ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 550 ว่างจนไม่มีอะไรให้ทำเกินไป
บทที่ 550 ว่างจนไม่มีอะไรให้ทำเกินไป
หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋กินข้าวเสร็จก็นั่งอยู่สักพักแล้วจึงกลับไป
โจวข่ายพาเวิงเหม่ยเจี่ยออกไป คุณแม่เวิงมองตามด้วยสายตารักใคร่
หลังจากหมุนตัวกลับ หล่อนก็พูดเรื่องที่ทางตระกูลโจวตกลงแล้วกับลูกชายคนโต
“พรุ่งนี้ลูกออกไปหาซื่อนีก็พาหล่อนไปเดินเล่นเสียหน่อยนะ แม่ได้ยินน้าหลินของลูกบอกว่าหากลูกแฝดของเอ๋อร์นีกลับมา ถึงตอนนั้นหล่อนก็ต้องอยู่ช่วยพวกเขาเลี้ยงเด็ก และอาจจะไม่มีเวลาออกไปกับลูกแล้วนะ มีแค่ตอนนี้เท่านั้นลูกรู้ไหม?” คุณแม่เวิงพูด
เวิงกั๋วต้งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วผมควรเอาอะไรไปฝากดีครับ?”
“เอาแอปเปิลไปถุงหนึ่งก็ได้จ้ะ ปีใหม่ได้กินแอปเปิลชีวิตจะได้อยู่เย็นเป็นสุข” คุณแม่เวิงพูด
เนื่องจากเพิ่งจะเป็นการเริ่มต้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องจัดหนักจัดเต็มอะไร รอให้คบกันอย่างเป็นทางการแล้ว ถึงตอนนั้นของขวัญอะไรที่สมควรให้ถึงจะต้องให้
เวิงกั๋วต้งรับปาก
“ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันนะจ๊ะ อย่าพูดจาใจร้ายเหมือนอยู่กับแม่ล่ะ ลูกก็รู้ว่าซื่อนีเป็นอย่างไร ถ้าเกิดได้แต่งไปแล้ว ต่อไปอาหารสามมื้อของลูกก็จะไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว ไม่อย่างนั้นละก็ทั้งชีวิตนี้ของลูกคงได้กินแต่กับข้าวโรงอาหารแน่นอน” ท่านแม่เวิงเห็นท่าทางไม่สนใจของเขา ก็พูดข่มขู่แบบนี้ออกมา
เวิงกั๋วต้งจนปัญญา เขาพูดว่าเขารู้แล้วไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้นบนพื้นฐานความยินยอมของทุกคน เวิงกั๋งต้งกับโจวซื่อนีก็เริ่มไปมาหาสู่กันแล้ว
โจวซื่อนีไร้ความกังวลใดๆ หล่อนยังรู้สึกชื่นชมในตัวของเวิงกั๋วต้งอย่างมากด้วย คุณแม่เวิงเห็นพวกเขาขยันไปมาหาสู่กันทุกวันก็มีใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม
เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถึงวันที่เจ็ดแล้ว
วันนี้โจวข่ายและเวิงเหม่ยเจี่ยจะต้องนั่งรถกลับไปแล้ว หลินชิงเหอที่ปกตินอนตื่นสายยังลุกขึ้นมาแต่เช้ากับโจวชิงไป๋ผู้เป็นพ่อก็พากันไปส่งพวกเขาที่สถานีรถไฟ
“ถ้ามีเวลาก็กลับมานะลูก อยู่ข้างนอกต้องระมัดระวังความปลอดภัยดี ๆ แล้วก็ลูกต้องดูแลเหม่ยเจี่ยดี ๆ นะ” หลินชิงเหอพูดกำชับเขา
“ผมรู้แล้วครับ ผมจะจำไว้ ม้าวางใจเถอะครับ” โจวข่ายพูด
พวกเขาพูดพร่ำอยู่เช่นนั้นจนถึงเวลาสมควรแล้ว โจวข่ายจึงแบกกระเป๋าของตัวเองและเวิงเหม่ยเจี่ยขึ้นรถไฟไปด้วยกัน
หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ก็ขับรถพาเจ้ารองและเจ้าสามกลับบ้าน
“ตอนนี้มีพี่เหม่ยเจี่ยคอยดูแลพี่ใหญ่ ม้าก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว” โจวเฉวี่ยนพูด
“ใช่ ๆ ” โจวกุยหลายพยักหน้า พวกเขาสองพี่น้องรู้สึกพึงพอใจในตัวเหม่ยเจี่ยว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคตคนนี้มาก เพราะหล่อนทั้งสวยและยังอ่อนโยนใจกว้าง และยังเป็นนางพยาบาลที่รู้จักดูแลคนอื่นอย่างยิ่งด้วย
“ม้าครับตอนนี้ต้องรีบหน่อยแล้วนะ ต้องรีบพยายามกับป๊าของผมขึ้นอีก ส่วนพวกเราก็ไม่ต้องโทรศัพท์ไปด้วย รอให้พี่ใหญ่กลับมาแล้วเห็นท้องแม่ใหญ่ขึ้น พี่เขาจะได้ตะลึงไปเลย!” โจวกุยหลายพูด
“รอไปเถอะเจ้าเด็กดื้อ” หลินชิงเหอส่งเสียงเย็นดังหึ
เดิมทีโจวเอ้อร์นีจะกลับมาวันที่ห้า เนื่องจากหล่อนไม่ค่อยชินเวลาอยู่กับแม่ของหวังหยวน
แต่เพราะทั้งคุณพ่อคุณแม่หวังชอบเด็กแฝดหงส์มังกรของหล่อนมาก จากเดิมที่วางแผนว่าจะกลับมาในวันที่ห้า ต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่สิบแทน
พอกลับมาหล่อนถึงได้รู้ว่าน้องสาวของตัวเองกำลังคบหาดูใจอยู่กับใครคนหนึ่งแล้ว
จนกระทั่งหล่อนเห็นเวิงกั๋วต้ง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หวังหยวนเคยพูดคุยกับเวิงกั๋วต้งแล้วก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไม่เลวเลยคนหนึ่ง
หวังหยวนพาเอ้อร์นีและแฝดชายหญิงนั่งรถมาที่นี่
“อากาศเย็นแบบนี้จะมาที่นี่ทำไมกันจ๊ะ” หลินชิงเหอเชิญคนเข้ามาแล้วก็เอ่ยปาก
“นั่นต้องมาอยู่แล้วครับ น้าสี่กับอาสี่เอาชาดีกลับมาด้วย ผมเพิ่งนึกขึ้นได้” หวังหยวนพูดยิ้ม ๆ
โจวชิงไป๋รับเด็กฝาแฝดหญิงชายที่อยู่ในอ้อมแขนเขามา เพียงครู่เดียวพวกเขาก็ตื่นเสียแล้ว พอลืมตาตื่นพวกเขาก็เล่นเลยทันที หน้าตาดูน่ารักน่าชังมาก
หลินชิงเหอยิ้มพูดขึ้นว่า “มีอะไรหรือจ๊ะ ถ้าเธออยากได้ชาแผ่น [1] นั่นล่ะก็ รอสักครู่หนึ่งนะ เดี๋ยวน้าเอามาให้กลับไปก้อนสองก้อน อ้อ แล้วก็ชาแท่ง [2] ด้วย เอาไปด้วยหนึ่งแท่งนะจ๊ะ”
“ซื้อมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ” หวังหยวนพูด
“น้ายังคิดอยู่เลยว่าปีนี้จะเปิดร้านชาดีไหม” หลินชิงเหอพูด
เธอไม่ได้พูดเล่น ๆ แต่ตนเองมีความคิดที่จะทำอย่างนี้จริง ร้านเหล้าจะเปิดต่อหรือไม่ค่อยว่ากัน แต่ร้านบุหรี่เธอก็ได้เปิดไปแล้ว จะเปิดร้านชาด้วยก็ไม่ถือว่าเกินไปหรอกมั้ง?
อีกทั้งร้านบุหรี่ ร้านเหล้า และร้านน้ำชาก็ยังได้กำไรสูงมากด้วย
“น้าสี่มีหัวการค้าจริง ๆ ” หวังหยวนพูดอย่างอดไม่ได้
หลินชิงเหอหัวเราะ “หัวการค้าอะไรกัน แต่ว่าของพวกนี้ขายง่ายนะ พวกเราแค่ซื้อกลับมาอย่างไรก็ขายอย่างนั้น ซื้อกลับมาเปิดร้านสักร้านก็ถือว่าไม่เลว”
ตัวเองยังได้ดื่มไปด้วยในเวลาเดียวกัน และก็ได้ขายของไปด้วยก็ยังได้
“งั้นต่อไปพวกเราคงจะกลายเป็นลูกค้าประจำของร้านชาแล้วละครับ บ้านของพวกเราชอบดื่มชามาก ถึงตอนนั้นก็ลดราคาให้หน่อยนะครับ” หวังหยวนกลั้วหัวเราะ
“ได้จ้ะ น้าจะลดให้เถ้าแก่หวังสิบจุดเก้าเปอร์เซ็นต์” หลินชิงเหอพยักหน้า
โจวกุยหลายที่อุ้มแฝดคนน้องหยอกเล่นกันอย่างสนุกสนาน หลินชิงเหอพูดกับเขา “หัวเราะเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวน้องจะตกใจแย่”
“น้องตกใจง่ายขนาดนั้นเสียที่ไหนครับ แม่อย่าดูถูกเขานะ โตไปต้องเป็นเด็กที่มีน้ำอดน้ำทนคนหนึ่งแน่ ๆ” โจวกุยหลายพูด
โจวเอ้อร์นีจึงถามเรื่องน้องสาวของหล่อนขึ้นมา
“ใช่จ๊ะ คุณป้าเวิงมาที่นี่และพูดไว้ตั้งนานแล้ว แต่ตอนนั้นอาไม่ได้ตอบตกลง พอหล่อนพูดหลายครั้งเข้า อาเลยใจอ่อนรับปากให้ซื่อนีลองคบหากับเขาดู พวกเธอเคยเห็นเขาหรือยัง” หลินชิงเหอถาม
“เคยเห็นแล้วค่ะ” โจวเอ้อร์นีพยักหน้า
“อายุเยอะไปหน่อย” หวังหยวนก็พูดแบบเดียวกัน นอกนั้นหวังหยวนก็คิดว่าไม่มีอะไรมีปัญหาเลย การพูดการจาสุภาพมาก ไม่ใช่ว่าแบบนั้นไม่ดี เพราะดูแล้วเขาก็ดูซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาดี
“อายุเยอะไปหน่อยก็จริง แต่ก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาสองคน” หลินชิงเหอพูด
เรื่องนี้จึงไม่ถูกนำมาพูดอีก ตกเย็นหวังหยวนกับโจวเอ้อร์นีก็อยู่กินข้าวเย็นกันที่นี่ พอกินเสร็จก็กลับบ้าน
หลินชิงเหอว่างแล้ว ปีนี้เปิดเรียนช้าเล็กน้อยเป็นวันที่ยี่สิบของเดือนนี้ ดังนั้นเธอจึงยังเหลือวันหยุดอีกสิบวัน
หลินชิงเหอคิดอยู่ว่าจะออกไปเที่ยวไกล ๆ สักรอบ อย่างเช่นไปภาคใต้เพื่อดูโรงน้ำชาของทางนั้นดีไหม? สิบวันก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“ไม่รอปิดเทอมฤดูร้อนแล้วค่อยไปล่ะครับ?” โจวชิงไป๋ถาม
“แล้วช่วงนี้คุณวางแผนอะไรไว้ล่ะคะ?” หลินชิงเหอพูด เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไรถึงได้กลายเป็นคนเกียจคร้านไปได้
“แช่น้ำร้อน จุดธูปไหว้พระที่วัด และผมได้ยินว่าปีนี้ที่ชานเมืองจะสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งด้วย” โจวชิงไป๋พูด
“มีลานสเก็ตน้ำแข็งด้วยหรือคะ” หลินชิงเหอพูด
“คนคนหนึ่งที่มากินเกี๊ยวที่ร้านพูดน่ะ” โจวชิงไป๋พูด “แต่ว่าต้นปีนี้คงจะไปไม่ไหว อย่างเร็วก็เป็นน่าจะเป็นประมาณปลายปีนี้”
หลินชิงเหอรู้สึกว่าสิ่งบันเทิงเริ่มจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจริง ๆ มีทั้งสระว่ายน้ำ บ่อน้ำร้อน กระทั่งลานสเก็ตน้ำแข็งก็ยังมีแล้ว
แน่นอนว่ายังมีลานดิสโก้คลับอะไรพวกนั้นด้วย ซึ่งมันก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย แต่ว่าหลินชิงเหอไม่มีความสนใจจะไป และก็ห้ามพวกเด็ก ๆ ไม่ให้ไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากมันวุ่นวายเกินไป
หลินชิงเหอรู้เช่นกันว่าตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาเหมาะสมที่จะไปโรงน้ำชา ต้องรอช่วงปิดเทอมฤดูร้อนก่อนจึงจะกำลังดี
ดังนั้นจึงต้องพักผ่อนอยู่บ้านแล้ว หลังจากเว้นว่างไปหนึ่งวันพวกเขาก็ไปแช่น้ำร้อนซ้อมหยุดเกษียณอย่างสบายใจ
โจวชิงไป๋มอบร้านเกี๊ยวให้เจ้ารองดูแล สำหรับเจ้าสามก็ถือกล้องไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนร่วมชั้นอีกสองคน
“ต่อไปพวกเราก็จะเกษียณแล้ว หรือว่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไปดีคะ?” หลินชิงเหอพูด นั่นไม่ใช่ว่าว่างจนไม่มีอะไรให้ทำเกินไปหรือ?
“รอคุณคลอดลูกสาวของเราแล้ว ก็จะไม่ใช่แบบนี้แล้วล่ะ” โจวชิงไป๋โอบเธอไว้ ฝ่ามือสัมผัสที่ท้องของเธอ
……………………………………………………………………………………………………………………………
[1] ชาแผ่น (饼茶 )
[2] ชาแท่ง (砖茶)
สารจากผู้แปล
แม่คิดจะเปิดร้านน้ำชาอีกแห่งแล้วเหรอคะ ไอเดียบรรเจิดดีจริง ๆ ค่ะ
เมื่อไหร่แม่จะท้องจริง ๆ คะ พ่อกับลูกชายทั้งสามรอนานแล้ว
ไหหม่า(海馬)