ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 95 ฟื้นคืน
ตอนที่ 95 ฟื้นคืน
ตอนที่ 95 ฟื้นคืน
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานกำลังจะออกไปพร้อมฟู่ซวี่ตง เหยาจิ้งจือก็รีบก้าวเดินเข้าไปแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน นี่ใครกัน?”
ฉินมู่หลานกำลังรู้สึกกังวลใจ แต่ก็ทราบว่าถึงอย่างไรต้องแจ้งให้ตระกูลเซี่ยทราบ ดังนั้นจึงเอ่ยแนะนำฟู่ซวี่ตงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกล่าวทิ้งท้าย “พ่อคะแม่คะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปกับสหายฟู่ก่อนนะคะ”
หลังจากได้ฟังคำพูดของฉินมู่หลาน เซี่ยเหวินปิงและเหยาจิ้งจือก็ต่างเป็นกังวลใจ ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะหันมองฟู่ซวี่ตงแล้วเอ่ยถาม “สหายร่วมรบของอาหลี่นี่เอง ขอถามหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาหลี่อย่างนั้นหรือ ทำไมถึงต้องพาตัวมู่หลานไปด้วยล่ะ?”
“คุณลุงคุณป้าไม่ต้องกังวลครับ อาหลี่ได้รับบาดเจ็บแค่นิดเดียวเท่านั้น ไม่มีอะไรร้ายแรงครับ เพียงแต่ว่าเพราะอาการบาดเจ็บทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่ค่อยสะดวก ก็เลยอยากให้ผมมารับตัวน้องสะใภ้ไปดูแลเขาสักพักครับ”
เหยาจิ้งจือได้ยินเช่นนั้น จึงรีบเอ่ยทันที “แต่มู่หลานท้องอยู่นะ ดูแลอาหลี่คงเหนื่อยมากแน่ ให้ฉันไปแทนดีกว่าไหม”
ฟู่ซวี่ตงส่ายหัวปฏิเสธ
“คุณป้าครับ น้าสะใภ้เองก็รู้ทักษะการแพทย์ด้วย น่าจะดูแลอาหลี่ได้ดีกว่า ก็เลยอยากพาหล่อนไปครับ”
เมื่อเห็นฟู่ซวี่ตงเอ่ยเช่นนั้น เหยาจิ้งจือจึงไม่พูดอะไรอีก สุดท้ายฉินมู่หลานก็ได้จัดเตรียมตัวเอง แล้วรีบเดินตามฟู่ซวี่ตงขึ้นรถออกไปทันที
เซี่ยเจ๋อน่าจ้องมองรถที่กำลังขับออกไปด้วยแววตาค่อนข้างมืดมน พี่รองของตนได้รับบาดเจ็บนิดเดียว แต่ก็ยังมีคนขับรถมาตามให้ฉินมู่หลานไปดูแลเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไปได้สวยในกองทัพ กระนั้นเขาก็คงไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลืออะไรหล่อน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ความเกลียดชังในใจเซี่ยเจ๋อน่าก็เพิ่มเป็นทวีคูณ
“เหอะ…ฉินมู่หลานช่างโง่เหลือเกิน รู้ว่าตัวเองท้องแล้วยังจะไปอีก ถ้ามีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็สมควรโดนแล้ว”
เหยาจิ้งจือที่กำลังเป็นห่วงลูกชายคนเล็กได้ยินคำพูดเช่นนั้น จึงนึกถึงสิ่งที่เซี่ยเจ๋อน่าเพิ่งทำลงไปขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นนางก็บันดาลโทสะขึ้นมา กำด้ามไม้กวาดเอาไว้ในกำมือ แล้วไล่ตะเพิดคนออกไป
“ออกไปให้พ้นหน้าฉัน ต่อให้แกจะโดนทำร้ายก็อย่ากลับมาเหยียบบ้านอีก ทุกอย่างที่แกต้องทุกข์ทรมานตอนนี้ก็เป็นเพราะตัวแกเองทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะแกดื้อด้านอยากแต่งงานกับเกาหยวนมันคงไม่เกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้ขึ้น แกไปให้พ้นหน้าฉันซะ”
เซี่ยเจ๋อน่าคิดไม่ถึงว่าแม่ของตนจะลงไม้ลงมือ ด้วยความไม่ทันตั้งตัว จึงโดนตีอยู่หลายครั้งและรู้สึกเจ็บปวดเป็นระลอก
ส่วนเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็รีบเปิดประตูทันที ตอนนี้เขาไม่มีความประทับใจในตัวน้องสาวหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
อีกด้านหนึ่ง หลังจากฉินมู่หลานขึ้นรถไป ก็อดที่จะหันมองแล้วเอ่ยถามฟู่ซวี่ตงเสียไม่ได้ “เซี่ยเจ๋อหลี่อาการร้ายแรงมากแค่ไหนกัน ถ้าบาดเจ็บเล็กน้อยจริง คุณคงไม่มารับฉันหรอกค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของฟู่ซวี่ตงจึงเต็มไปด้วยความกังวลรวมถึงรู้สึกผิด
“อาหลี่บาดเจ็บสาหัสครับ ขาของเขา…อาจจะยังใช้การไม่ได้ และตอนนี้เขากำลังมึน ๆ อยู่ จึงยังฟื้นได้ไม่เต็มที่” เมื่อเอ่ยจบ ฟู่ซวี่ตงก็เอ่ยตำหนิตัวเองต่อ “ถ้าไม่ใช่เพราะต้องช่วยผม อาหลี่ก็คงไม่บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้”
ฉินมู่หลานได้ยินดังนี้ สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความกังวล “บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นเลยหรือคะ พวกเราจะไปถึงที่นั่นกันตอนไหน?”
เธออยากจะรีบไปดู ว่ายังมีหวังพอจะรักษาขาของเซี่ยเจ๋อหลี่อยู่บ้างไหม
ฟู่ซวี่ตงเห็นฉินมู่หลานเป็นกังวล จึงรีบกล่าวทันที “น้องสะใภ้ เราจะถึงอย่างเร็วที่สุดภายในครึ่งวันนะครับ” หลังจากเอ่ยจบ เขาก็เอ่ยอธิบายพร้อมกดเสียงต่ำอีกครั้ง “น้องสะใภ้ อาหลี่ไม่ทราบว่าผมไปรับคุณมา เป็นเพราะผมเห็นเขาถือหวีไม้ที่สลักให้คุณตลอดเวลา ผมจึงคิดว่าต้องไปรับคุณมา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฟู่ซวี่ตง ตอนแรกคิดว่าพวกเขาให้ไปรับเธอมาเพราะเธอมีทักษะการแพทย์เสียอีก คิดไม่ถึงว่าฟู่ซวี่ตงรู้สึกได้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่คิดถึงเธอ จึงไปรับเธอมา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้เธออยากเห็นอาการของเซี่ยเจ๋อหลี่โดยเร็ว
ทั้งคู่ไม่พูดอะไรมาตลอดทาง และเดินทางมาถึงจุดหมายภายในระยะเวลาครึ่งวัน
ตอนนี้เซี่ยเจ๋อหลี่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทหาร เมื่อทั้งสองมาถึง ก็บังเอิญเจอเวินโหย่วเหลียงมาเยี่ยมเซี่ยเจ๋อหลี่เข้าพอดี เมื่อเขาเห็นฉินมู่หลานก็ทราบได้ทันว่าเธอคนนี้คือภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่ ที่ฟู่ซวี่ตงสามารถออกไปข้างนอกได้ก็เพราะได้รับอนุญาตจากเขา
“คุณคือครอบครัวของเซี่ยเจ๋อหลี่ใช่ไหม โธ่…คุณรีบเข้าไปเยี่ยมเขาเถอะ”
ฉินมู่หลานไม่รู้จักเวินโหย่วเหลียง แต่ดูจากอินทรธนูบนบ่าของเขาแล้ว จึงทราบได้ทันทีว่าเป็นผู้บังคับบัญชาของเซี่ยเจ๋อหลี่ หลังจากทักทายเวินโหย่วเหลียงแล้ว ก็รีบเข้าไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่ทันที
หลังจากฟู่ซวี่ตงพูดคุยกับเวินโหย่วเหลียงสักพัก ก็รีบตามเข้าไปโนเวลพีดีเอฟ
ตอนนี้เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังหลับ ฉินมู่หลานก้าวตรงไปข้างหน้าและเริ่มตรวจชีพจรของเขาทันที ไม่นานเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เซี่ยเจ๋อหลี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง ๆ นอกจากอาการบาดเจ็บที่ขา เขายังได้รับบาดเจ็บตรงอวัยวะภายในส่วนอื่นอีกด้วย หากไม่ดูแลรักษาอย่างเหมาะสมต้องเกิดอาการร้ายแรงมากแน่
หลังจากตรวจชีพจรแล้ว ฉินมู่หลานก็มองไปที่ขาของเซี่ยเจ๋อหลี่ที่มีผ้าพันแผลปิดเอาไว้อีกครั้ง เธอเดินตรงไป แล้วหวังจะเปิดผ้าพันแผลออก
ฟู่ซวี่ตงเห็นอย่างนั้น จึงรีบเอ่ยขึ้น “น้องสะใภ้ครับ คุณหมอเพิ่งพันผ้าพันแผลให้อาหลี่ไปเรียบร้อยแล้ว คุณ…คุณกำลังทำอะไรน่ะ?”
“ฉันจะลองเปิดดู”
“น้องสะใภ้…”
ถึงแม้ว่าฟู่ซวี่ตงจะทราบว่าฉินมู่หลานมีทักษะการแพทย์อยู่บ้าง แต่เขากลับคิดว่าหากเปิดออกแล้วมองดูมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร บางทีอาจจะต้องขอรบกวนให้หมอมาเปิดผ้าพันแผลให้ เขาจึงเอ่ยอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่ “น้องสะใภ้ อาการบาดเจ็บที่ขาของอาหลี่สาหัสมาก หากเปิดผ้าพันแผลออก แผลอาจจะเปิดด้วยได้”
ฉินมู่หลานทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่หากไม่เปิดออก เธอก็ไม่อาจบอกอาการของเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ ดังนั้นจึงเมินคำพูดของฟู่ซวี่ตง แล้วทำต่อไป
“น้องสะใภ้…”
ฟู่ซวี่ตงต้องการที่จะห้ามปราม และในครั้งนี้ ประตูก็ได้เปิดออกแล้ว
เมื่อถานเล่อเวยและเฉินเฉี่ยวเซียงเข้ามา จึงได้เห็นสาวสวยคนหนึ่งกำลังถอดผ้าพันแผลของเซี่ยเจ๋อหลี่ออก โดยมีฟู่ซวี่ตงคอยยืนมองอยู่ข้าง ๆ
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ถานเล่อเวยก็รีบก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองดูฉินมู่หลานด้วยสีหน้าหวาดระแวง “เธอเป็นใคร เธอกำลังจะทำอะไรเนี่ย?”
มือของฉินมู่หลานยังคงขยับต่อไป เธอเพียงแค่เงยหน้าปรายตามองถานเล่อเวย แล้วไม่พูดอะไรอีก
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานไม่สนใจใครเลย และยังคงต้องการถอดผ้าพันแผลออก ถานเล่อเวยจึงไม่ทันคิด แล้วก้าวเดินเข้าไปข้างหน้าเพื่อที่จะหยุด “ฉันกำลังถามเธออยู่นะ เธอเป็นใครกัน ทำไมถึงถอดผ้าพันแผลของสหายเซี่ยออก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเพิ่งดีขึ้นเอง แล้วเธอยังจะถอดผ้าพันแผลเขาออกอีกเนี่ยนะ เธออยากจะให้เขาบาดเจ็บมากขึ้นหรือไง”
ฉินมู่หลานเห็นถานเล่อเวยเอื้อมมือเข้ามา จึงทำเพียงแค่ปัดมือของหล่อนออกไป พลางเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “หลีกไป”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“เธอ…”
ถานเล่อเวยไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งขนดนี้ ตอนนี้มือของหล่อนแดงก่ำจากการโดนตบ
ฟู่ซวี่ตงเองก็คิดไม่ถึงว่าฉินมู่หลานจะโหดร้ายขนาดนี้ อีกทั้งยังคิดจะเปิดผ้าพันแผลต่อ เขาไม่สนใจถานเล่อเวย ก่อนจะหันไปมองแล้วพูดกับฉินมู่หลาน “น้องสะใภ้ อาหลี่เขา…”
แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ฟื้นขึ้นมาอย่างช้า ๆ เมื่อเขาเห็นฉินมู่หลาน แววตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “มู่หลาน คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะโดนอัปเปหิออกจากบ้านแล้วยังปากดีอีกนังน่า ต้องเจอด้ามไม้กวาดแพ่นกบาลสักทีดีไหม
นั่นภรรยาเขาจ้าสาว เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
ไหหม่า(海馬)