ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 267 เรียนหนังสือ
บทที่ 267 เรียนหนังสือ
เมื่อเห็นอาการของพวกหล่อนแล้ว หลินชิงเหอก็เอ่ยขึ้น “ได้สิคะ ให้พวกเขามาที่นี่ตอนสี่โมงเย็น แล้วฉันจะสอนให้จนถึงห้าโมงเย็นเลยค่ะ”
ในตอนนี้เธอเริ่มเตรียมอาหารมื้อเย็น คงไม่มีปัญหามากนักหากจะให้หลานชายกับหลานสาวร่วมโต๊ะด้วย
สะใภ้ใหญ่กัสะใภ้สามต่างดีใจ พวกหล่อนยืมยันว่าจะทิ้งไข่ไว้ที่บ้านสะใภ้สี่ และเมื่อกลับไปที่บ้าน ทั้งคู่ก็ได้ส่งอู่นีกับโจวหยางมาพร้อมกับถั่วเหลืองและเมล็ดงา
หลินชิงเหอให้เด็กทั้งคู่นำไข่กลับไป หากพวกเขาไม่นำกลับไปเธอก็จะไม่สอนหนังสือ ดังนั้นทั้งคู่จึงยอมนำไข่กลับไปด้วยดี
แล้วทั้งคู่ก็โดนแม่ของตัวเองดุ
“เก็บไข่ไว้ก็ไม่มีปัญหานะ” ท่านแม่โจวเอ่ย
หลินชิงเหอไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น ครอบครัวของเธอไม่ได้ขาดแคลนของสิ่งนี้แม้แต่น้อย เธอตอบกลับไป “ฉันอยากให้เอากลับไปบำรุงร่างกายพี่ชายใหญ่กับพี่ชายสามน่ะค่ะ”
สามครอบครัวไม่ได้มีไข่กินเยอะนัก เธอแค่ชี้ทางให้เฉย ๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
เมื่อท่านแม่โจวได้ยินเธอตอบดังนี้ นางก็ไม่พูดอะไร แต่ในใจยกสะใภ้สี่ขึ้นในระดับสูงกว่าเดิม
จากนั้นหลินชิงเหอก็บอกโจวชิงไป๋ให้เขาได้รับรู้ “คุณพักอยู่ที่บ้านนะคะ ฉันไปหาเหมยเจี่ยก่อน”
“ได้ครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
หลินชิงเหอขี่จักรยานเดินทางมาหาเหมยเจี่ย และยังนำผ้าพันคอบางผืนไปด้วย ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อนก็จริง แต่หล่อนเก็บไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาวได้
“รบกวนเธอแล้วจริง ๆ” เหมยเจี่ยเอ่ยอย่างดีใจ
“รบกวนอะไรกันคะเหมยเจื่ย? อ๋อ ฉันอยากได้เนื้อหมูสัก 2-3 ชั่งน่ะค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
“อยากได้ส่วนไหนบ้างล่ะ” เหมยเจี่ยพยักหน้า
“หมูสามชั้น เนื้อติดกระดูก กระเพาะหมู และลำไส้ใหญ่ค่ะ”
เหมยเจี่ยได้ยินแล้วก็ให้สัญญา “มารับที่โรงเลี้ยงหมูในตอนเช้ามืดของคืนนี้นะจ๊ะ”
“ตกลงค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า
จากนั้นเธอก็กลับไป เมื่อกลับไปถึงบ้าน โจวชิงไป๋ก็อาบน้ำเสร็จแล้ว
ส่วนเจ้ารองกับเจ้าสามนั้นออกไปจับปลาไหลกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน
“คืนนี้ต้องนอนเร็วนะคะ ตอนเช้ามืดต้องออกไปรับเนื้อหมูน่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยพลางหยิบแตงโมที่เหลืออยู่มาเคี้ยวกิน
“คุณไปอาบน้ำเถอะ” โจวชิงไป๋จ้องมองภรรยา
หลินชิงเหอหน้าแดง จากนั้นก็กลอกตาใส่เขาและเอ่ยขัด “วันนี้คุณเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันแล้วนะคะ”
“ผมไม่เหนื่อยหรอก” โจวชิงไป๋จ้องมองเธอด้วยอาการสงบ
ในตอนแรกเขาหมดแรงแล้ว แต่การกลับมาของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกฟื้นคืนชีพ ไม่เหนื่อยแม้แต่นิดเดียว
“คุณกินนะคะ” หลินชิงเหอเหลือแตงโมส่วนที่กินค้างไว้ให้เขา จากนั้นก็ไปอาบน้ำ
โจวชิงไป๋กินแตงโมที่เหลือและซักผ้าให้ภรรยาที่ถอดเปลี่ยนแล้ว
ในช่วงต้นของความสัมพันธ์ หลินชิงเหอรู้สึกอายที่ให้เขาซักผ้าให้ แต่ตอนนี้เธอชินแล้ว
มีแต่หัวใจที่อ่อนยวบลงเมื่อเดินออกมาแล้วเห็นเขากำลังซักเสื้อผ้าให้เธอ
หลินชิงเหอสระผมครู่หนึ่งขณะอยู่ในห้องน้ำ ตอนนี้เธอกำลังเช็ดผมให้แห้ง โจวชิงไป๋ที่ซักเสื้อผ้าเสร็จไม่นานก็มาช่วยเช็ดผมให้ภรรยา
ตอนนี้มีแค่พวกเขาสองคนที่อยู่บ้าน ผู้เฒ่ายังไม่กลับมา ส่วนเด็ก ๆ ก็ออกไปจับปลาหนีชิวกับปลาไหลนา
ส่วนท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวได้กลับบ้านไปหลังกินแตงโมเสร็จแล้ว ไม่มีทางมาอีกครั้ง
หลินชิงเหอปล่อยให้โจวชิงไป๋เช็ดผมให้เธอ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อมในเมืองใหญ่อย่างเมืองหลวงหรือไม่ ทำให้ผิวของหลินชิงเหอขาวขึ้นในทุกปีนับตั้งแต่ได้ไปศึกษาอยู่ที่นั่น
เธอเป็นคนผิวค่อนข้างขาวอยู่แล้วเมื่ออยู่ในชนบท ตอนนี้เธอกลับขาวยิ่งขึ้นไปอีก
โจวชิงไป๋เพิ่งทำงานในทุ่งนาเสร็จ ทั้งร่างของเขาดูราวกับถูกระบายสี เมื่อเทียบกับภรรยาแล้วทั้งคู่ก็ดูแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
กลับกัน หลินชิงเหอกลับรู้สึกมีความสุขกับบริการของสามีเป็นพิเศษ เธอเอ่ยขึ้น “ถ้าผิวคุณยังคล้ำอยู่แบบนี้ ใครบางคนที่ไม่รู้จักคุณก็คงจะคิดว่าคุณมาจากทวีปแอฟริกาแน่ ๆ ค่ะ”
“เดี๋ยวถึงหน้าหนาวก็ขาวขึ้นแล้ว” โจวชิงไป๋ตอบ
ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะมีผิวคล้ำกว่า แต่เขาก็ไม่ได้โง่ ต่อให้ภรรยาไม่ได้รังเกียจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาก็ไม่อยากให้ตัวเองดูไม่คู่ควรกับภรรยาของเขา
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงหันมาใส่ใจตัวเอง
แต่ก็ช่วยไม่ได้ในสถานการณ์ตอนนี้ เขาคงต้องรอจนถึงฤดูหนาวอีกครั้งเพื่อจะมีผิวขาวขึ้นอีกรอบ
หลินชิงเหอปล่อยให้เขาเช็ดผมเธอจนแห้งหมาด จากนั้นก็ปิดประตูและดึงเขากลับเข้ามาในห้อง
พวกเขาจะทำอะไรกันนั้นไม่จำเป็นต้องบอก กลิ่นกายหลังอาบน้ำของชิงไป๋ยังคงปลุกเร้าเธอในตอนที่เขากำลังเช็ดผมให้เธอ ซึ่งเธอเองก็คิดถึงเขาด้วยเหมือนกัน
หลังเสร็จกิจไปหนึ่งรอบ เธอก็นอนอยู่กับเขา
เจ้ารองกับเจ้าสามกลับมาที่บ้านและพบว่าประตูห้องของพ่อแม่ปิดอยู่ ทั้งสองจึงรู้ว่าพวกเขาหลับไปแล้ว เด็กชายทั้งคู่เทปลาหนีชิวที่จับได้ใส่อ่างน้ำ จากนั้นก็อาบน้ำซักเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องและจุดตะเกียงเพื่อทบทวนบทเรียนครู่หนึ่ง จากนั้นก็ดับตะเกียงและเข้านอน
พี่น้องทั้งคู่ต่างมีวินัยในตัวเองไม่น้อย
เมื่อถึงเช้าตรู่ โจวชิงไป๋ก็ไปรับเนื้อหมูที่หลินชิงเหอจองเอาไว้
หลินชิงเหอยังไม่ตื่น เพราะเหนื่อยล้าอย่างมากหลังเดินทางมาหลายวัน
โจวชิงไป๋นำเนื้อหมูที่ได้รับกลับมาไว้ในครัว เมื่อรู้ว่าภรรยาไม่สามารถล้างกระเพาะกับลำไส้หมูได้ เขาจึงจัดการให้ก่อน จากนั้นก็กลับไปนอนกอดภรรยาต่อ ไม่สนใจอากาศอันร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด
แม้จะเหนื่อยล้า แต่หลินชิงเหอก็ตื่นแต่เช้าราวตีสี่
บรรดาผู้ชายจะออกจากบ้านราวตีสี่ครึ่ง หลินชิงเหอจึงจุดตะเกียงและเริ่มทำอาหาร
นอกจากหมั่นโถวข้าวโพดแล้ว เธอยังทำอาหารผัดสองจาน เป็นหมูสามชั้นหั่นเต๋าผัดกับแตงกวา และไข่คนกับมะเขือเทศ และยังมีซุปกุ้งแห้งด้วย
โจวชิงไป๋หลับไปครู่หนึ่ง และเมื่อตื่นขึ้น ท่านพ่อโจวก็มาหาในเวลานี้แล้ว
ทั้งพ่อและลูกชายพากันกินอาหารเช้าอันแสนอร่อยก่อนออกไปทำงาน
“คุณกลับไปนอนต่อเถอะ” ก่อนออกจากบ้าน โจวชิงไป๋ก็เอ่ยพลางลูบมือภรรยา
“ค่ะ ถึงกลางวันแล้วฉันจะทำอาหารดี ๆ ไปส่งให้นะคะ” หลินชิงเหอตอบ
“ครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้า
จากนั้นทั้งพ่อและลูกชายก็ออกจากบ้าน ส่วนท่านแม่โจวออกจากบ้านหลังตีห้า เด็กชายสองคนก็ตื่นแต่เช้า
“พี่ใหญ่ตอนนี้คงจะขี้เกียจแล้วจริง ๆ ด้วย เขาไม่กลับมาตอนปิดเทอมฤดูร้อนเลย” เจ้ารองเอ่ยขึ้น
“แม่ ที่นั่นมีเรื่องสนุกเยอะแยะกับของกินอร่อย ๆ มากมายหรือเปล่าครับ? จากที่ผมดูแล้ว พี่ใหญ่ถึงไม่อยากกลับมาบ้านอีก” เจ้าสามเอ่ย
“เทียบกับที่นี่แล้ว ที่นั่นดีกว่าแน่นอน” หลินชิงเหอตอบตามตรง
ท้ายที่สุดแล้วเมืองหลวงก็ยังคงเป็นเมืองหลวง แม้แต่ในยุคนี้มันก็ยังพัฒนาดีมาก เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในแต่ละวัน
“ถ้าลูกสองคนขยัน ลูกเองก็มีโอกาสได้เข้ามหาวิทยาลัยที่นั่นในอนาคตนะ แม่หาเวลาว่างตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเขียนโจทย์ทบทวนให้ลูก ๆ แล้ว ลูกสองคนเอาไปคนละชุด ปิดเทอมหน้าร้อนนี้ก็ขยันทำแล้วกันล่ะ” หลินชิงเหอบอก
“โจทย์ของแม่” เจ้ารองย่นหน้า โจทย์คำถามของแม่ช่างยากจริง ๆ
“คนอื่น ๆ อยากได้แทบตายแต่ก็ไม่ได้ไปนะ” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“จริงสิ” เจ้าสามพยักหน้า “ให้หยางหยางกับอู่นีมาทำด้วยดีกว่า”
“พื้นฐานของพวกเขายังแกร่งไม่พอ โจทย์พวกนี้ยากเกินกว่าที่พวกเขาจะทำได้ ลูกทำในส่วนของลูกไป” หลินชิงเหอพูด
สองพี่น้องจึงทบทวนบทเรียนอยู่มากกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปช่วยงานพ่อของพวกเขา
ส่วนหลินชิงเหอก็เริ่มลงมือทำความสะอาดสวนหลังบ้าน หลังทำความสะอาดเสร็จก็คว้าหนังสือมาอ่าน ตอนที่เธอไปไห่หนาน เธอได้ซื้อหนังสือดี ๆ มาจำนวนหนึ่งด้วย
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คู่รักคู่นี้ไม่เคยแผ่วเลยค่ะ พอเห็นว่าคนอื่นไม่อยู่บ้านก็จัดกันเลย
โจทย์ของแม่เชียวนะเจ้ารอง คนอื่นอยากทำแต่ก็ไม่ได้ทำนะ เพราะฉะนั้นทำโจทย์ไปเถอะค่ะ
ไหหม่า (海馬)