ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 578 เปิดเผยและบุคลิกดี
บทที่ 578 เปิดเผยและบุคลิกดี
ตาเฒ่ากับยายเฒ่าเจียงพาเจียงเกิงมาด้วยกัน พวกเขาตามเจ้าสามไปเที่ยวที่ปักกิ่งแล้ว
เจ้าสามพาพวกเขามาหาท่านพ่อท่านแม่โจวที่นี่ เป็นธรรมดาที่ต้องแนะนำให้รู้จักสักหน่อย
ท่านแม่โจวเห็นแล้วดีใจมากเช่นกัน “เจ้าสี่ไปที่โน่นโชคดีที่ได้พวกคุณดูแลแล้วนะคะ”
“อะไรกันคะ พวกเราไม่ได้ช่วยอะไรเลย” ยายเฒ่าเจียงยิ้ม
“ไม่ทราบว่าพวกเขาสองคนอยู่ที่นั่นกันชินแล้วหรือยังคะ?” ท่านแม่โจวถาม
“ชินกันหมดแล้วค่ะ คุณอย่ากังวลไปเลย” ยายเฒ่าเจียงพยักหน้าพูดโดยไม่รู้สึกรำคาญใจแต่อย่างใด
โจวกุยหลายเอารูปถ่ายที่นำกลับมาให้คุณย่าของเขาดู “คุณย่ามาดูนี่สิครับ ป๊ากับม้าของผมไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้อ้วนขึ้นไม่น้อยเลย”
ท่านแม่โจวรับรูปมาดู พอเห็นรูปแล้วก็ดีใจ พูดพลางอมยิ้ม “พวกเขาสองคนไปไกลถึงที่นั่น ไม่มีคนรู้จักเลย ย่าก็กังวลใจเป็นธรรมดา”
โจวกุยหลายไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวลอยู่แล้ว
พ่อของเขาทำให้ทุกอย่าง เขาสามารถขับรถไปตลาดอาหารทะเลไกล ๆ เพื่อไปซื้ออาหารกลับมาได้ มีทั้งกุ้งตัวใหญ่และก็ปลาสด ๆ เอาไปตุ๋นแล้วให้รสชาติสดใหม่เป็นพิเศษ แม่ของเขาถูกพ่อเขาเลี้ยงดูได้ไม่เลวเลย
ท่านพ่อโจวชวนตาเฒ่าเจียงเล่นหมากรุกจีน เล่นหมากไปก็พูดคุยไป พริบตาเดียวก็ใกล้จะถึงมื้อเย็นแล้ว ไม่นานนักโจวเฉวี่ยนกับซื่อนีก็มาถึง
วันนี้สองพี่น้องกังจือกับหู่จือออกไปตั้งแผงขายของอยู่ จึงมาช้าเล็กน้อยและไม่อาจกลับมาเร็ว ดังนั้นเก็บกับข้าวไว้ให้พวกเขาก็พอ
โจวกุยหลายแนะนำยายเฒ่าตาเฒ่าเจียงและก็เจียงเกิงน้องชายบุญธรรมให้รู้จัก โจวเฉวี่ยนก็พยักหน้าทักทายเช่นกัน “เจ้าสามพรุ่งนี้นายไปดูแลร้าน ฉันจะพาพวกคุณตาไปเที่ยวดูรอบ ๆ เอง”
“ได้เลย” โจวกุยหลายตอบรับ
มัคคุเทศก์นำเที่ยวจึงกลายเป็นแจ้ารองไป เขาพาตาเฒ่าเจียง ยายเฒ่าเจียง และเจียงเกิงเที่ยวรอบเมืองปักกิ่งรอบหนึ่ง
พวกเขาพักอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ไม่ได้ไปพักโรงแรมอยู่
หลังจากนั้นสามวัน โจวเฉวี่ยนก็พาตาเฒ่าเจียง ยายเฒ่าเจียง และเจียงเกิงกลับมาที่เซี่ยงไฮ้
แม้ว่าจะเหนื่อยไปสักหน่อย แต่สองตายายกลับรู้สึกเต็มอิ่มและมีความสุขมาก เจียงเกิงยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เซี่ยงไฮ้ที่นี่ก็เป็นเมืองใหญ่เช่นกัน แต่อันดับหนึ่งก็ยังคงเป็นปักกิ่ง ที่นี่เองพวกเขาได้เห็นจัตุรัสกว้างใหญ่ของเทียนอันเหมินตามรูปภาพในหนังสือ แล้วก็กำแพงพันลี้(กำแพงเมืองจีน)
พี่ชายรองของเขายังถ่ายรูปให้ด้วยไม่น้อย และให้เก็บไว้เป็นความทรงจำ
เพราะว่ามีตาเฒ่าเจียงคอยนำทางขณะเดินทางมาที่นี่ โจวเฉวี่ยนจึงเพียงแค่เดินตามพวกเขามาเท่านั้น รอจนเมื่อมาถึงแล้ว เขาถึงได้เห็นว่าพ่อและแม่ของเขาสบายดีไม่ได้ขาดเหลืออะไร
ตอนที่เขามาถึง แม่ของเขากำลังกินเกี๊ยวกุ้งอยู่ ซึ่งในเกี๊ยวอัดแน่นด้วยกุ้งตัวใหญ่และดูสดใหม่มาก ๆ เนื่องจากโจวชิงไป๋ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปซื้อกลับมา
“ป๊าครับ ม้าครับ” หลังจากก้าวเข้ามาเพียงหนึ่งก้าว โจวเฉวี่ยนก็ตะโกนเรียกด้วยรอยยิ้ม
หลินชิงเหอพูดอย่างแปลกใจ “กลับมาเร็วขนาดนี้เลย? ปู่เจียงของลูกยังเที่ยวได้ไม่กี่วันเอง?”
เจียงเกิงเข้ามาพร้อม ๆ กัน ขณะที่ปู่กับย่าของเขานั้นขอกลับบ้านไปก่อนแล้ว พอได้ยินประโยคนี้ก็พูดขึ้นว่า “แม่บุญธรรม พวกเราเที่ยวมาสามวันแล้วครับ สถานที่ท่องเที่ยวเด่นก็ไปมารอบหนึ่งแล้ว ทั้งยังถ่ายรูปไว้ตั้งหลายใบ”
“งั้นก็ได้จ้ะ” หลินชิงเหอยิ้ม
“ไปเรียกปู่กับย่าของเธอมากินข้าวก่อนสิ” โจวชิงไป๋เปิดปากพูด
“เดี๋ยวผมไปเรียกให้ครับ” เจียงเกิงพยักหน้าพูด และเดินไปเรียก โจวชิงไป๋จึงเดินเข้าไปทำอาหารในห้องครัว โจวเฉวี่ยนนั่งลงข้างแม่ของเขา แล้วมองไปที่ท้องของเธอ
พวกเขาสามคนโตกันหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังเด็กก็เกิดใกล้ ๆ กัน เขาไม่เคยเห็นสภาพตอนที่ท้องของแม่เขาโตเลย ตอนนี้กลับได้เห็นแล้วเสียอย่างนั้น
“ตอนนี้แม่ดูทั้งอ้วนทั้งน่าเกลียดเลยใช่ไหม?” หลินชิงเหอส่งเกี๊ยวกุ้งให้ลูกชายคนรอง และเอ่ยพลางถอนหายใจเบา ๆ
“ผมได้ยินเจ้าสามพูดแล้ว ท้องม้าใหญ่ขึ้นไม่น้อย แต่ม้ากลับยังสวยอยู่เลย ตอนแรกผมก็ยังไม่เชื่อ พอได้มาที่นี่ผมถึงเชื่อแล้วว่าเป็นความจริง มีบางคนที่ต่อให้ท้องแล้วไม่สวยเลยก็มี” โจวเฉวี่ยนกินเกี๊ยวกุ้ง แล้วพูดราวกับว่าเป็นเรื่องใหญ่
หลินชิงเหอหัวเราะแล้วว่าเขา “เจ้ารองของม้าท่าทางดูดีมีคุณธรรม แต่กลับไม่พูดความจริงสักประโยค”
เจ้าสามก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้ว่าภายนอกเขาจะดูขี้เล่น แต่ขอเพียงมีเวลาเขาก็จะชมเธอ บอกว่าเธอสวย บอกว่าเธอตอนท้องนั้นดูดีจนแทบไม่ไหว
แม้ว่าจะเป็นเพียงคำยกยอ แต่เมื่อได้ฟังทำไมถึงจะไม่รู้สึกรื่นหูกันเล่า?
“ทั้งหมดผมพูดเรื่องจริงนะครับ” โจวเฉวี่ยนพูดยิ้ม ๆ
หลินชิงเหอพูด “ไปอาบน้ำก่อนเถอะ อีกประเดี๋ยวก็จะกินมื้อเย็นกันแล้ว”
โจวเฉวี่ยนถือกระเป๋าเข้าไปเก็บ แล้วก็หยิบเสื้อผ้าใหม่ไปเปลี่ยนด้วย หลังจากนั้นก็เดินไปอาบน้ำ ส่วนหลินชิงเหอยังรู้สึกอยากอาหารอยู่จึงกินเกี๊ยวกุ้งต่อ
ทุก ๆ วันถ้าเธอไม่กินเธอก็จะนอน เรียกได้ว่านอนอืดอย่างจริงจัง
แต่อากาศในตอนนี้กำลังร้อนอบอ้าว ทุก ๆ วันเธอจะอยากออกไปเดินเล่นบ้างในตอนเช้าหรือเย็นเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่อยากออกไปไหนเลย
ตาเฒ่ายายเฒ่าเจียงพาเจียงเกิงมาด้วย แน่นอนว่าพวกเขาอาบน้ำกันหมดแล้ว หลังจากนั้นจึงเดินมาที่นี่
โจวชิงไป๋ทำบะหมี่ชามใหญ่ให้พวกเขาคนละชาม ใส่ทั้งมะเขือเทศและไข่ ทั้งยังมีกุ้งและเนื้อหมูด้วย
“ฉันนึกว่าพวกคุณจะเที่ยวอีกสองสามวันเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะกลับมาแล้ว” หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋กินกันแล้ว ตอนนี้จึงนั่งมองพวกเขากินกัน
“เจ้ารองอยากพาพวกเราไปเที่ยวที่อื่นด้วย แต่ว่าอากาศช่วงนี้มันร้อนน่ะ เดินเก็บความทรงจำสักสองสามทีก็พอ ในอนาคตค่อยไปก็ได้” ตาเฒ่าเจียงพูด
“แถมพี่สาวก็มีน้ำใจมาก พวกเราไปกันยังเชือดไก่ต้อนรับพวกเราด้วย” ยายเฒ่าเจียงพูดด้วยรอยยิ้ม
นางอายุน้อยกว่าท่านแม่โจว จึงเรียกอีกฝ่ายว่าพี่สาว
หลินชิงเหอก็พอจะรู้ว่านางหมายถึงใคร จึงพยักหน้าพูด “แขกไปถึงแล้วยังไงก็ควรที่จะเชือดไก่ต้อนรับน่ะค่ะ” จากนั้นจึงถามเจียงเกิงต่อ “ให้พี่รองเขาพาเธอไปเดินดูมหาวิทยาลัยปักกิ่งบ้างไหมจ้ะ?”
“ครับ พี่เขายังถ่ายรูปที่ซุ้มประตูใหญ่เก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย” เจียงเกิงสูดบะหมี่ แล้วก็พูดพร้อมยิ้มไปด้วย
พอกินข้าวที่นี่อิ่มแล้ว เจียงเกิงจึงขอตัวกลับ แต่เขาได้พูดกับโจวเฉวี่ยนแล้วว่าพรุ่งนี้จะมากินข้าวเช้าที่นี่ พอกินเสร็จแล้วจะพาเขาไปเดินเที่ยว
รองผู้ว่าการเจียง เซวียเหม่ยลี่ และลูกสาวคนเล็กต่างอยู่ที่บ้าน พวกเขายังคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าลูกชายจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามานั้นจึงทำให้พวกเขาอึ้งไปสักพักหนึ่ง
“ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ ปู่กับย่าลูกกลับมาไหม?” เซวียเหม่ยลี่ถาม
“กลับมากันหมดเลยครับ คุณปู่คุณย่าท่านเหนื่อยแล้ว เลยไม่ได้มาที่นี่ครับ” เจียงเกิงพูดก่อนจะวางกระเป๋าเป๋ด้านหลังลง ในมือยังถือถุงใบหนึ่งเอาไว้ด้วย ภายในเป็นของขึ้นชื่อของปักกิ่งที่พี่ชายรองของเขาซื้อมาฝาก
“ไปทำอาหารอร่อย ๆ ให้เขากินเถอะ” รองผู้ว่าการเจียงพูด
“ผมกินมาแล้วครับ พ่อบุญธรรมทำบะหมี่ให้กินชามใหญ่เลย ใส่ทั้งกุ้งทั้งเนื้อทั้งไข่ นี่ยังอิ่มอยู่เลยครับ” เจียงเกิงพูด หลังจากนั้นก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋านักเรียน “ตอนผมไปที่นั่น พี่ชายรองกับพี่ชายสามแย่งออกเงินให้หมดเลยครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเลย นี่ครับผมคืนให้แม่”
“ทั้งพาไปเที่ยวทั้งพาไปกิน ไหนจะซื้อของมาฝากอีก น่าเกรงใจจริง ๆ ” เซวียเหม่ยลี่พูดขึ้นอย่างรู้สึกเกรงใจมาก
“ผมก็รู้สึกเกรงใจเหมือนกัน แต่พี่ชายรองกับพี่ชายสามกลับบอกว่ามาปักกิ่งทั้งทีจะให้ผมออกเงินเองได้ยังไง” เจียงเกิงพูดพลางลูบศีรษะป้อย
เขาชอบบ้านของพ่อกับแม่บุญธรรมมาก แล้วก็บรรดาพี่ชายบุญธรรมที่ทั้งเปิดเผยทั้งบุคลิกดีอีก
…………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เจ้ารองติดนิสัยปากหวานมาจากเจ้าสามหรือเปล่าเนี่ย ปกติไม่ค่อยชมใครนะ
ครอบครัวอบอุ่นมากเลยค่ะตอนนี้
ไหหม่า(海馬)