหมอก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วเอ่ยขึ้น “ผมบอกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหมว่าภรรยาของคุณเพิ่งตั้งครรภ์ได้ประมาณหนึ่งเดือน หลังจากตื่นแล้วก็ให้กินอะไรสักหน่อย จากนั้นก็พักผ่อนให้เต็มที่ คุณยังมีอะไรไม่สบายใจอีก”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยังคงกังวลมาก
“แต่คุณหมอครับ ภรรยาของผมเพิ่งเป็นลมหมดสติไปนะ”
“ผมก็บอกแล้วไงว่าช่วงนี้หล่อนเหนื่อยเกินไป แถมไม่ได้กินข้าวเช้าด้วย จะไม่ให้เป็นลมล้มพับไปได้ยังไง ตอนนี้ฟื้นแล้วก็ไปหาอะไรกินสักหน่อยเถอะ หลังจากนั้นพวกคุณก็กลับกันได้เลย หลังจากกลับบ้านแล้วให้ระวังเรื่องการพักผ่อนเป็นสำคัญ ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ไม่ควรให้ทำงานหนัก ควรระมัดระวังให้มากขึ้น”
เมื่อฟังคำแนะนำมากมายของคุณหมอ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณครับคุณหมอ ผมเข้าใจแล้วครับ”
คุณหมอเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ยังคงดูเป็นกังวล จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า แค่มองนิดเดียวก็รู้แล้วว่าเพิ่งมีลูกคนแรก ไม่อย่างนั้นคงไม่กังวลมากขนาดนี้
หลังจากหมอออกไป ฉินมู่หลานก็กลับมาได้สติอีกครั้งโนเวลพีดีเอฟ
เธอสัมผัสท้องของตัวเองอย่างแผ่วเบา รู้สึกราวกับต้องมนต์เล็กน้อย เธอมีลูกแล้ว เพียงครั้งเดียวในคืนแต่งงานคืนนั้นก็ทำให้ตั้งครรภ์ได้แล้ว
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานลูบท้องตัวเอง จึงคิดว่าเธอเองก็คงเป็นกังวลเช่นกัน เขาจำต้องปรับอารมณ์ของตัวเองให้ดีขึ้น แล้วเอ่ยให้ความสบายใจ “มู่หลาน คุณหมอบอกแล้วว่าไม่เป็นไร หลังจากกลับไปคุณก็แค่อยู่บ้านพักผ่อนก็พอ”
ได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็ทราบได้ว่าเขากำลังเข้าใจผิด เธอไม่กังวลใจเลยสักนิด เพียงแต่รู้สึกอัศจรรย์ใจ แม้จะยังไม่เห็นว่าท้องนูนป่องขึ้นมา แต่ก็รับรู้ได้ว่าท้องของตัวเองแตกต่างไปจากเดิม หรือนี่จะเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดกันนะ เธอมีลูกของตัวเองแล้ว
เสิ่นหรูฮวนรู้สึกแปลกที่นิดหน่อย หล่อนเพิ่งมาทราบตอนนี้เองว่าฉินมู่หลานแต่งงานแล้ว ส่วนผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็คือสามีของเธอ และพวกเขาก็มีลูกด้วยกัน
ลูก…
เมื่อคิดถึงสิ่งที่คุณหมอเพิ่งบอกไป เสิ่นหรูฮวนก็รีบเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว “มู่หลาน เธอต้องรีบหาอะไรกินสักหน่อยแล้วล่ะ เมื่อกี้คุณหมอเพิ่งบอกว่าเธอเป็นลมเพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า”
ฉินมู่หลานรู้สึกหิวอยู่บ้างนิดหน่อย จึงพยักหน้าแล้วตอบตกลง “ได้สิ”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานพยักหน้า เสิ่นหรูฮวนก็รีบวางกล่องอาหารลงตรงหน้าฉินมู่หลานทันที “มู่หลาน เธอรีบกินเถอะ”
ฉินมู่หลานเองก็จำกรณีของเสิ่นหรูฮวนได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “หรูฮวน แล้วเธอกินหรือยัง?”
เสิ่นหรูฮวนรีบส่ายศีรษะ ก่อนจะเอ่ย “ฉันเองก็ยังไม่ได้กิน”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็มากินด้วยกัน”
“อ…ได้สิ”
เสิ่นหรูฮวนเดินตรงไปข้างหน้าด้วยความดีใจ แล้วนั่งลงถัดจากฉินมู่หลาน
เซี่ยเจ๋อหลี่โดนผลักไปด้านข้าง แต่เมื่อเห็นฉินมู่หลานกินข้าวคำใหญ่โต เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นอีกครั้ง ทว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังนึกกลัวอยู่ หากพวกเขาไม่ได้มาในวันนี้ เขาก็ไม่อยากจะคิดถึงสิ่งที่ตามมาเลย
หลังจากที่ฉินมู่หลานกินเสร็จ เธอก็รู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้น และสงสัยมากว่าทำไมพวกเซี่ยเจ๋อหลี่กับคนอื่นถึงมาที่นี่ได้ “อาหลี่ พวกคุณมาที่นี่ได้ยังไง หรือว่านี่คือภารกิจ? เป้าหมายของภารกิจนี้คือชางไห่หรือ?”
แน่นอนว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับภารกิจได้มากมาย เขาจึงทำเพียงแค่พยักหน้านิดหน่อย ก่อนจะบอกกล่าว “ใช่ เพิ่งมาถึงที่นี่”
เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้พูดอะไรมาก ฉินมู่หลานก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อ และยังอดกังวลไม่ได้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่จะทำภารกิจยังไม่เสร็จ จึงรีบเอ่ยบอกเขาว่า “ฉันไม่เป็นไรแล้ว คุณรีบไปจัดการงานเถอะ อย่ามาเสียเวลากับฉัน”
เสิ่นหรูฮวนที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าและพูดขึ้น “ใช่ค่ะ เดี๋ยวฉันจะอยู่ดูแลมู่หลานที่นี่เอง”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยังไม่วางใจทางนั้น ถึงแม้จะจับพวกคนของชางไห่ได้ แต่กลับไม่พบวัตถุโบราณที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเลย ดังนั้นเขาจึงหยิบเงินและคูปองที่นำติดตัวมาก่อนจะส่งมอบให้ฉินมู่หลาน “มู่หลาน ผมขอโทษที่ต้องทิ้งคุณไว้ที่นี่สักพัก ผมจะไปจัดการงานให้เสร็จ แล้วจะมารับคุณ หลังจากนั้นจะไปส่งคุณที่บ้าน”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นเช่นนั้น จึงรีบเดินออกไปทันที
เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ไปแล้ว ฉินมู่หลานก็อดที่จะหันไปพูดกับเสิ่นหรูฮวนเสียไม่ได้ “หรูฮวน แล้วเธอล่ะ จะกลับบ้านเมื่อไหร่?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นหรูฮวนก็ชะงักไป ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน จนถึงตอนนี้ฉันยังคิดอยู่เลยว่าใครเป็นคนขายฉัน ถ้าไม่เจอตัวมัน บางทีฉันอาจจะโดนขายอีกรอบก็ได้”
ทั้งสองหนีออกมาได้แล้ว จึงพูดคุยสัพเพเหระได้อย่างสบายใจ ฉินมู่หลานจึงเอ่ยซักถามอย่างละเอียด “เธอบอกว่าเธอโดนจับมาตอนที่เดินอยู่บนถนน ตอนนั้นเธอกำลังจะไปไหนเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหรูฮวนก็รีบเอ่ยตอบ “เพื่อนของฉันทาบทามให้ไปดูตัว ฉันก็เลยกำลังจะไปหาหล่อน”
“แล้ววันนั้นมีใครรู้ไหมว่าเธอจะไปทำอะไร?”
เสิ่นหรูฮวนคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะพูดขึ้น “มีแค่เพื่อนของฉันที่รู้นะ ตอนที่ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก ก็บอกแค่ว่าจะออกไปเดินเล่น ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะไปที่ไหน”
“จากที่เธอบอก ฉันว่าเพื่อนของเธอคือคนที่น่าสงสัยที่สุด”
เสิ่นหรูฮวนได้ยินดังนั้น จึงรีบเอ่ยขึ้นทันที “เป็นไปไม่ได้หรอก เสี่ยวโหรวเป็นเพื่อนสนิทของฉัน หล่อน…” แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเห็นสายตาของฉินมู่หลานที่จ้องมองมาอย่างจริงจัง อยู่ ๆ เสิ่นหรูฮวนก็ไม่พูดอะไรอีก หล่อนทราบดีว่ามู่หลานเก่งกาจปานนี้ หากเธอบอกว่าเสี่ยวโหรวน่าสงสัย เช่นนั้น…มันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหรูฮวนก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาจับจิต
“เป็นเสี่ยวโหรวจริงหรือ แล้วทำไมหล่อนต้องทำแบบนั้นกัน?”
เมื่อเห็นเสิ่นหรูฮวนดูหงอยซึมเหมือนสุนัขที่กำลังบาดเจ็บ ฉินมู่หลานก็อดถอนหายใจเสียไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น “เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย รอเธอกลับถึงบ้านก่อน แล้วค่อยให้คนในครอบครัวลองตรวจสอบดูก็ได้”
เมื่อเอ่ยจบ ฉินมู่หลานก็หลับตาลงเพื่อพักผ่อน หลายวันมานี้เธอค่อนข้างคิดเยอะ ไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ถึงเวลาดูแลตัวเองให้ดีได้แล้ว
เมื่อฉินมู่หลานตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อยู่ที่นี่แล้ว เขาที่เห็นฉินมู่หลานตื่นขึ้นมาแล้วจึงรีบพูดขึ้น “มู่หลาน คุณตื่นแล้วเหรอ คืนนี้เราไปหาบ้านเช่าไว้พักแรมสักหนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางกลับบ้านดีไหม”
ฉินมู่หลานไม่ได้ค้านอะไรอยู่แล้ว จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ค่ะ”
ตอบตกลงแล้วเธอก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “แล้วงานของคุณเสร็จแล้วเหรอคะ?”
“อื้ม เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
พวกเขาเจอวัตถุโบราณพวกนั้นแล้ว พวกของชางไห่และเจ้าหน้าบากโดนจับกันหมด ส่วนพวกผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวไปก็ถูกส่งไปที่สำนักงานเขตเพื่อให้ตำรวจติดต่อกับครอบครัวของพวกหล่อนแล้ว
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ทำงานของตนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงอดไม่ได้ที่เอ่ย “ฉันโดนจับมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่รู้ว่าทางบ้านจะเป็นอย่างไรบ้าง พ่อกับแม่ของฉํนคงกังวลน่าดู”
“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่กี่วันเราก็กลับกันแล้ว”
ฉินมู่หลานคิดตามคำพูดของเขา จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วหันไปถามเสิ่นหรูฮวนอีกครั้ง
“หล่อนกับซวี่ตงกำลังคุยกันอยู่ข้างนอก อีกเดี๋ยวพวกเราจะกลับไปที่บ้านพักกัน”
แต่เมื่อฉินมู่หลานและคนอื่นๆ เพิ่งก้าวออกจากประตูโรงพยาบาลได้ไม่นาน ก็ได้พบเจี่ยงสือเหิงที่มาพร้อมกับฉินเจี้ยนเซ่อและคนอื่น ๆ
“มู่หลาน…”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่หลี่ตื่นเต้นล่ะสิที่จะได้เป็นพ่อคนครั้งแรก ตอนนี้ดูแลมู่หลานให้ดีๆ เลยนะ
มีอยู่คนเดียวแหละหรูฮวนที่จะหลอกเธอได้
ไหหม่า(海馬)