ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 518 กรรมตามสนอง
บทที่ 518 กรรมตามสนอง
ก่อนจะมาที่ต้าเหลียน หลินชิงเหอคิดแค่ว่าจะมาหาแหล่งผลิตสินค้าที่นี่กับโจวชิงไป๋เท่านั้น โดยไม่รู้เลยว่าที่ต้าเหลียนจะมีแหล่งสินค้าอยู่จริง ๆ
แต่แหล่งผลิตของที่นี่สู้ของจากทางภาคใต้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็มีของหลากหลายอย่าง ถือว่าดีกว่าไม่มีสักอย่าง
หลังจากสั่งจองสินค้า 2,000 กว่าหยวน พวกเขาก็ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับเถ้าแก่คนนั้น ให้รู้ว่าพวกเขาอยู่เมืองปักกิ่ง หากต้องการเท่าไหร่ให้โทรมาหา เขาจะได้จัดเตรียมและส่งไปให้
พวกเขาสั่งจองสินค้าถึง 2,000 กว่าหยวนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งเถ้าแก่คนนี้ย่อมต้องอยากเก็บลูกค้ารายใหญ่คนนี้เอาไว้
หลินชิงเหอไม่อยากจองสินค้ากับเถ้าแก่อาหารทะเลทางภาคใต้แล้ว เพียงไม่นานนักยอดสั่งจองสินค้าก็ขึ้นไปที่ 4,000 หยวน สินค้าที่มาส่งปลายปีที่แล้วมีปริมาณพอ ๆ กับของที่เธอสั่งในตอนนี้แต่มีราคาถึง 5,000 กว่าหยวน
สองสามีภรรยาอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟไปเที่ยวยังสถานที่อื่น
หลินชิงเหออยากจะซื้ออสังหาริมทรัพย์เอาไว้ 2-3 แห่งในเส้นทางที่ไป เพราะหลังจากนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์จะพุ่งทะยานฟ้า
อีกทั้งในตอนที่ได้พักผ่อน ก็จะได้มีบ้านเป็นของตัวเองไม่ใช่หรือ
โจวชิงไป๋พาภรรยาเดินเที่ยวอย่างสบายใจ และชื่นชมวิวทิวทัศน์ภายในชนบทไปด้วย
ปีนี้พวกเขาไม่ได้กลับบ้านเกิด ซึ่งที่บ้านเกิดของพวกเขาก็พัฒนาขึ้นมาก ไม่เพียงน้องชายของเธอเท่านั้น พี่ชายสามและสะใภ้สามก็เจริญก้าวหน้าเช่นกัน
จนกระทั่งถึงวันที่ยี่สิบในเดือนสิงหาคม พวกเขาก็เหลือช่วงปิดเทอมฤดูร้อนอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ สองสามีภรรยาที่เที่ยวจนหนำใจจึงเดินทางกลับบ้าน
ปีนี้เธอไม่ได้ทำการเก็งกำไรเอาไว้ เพราะชิงไป๋ของเธอไม่อยากจะทำ แม้หลินชิงเหอจะรู้สึกเสียดาย แต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการก็ต้องตามใจเขา
รายได้จากร้านทั้งหมดของหล่อนทำกำไรได้ 20,000 หยวนแล้ว เงินจำนวนนี้ไม่ถือว่าเป็นเงินที่มากมายอะไรในยุคอนาคต แต่ในปัจจุบันนี้ถือว่ามากโดยที่ไม่ต้องเอ่ย ดังนั้นถ้าเขาไม่เอาก็คือไม่เอา เวลาที่เหลืออีกมากมายเอาไว้เที่ยวบ้างก็ดีเหมือนกัน
เมื่อหลินชิงเหอกลับมาพร้อมกับโจวชิงไป๋ โจวเฉวี่ยนก็ดีใจจนเนื้อเต้น
การเป็นพ่อครัว 1 เดือนกว่าทำให้โจวเฉวี่ยนรู้สึกว่ากลิ่นผมของตัวเองกลายเป็นกลิ่นห้องครัวไปแล้ว
“เจ้าสามยังไม่กลับมาเหรอ” หลินชิงเหอถาม
“ยังไม่กลับมาเลยครับ” โจวเฉวี่ยนบอก
โจวชิงไป๋ให้เงินเขา 300 หยวน พอโจวเฉวี่ยนได้รับเงิน เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับความลำบากทั้งเดือนขึ้นมาบ้าง!
ในใจเขาจ้องกีตาร์ร้านนั้นมานานแล้ว แต่เพราะราคามันสูงเกินไปจึงทำให้เขาไม่ได้ซื้อมันมา
แต่ตอนนี้พ่อของเขากลับใจดีให้เงินเขาตั้ง 300 หยวน!
“ป๊า งั้นผมคืนงานให้ป๊าแล้วนะ จริงสิ อีกเดี๋ยวพี่เอ้อร์นีจะมากินของว่าง ต้มข้าวโพดให้พี่เขากินด้วยนะป๊า” โจวเฉวี่ยนพูด จากนั้นเขาก็ขี่จักรยานออกไปอย่างอดรนทนไม่ไหวเพื่อไปซื้อกีตาร์ที่เขาใฝ่ฝันถึง
“เจ้าเด็กเหม็นเอ๊ย” หลินชิงเหอว่าขำ ๆ เขาไม่ถามอย่างอื่นก็ไปเสียแล้ว
เธอไม่ได้ไปไหนเช่นกันและขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นสอง โจวชิงไป๋รับกระบวยมาแล้วเริ่มทำอาหาร และต้มข้าวโพด 2 ฝักให้กับโจวเอ้อร์นี
พอบ่ายสามโมงกว่า โจวเอ้อร์นีก็เดินมา เมื่อเห็นอาสี่เธอก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “อาสี่กับอาสะใภ้สี่กลับมาแล้วเหรอคะ”
“อืม” โจวชิงไป๋ที่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาก็มีสภาพจิตใจเปลี่ยนไป เขานำข้าวโพดต้ม 2 ฝักมาให้หลานสาว “อยากกินอะไรอีกไหม?”
“ไม่ต้องแล้วค่ะ ข้าวโพดต้ม 2 ฝักก็พอแล้ว” โจวเอ้อร์นีพูดอย่างเกรงใจ
โจวชิงไป๋มองท้องของหล่อน แม้เขาจะมีลูกชาย 3 คนแล้ว แต่ความจริงเขาเพิ่งมารู้ว่าตอนที่ผู้หญิงท้อง หน้าท้องก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ปกติตอนที่เขากลับมา เด็ก ๆ ก็คลอดออกมากันหมดแล้ว เขาจึงไม่มีความรู้สึกนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่หน้าท้องจะขยายตัวแบบนี้ในตอนที่ตั้งครรภ์
เขาปรายตามองขึ้นไปยังชั้นสอง ไม่รู้ว่าเมื่อใดภรรยาของเขาจะท้อง ถ้าเกิดท้องขึ้นมา ถึงตอนนั้นไม่ว่าเธออยากกินอะไรเขาก็จะทำให้เธอกิน
“ตอนนี้ท้องเธอโตขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องไปทำงานแล้วล่ะ” โจวชิงไป๋ห่อเกี๊ยวพลางพูดไปด้วย
“อาสี่ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ถ้าไม่ให้ฉันไปทำงาน ฉันก็ไม่รู้จะทำอะไรเวลาอยู่คนเดียวน่ะค่ะ” โจวเอ้อร์นีส่ายหัวพูด
จะให้นอนดูโทรทัศน์เฉย ๆ กับบ้าน หล่อนก็ไม่อยากทำ และหล่อนก็ไม่อยากไปโรงงานของหวังหยวนด้วยเช่นกัน เพราะไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร
ดังนั้นการมาทำงานที่ร้านเสื้อผ้าจึงเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว เนื่องจากรู้สึกผ่อนคลายกว่า และก็มีอะไรให้ทำ มันทำให้หล่อนไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่นิดเดียว ดีจะตาย?
“ถ้าไม่สบายตรงไหนก็บอกได้นะ” โจวชิงไป๋พูด
“ฉันรู้แล้วค่ะ” โจวเอ้อร์นีพยักหน้า
หล่อนกินข้าวโพดต้มหมด 2 ฝัก เสร็จก็เดินกลับร้านเสื้อผ้าไป
ส่วนหลินชิงเหอกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนชั้นสอง และตื่นอีกครั้งในช่วงเย็น เมื่อตื่นแล้วเธอก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก
การได้ไปเที่ยวก็เป็นแบบนี้ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น
โจวชิงไป๋มองภรรยาตนเดินลงมาแล้วจึงตักน้ำแกงให้เธอถ้วยหนึ่ง หลินชิงเหอดื่มน้ำแกงไปด้วยและมองเจ้ารองลองเล่นกีต้าร์ที่หน้าร้านไปด้วย ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ลูกได้ไปรับอาหารทะเลแห้งมาหรือยัง?”
“รับมาแล้วครับ ผมพาหู่จือไปด้วย” โจวเฉวี่ยนตอบในทันที
หลินชิงเหอไม่ได้พูดอะไรและดื่มน้ำแกงของตัวเองต่อ ไม่นานพวกหู่จือก็กลับมา
โจวเอ้อร์นีกับหวังหยวนไม่ได้มาที่นี่ พวกเขาไปกินข้าวเย็นที่บ้านของท่านพ่อท่านแม่โจว
หลินชิงเหอกินเสร็จแล้วก็ไปโรงอาบน้ำพร้อมกับโจวชิงไป๋ และก็แวะชวนโจวเสี่ยวเหมยกับซูต้าหลินให้มาด้วยกัน
ตอนนี้เธอชินกับการไปโรงอาบน้ำขนาดใหญ่นี้แล้ว การได้ขัดขี้ไคลที่โรงอาบน้ำเป็นอะไรที่สบายจริง ๆ ช่างผ่อนคลายสบายตัวอย่างเหลือแสน
“พี่สะใภ้สี่ออกไปเที่ยวกับพี่สี่กลับมาแล้วทำไมพี่สี่ของฉันดำขึ้นตั้งเยอะ แต่พี่ไม่ดำขึ้นแม้แต่นิดเดียวเลยล่ะคะ” โจวเสี่ยวเหมยถาม
“พี่ก็ดำนะ” หลินชิงเหอพูด
“มองไม่เห็นจะออก” โจวเสี่ยวเหมยพูด พี่สะใภ้สี่อายุปูนนี้แล้ว แต่ผิวพรรณกลับดีกว่าคนอายุ 30 อีก ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ เลย
ในขณะที่โจวเสี่ยวเหมยมีลูก 4 คนแล้ว บวกกับฝีมือทำอาหารอันล้ำเลิศของซูต้าหลิน รูปร่างของหล่อนจึงเสียไปอย่างไม่กลับคืน
“ปิดเทอมฤดูร้อนนี้สวี่เชิ่งเหม่ยไม่กล้ามาที่นี่เลยค่ะ ขนาดคุณแม่ยังถามหา” โจวเสี่ยวเหมยพูด
“ให้ท่านถามไปเถอะ ตอบสองประโยคก็พอ” หลินชิงเหอพูดอย่างไม่สนใจ
โจวเสี่ยวเหมยพยักหน้า หล่อนรู้ว่าสวี่เชิ่งเหม่ยไม่มีหน้าจะมาที่นี่อีกแล้ว ก็ให้อยู่บ้านตระกูลจ้าวดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกัน
สำหรับสวี่เชิ่งเฉียงนั้น ที่จริงโจวเสี่ยวเหมยอยากจะพูดสักสองประโยคว่าให้เขาตัดความสัมพันธ์กับจางเหมยเหลียนไปเสีย แต่มาคิด ๆ ดูแล้วหล่อนก็ปล่อยผ่าน
ขนาดพี่สาวของเขาเองเป็นคนพูดยังไม่มีประโยชน์เลย หล่อนที่เป็นแค่น้าเล็กพูดไปจะมีประโยชน์อะไร อีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของคน ๆ นั้นเอง
ถ้าสวี่เชิ่งเหม่ยไม่ได้คบหาสมาคมกับจางเหมยเหลียน สวี่เชิ่งเฉียงจะรู้จักหล่อนจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ได้อย่างไร
ตัวเองทำสิ่งใดไว้ ก็จงรับผลกรรมนั้นเองเถอะ
เมื่ออาบน้ำจนสบายกายแล้ว สามีภรรยาสองคู่ถึงเดินกลับบ้านใครบ้านมัน
หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋เดินกลับอะพาร์ตเมนต์ของตนเอง
แต่พอเดินมาถึงหน้าอะพาร์ตเมนต์ พวกเขาก็มองเห็นจางเหมยเหลียนยืนอยู่แล้ว จางเหมยเหลียนมองที่พวกเขาและก้มศีรษะลงต่ำ
ทั้งหลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ไม่แม้แต่จะปรายตามองหล่อน และเดินกลับเข้าบ้านตัวเองโดยไม่พูดอะไรสักคำ
………………………………………………………………………………………………………………………