ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 774 ให้ของขวัญตอบแทน(2)
ตอนที่ 774 ให้ของขวัญตอบแทน(2)
เกาเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าฉินมู่หลานอยากให้คนไปสืบเรื่องที่สถาบันออกแบบ เธอจึงรีบพยักหน้าพูดว่า “ค่ะ ฉันรู้ ตอนที่เคอวั่งชี้ตัวคนคนนั้น ฉันก็รู้แล้วว่าต้องเป็นคนนั้นแน่ๆ ที่ขโมยแบบของเคอวั่งไป แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีหลักฐาน”
“แล้วเธอก็ไม่เคยเห็นร่างแบบนั้นของเคอวั่งเหรอ”
เกาเชี่ยนเชี่ยนส่ายหน้าพูดว่า “ฉันไม่เคยเห็นจริงๆ เพราะฉันอยู่อีกกลุ่มหนึ่งแล้วก็ยุ่งมากทุกวัน เลยไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเคอวั่งสักเท่าไหร่ สุดท้ายก็เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“แล้วทางเธอมีเบาะแสอะไรบ้างหรือยัง”
พอพูดถึงเรื่องนี้ เกาเชี่ยนเชี่ยนก็พูดด้วยดวงตาเป็นประกายว่า “มีเบาะแสบ้างแล้ว พอพวกเราพิสูจน์ได้ว่าแบบนั่นเป็นของเคอวั่ง ไอ้หัวล้านคนนั้นก็ตายแน่”
ได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“งั้นก็ดี พวกเธอก็ช่วยกันเต็มที่นะ ในเมื่อทางเธอมีเบาะแสแล้ว งั้นฉันก็ไม่ให้คนไปสืบแล้วกัน”
เกาเชี่ยนเชี่ยนรีบพยักหน้ารัวๆ พูดว่า “พี่ ไว้ใจพวกฉันได้เลย พวกฉันจัดการเองได้”
“งั้นก็ดี”
ฉินมู่หลานจึงไม่ยุ่งเกี่ยวอีก
แต่ฉินเคอวั่งและเกาเชี่ยนเชี่ยนก็ต้องใช้ความพยายามพอสมควร ทั้งคู่ใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนกว่าจะแก้ปัญหานี้ได้
ฉินมู่หลานรู้แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ทั้งสองคนสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ด้วยตัวเองแล้ว เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก
“มู่หลาน เธอยิ้มอะไรอยู่น่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลาน ยิ้มเต็มหน้า ก็อดถามไม่ได้
“ฉันแค่ดีใจที่เคอวั่งกับเชี่ยนเชี่ยนโตขึ้นมากแล้ว” ระหว่างที่พูด เธอก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด สุดท้ายก็พูดว่า “ต่อไปฉันก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าพวกเขาจะถูกรังแก”
เซี่ยปิงหรุ่ยเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก หล่อนเอ่ยด้วยสีหน้าโกรธเคืองสุดขีด “คนคนนั้นช่างไร้ยางอายจริงๆ ถึงกับขโมยงานออกแบบของคนอื่นมา เป็นนักชุบมือเปิบเชียวล่ะ ดีที่เคอวั่งกับเชี่ยนเชี่ยนแก้ปัญหานี้ได้ แต่พูดไปแล้วพวกเขาเก่งจริงๆ นะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยชมเชยเฉินเคอวั่งกับเกาเชี่ยนเชี่ยนไปพักใหญ่ แล้วก็อดที่จะบ่นถึงหลี่หมิงฮุยไม่ได้
“ก่อนหน้านี้ฉันอยากจะคืนสร้อยเส้นนั้นให้เขาตลอด แต่สุดท้ายหลี่หมิงฮุยก็ไม่ยอมรับ ยังพูดอีกว่าของที่ให้ไปแล้วจะเอากลับคืนได้ยังไง ถ้าฉันไม่เอาก็ให้โยนทิ้งไปเลย เขาช่างใจกว้างจริงๆ”
เห็นเซี่ยปิงหรุ่ยทำหน้าบึ้งตึง ฉินมู่หลานจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า “เธอไปเจอหลี่หมิงฮุยมาเหรอ เจอตอนไหน”
ตั้งแต่หลี่หมิงฮุยบอกว่าจะไปเที่ยวทางใต้ เขาก็ยังไม่ได้กลับเมืองหลวง ไม่คิดว่า เซี่ยปิงหรุ่ยจะได้เจอเขาแล้ว
“ก็เมื่อวานนี้แหละ”
ฉินมู่หลานไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ “แล้วเธอคิดจะทำยังไง”
“ก็คงต้องรับไว้ ให้ทิ้งไปฉันก็ไม่อยากทิ้งหรอก แต่ฉันตั้งใจจะตอบแทนของขวัญให้หลี่หมิงฮุยบ้าง”
ได้ยินแบบนั้น ฉินมู่หลานก็พยักหน้าพูดว่า “แบบนี้ก็ได้ จริงๆ แล้วสร้อยเส้นนั้นสวยมากเลย”
“ใช่แล้ว สวยจริงๆ เลย ดังนั้นฉันเลยไม่อยากทิ้ง”
ทั้งสองคนคุยกันไปเรื่อยๆ ระหว่างเดินไปที่ห้องตรวจของพวกเธอ แล้วก็เริ่มต้นวันที่ยุ่งอีกวัน ตอนอยู่โรงพยาบาลปักกิ่งก็ยุ่งมากแล้ว พอมาที่โรงพยาบาลทหารก็ยุ่งอีกเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็เห็นหลี่หมิงฮุยยืนรออยู่ที่ประตูใหญ่หลังเลิกงาน
เมื่อหลี่หมิงฮุยเห็นพวกเธอทั้งสอง เขาก็โบกมือยิ้มแล้วพูดว่า “สองสาวสวย ไปกินข้าวด้วยกันไหม”
เห็นหลี่หมิงฮุยที่เป็นแบบนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยอดไม่ได้ที่จะจ้องเขาแล้วพูดว่า “หลี่หมิงฮุย พูดให้ดีๆ หน่อย ทำไมรู้สึกว่านายยิ่งพูดจาเจ้าชู้ประตูดินมากขึ้นเรื่อยๆ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่หมิงฮุยก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ได้ๆๆ งั้นขออนุญาตถาม คุณหมอฉินและคุณหมอเซี่ยมีเวลาไปกินข้าวกับผมไหม”
“ไปเถอะ พวกเราเลี้ยงนาย”
ฉินมู่หลานมองหลี่หมิงฮุย แล้วพูดยิ้มๆ
“ดีเลย ได้ให้คุณหมอฉินเลี้ยงข้าว เป็นเกียรติของผมเลย”
ทั้งสามไปที่ภัตตาคารปักกิ่ง หลังจากสั่งอาหารเสร็จก็ไปที่ห้องส่วนตัว
“หลี่หมิงฮุย ครั้งนี้นายมาปักกิ่งแล้วพักที่ไหน พรุ่งนี้ฉันจะไปหานาย”
เมื่อได้ยินเซี่ยปิงหรุ่ยพูดแบบนี้ หลี่หมิงฮุยก็ตาสว่างวาบ อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เธอจะมาหาฉันเองเลยเหรอ ตอนนี้เธอเพิ่งจะมารู้ว่าฉันไม่เลวใช่ไหม”
แต่พอนึกถึงว่าเซี่ยปิงหรุ่ยแต่งงานแล้ว เขาก็รู้ว่าตนคิดมากไป แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
“หลี่หมิงฮุย นายคิดอะไรอยู่ สร้อยที่นายให้มันมีค่ามาก ฉันเลยตั้งใจจะให้ของตอบแทนนาย”
แม้จะผิดหวังบ้าง แต่ก็ได้รับของตอบแทนจากเซี่ยปิงหรุ่ย ทำให้หลี่หมิงฮุยดีใจมาก เขาจึงพูดตรงๆ ว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเจียนกั๋วที่เพิ่งเปิดใหม่ พรุ่งนี้เธอไปหาฉันที่นั่นได้เลย”
“งั้นก็ได้ ฉันจะไปหานายประมาณ 9 โมงเช้า”
“ดีเลย ฉันจะรอเธออยู่ที่ล็อบบี้ก่อน”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน อาหารก็มาเสิร์ฟ ฉินมู่หลานเชิญหลี่หมิงฮุยรับประทานอาหาร พร้อมถามเรื่องการลงทุนของเขา “นายตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม ว่าจะทำธุรกิจอะไร จะทำที่ปักกิ่งหรือทางใต้”
“ตกลงแล้ว ฉันจะทำตามที่เธอบอกเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ฉันวางแผนจะสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเซินเจิ้น ถึงเวลานั้นต้องมีคนไปแน่นอน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้าพูดว่า “ตัดสินใจแล้วก็ดี ถึงเวลานั้นทำให้ดี ต้องทำได้แน่นอน”
ในอนาคตเซินเจิ้นจะพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ หลี่หมิงฮุยสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเซินเจิ้น ก็จะมีลูกค้าแน่นอน ตราบใดที่เขาบริหารจัดการให้ดีก็จะไม่มีปัญหา
“งั้นขออวยพรให้คุณหลี่ทำการค้ารุ่งเรือง”
“ฮ่าๆ ขอบคุณคุณหมอฉิน”
เซี่ยปิงหรุ่ยก็พูดให้พร จากนั้นก็รีบกินข้าว
หลังจากทั้งสามคนกินเสร็จก็แยกย้ายกันไป พอถึงวันต่อมาเซี่ยปิงหรุ่ยก็ไปหาหลี่หมิงฮุย นำสมุนไพรล้ำค่าที่เตรียมไว้สองสามอย่างให้หลี่หมิงฮุย
“คุณหมอเซี่ย ของขวัญของคุณมีค่ามากเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”
มองกล่องไม้ที่มีโสมและเห็ดหลินจืออายุร้อยปี หลี่หมิงฮุยรู้สึกว่าของขวัญนี้มีค่ามากเกินไป
เซี่ยปิงหรุ่ยชำเลืองมองเขาแล้วพูดว่า “ใครใช้ให้คุณส่งสร้อยคอที่มีค่ามากขนาดนั้นล่ะ เอาล่ะ นี่คือของตอบแทน ฉันต้องรีบไปโรงพยาบาลแล้ว ลาก่อน”
“เดี๋ยวก่อน…”
แต่เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้ยิน หันหลังวิ่งไปแล้ว
มองเงาหลังของเซี่ยปิงหรุ่ยที่วิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของหลี่หมิงฮุยก็เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย “จริงๆ แล้ว…ผมยังอยากบอกคุณอีกว่า ผมก็กำลังจะแต่งงานแล้ว เป็นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูล กับผู้หญิงที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน”
น่าเสียดายที่เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้ยินสักคำ แต่ถึงแม้จะได้ยิน หล่อนคงจะพูดแค่คำว่าขอแสดงความยินดีเท่านั้น
หลี่หมิงฮุยหัวเราะเยาะตัวเอง เตรียมกลับไปเก็บของที่ห้อง การมาครั้งนี้ เขาแค่อยากมาเจอเซี่ยปิงหรุ่ยอีกครั้งก่อนแต่งงาน ตอนนี้ไม่เพียงแต่ได้เจอ ยังได้รับของตอบแทนจากหล่อนอีกด้วย ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว
ตอนกลางวันที่โรงอาหาร ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยปิงหรุ่ย จึงถามว่า “เอาของขวัญไปให้ หลี่หมิงฮุย แล้วเหรอ”
“ใช่แล้ว ฉันเอาของขวัญไปให้เขาแล้ว ฉันก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลาแล้ว”
ตอนนี้หลี่หมิงฮุยไปถึงสนามบินแล้ว เขาขึ้นเครื่องบินและออกจากปักกิ่งไปอย่างรวดเร็ว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ระหว่างหมิงฮุยกับปิงหรุ่ยนี่เป็นพรหมวิบากกันจริงๆ คลาดกันไปคลาดกันมา เจอกันตอนอีกฝ่ายมีเจ้าของแล้ว
ไหหม่า(海馬)