ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 772 งานแต่งงานของเซี่ยปิงหรุ่ย(2)
- Home
- ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก
- ตอนที่ 772 งานแต่งงานของเซี่ยปิงหรุ่ย(2)
ตอนที่ 772 งานแต่งงานของเซี่ยปิงหรุ่ย(2)
เมื่อได้ยินลูกสาวพูดแบบนั้น ใบหน้าของเซี่ยฉางชิงก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง “จริงเหรอ”
“จริงสิคะ วันเทศกาลโคมไฟฉันจะมาฉลองที่นี่ ถึงตอนนั้นจะพาเด็กๆ มาด้วย”
เซี่ยฉางชิงไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะพูดแบบนี้ ใบหน้าของเขาจึงปรากฏความตื่นเต้นยินดี “ดีมากๆ ถึงตอนนั้นพ่อจะให้ครัวเตรียมอาหารที่พวกเธอชอบกิน”
พูดพลางมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วถามว่า “อาหลี่ แล้วเธอล่ะ ตอนนั้นจะมาด้วยกันไหม”
“ผมยังไม่แน่ใจว่าวันนั้นจะได้หยุดหรือเปล่า ถ้าหยุดด้วยล่ะก็ ผมจะมาแน่นอน”
“ดี ดีมาก”
ได้ยินคำพูดจากลูกสาวและลูกเขย เซี่ยฉางชิงก็ดีใจมาก หัวเราะพูดคุยกับพวกเขาอีกสองสามประโยคก่อนจะโบกมือลา
อีกสองสามวันต่อมา ฉินมู่หลานก็ไปเยี่ยมอีกสองสามบ้านเพื่ออวยพรปีใหม่ แต่ เซี่ยเจ๋อหลี่กลับไปทำงานที่กองทัพตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ดังนั้นจึงมีแค่เธอกับคนในบ้านที่ออกไปอวยพร
หลังจากยุ่งวุ่นวายมาได้สักพักก็มาถึงวันที่สิบเอ็ดของเดือนหนึ่งอันเป็นวันแต่งงานของเซี่ยปิงหรุ่ย
“แม่ พร้อมหรือยัง”
ชิงชิงและเฉินเฉินใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็รอให้ทุกคนออกเดินทางพร้อมกัน
“พร้อมแล้วจ้ะ พวกเราไปดูถวนถวนกับหยวนหยวนกันเถอะ”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพาชิงชิงกับเฉินเฉินไปหาถวนถวนกับหยวนหยวน พบว่าคุณนายเหยาได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทั้งสองคนแล้ว จึงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณยาย พวกเราออกเดินทางได้แล้วค่ะ”
“ได้จ้ะ”
วันนี้นายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็ไปด้วยกัน งานแต่งงานเป็นเรื่องมงคลใหญ่ พวกท่านจึงต้องไปมอบคำอวยพรให้เซี่ยปิงหรุ่ย
เมื่อทุกคนเดินมาถึงประตูใหญ่ ก็พบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่เพิ่งกลับมาพอดี
“อาหลี่ คุณมาแล้ว”
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ฉันยังคิดว่าคุณจะไปกับสหายร่วมรบของคุณที่ภัตตาคารเลยเสียอีก”
“พวกเขาไปที่ภัตตาคารกันแล้ว แต่ผมแวะมาที่บ้านก่อน ไม่คิดว่าจะมาทันตอนพวกคุณออกจากบ้านพอดี งั้นเราไปด้วยกันเลย”
“ดีเลย”
งานเลี้ยงจัดที่โรงแรมปักกิ่ง ตอนที่ฉินมู่หลานและคนอื่นๆ มาถึง เซี่ยปิงหรุ่ยกับฟู่โฮ่วหลิ่นกำลังยืนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานอยู่ที่ประตูใหญ่พอดี
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานแล้วก็วิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่นเต้น พูดว่า “มู่หลาน พวกเธอมาแล้ว เชิญข้างในเลย”
“ปิงหรุ่ย วันนี้เธอสวยมากเลย”
ได้ยินแบบนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยก็หัวเราะตอบทันที “แน่นอนสิ วันนี้ฉันเป็นเจ้าสาว ต้องสวยที่สุดอยู่แล้ว”
“ใช่ สวยที่สุดเลย”
ตอนนั้นเซี่ยปิงชิงกับเจี่ยงสือเหิงพาลูกๆ สองคนมาพอดี ได้ยินเซี่ยปิงหรุ่ยพูดแบบนั้น เซี่ยปิงชิงก็อดหัวเราะไม่ได้ “ใช่ๆๆ ปิงหรุ่ยสวยที่สุด”
ส่วนฟู่โฮ่วหลิ่นเห็นเจี่ยงสือเหิง ก็รีบเดินไปต้อนรับเข้ามาข้างใน
พอทุกคนเข้ามาแล้วก็หาที่นั่งกัน สักพักหนึ่งฉินมู่หลานจึงสังเกตเห็นหมอจากโรงพยาบาลปักกิ่งหลายคนมาร่วมงานแต่งด้วย
“อาหลี่ ฉันไปทักทายทางนั้นก่อนนะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ได้ คุณรีบไปเถอะ”
หลังจากที่ฉินมู่หลานทักทายเสร็จแล้วกลับมา เซี่ยปิงชิงก็นั่งลงข้างๆ เธอ กระซิบคุยกันเบาๆ “มู่หลาน วันนี้พ่อและแม่เลี้ยงของฟู่โฮ่วหลิ่นก็มาด้วย ฉันกลัวจริงๆ ว่าพวกเขาจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมา”
ได้ยินแบบนั้น ฉินมู่หลานก็เหลือบมองไปข้างหน้า พบว่าตรงนั้นมีพ่อและแม่เลี้ยงของฟู่โฮ่วหลิ่นนั่งอยู่
“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังมีคุณปู่ฟู่อยู่ พวกเขาสองคนคงไม่ก่อเรื่องอะไรหรอก”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ฟู่โฮ่วหลิ่นดีทุกอย่าง เสียก็แต่พ่อกับแม่เลี้ยงนั่นแหละ”
เซี่ยปิงชิงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้แล้วอดส่ายหน้าไม่ได้ จากนั้นก็กระซิบกับฉินมู่หลาน แล้วเล่าเรื่องประหลาดของบ้านตระกูลฟู่ให้ฟัง
ฉินมู่หลานฟังอย่างตั้งใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจริงจะมีเรื่องราวที่รันทดขนาดนี้ แต่ก็ดีที่ฟู่โฮ่วหลิ่นตัดสินใจได้ดี ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะวุ่นวายแค่ไหน
“ดีที่หลังปิงหรุ่ยแต่งงานกับฟู่โฮ่วหลิ่นแล้วก็ไม่ต้องอยู่บ้านตระกูลฟู่ ไม่อย่างนั้นคงสนุกแน่ๆ”
“ใช่ เป็นเพราะฟู่โฮ่วหลิ่นดูน่าเชื่อถือ ถึงได้ทำให้ที่บ้านเราวางใจให้ปิงหรุ่ยแต่งงานกับเขา ไม่อย่างนั้นแม่ฉันต้องคัดค้านยับแน่”
ทั้งสองคุยกันเบาๆ ส่วนเซี่ยเจ๋อหลี่เห็นสหายร่วมรบมากันอย่างคึกคัก อีกทั้งถูเฉิงเสียงกับภรรยาก็มาทางนี้ด้วย เขาจึงยืนขึ้นเอ่ยบางอย่างกับมู่หลาน ก่อนจะไปทักทายบรรดาสหายร่วมรบของเขา
ฉินมู่หลานเห็นคังอันเหอแล้ว เมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังมาทางนี้ เธอก็รีบไปหา
“อันเหอ เธอมาแล้วเหรอ แล้วลูกไปไหนล่ะ?”
“ลูกยังเล็กอยู่ ฉันเลยไม่ได้พามาด้วยและให้หล่อนอยู่ที่บ้านแทน”
ฉินมู่หลานยิ้มพลางพยักหน้าเมื่อได้ยินดังนี้ เอ่ยขึ้น “ก็จริงนะ ที่นี่มีคนพลุกพล่านมากแถมลูกเธอยังเล็ก ให้ลูกอยู่ที่บ้านดีแล้ว ที่นั่งเธอเหมือนจะอยู่ตรงโต๊ะถัดไปนะ”
คังอันเหอเหลือบมองรายชื่อแขกบนโต๊ะและพบว่าหล่อนกับสามีได้นั่งตรงนั้น จึงนั่งลงอย่างรวดเร็ว
ถูเฉิงเสียงกังวลกับภรรยาเล็กน้อย แต่คังอันเหอก็เอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันสบายดี คุณไปทักทายสหายเซี่ยของคุณตรงนู้นเถอะ ฉันคิดว่าครอบครัวของมู่หลานก็คงอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน”
ได้ยินภรรยาเอ่ยดังนั้น ถูเฉิงเสียงก็ไม่ได้นั่งโต๊ะตัวเอง แต่เดินไปที่โต๊ะของสหาย
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เฉินเซี่ยวอวิ๋น เกาซุนชิว เหมาชุนเถา และสือหยวนฝูก็มาหา เมื่อพวกหล่อนเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยแล้วก็เอ่ยสนทนากัน ฉินมู่หลานที่เห็นพวกหล่อนมากันแล้วก็เดินตรงไปสนทนาด้วยเป็นเวลาครู่ใหญ่
แขกเริ่มทยอยมามากขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานนักแขกทุกคนก็มาครบ
ครั้นถึงเวลาฤกษ์งามยามดี งานแต่งงานก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ฉินมู่หลานยังจำได้ว่าเธอเหนื่อยมากขนาดไหนตอนตนเองแต่งงาน แต่พอเห็นคนอื่นแต่งงานแล้วกลับพบว่าเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่ง เธอมองพิธีแต่งงานด้วยโล่งใจ ทำเพียงหยิบตะเกียบขึ้นคีบอาหารกินอย่างสบายใจหลังพิธีผ่านพ้นไปแล้ว
กว่างานเลี้ยงจะจบลงก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว ฉินมู่หลานเห็นว่าเด็กๆ ง่วงนิดหน่อย จึงคิดจะพาพวกเขากลับไปนอนที่บ้านก่อ่น หลังกล่าวอำลาญาติมิตรเสร็จ ฉินมู่หลาน เซี่ยเจ๋อหลี่และคนอื่นๆ ก็ตรงกลับบ้าน
เด็กๆ หลับกันอย่างรวดเร็ว เซี่ยเจ๋อหลี่จึงยืนขึ้นเอ่ยอำลาฉินมู่หลาน
“มู่หลาน เราออกมาวันนี้ก็เพื่อดื่มสุรามงคลให้กับฟู่โฮ่วหลิ่น ตอนนี้ผ่านพิธีมาแล้ว เราเลยต้องกลับไป ไม่อาจอยู่ที่บ้านในคืนนี้ได้”
ได้ยินดังนี้ ฉินมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและเอ่ย “ฉันนึกว่าคืนนี้คุณจะอยู่ที่บ้านเสียอีก แต่ในเมื่อคุณต้องกลับไปแล้วก็รีบกลับไปเถอะค่ะ”
“ครับ”
วันต่อมา เซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อก็เริ่มลงมือเก็บข้าวของลงกระเป๋า เพราะหลังปีใหม่นี้พวกเขาต้องกลับไปที่เซินเจิ้น
ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ต้องกลับไปพร้อมกับพวกเขาด้วย แต่ในเมื่อเขาไม่ใช่เจ้าของกิจการตลาดค้าวัสดุก่อสร้างอีกแล้ว เขาจึงรู้สึกว่าทุกอย่างดูไม่น่าพอใจ แต่ติดที่ถ้าเขาไม่กลับไปทำงานที่ตลาดค้าวัสดุก่อสร้าง เขาก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำอะไรได้อีกบ้างเหมือนกัน
หลังคนกลุ่มหนึ่งออกจากบ้านไปแล้ว หินมู่หลานกับเซี่ยปิงหรุ่ยก็ไปที่โรงพยาบาลทหารเพื่อรับการฝึกงาน
หลังทั้งสองมาถึงโรงพยาบาลทหาร พวกเธอก็ถูกเชิญเข้าไปให้ห้องผู้อำนวยการ
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พี่หลี่มาไวกลับไวจัง มู่หลานก็ย้ายที่ฝึกงานไปที่ใหม่ซะแล้ว
ไหหม่า(海馬)