ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 770 การสืบสวนคดียาปลอม(2)
ตอนที่ 770 การสืบสวนคดียาปลอม(2)
พอถึงวันเลี้ยงฉลองงานหมั้น ครอบครัวของฉินมู่หลานทั้งหมดก็ไปที่โรงแรมปักกิ่ง แม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ ฟู่ซวี่ตง และถูเฉิงเสียงก็ลางานมา เนื่องจากเป็นงานหมั้นของฟู่โฮ่วหลิ่นที่อยู่ทีมเดียวกัน พวกเขาก็ต้องมาอยู่แล้ว
ตอนฉินมู่หลานเห็นถูเฉิงเสียง เธอก็ถามถึงสถานการณ์ของคังอันเหอ
“พี่สะใภ้สบายใจได้ อันเหอกับลูกสาวทั้งสองปลอดภัยดี หล่อนยังบอกอีกว่าหลังจากออกจากการอยู่เดือนแล้ว หล่อนจะกลับไปทำงานที่ซิ่งหลินถัง”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโบกมือ พร้อมกล่าวว่า “คุณช่วยแนะนำอันเหอให้ดีๆ ให้หล่อนพักผ่อนอีกสักพัก ไม่ต้องรีบร้อนกลับไปทำงานขนาดนั้น”
ถูเฉิงเสียงก็คิดแบบเดียวกัน เขาจึงยิ้มและพยักหน้า พร้อมกล่าวว่า “ได้ ผมจะแนะนำอันเหอให้ดีๆ เอง”
เซี่ยเจ๋อหลี่นั่งข้างฉินมู่หลานและลูกๆ ตักอาหารให้พวกเขาอย่างขะมักเขม้น
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ผิวคล้ำและผอมลงไม่น้อย เธอจึงบอกให้เขากินเยอะๆ “อาหลี่ คุณรีบกินเองเถอะ รู้สึกว่าคุณดำขึ้นและผอมลงเลย”
เรื่องนี้เธอไม่ได้คิดไปเอง หลังจากไม่ได้เจอกันสักพัก เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ผิวคล้ำและผอมลงจริงๆ
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็พูดเสริมว่า “ใช่แล้ว อาหลี่ เธอรีบกินเองเถอะ ฝั่งเด็กๆ มีพวกเราดูแลอยู่แล้ว”
พูดจบก็รีบตักอาหารให้เด็กๆ ทันที และคอยดูแลพวกเขากินข้าว
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นเช่นนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วหันมากินอาหารเอง
เจี่ยงสือเหิง เซี่ยปิงชิง และครอบครัวก็นั่งโต๊ะเดียวกันนี้
พอนึกได้ว่าต่อไปฟู่โฮ่วหลิ่นจะเป็นพี่เขยตัวเองแล้ว เจี่ยงสือเหิงก็ดื่มกับเขาหลายแก้ว
ฝั่งเซี่ยปิงหรุ่ยมีคนมาไม่น้อย แต่ทางฝั่งของฟู่โฮ่วหลิ่นมีเพียงท่านประมุขตระกูลฟู่และลุงๆ น้าๆ ของตระกูลฟู่มาอยู่ประปราย นอกจากนั้นก็มีเพียงกัวอี้เฉียนเพื่อนสนิทของฟู่โฮ่วหลิ่น และครอบครัวเท่านั้น
แม้คนที่มาจะไม่มาก แต่งานหมั้นครั้งนี้ก็ถือว่าคึกคักพอสมควร
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ฉินมู่หลานก็ยิ้มอวยพรเซี่ยปิงหรุ่ย จากนั้นก็พาคนในบ้านกลับไป
พอถึงวันรุ่งขึ้น หลี่เสวี่ยเยี่ยนและเหยาจิ้งจือก็พาคุณปู่คุณย่าตระกูลเหยาและเสี่ยวอวี่มาแต่เช้า วันนี้หลี่เสวี่ยเยี่ยนและเสี่ยวอวี่จะไปเซินเจิ้น ส่วนเหยาจิ้งจือและคุณปู่คุณย่าตระกูลเหยาก็วางแผนจะพักอยู่ที่นี่ช่วงนี้
“คุณปู่ คุณย่า แม่ พี่สะใภ้ พวกคุณมาแล้ว เชิญนั่งเลยครับ”
วันนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ก็หยุดพักผ่อน พอเห็นพวกเขามาก็รีบทักทายด้วยรอยยิ้ม
ฝั่งของซูหว่านอี๋เตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ฉินเคอวั่งก็เตรียมตัวเกือบเสร็จแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนจะออกเดินทางทันที “เสวี่ยเยี่ยน ฝั่งของเธอเตรียมพร้อมหมดแล้วใช่ไหม”
“คุณน้าซู ฉันเตรียมพร้อมหมดแล้ว พวกเราออกเดินทางกันได้เลย”
ครั้งนี้เหยาอู่กับเหยาลิ่วก็ไปกับพวกเขาด้วย ดังนั้นทั้งหกคนจึงตรงไปสนามบินด้วยกัน
หลังจากที่ซูหว่านอี๋และหลี่เสวี่ยเยี่ยนออกเดินทางไปแล้ว ที่บ้านก็ยังคงคึกคักเหมือนเดิม เหยาจิ้งจือกับคุณนายเหยาพาชิงชิง เฉินเฉิน ถวนถวน และหยวนหยวน ไปเล่นที่สวนหลังบ้าน ทำให้ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ มีเวลาคุยกันจริงๆ เสียที
“อาหลี่ พรุ่งนี้คุณจะกลับกองทัพเลยเหรอ ปีใหม่นี้ได้หยุดพักผ่อนไหม?”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ ต้องรออีกสองสามวันถึงจะรู้ว่าช่วงปีใหม่จะได้หยุดพักผ่อนหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร ถ้าคุณหยุดไม่ได้ ฉันพาเด็กๆ ไปหาคุณก็ได้ค่ะ”
ได้ยินแบบนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็จับมือฉินมู่หลาน แล้วพูดว่า “ได้ งั้นเราก็ตกลงกันแบบนี้นะ”
ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว รู้สึกเหมือนมีเรื่องคุยกันไม่รู้จบ พอคุยเรื่องนี้จบก็คุยเรื่องอื่นต่อ จนกระทั่งเวลาไม่เช้าแล้ว ถึงได้ไปดูในครัวว่าจะกินอะไรในตอนเที่ยง
เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในวันถัดมาเซี่ยเจ๋อหลี่ก็กลับไปที่กองทัพ ส่วนฉินมู่หลานก็เตรียมตัวไปทำงานที่โรงพยาบาล
แต่ก่อนที่เธอจะออกจากบ้าน ชุยเสี่ยวผิงก็มาหาเธอ
“พี่สะใภ้ เรื่องที่คุณให้ฉันสืบเมื่อครั้งก่อนมีเบาะแสแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉินมู่หลานก็ดีใจ “ในที่สุดก็มีเบาะแสแล้วสินะ ดีจังเลย”
ชุยเสี่ยวผิงพูดอย่างเขินอายว่า “พี่สะใภ้ ขอโทษนะคะที่ฉันรู้จักคนไม่มากพอ เลยสืบได้ช้าไปหน่อย”
ก่อนหน้านี้ ฉินมู่หลานได้ให้หล่อนไปสืบเรื่องยาปลอม แต่ฝากให้คนสืบมานานแล้วก็ไม่มีเบาะแสเลย จนกระทั่งเช้าวันนี้ถึงได้ข้อมูลบางอย่างมา
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็รีบพูดว่า “เสี่ยวผิง แค่เธอช่วยสืบให้ ฉันก็ขอบคุณมากแล้ว จะไปโทษเธอที่สืบช้าได้ยังไงกัน เธอเล่าให้ฉันฟังเถอะว่าสืบอะไรได้มาบ้าง”
ชุยเสี่ยวผิงก็ไม่พูดมากความ เล่าเรื่องที่สืบมาได้ให้ฟังทันที
“คนที่ขายยาปลอมเป็นลูกค้าเก่าของร้านซิ่งหลินถัง เขาจะมาซื้อยาบำรุงร่างกายที่ร้านทุกๆ สองสามวัน หลังจากซื้อไปแล้ว เขาก็จะผสมยาปลอมเข้าไปแล้วขายให้คนอื่น”
ฉินมู่หลานได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“มาซื้อยาบำรุงทุกๆ สองสามวัน นี่มันบ่อยเกินไปแล้วนะ พวกปิงชิงน่าจะสังเกตเห็นตั้งนานแล้วสิ”
ชุยเสี่ยวผิงอธิบายต่อ “นั่นเพราะเขามาเดือนละประมาณสองครั้งเท่านั้น แต่เขาจะจ่ายเงินให้คนอื่นมาซื้อยาแทนเขา ดังนั้นฉันเลยต้องสืบนานขนาดนี้ถึงจะได้ข้อมูลมา”
“อย่างนี้นี่เอง”
ฉินมู่หลานรู้สึกประหลาดใจ “แล้วคนคนนั้นชื่ออะไร อยู่ที่ไหนล่ะ” เธอตั้งใจจะไปดูด้วยตัวเอง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนอาศัยชื่อเสียงของร้านซิ่งหลินถังไปขายยาปลอม เธอไม่อาจปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้
เมื่อเห็นฉินมู่หลานถามขึ้น ชุยเสี่ยวผิงก็รีบตอบ “คนคนนั้นอยู่ที่ชานเมืองฝั่งตะวันตก ชื่อหลี่เหริน”
“ดี งั้นเราไปดูกันเดี๋ยวนี้เลย”
“อย่างไรก็ตาม ฉินมู่หลานก็ไม่ได้โง่ขนาดบุกเดี่ยวเข้าไปตรง ๆ เธอยังพาผู้ช่วยไปด้วยอีกสองสามคนก่อนจะออกเดินทาง
“ที่นี่ใช่ไหม”
ชุยเสี่ยวผิงพยักหน้าพูดว่า “ใช่ค่ะ พี่สะใภ้ ที่นี่แหละ”
“ดีมาก งั้นพวกเราเข้าไปกันเลย”
ฉินมู่หลานพาเหวินเชี่ยน ชุยเสี่ยวผิง และบอดี้การ์ดทั้งหมดเดินเข้าไปโดยตรง
“เฮ้ย…เฮ้ย…พวกคุณเป็นใครกัน รีบออกไปเดี๋ยวนี้”
หลี่เหรินเดิมทีนอนหลับสบายอยู่ แต่ถูกเสียงเคาะประตูปลุกขึ้นมา พอเห็นคนมากมายที่หน้าประตู เขาก็รีบเอ่ยไล่
ฉินมู่หลานมองหลี่เหรินที่กำลังร้องโวยวายแล้วพูดว่า “ฉันเป็นเจ้าของร้านยาซิ่งหลินถัง คุณน่าจะรู้ว่าฉันมาทำไมนะคะ”
ได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน ดวงตาของหลี่เหรินก็ฉายประกายตื่นตกใจวาบหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็ปฏิเสธเสียงดัง “ผมไม่รู้ ผมจะไปรู้ได้ไงว่าพวกคุณมาทำไม ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็รีบออกไปซะ”
“เหอะ…คิดว่าไม่มีคนรู้เหรอว่าคุณขายยาปลอม ฉันแนะนำว่าคุณพูดความจริงมาดีกว่า ไม่งั้นเราจะพาคุณไปโรงพัก”
หลี่เหรินหวาดกลัวขึ้นมาหลังได้ยินดังนี้ แต่เขายังคงพยายามคว้าเศษเสี้ยวความหวังอยู่ในใจ
“คุณบอกว่าผมขายยาปลอม ผมเนี่ยนะขายยาปลอม พวกคุณใส่ร้ายผมเสียมากกว่า”
เห็นว่าหลี่เหรินยังคงปากแข็งไม่ยอมพูดความจริง ฉินมู่หลานก็หมดความอดทนและสั่งให้คนจับกุมตัวหลี่เหรินส่งสถานีตำรวจ
ตอนแรกหลี่เหรินนึกว่าฉินมู่หลานแค่พูดไปอย่างนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะลงมือทำจริงๆ
“ปล่อยผม ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ ขอบอกไว้เลยว่าถ้าคุณยังทำอย่างนี้ ผมจะตะโกนขอความช่วยเหลือ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนี้ก็หัวเราะด้วยความโกรธ
“งั้นก็ตะโกนเรียกเลยค่ะ”
หลี่เหรินตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่แล้วก็ถูกปิดปากและนำตัวส่งสถานีตำรวจ
เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ หลี่เหรินก็ทำตัวสงบเสงี่ยมลงมาก ในที่สุดเขาก็ยอมรับสารภาพหลังผ่านการสอบสวน “ผม…ผมก็แค่ต้องการหาเงิน จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ยาปลอมหรอกครับ แค่ยาลูกกลอนแผนจีนธรรมดาเท่านั้นเอง ไม่ได้มีผลเสียต่อร่างกายเลย พวกคุณจะจับผมไม่ได้ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
เห็นว่าหลี่เหรินยังไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด ทุกคนก็ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้
“วันนี้ต้องขอบคุณสหายตำรวจมากนะคะ” ฉินมู่หลานเอ่ยขอบคุณพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
สหายตำรวจหลายนายต่างพากันสั่นศีรษะ เอ่ยตอบ “ไม่เป็นไรหรอกครับ นี่เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว”
ในที่สุดหลี่เหรินก็ถูกจับขังคุกและปรับทัศนคติ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขาไม่กล้าขายยาปลอมอีก เพราะเงินที่เขาขายยาปลอมได้ล้วนถูกใช้เป็นค่าปรับทั้งหมด เท่ากับว่าเขาไม่ได้กำไรอะไรคืนมาเลย
เดิมทีฉินมู่หลานคิดว่ากรณียาปลอมจะเป็นปัญหาใหญ่หลวง กลับไม่คิดว่าเป็นตัวเธอเองที่คิดมากเกินไป อีกฝ่ายเป็นแค่คนตัวเล็กๆ เท่านั้น แต่ถึงจะเป็นคนตัวเล็กๆ ก็ยังมีบางคนถูกหลอกไปแล้ว ฉินมู่หลานจึงหวังว่าในภายภาคหน้าผู้ซื้อทุกคนจะระมัดระวังตัวมากขึ้น และมาซื้อยาที่ร้านด้วยตัวเองแทนที่จะฝากใครบางคนซื้อแทนให้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจอตัวคนปลอมแปลงยาแล้ว ต้องจัดการทางกฎหมายให้หนัก
ไหหม่า(海馬)