ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 776 มีชื่อเสียงไปอีกขั้น(2)
ตอนที่ 776 มีชื่อเสียงไปอีกขั้น(2)
การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างราบรื่นจนทุกคนทึ่งกับทักษะของฉินมู่หลาน จนกระทั่งผู้อำนวยการเกอส่งคนไข้กลับห้องพักฟื้นแล้วทุกคนถึงเพิ่งกลับมามีสติ
“คุณหมอฉิน ขอบคุณคุณมากนะครับ ต่อไป…จะให้เราสังเกตอะไรต่อครับ?”
“ต่อไปฉันจะขอให้คุณหมอเซี่ยสอนเทคนิคการฝังเข็มให้บรรดาหมอในโรงพยาบาลของคุณสักชุดค่ะ หลังจากพวกคุณได้เรียนรู้แล้วก็ใช้เทคนิคฝังเข็มนี้กับคนไข้หนึ่งครั้งต่อวันนะคะ”
ได้ยินดังนี้ ผู้อำนวยการเกอก็หันมองเซี่ยปิงหรุ่ย “ถ้างั้นผมต้องรบกวนคุณหมอเซี่ยแล้วล่ะครับ”
“ไม่รบกวนหรอกค่ะ เพราะนี่เป็นหน้าที่ของฉัน”
เซี่ยปิงหรุ่ยตอบด้วยรอยยิ้มก่อนตามฉินมู่หลานกลับบ้านพัก การทำงานขั้นต่อไปคือหน้าที่ของหล่อน หลังจากสอนเทคนิคการฝังเข็มให้คุณหมอหวงแห่งโรงพยาบาลทหารซีหนานเสร็จแล้วก็เป็นอันเสร็จหน้าที่ แต่ถึงอย่างนั้นผู้อำนวยการเกอก็ยังคงเป็นกังวล เมื่อพบว่าน่าจะฝังเข็มให้ผู้การจางได้ เขาก็ขอให้เซี่ยปิงหรุ่ยสาธิตให้ดูรอบหนึ่ง เพื่อที่คุณหมอหวงจะได้เรียนรู้อย่างชำนาญมากขึ้น
“ได้ค่ะ งั้นฉันจะฝังเข็มผู้การจางให้คุณดูรอบหนึ่งก่อน แล้วก็ให้คุณหมอหวงทำอีกครั้งนะคะ”
ผู้การจางมองเซี่ยปิงหรุ่ยฝังเข็มให้เขาและถามด้วยรอยยิ้ม “คุณคือภรรยาของโฮ่วหลิ่นใช่ไหม? ผมเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้ารับและเอ่ยตอบ “ใช่ค่ะ ฟู่โฮ่วหลิ่นกับฉันเพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปีนี้เอง”
“เด็กคนนั้นไม่เคยส่งการ์ดเชิญมาก่อนแต่งงานเลย กลับส่งลูกอมงานแต่งมาหลังแต่งงานเสียนี่”
ในตอนที่ผู้การจางเอ่ยถึงฟู่โฮ่วหลิ่น ดวงตาของเขาก็ฉายแววชื่นชมแรงกล้า ขณะเดียวกันก็เจือความเสียดายที่อีกฝ่ายถูกย้ายไปแล้ว
เซี่ยปิงหรุ่ยยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของผู้การจาง ก่อนอธิบาย “ฟู่โฮ่วหลิ่นเคยเล่าเรื่องของคุณให้ฉันฟังด้วยค่ะ เขากลัวว่าคุณจะลำบากในการเทียวไปเทียวมา ก็เลยไม่ได้ส่งบัตรเชิญไปให้น่ะค่ะ”
“เหอะ…เด็กคนนั้นก็ยังนิสัยเหมือนเดิมเลยนะ ตรงที่ไม่อยากรบกวนสร้างปัญหาให้ใคร ได้แต่เก็บงำทุกอย่างไว้ในใจ ในภายหน้าเธอมีอะไรก็ต้องบอกเขานะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยยิ้มและพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันจะบอกเขาเยอะๆ เลย”
ผู้การจางหัวเราะเมื่อได้ยินดังนี้
“ฟู่โฮ่วหลิ่นช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้แต่งงานกับภรรยาอย่างเธอ”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเลและเอ่ยยอมรับ “ค่ะ ฉันก็คิดว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน”
“ฮ่าๆๆ”
ผู้การจางรู้สึกว่าตัวเขาเองไม่ได้หัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้มานานแล้ว ภรรยาของฟู่โฮ่วหลิ่นช่างเป็นคนดีจริงๆ
เซี่ยปิ่งหรุ่ยทำการฝังเข็มไปด้วยขณะที่พูดคุยกับเขา และหล่อนก็ทำเสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หันไปถามคุณหมอหวง “ทีนี้คุณเห็นทุกอย่างชัดเจนแล้วหรือยังคะ?”
“เห็นชัดแล้วครับ”
“ดีค่ะ งั้นคุณมาฝังเข็มให้คุณจางในตอนบ่ายนะคะ”
ในตอนบ่าย คุณหมอหวงก็ได้ฝังเข็มรอบหนึ่ง แม้เทคนิคการฝังเข็มของเขาจะติดขัดอยู่บ้างในช่วงแรก แต่เขาก็ค่อยๆ คุ้นเคยทีละน้อย และทำได้ลื่นไหลมากขึ้นแม้จะใช้เวลาค่อนข้างนานก็ตาม
“คุณหมอหวง คุณทำดีมากค่ะ ดูเหมือนว่าคุณจะจำได้ทุกอย่างเลย ในอีกสามเดือนข้างหน้าคุณฝังเข็มให้คุณจางสองครั้งต่อวันนะคะ เช้าครั้งหนึ่งและบ่ายครั้งหนึ่ง มันจะช่วยให้คุณจางฟื้นตัวเร็วขึ้นค่ะ”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
คุณหมอหวงพยักหน้าทันที
ขณะที่ผู้การจางมอบซองแดงซองใหญ่ให้หล่อน
เซี่ยปิงหรุ่ยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แต่ผู้การจางก็เอ่ยขึ้น “นี่สำหรับงานแต่งของเธอกับโฮ่วหลิ่น เธอรีบรับไปเถอะ”
ได้ยินผู้การจางเอ่ยดังนั้น เซี่ยปิงหรุ่ยจึงจำต้องรับไว้
หลังการผ่าตัดที่นี่เสร็จสิ้นด้วยดี ฉินมู่หลาน เซี่ยปิงหรุ่ย และเช่าเจิ้งเฟิงก็กลับปักกิ่ง
เมื่อผู้อำนวยการเกาเห็นทั้งสามคนกลับมา เขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า “คุณหมอฉิน คุณหมอเซี่ย คุณหมอเช่า ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของพวกคุณนะ การผ่าตัดนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี และทำให้ทุกคนได้เห็นความแข็งแกร่งของโรงพยาบาลเรา นับเป็นเรื่องที่ดีมากเลย”
และด้วยการเริ่มต้นเช่นนี้นี่เอง โรงพยาบาลทหารในที่อื่นๆ ก็ได้ติดต่อขอยืมคนจากกวนเสียนชวน ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ ฉินมู่หลานเองก็คิดไตร่ตรองดีแล้วจึงไม่ปฏิเสธ เธอจึงงานยุ่งมากขึ้นเพราะต้องเดินทางไปผ่าตัดไม่พัก
ความถี่ในการทำงานก็เพิ่มมากขึ้น และข่าวก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโรงพยาบาลทหารทุกที่
ทุกคนต่างรู้ว่าที่โรงพยาบาลทหารปักกิ่งมีศัลยแพทย์ชื่อฉินที่มีฝีมือในการผ่าตัดดี และยังเป็นภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ในค่ายทหารปักกิ่งด้วย
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้กลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงไปทั่วกรมกองทุกหมู่เหล่าเพราะภรรยาของเขาเอง
“เสี่ยวเซี่ย ฉันไม่คิดเลยว่าทุกคนจะรู้จักเธอและกล่าวกันว่าเธอเป็นสามีของหมอฉิน กระทั่งคุณฉีก็ยังพูดถึงเธอเลย”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแล้วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นั่นเป็นเพราะมู่หลานมีฝีมือเก่งกาจต่างหากครับ ตอนนี้ที่ทุกคนกล่าวว่ารู้จักผมก็เป็นเพราะผมเป็นสามีของหล่อน ผมแค่ได้รับอานิสงส์จากหล่อนเท่านั้นเองครับ”
เห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ใจกว้างและยกย่องภรรยามากเพียงใด ถูข่ายหัวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เห็นชัดว่าพวกเธอสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ที่ฉันเรียกเธอมาในวันนี้ก็เพราะเรื่องบางอย่าง มีภารกิจหนึ่งที่ต้องปฏิบัติให้สำเร็จพร้อมกับคนอื่น ๆ เมื่อใดที่มันสำเร็จอย่างงดงาม เธอก็จะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอีกขั้น”
ดวงตาของเซี่ยเจ๋อหลี่ฉายแววประหลาดใจกับคำพูดประโยคสุดท้าย
ความจริงแล้วเขาได้เลื่อนขั้นในเวลาน้อยกว่าสองปี และไม่คิดจะเลื่อนขั้นต่ออย่างรวดเร็วนัก แต่คำพูดของผู้กองถูกลับฟังดูเหมือนว่าเขาจะเลื่อนขั้นขึ้นไปอีก
ถูข่ายหัวย่อมเห็นความสงสัยของเซี่ยเจ๋อหลี่ เขายิ้มอย่างมีนัยยะและเอ่ย “ความจริงแล้วต้องขอบคุณภรรยาของเธอนะ เป็นเพราะหล่อน เธอถึงได้มีชื่อเสียงมากกว่าเดิม และเป็นที่มองเห็นของบรรดาท่านผู้นำ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เขาอยากบอกมู่หลานในเดี๋ยวนี้เหลือเกินว่าเขาได้รับอานิสงส์เพราะภรรยา แต่ภารกิจที่ถูข่ายหัวมอบให้ก็จะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว ทำให้เขาไม่มีเวลาได้กลับบ้าน ทำได้แค่กลับไปเก็บข้าวของที่บ้านพักสวัสดิการครอบครัวและจากไป
ฉินมู่หลานไม่รู้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ไปทำภารกิจอีกอย่างหนึ่ง ในตอนนี้เธอกำลังรีบมุ่งหน้าไปสนามบินพร้อมกับเช่าเจิ้งเฟิง เพราะพวกเขาสองคนถูกเชิญไปผ่าตัดอีกครั้ง ครั้งนี้เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้ไปด้วย จึงมีแค่ฉินมู่หลานกับเช่าเจิ้งเฟิง และด้วยตารางงานที่แน่นมาก ทำให้พวกเขาไม่อยากเสียเวลาแต่อย่างใด
หลังฉินมู่หลานผ่าตัดเสร็จและกลับมาที่ปักกิ่ง เธอก็พบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่อยู่บ้านมาพักใหญ่แล้ว
“เขาคงยุ่งอีกแล้วสินะ”
ฉินมู่หลานไม่ได้คิดมาก ถึงอย่างไรงานของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยุ่งมากจนเขาต้องออกไปทำภารกิจครั้งแล้วครั้งเล่า
ซูหว่านอี๋ได้ยินคำรำพันของลูกสาวก็ยิ้มพลางเหลือบมองเธอ “ลูกไม่ต้องเป็นกังวลนะ อาหลี่แข็งแรงสมบูรณ์ดี คงไม่มีปัญหาอะไรแน่ เดี๋ยวพอเขากลับมาเราก็ได้มารวมตัวกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง”
จากนั้นหล่อนก็บ่นฉินมู่หลานอีกครั้ง
“มู่หลาน เป็นลูกนี่แหละที่งานยุ่งมากเรื่อยๆ ถวนถวนกับหยวนหยวนก็เอาแต่ถามหาว่าแม่หนูอยู่ไหน แม่เองก็ตอบพวกเขาไม่ได้”
ฉินมู่หลานยิ้ม “แม่ ช่วงนี้หนูคงจะได้พักบ้างแหละค่ะ หนูจะใช้เวลาอยู่กับเด็กๆ ให้มากขึ้นนะคะ”
ขณะที่แม่และลูกสาวสนทนากัน พวกเธอก็ยกอาหารเข้าไปในห้องโถงนั่งเล่นด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ต้องขอบคุณอานิสงส์ของมู่หลานจริงๆ พี่หลี่ได้เลื่อนขั้นอีกแล้ว
ไหหม่า(海馬)