ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 777 บริษัทยาซิ่งหลินขยายใหญ่และแข็งแกร่ง(1)
- Home
- ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก
- ตอนที่ 777 บริษัทยาซิ่งหลินขยายใหญ่และแข็งแกร่ง(1)
ตอนที่ 777 บริษัทยาซิ่งหลินขยายใหญ่และแข็งแกร่ง(1)
ฉินมู่หลานพักผ่อนสามวัน หลังจากนั้นจึงกลับไปทำงาน เธอและเซี่ยปิงหรุ่ยในตอนนี้ใกล้จะจบการฝึกงานแล้ว
แต่ผู้อำนวยการกวนกลับไม่ยอมปล่อยตัวพวกเธอไปเลย เขามองฉินมู่หลานด้วยสีหน้ากังวลแล้วพูดว่า “คุณหมอฉิน จริงๆ แล้วคุณกับคุณหมอเซี่ยจะไปไม่ได้นะ ยังไงพวกคุณก็ยังเหลืออีกหนึ่งภาคการศึกษากว่าจะจบ พวกคุณทั้งสองคนอยู่ต่ออีกครึ่งปีเถอะ ไม่งั้นผมคงทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนี้ไม่ได้แน่ๆ”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ผู้อำนวยการ แต่พวกเราตกลงกันไว้แล้วนี่คะว่าฝึกที่โรงพยาบาลปักกิ่งครึ่งปี ฝึกที่นี่อีกครึ่งปี”
กวนเสียนชวนรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ๆ ผมรู้อยู่แล้ว แต่ติดที่ผู้นำอาวุโสหลายคนกดดันผม ให้ผมต้องรั้งตัวพวกคุณไว้ให้ได้ ตอนนี้คุณโด่งดังในกองทัพเขตแล้ว ทุกคนอยากให้คุณช่วยผ่าตัดเคสยากๆ เลยไม่อยากให้คุณไป คุณหมอฉิน คุณต้องช่วยผมด้วยนะ”
“ผู้อำนวยการ…”
ฉินมู่หลานยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกกวนเสียนชวนขัดจังหวะ “คุณหมอฉิน คุณคงไม่อยากเห็นผมต้องเกษียณก่อนกำหนดใช่ไหม ผมยังอยากทำงานในตำแหน่งของผมต่อไปเพื่อความรุ่งโรจน์ของที่นี่อยู่เลย คุณและคุณหมอเซี่ยต้องช่วยผมจริงๆ นะ”
สุดท้าย กวนเสียนชวนยังเล่าข่าวลือที่เขาได้ยินมาให้ฟังด้วย
“คุณหมอฉิน คุณรู้ไหมว่าสามีของคุณเป็นที่รู้จักของผู้นำหลายคนก็เพราะคุณ? นี่ถือเป็นเรื่องดีเลยนะ”
ฉินมู่หลานไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้ “จริงเหรอคะ?”
“แน่นอนว่าจริง ทุกคนพูดแบบนี้กันหมด”
ถึงอย่างนั้นฉินมู่หลานก็ยังไม่ได้ตอบตกลงในทันที แต่พูดอ้อมค้อมว่า “ฉันยังต้องถามเซี่ยปิงหรุ่ยอีกที เพราะทางโรงพยาบาลก็อยากให้หล่อนอยู่ต่อเหมือนกัน”
“ได้ งั้นคุณไปปรึกษากับคุณหมอเซี่ยให้ดีๆ นะ”
จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ชื่อเสียงของฉินมู่หลานเท่านั้นที่โด่งดังในกองทัพเขต แม้แต่เซี่ยปิงหรุ่ยเองก็มีชื่อเสียงเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน เนื่องเพราะวิชาการแพทย์แผนจีนของหล่อนยอดเยี่ยมไม่แพ้หมอจีนอาวุโสพวกนั้นเลย ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงอยากรั้งตัวเซี่ยปิงหรุ่ยไว้เช่นกัน
ฉินมู่หลานพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ออกจากห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาล
เมื่อฉินมู่หลานได้พบกับเซี่ยปิงหรุ่ย เธอก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
หลังจากเซี่ยปิงหรุ่ยได้ฟังสิ่งที่ฉินมู่หลานพูด หล่อนก็เข้าไปใกล้ ๆ และกระซิบว่า “มู่หลาน จริง ๆ แล้วฉันก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง แม้แต่เพื่อนร่วมรบของฟู่โฮ่วหลิ่นที่บ้านก็อิจฉาเขาเพราะฉัน บอกว่าเขาโชคดีมากที่ได้แต่งงานกับฉัน” พูดจบ ใบหน้าของหล่อนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นเซี่ยปิงหรุ่ยเป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ยิ้มและพูดว่า “ดังนั้นเธอวางแผนจะอยู่ต่ออีกครึ่งปีใช่ไหม”
“จริง ๆ แล้วการอยู่ต่ออีกครึ่งปีก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะ แล้วเธอล่ะมู่หลาน”
เซี่ยปิงหรุ่ยรู้สึกว่าโอกาสแบบนี้หาได้ยากมาก หากเป็นเพราะหล่อนทำให้ฟู่โฮ่วหลิ่นอยู่ในเขตทหารได้ง่ายขึ้น หล่อนก็ยินดี
ฉินมู่หลานคิดสักครู่แล้วพูดว่า “งั้นก็ได้ พวกเราอยู่ต่ออีกครึ่งปีกันเถอะ”
ทั้งคู่เป็นคนที่เด็ดขาด เมื่อตัดสินใจแล้วก็ตกลงกันแบบนี้ และบอกกับผู้อำนวยการกวนทันที
“จริงเหรอ ดีมากเลย คุณหมอฉินและคุณหมอเซี่ยต้องเหนื่อยแน่ ๆ พรุ่งนี้พวกคุณหยุดพักผ่อนหนึ่งวันนะ แล้วมาทำงานอีกทีในวันมะรืนนี้แล้วกัน” เขาไม่กล้าให้วันหยุดมากกว่านี้ เพราะมีคนมาหาฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยมากเกินไป
เมื่อได้พักผ่อน ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่ปฏิเสธ ทั้งคู่ยิ้มและพยักหน้าพูดว่า “ได้เลยค่ะ งั้นพรุ่งนี้พวกเราจะหยุดพักผ่อนหนึ่งวัน”
เรื่องที่ทั้งสองคนยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลทหารต่อนั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเถาป๋อหลุนรู้ข่าวนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะโทรหาผู้อำนวยการกวน “กวนเสียนชวน คุณใช้กลอุบายอะไรหรือเปล่า ถึงได้ทำให้คุณหมอฉินและคุณหมอเซี่ยยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลของพวกคุณต่อ ถ้าทำแบบนี้ได้ ตอนแรกผมคงไม่ปล่อยให้ทั้งสองคนไปโรงพยาบาลของพวกคุณหรอก”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของผู้อำนวยการเถา ผู้อำนวยการกวนก็หัวเราะเสียงดังลั่น
“ฮ่า ๆ ๆ…คุณผู้อำนวยการเถา ผมไม่ได้ใช้กลอุบายอะไรเลย คุณหมอฉินและคุณหมอเซี่ยเป็นคนสมัครใจอยู่ต่อเอง อาจจะเป็นเพราะโรงพยาบาลของพวกเราดีกว่าก็ได้นะ”
“คุณ…พูดแบบนี้ได้ยังไง โรงพยาบาลของพวกเราไม่ดีงั้นเหรอ โรงพยาบาลปักกิ่งของพวกเราก็ดีมากนะ”
ผู้อำนวยการกวนพูดอย่างขอไปทีว่า “ใช่ ๆ ๆ โรงพยาบาลของพวกคุณก็ดีมาก ผู้อำนวยการเถา ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ” พูดจบก็วางสายทันที
เถาป๋อหลุนมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย พูดอย่างหงุดหงิดว่า “ถึงจะทำให้คุณหมอฉินและคุณหมอเซี่ยอยู่ต่ออีกครึ่งปีได้ แต่พวกหล่อนก็คงไม่อยู่ที่นี่จริงๆ หลังจบการศึกษาหรอก”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยจะไม่อยู่ที่โรงพยาบาลทหารหลังจบการศึกษาแล้วอย่างแน่นอน เป้าหมายของทั้งคู่ชัดเจนมาก นั่นคือการคิดค้นยาใหม่ แต่หลังจากพวกเธออยู่ที่โรงพยาบาลทหารแล้ว ก็ไม่มีเวลามากพอที่จะคิดค้นยาใหม่ ได้แต่บอกให้เซี่ยปิงชิงตั้งใจมากขึ้น
เซี่ยปิงชิงได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าพูดว่า “ได้ ฉันจะตั้งใจพยายามคิดค้นยาเม็ดใหม่ให้เร็วที่สุด”
เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยที่หล่อนติดขัดมานานก็มีความคืบหน้าใหม่ในที่สุด นอกจากยาแก้พิษแล้ว หล่อนอาจจะต้องคิดค้นยาเม็ดที่มีผลแตกต่างจากยาแก้พิษโดยสิ้นเชิงด้วย
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนั้น จึงหันไปมองหล่อนแล้วถามว่า “ช่วงนี้เธอกำลังคิดค้นยาใหม่อยู่หรือ”
“ใช่ มีเค้าโครงแล้ว พอคิดค้นเสร็จจะบอกพวกเธออีกที”
ได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่ถามอะไรอีก ทั้งสองเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว จึงเตรียมตัวกลับ
“ได้ พวกเธอรีบกลับไปเถอะ ฉันก็ต้องกลับแล้ว” คนอื่นๆ กลับไปกันหมดแล้ว เหลือแต่หล่อนที่ช้ากว่าคนอื่นนิดหน่อย ไม่คิดว่าฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยจะมา ดังนั้นทั้งสามจึงได้คุยกันดีๆ สักพัก ตอนนี้จึงดึกมากแล้วจริงๆ
ฉินมู่หลานกลับถึงบ้าน และพบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาแล้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดีใจ
“อาหลี่ ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว”
เซี่ยเจ๋อหลี่ ออกไปทำภารกิจในครั้งนี้นานกว่าทุกครั้ง ในที่สุดก็กลับมาวันนี้แล้ว
เซี่ยเจ๋อหลี่ออกไปนานขนาดนี้ สิ่งที่คิดถึงที่สุดคือภรรยาและลูกๆ ตอนนี้พอเห็นมู่หลาน เขาจึงรีบยิ้มเดินเข้าไปพูดว่า “มู่หลาน คุณเหนื่อยแล้ว เพิ่งเลิกงานเหรอถึงได้กลับมาดึกป่านนี้”
“ไม่เหนื่อยหรอก จะเหนื่อยได้ยังไงเท่าคุณกันเล่า”
แต่เซี่ยเจ๋อหลี่กลับยิ้มและพูดว่า “ตั้งแต่คุณฝึกงาน คุณก็เหนื่อยขึ้นกว่าเดิม แต่คุณรู้ไหม เพราะคุณนี่แหละ ผมถึงได้เลื่อนตำแหน่งได้ ดังนั้นคุณคือดวงดาวนำโชคของผมเลย”
“ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริงสินะคะ”
ฉินมู่หลานอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันได้ยินมา ยังคิดว่าเป็นเรื่องโกหกเลย”
“เป็นเรื่องจริง ผู้บัญชาการถูก็บอกผมแล้ว เพราะคุณมีชื่อเสียงในเขตทหาร ผู้นำก็เลยรู้จักผมด้วย” เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะเป็นที่จับตามองของ ผู้นำเพราะมู่หลาน
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน ก็ค่อยๆ เดินไปที่สวนหลังบ้าน เล่นกับเด็กๆ อยู่นานพอสมควร
ครั้งนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ออกไปทำภารกิจนานมาก เลยได้พักผ่อนหลายวัน แต่ฉินมู่หลานก็ยังคงยุ่งอยู่ดี พักผ่อนแค่วันเดียวก็กลับไปทำงานแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็เช่นกัน ยุ่งจนแทบไม่ได้หายใจ
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเธอไม่คาดคิดก็คือ เซี่ยปิงชิงมีข่าวมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ทั้งสองเลิกงานแล้ว ก็ไปที่ซิ่งหลินถังอีกครั้ง
“ปิงชิง ครั้งก่อนเธอเพิ่งบอกว่ามีเบาะแสแล้ว ไม่คิดว่าจะได้ผลเร็วขนาดนี้”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ด้วยอำนาจฝีมือของภรรยาแท้ๆ สามีต่างได้รับอานิสงส์กันใหญ่เลย