ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 775 มีชื่อเสียงไปอีกขั้น(1)
ตอนที่ 775 มีชื่อเสียงไปอีกขั้น(1)
หลังหลี่หมิงฮุยออกจากเมืองหลวงไป เซี่ยปิงหรุ่ยก็ได้รับการ์ดเชิญสองใบ ใบหนึ่งของหล่อนและอีกใบหนึ่งของฉินมู่หลาน
“มู่หลาน ทำไมหลี่หมิงฮุยถึงไม่บอกเราล่วงหน้าล่ะว่าเขาจะแต่งงาน? ถ้าเขาบอกเราเสียตั้งแต่ตอนกินข้าวด้วยกันเมื่อคืนนี้ เราก็จะได้มอบของขวัญแต่งงานให้เขาล่วงหน้า ลดภาระยุ่งยากในการหาวิธีส่งไปให้เขาได้เยอะ” เซี่ยปิงหรุ่ยมองการ์ดเชิญในมือและอดไม่ได้ที่จะบ่น
ฉินมู่หลานยิ้มและตอบกลับ “เราไม่ต้องหาทางส่งของขวัญไปให้ยุ่งยากหรอก ถ้ามีเวลาเราแค่ไปร่วมงานแต่งและเพลิดเพลินไปกับการเที่ยวฮ่องกงก็ได้”
ได้ยินดังนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็พูดว่า “นั่นสินะ”
ทั้งสองเก็บการ์ดเชิญโดยไม่พูดอะไรอีก และกลับไปทำงานต่อ
ตั้งแต่มาอยู่ที่โรงพยาบาลทหาร ฉินมู่หลานก็พบว่าตัวเองยุ่งกว่าแต่ก่อน เป็นต้นว่าตอนนี้ผู้อำนวยการกวนก็มาหาเธออีกแล้ว บอกให้เธอไปช่วยงานผ่าตัดกับเขาในโรงพยาบาลทหารอีกที่หนึ่ง
“คุณหมอฉิน ตอนนี้มีคนไข้ในโรงพยาบาลทหารที่ซีหนานต้องการการผ่าตัด แต่หมอคนอื่นๆ บอกว่าไม่สามารถทำให้เขาฟื้นคืนสภาพกลับมาเป็นดังเดิมภายหลังการผ่าตัดได้ พวกเขาเลยต้องการให้คุณไปที่นั่น”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ย่นคิ้ว เอ่ยถามขึ้น “ผ่าตัดอะไรคะ?”
“ผ่าตัดเชื่อมประสานเอ็น”
ผู้อำนวยการกวนเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา และกล่าวถึงสภาพอาการของคนไข้เพิ่มเติม “ตามรายงานอาการบาดเจ็บของคนไข้คนนี้แล้ว ลักษณะอาการของเขาคล้ายกับอาการบาดเจ็บของฟู่โฮ่วหลิ่นมาก อีกอย่างพวกเขาก็รู้ว่าคุณผ่าตัดให้ฟู่โฮ่วหลิ่นได้ประสบผลสำเร็จและทำให้เขาฟื้นตัวเต็มร้อยได้ ก็เลยแห่มาที่นี่กัน”
ฉินมู่หลานรับรายงานประวัติการรักษามาอ่านช้าๆ และพบว่าอาการบาดเจ็บที่บันทึกไว้เหมือนกับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของฟู่โฮ่วหลิ่นมาก
“คุณจัดการผ่าตัดได้เลยค่ะ แต่เราพาคนไข้มาผ่าตัดที่นี่ไม่ได้เหรอคะ”
ผู้อำนวยการกวนกระแอมไอหลังได้ยินดังนี้ “คุณหมอฉิน คนไข้คนนี้มีสถานะพิเศษ ถ้าจะพามาผ่าตัดที่นี่ก็น่าจะเป็นปัญหา”
ได้ยินดังนี้ ฉินมู่หลานก็รู้ว่าคนไข้ที่จะรับการผ่าตัดนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เธอครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าตกลง “ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้”
“ตกลง งั้นพาเช่าเจิ้งเฟิงไปกับคุณด้วยนะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้า “ได้ค่ะ คุณหมอเช่าคงช่วยฉันได้เยอะ”
เห็นฉินมู่หลานตกลงแล้ว กวนเสียนชวนก็รีบแจ้งทางโรงพยาบาลทหารในซีหนาน จากนั้นมองฉินมู่หลานและเอ่ย “คุณหมอฉิน พรุ่งนี้เราจะไปซีหนานกัน ถ้าอย่างนั้นวันนี้คุณรีบกลับไปก่อนเถอะ”
“ได้ค่ะ”
ฉินมู่หลานไม่ปฏิเสธ เพราะเธอยังต้องรีบกลับบ้านไปจัดกระเป๋าและแจ้งเรื่องนี้ให้ครอบครัวทราบ
เมื่อฉินมู่หลานออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการ เธอก็เจอเซี่ยปิงหรุ่ยพอดี
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานแล้วก็รีบเดินเข้ามาและเอ่ย “มู่หลาน ฉันกำลังหาเธออยู่พอดีเลย”
“เธอจะพูดอะไรกับฉันเหรอ?”
เห็นฉินมู่หลานถามมา เซี่ยปิงหรุ่ยก็เอ่ยด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย “เป็น…เรื่องของฟู่โฮ่วหลิ่นน่ะ หัวหน้าเขาได้รับบาดเจ็บเหมือนเขาเมื่อก่อนนี้ ฉัน…ก็เลยอยากให้เธอมาช่วยผ่าตัดหน่อย”
ได้ยินดังนี้ ฉินมู่หลานก็เลิกคิ้ว “เขามาจากกองทัพที่ประจำอยู่ซีหนานหรือเปล่า?”
“ใช่ๆ”
เซี่ยปิงหรุ่ยตอบรับทันที จากนั้นก็มองฉินมู่หลานอย่างประหลาดใจและถามขึ้น “มู่หลาน เธอรู้ได้ยังไงน่ะ?”
“ผอ. เพิ่งบอกฉันเมื่อกี้เองว่าพรุ่งนี้ฉันต้องไปซีหนานกับคุณหมอเช่า”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่คิดว่าผู้อำนวยการกวนจะบอกเรื่องนี้กับฉินมู่หลานแล้ว เมื่อได้ยินว่าเขาจะให้มู่หลานไปซีหนานในวันพรุ่งนี้ หล่อนก็ดึงแขนฉินมู่หลานไว้อย่างรวดเร็วและเอ่ยขึ้น “เดี๋ยว ฉันจะไปบอกผอ.ว่าพรุ่งนี้ขอไปกับเธอด้วย”
“เธอไม่จำเป็นต้องเทียวไปเทียวมาเลย”
ถึงอย่างนั้นเซี่ยปิงหรุ่ยก็ส่ายหน้า บอกว่า “เขาเป็นอดีตหัวหน้าของฟู่โฮ่วหลิ่น และเขาให้ฉันมาทักทายเธอเพราะกลัวว่าเธอจะไม่ไป ในเมื่อเธอตกลงจะไปซีหนานแล้ว ฉันก็จะไปกับเธอด้วย”
จากนั้นหล่อนก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการ
ฉินมู่หลานเดินตามหล่อนไป
พอกวนเสียนชวนได้ยินว่าเซี่ยปิงหรุ่ยจะไปซีหนานด้วยเช่นกัน เขาก็เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ “คุณหมอเซี่ย ทำไมคุณถึงจะไปกับเราล่ะ? คุณไม่ได้มาจากแผนกแพทย์แผนจีนหรอกเหรอ? แถมคุณยัง…”
เขาไม่ได้เอ่ยประโยคท้ายออกมา แต่ก็เผยนัยยะอย่างจับสังเกตได้ว่าฉินมู่หลานกับเช่าเจิ้งเฟิงไปที่นั่นเพื่อทำการผ่าตัด หากเซี่ยปิงหรุ่ยไปกับพวกเขาด้วยจะกลายเป็นตัวถ่วงของพวกเขาเปล่าๆ
“ผอ. คะ ต่อให้ฉันอยู่แผนกแพทย์แผนจีน แต่ฉันก็เชี่ยวชาญเรื่องการฝังเข็มมากนะคะ ฉันอาจจะช่วยมู่หลานได้ในตอนที่ผ่าตัดเสร็จน่ะค่ะ”
กวนเสียนชวนรู้ดีว่าเซี่ยปิงหรุ่ยกับฉินมู่หลานมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และกองทหารแห่งซีหนานก็เป็นกองทัพที่สามีของหล่อนเคยไปทำงาน ในที่สุดเขาก็ตกลง “ก็ได้ งั้นคุณมากับพวกผม”
วันต่อมา ฉินมู่หลาน เซี่ยปิงหรุ่ย และเช่าเจิ้งเฟิงก็ได้มาเจอกันหน้าสถานีรถไฟ จากนั้นก็ขึ้นรถไฟเดินทางไปยังซีหนาน เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งมารับ
“สวัสดีครับคุณหมอทั้งสาม ผมจะพาพวกคุณไปยังบ้านพักก่อนนะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับที่ช่วยเหลือ”
เช่าเจิ้งเฟิงตอบพวกเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ช่วยฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยขนย้ายสัมภาระเข้าไปในรถ ก่อนเดินทางตรงไปที่บ้านพัก หลังขนสัมภาระออกมาจากรถหมดแล้ว พวกเขาก็ขอให้คนขับรถพาพวกเขาไปยังโรงพยาบาล
ผู้อำนวยการเกอแห่งโรงพยาบาลทหารซีหนานยิ้มและให้ผู้คนออกมาต้อนรับฉินมู่หลาน เซี่ยปิงหรุ่ย และเช่าเจิ้งเฟิง แต่มองฉินมู่หลานสลับกับเซี่ยปิงหรุ่ยไปมาอย่างไม่แน่ใจว่าใครคือคุณหมอฉินกันแน่
เช่าเจิ้งเฟิงเป็นคนมีไหวพริบ รีบแนะนำตัวทันที “ผอ. เกอ คนนี้คือคุณหมอฉินมู่หลานจากโรงพยาบาลของเรา ส่วนคนผู้นี้คือคุณหมอเซี่ยปิงหรุ่ยครับ”
“สวัสดีครับ คุณหมอฉิน คุณหมอเซี่ย”
ผู้อำนวยการเกอเอ่ยทักทายกับคนทั้งคู่ ก่อนพาพวกเขาไปยังห้องพักฟื้น
เมื่อคนทั้งกลุ่มไปถึงห้องพักฟื้น พวกเขาก็เห็นชายกลางคนสีหน้าเด็ดเดี่ยวนอนอยู่ที่นั่นและมีชายหนุ่มอยู่เคียงข้าง เมื่อพวกเขาเห็นผู้อำนวยการเกอและคนอื่นๆ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นพลางถาม “ผู้อำนวยการเกอ คุณหมอจากโรงพยาบาลทหารปักกิ่งมากันแล้วเหรอครับ?”
ในตอนท้าย สายตาเขาก็ได้มาหยุดที่ฉินมู่หลานและพวก
ผู้อำนวยการเกอแนะนำตัวฉินมู่หลานและคนอื่นๆ ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นมองฉินมู่หลานและพูดว่า “คุณหมอฉิน โปรดช่วยตรวจอาการบาดเจ็บที่ขาให้ผู้กองจางด้วยนะครับ”
หลังได้ยินผู้อำนวยการเกอเอ่ย ผู้กองจางกับชายหนุ่มก็ได้หันมามองฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานมองผู้กองจาง แล้วก็เอ่ยตอบ “ขอฉันตรวจก่อนนะคะ”
“ครับ”
หลังฉินมู่หลานตรวจวินิจฉัยเสร็จ เธอก็ดูรายงานประวัติการรักษาอีกครั้งและเอ่ยขึ้น “คุณควรรับการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนนะคะ ถ้าผ่านแล้วถึงจะผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ได้”
ผู้อำนวยการเกอพลันยินดีขึ้นมาเมื่อได้ยินดังนี้ “จริงเหรอครับ? ยอดเยี่ยมไปเลย งั้นทางเราจะจัดการตรวจสอบในภายหลังนะครับ”
เขารู้ว่าพวกฉินมู่หลานเดินทางตรงมาที่โรงพยาบาลเลย จึงรีบเอ่ยขึ้น “คุณหมอฉิน ผมจะพาพวกคุณไปรับประทานอาหารเย็นก่อน พวกคุณคงเหนื่อยแย่หลังรีบเร่งเดินทางมาตลอดทาง ถ้างั้นก็รับประทานอาหารดีๆ สักมื้อและพักผ่อนดีๆ สักคืนนะครับ”
ฉินมู่หลานพยักหน้า “ค่ะ”
จากนั้นพวกเขาก็ไปกินอาหารด้วยกันและกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก
วันต่อมา ฉินมู่หลาน เซี่ยปิงหรุ่ย และเช่าเจิ้งเฟิงก็มาที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นว่าผลทดสอบออกมาดีทุกอย่างแล้ว ฉินมู่หลานก็เอ่ยขึ้น “เอาล่ะค่ะ เตรียมห้องผ่าตัดได้เลย”
ผู้อำนวยการเกอสั่งคนให้เตรียมอุปกรณ์ทันที ส่วนฉินมู่หลานพาเซี่ยปิงหรุ่ยกับเช่าเจิ้งเฟิงเข้าไปในห้องผ่าตัด ขณะเดียวกันหมอจากโรงพยาบาลนี้ก็เข้ามาสังเกตการณ์ เนื่องจากนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาขออนุญาตฉินมู่หลานเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว เธอจึงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มาถึงก็ยุ่งเลย ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ
ไหหม่า(海馬)