ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 153 โชคชะตาลิขิต
ตอนที่ 153 โชคชะตาลิขิต
ตอนที่ 153 โชคชะตาลิขิต
ขณะนี้มีลูกค้าอยู่ข้างในไม่มากนัก ชายชราหน้าตาจริงจังกำลังตัดผมให้ลูกค้าชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เด็กสาววัยเดียวกันกับเธอกำลังกวาดพื้น มีพนักงานและเด็กฝึกงานหลายคนอยู่ข้างหลัง ทุกคนดูเหมือนว่างงานกันหมดแล้ว
ชายชราที่กำลังยุ่งอยู่กับงานคนนี้คืออดีตเจ้านายของเธอ เขาเป็นคุณลุงที่เข้มงวดแต่ใจดี
เมื่อหญิงสาวกวาดเศษเส้นบนพื้นเสร็จ ก็เดินออกมาเพื่อเอาขยะมาทิ้ง หลินเซี่ยจึงเข้าไปหยุดหล่อนไว้
“ชุนฟาง”
ชุนฟางหันกลับมา พอเห็นผู้หญิงที่มีบุคลิกโดดเด่นสวมหน้ากากยืนอยู่ ก็มองดูอีกฝ่ายแล้วถามว่า “ใครคะ?”
หลินเซี่ยค่อย ๆ ดึงหน้ากากลง
“เสิ่นอวี้อิ๋ง?” ชุนฟางทักทายด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”
“ฉันมาตามหาเธอโดยเฉพาะ” หลินเซี่ยยิ้มและแนะนำตัวเองอีกครั้ง “เสิ่นอวี้อิ๋งคือชื่อเก่าของฉัน ตอนนี้ฉันเปลี่ยนมาใช้ชื่อหลินเซี่ยแล้ว”
ชุนฟางรีบเดินเข้ามาหา มองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เธอสบายดีไหม? ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกส่งตัวกลับไปอยู่ชนบท ฉันคิดจะเขียนจดหมายถึงเธออยู่แล้วเชียวแต่ไม่รู้ที่อยู่ เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ยินมาว่าเธอแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่กล้าถามคำถามเพิ่มเติมกับหลิวลี่ลี่อีกต่อไป ดีใจจริง ๆ ที่ได้เจอเธออีกครั้ง”
“ฉันก็ดีใจมากที่ได้เจอเธออีกครั้ง” หลินเซี่ยเหลือบมองประตูร้านตัดผมแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ใกล้ถึงเวลาเลิกงานหรือยัง? ฉันมีอะไรจะคุยกับเธอเยอะแยะเลย”
ชุนฟางตอบว่า “ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง”
“ถ้าอย่างนั้นรีบกลับเข้าไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวฉันจะเดินเล่นแถวนี้รอ ฉันไม่ได้มาที่นี่นานมาก คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ไว้เลิกงานแล้วเราค่อยไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”
“ได้”
ชุนฟางกลับเข้าไปในร้านตัดผม หลินเซี่ยจึงสวมหน้ากากอีกครั้ง และเดินไปตามถนนใกล้เคียงเพียงลำพัง
ถนนสายนี้ถือเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในไห่เฉิง บรรยากาศคึกคักไปด้วยร้านขายเสื้อผ้าและร้านอาหาร
เธอเคยมาเดินเที่ยวที่นี่บ่อยมากหลังจากเลิกงาน เมื่อได้กลับมาหลังจากเกิดใหม่ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
หลินเซี่ยเดินไปรอบๆ บริเวณนั้นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เธอจึงไปรอชุนฟางที่หน้าร้านตัดผมของรัฐ
ทันทีที่มาถึงประตูร้านตัดผม ก็เห็นผู้หญิงน่ารำคาญคนหนึ่งบราวนี่ออนไลน์
หลิวลี่ลี่กำลังดุชุนฟางที่กำลังเตรียมตัวเก็บของหลังเลิกงาน
“ทำความสะอาดเสร็จแล้วเหรอ? จะรีบร้อนเลิกงานไปไหนกัน?”
เมื่อเผชิญหน้ากับหลิวลี่ลี่ผู้หยิ่งยโส ชุนฟางก็เอาแต่ก้มหน้าลงแล้วพูดเสียงสั่นเทาว่า “ฉันทำงานทั้งหมดเสร็จแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นงานของเธอ”
“นี่กล้ายอกย้อนฉันเหรอ? หมายความว่าจะไม่ยอมทำอะไรเพิ่มแล้วหรือไง?”
หลิวลี่ลี่ออกคำสั่ง “เข้าไปทำความสะอาดหมวกอบร้อนทั้งสองใบในร้านซะ มีอ่างสระผมด้วย ไปล้างให้เสร็จแล้วค่อยเลิกงาน”
ชุนฟางไม่กล้าปฏิเสธ ได้แต่ประนีประนอมอย่างไม่เต็มใจ “อืม”
แต่ในขณะที่หล่อนกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน
“ชุนฟาง” หลินเซี่ยเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและร้องเรียกหล่อนไว้ “ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ไปกันเถอะ”
เมื่อได้ยินเสียงของหลินเซี่ย หลิวลี่ลี่และชุนฟางก็หันกลับมาพร้อมกัน
เมื่อหลิวลี่ลี่เห็นเธอ หล่อนก็มีท่าทางเข้าสู่โหมดแข็งกร้าวพร้อมต่อสู้เหมือนไก่ชน
ชุนฟางละล่ำละลักขอโทษ “หลินเซี่ย ขอโทษนะ ฉันยังมีงานต้องทำอีกนิดหน่อย รอฉันอีกสักพักแล้วกัน”
“ถ้ามันไม่ใช่งานในความรับผิดชอบของเธอ งั้นก็ไม่ต้องทำ” หลินเซี่ยคว้ามือหล่อนแล้วจูงให้เดินตามออกไป
หลิวลี่ลี่มาขวางทางพวกเธอไว้ “หลินเซี่ย เธออีกแล้วเหรอ? มาทำอะไรที่นี่? ฉันจะบอกอะไรให้นะว่าเธอโดนไล่ออกตั้งนานแล้ว อย่าได้คิดที่จะกลับมาเหยียบที่นี่อีก”
หลังจากพูดอย่างนั้น หล่อนก็มองไปทางชุนฟางด้วยสีหน้าดุร้าย ตวาดว่า “เธอก็เหมือนกัน รีบกลับเข้าร้านไปทำความสะอาดต่อเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฟ้องเจ้านายว่าเธอขี้เกียจ”
หลินเซี่ยมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัวพลางเยาะเย้ย “ที่นี่คือร้านตัดผมของรัฐ ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนี้เธอเองก็เป็นแค่เด็กฝึกงาน แถมยังได้มาทำงานที่นี่เพราะเส้นสาย แล้วไปเอาความมั่นหน้าจากไหนมาชี้นิ้วสั่งคนอื่นให้ทำนั่นทำนี่ ?”
หลินเซี่ยหันไปพูดกับชุนฟางว่า “ชุนฟาง เข้าไปบอกเจ้านายของเธอเถอะว่าหลิวลี่ลี่เป็นคนรับผิดชอบทำความสะอาดหมวกอบร้อนทั้งสอง ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ ถ้าพวกมันพังขึ้นมา ก็ไม่ใช่เธอที่เป็นคนทำ เธอไม่จำเป็นต้องมาตามล้างตามเช็ดในความผิดที่เธอไม่ได้ก่อนะ”
ถ้าจำไม่ผิด มันก็มีเหตุผลอยู่ว่าทำไมหลิวลี่ลี่ถึงขอให้ชุนฟางเช็ดทำความสะอาดหมวกอบร้อนทั้งสองใบที่หล่อนพูดถึง
นั่นก็เพราะหล่อนซุ่มซ่ามมากจนทำหมวกอบร้อนพัง จึงต้องการเกลี้ยกล่อมให้ชุนฟางเป็นคนไปทำความสะอาดต่อจากตัวเอง เพื่อที่หล่อนจะได้หาข้อแก้ตัวในวันพรุ่งนี้ โยนความผิดว่าชุนฟางเป็นคนสุดท้ายที่แตะต้องมัน
สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในชาติที่แล้ว
ตอนนั้น เธอกลับไปที่ร้านตัดผมและหลิวลี่ลี่ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ
หลิวลี่ลี่กล่าวโทษชุนฟางเสีย ๆ หาย ๆ จนในที่สุดชุนฟางก็ไม่ได้รับค่าจ้างจากการฝึกงานเป็นเวลาสองเดือน
หลินเซี่ยคาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนี้ ที่เธอได้กลับมาเจอเหตุการณ์นั้นอีกครั้งเมื่อตัดสินใจกลับมาที่ร้านตัดผม
บางที นี่อาจเป็นโชคชะตาลิขิตก็เป็นได้
“เธอ…” หลิวลี่ลี่มองไปที่หลินเซี่ยด้วยความหวาดกลัวและไม่อยากจะเชื่อ
หล่อนรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนทำหมวกอบร้อนพัง?
ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว อย่าบอกนะว่าหล่อนถอดจิตออกมาแอบดูความเป็นไปในร้านได้?
ชุนฟางไม่กล้าขยับไปไหน คิดว่าหลินเซี่ยแค่พูดส่ง ๆ ไปอย่างนั้น
“ไปเถอะ เลิกงานแล้ว ไว้พรุ่งนี้เราค่อยกลับมาคุยกับเจ้านายที่หลังก็ได้ ยังไงมันก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเธอ เพราะเธอไม่เคยแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ” เธอรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน
ร้านตัดผมของรัฐถือเป็นร้านขนาดใหญ่ เด็กฝึกงานมักจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหมวกอบร้อนคนละสองเครื่อง แบ่งชัดเจนว่าใครรับผิดชอบเครื่องไหน
นั่นเป็นเหตุผลที่หลิวลี่ลี่ต้องการให้ชุนฟางช่วยเช็ดหมวกอบร้อนที่ตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อที่หล่อนจะได้หาเรื่องตำหนิอีกฝ่ายในวันพรุ่งนี้
หลินเซี่ยโอบแขนไว้รอบไหล่ของชุนฟาง จากนั้นก็พาชุนฟางออกไปทันที
หลิวลี่ลี่เรียนรู้บทเรียนจากครั้งที่แล้ว จึงไม่กล้าไล่ตามออกไป ทำได้เพียงกระทืบเท้าเร่า ๆ ด้วยความโกรธ
หล่อนทำอะไรหลินเซี่ยไม่ได้ก็จริง แต่จะทำอะไรชุนฟางไม่ได้เชียวเหรอ?
มาดูกันว่าวันพรุ่งนี้หล่อนจะจัดการกับแม่หัวอ่อนชุนฟางคนนั้นยังไง
หลินเซี่ยออกมาจากร้านตัดผมของรัฐ มองไปที่ชุนฟางและพูดอย่างจริงใจ “ชุนฟาง เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“ใช่แล้ว ไม่เจอกันมานานมากจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าเธอจะจากไปเร็วขนาดนี้” ชุนฟางมองหน้าเธอแล้วถามด้วยความสงสัย “ได้ยินมาว่าตอนนี้เธอแต่งงานแล้ว เป็นเรื่องจริงเหรอ?”
“เป็นเรื่องจริง”
หลินเซี่ยมองหล่อน ดวงตาเปล่งประกายด้วยความมั่นใจ “นอกจากฉันจะแต่งงานแล้ว เดี๋ยวนี้ฉันยังเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเองด้วยนะ”
ชุนฟางประหลาดใจ “เธอเปิดร้านแล้วเหรอ?”
สีหน้าของหล่อนก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ตอนที่ได้ยินว่าเธอเปิดร้านเป็นของตัวเอง พวกเขาต่างไม่เชื่อและประหลาดใจ
ดูเหมือนต้องการจะถามว่า ด้วยทักษะของเธอแล้ว เธอยังกล้าเปิดร้านอีกเหรอ?
หลินเซี่ยย่อมเข้าใจว่าชุนฟางหมายความว่าอะไร เพราะช่วงเวลานี้ สิ่งที่เธอต้องเผชิญมากที่สุดก็คือสีหน้าไม่เชื่อถือแบบเดียวกับชุนฟาง
เธออธิบาย “หลังจากที่ฉันออกจากร้านตัดผมของรัฐ ฉันมีโอกาสได้เจอสไตลิสต์ที่มาจากฮ่องกง ฉันฝากตัวขอเรียนกับเขาได้สองเดือน ไม่นานทักษะก็พัฒนาจนกลายเป็นมืออาชีพแล้ว ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาฉันตัดผมให้ลูกค้าหลายคนเลยล่ะ กระแสตอบรับดี มีทรงผมหลากหลาย เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่าย”
ชุนฟางคลี่ยิ้มอย่างเชื่องช้า รู้สึกทึ่งหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ
แม้ว่าหลินเซี่ยจะเข้ามาทำงานในร้านตัดผมเร็วกว่าเธอตั้งครึ่งปี แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเด็กฝึกงานเท่ากัน ไม่มีโอกาสได้ขยับขึ้นเป็นพนักงานประจำเลย หลังจากเรียนรู้ใหม่ภายในสองเดือน เธอกลับมั่นใจฝีมือจนเปิดร้านเองเชียวเหรอ?
“มาเถอะ ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมชมร้านของฉันหน่อย ตอนนี้ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่เก็บรายละเอียดเท่านั้น”
หลินเซี่ยพาชุนฟางไปที่ร้านเสริมสวยของตัวเอง
ชุนฟางมองดูการตกแต่งภายในร้านที่ใหม่เอี่ยมและทันสมัย อุปกรณ์ทำผมต่าง ๆ รวมถึงเก้าอี้ระดับไฮเอนด์ หล่อนก็มองหลินเซี่ยด้วยสายตาชื่นชม “หลินเซี่ย เธอเก่งมากเลย”
ไม่ว่าฝีมือที่แท้จริงของเธอจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยถ้าเปิดร้านเองได้ก็นับว่าเยี่ยมแล้ว
สำหรับตัวหล่อนเอง นี่ถือเป็นความฝันที่ตนไม่กล้าคิดฝันมาก่อน
“ชุนฟาง วันนี้ที่ฉันไปหาเธอ ไม่ใช่แค่เพื่อพูดคุยระลึกความหลังแค่อย่างเดียว”
หลินเซี่ยดึงหล่อนให้นั่งลง จากนั้นมองหล่อนอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ฉันอยากชวนเธอออกมาทำงานที่ร้านตัดผมของฉันด้วย”
“หา? ฉันเหรอ?” ชุนฟางชี้ไปที่ตัวเอง
“ใช่ ฉันจะจ่ายเงินเดือนให้เธอเดือนละหนึ่งร้อยหยวนในช่วงทดลองงานสามเดือน หลังจากนั้นพอเธอกลายเป็นพนักงานเต็มตัว ฉันจะให้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเป็นค่าตัดผมและดัดผมที่เธอสามารถทำได้ในแต่ละวัน รายได้จะมากกว่านั้นอีก ต่อมาเราค่อยเปิดสาขาใหม่ แล้วรับสมัครเด็กฝึกงาน มุ่งหน้าสู่การเปิดโรงเรียนเสริมสวยอย่างจริงจัง”
ชุนฟางก้มหน้าลงและพูดด้วยน้ำเสียงเคอะเขิน “หลินเซี่ย ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์นึกถึงฉัน แต่ฉันไม่กล้าลาออก จริง ๆ แม่ของฉันไหว้วานขอให้ใครหลายคนช่วยฝากฉันเข้าทำงานที่นั่น แม้ว่าตอนนี้ฉันจะเป็นเพียงเด็กฝึกงานและไม่มีเงินเดือน แต่ถ้าออกจากงาน ฉันจะเป็นแค่ลูกจ้างทั่วไปที่ไม่มีความมั่นคงเลย”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โดนเอาคืนแล้วยัยลี่ลี่ คราวนี้ก็ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีๆ แล้วกัน ไม่มีแพะมาให้รับผิดแทนแล้วนะ
ชุนฟางจะตัดสินใจเป็นลูกมือของเซี่ยเซี่ยไหมนะ
ไหหม่า(海馬)
—————————————–