ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 363 ไม่ว่าจะอย่างไรก็ย่อมยอมรับเป็นพ่อ
ตอนที่ 363 ไม่ว่าจะอย่างไรก็ย่อมยอมรับเป็นพ่อ
ตอนที่ 363 ไม่ว่าจะอย่างไรก็ย่อมยอมรับเป็นพ่อ
หู่จือตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินว่าลุงเซี่ยมีคนรักแล้ว จึงรีบวิ่งกระโดดโลดเต้นออกไป ด้วยต้องการเห็นหน้าผู้เป็นอาสะใภ้
หนึ่งครอบครัวสามคนออกเดินทางไปก่อนเวลา ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในลานบ้าน หลินเซี่ยก็ได้ยินเสียงแม่เฒ่าเซี่ยกำลังเรียกขานอิงจื่อ
เฉินเจียเหอพลันมุนคิ้วเล็กน้อย พลางเอ่ยถามหลินเซี่ย “คุณแม่ก็อยู่ด้วยเหรอครับ?”
หลินเซี่ยเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ค่ะ วันนี้แม่เป็นแม่ครัว”
เมื่อน้องชายน้องสาวพาคนรักมาที่บ้าน พี่ใหญ่และพี่สะใภ้จึงทำอาหารต้อนรับ
ส่วนพวกเด็ก ๆ กินให้อิ่มอร่อยก็พอ ครอบครัวของพวกเขาเป็นแบบนั้น
หลินเซี่ยซึ่งยืนอยู่ในลานบ้านตระกูลเซี่ยได้กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาจากห้องครัว และเมื่อเห็นสองร่างกำลังยุ่งอยู่ข้างในผ่านหน้าต่าง ในตอนนั้นเองเธอพลันรู้สึกว่าได้กลับบ้านแล้วอย่างแท้จริง
ความรู้สึกสบายใจไร้วิตกกังวลเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากที่อื่น
ทันใดนั้นเอง หลิวกุ้ยอิงที่สวมผ้ากันเปื้อนได้เดินออกมาพร้อมปลาในกะละมัง บอกว่าต้องการมาล้างปลานอกลานบ้าน
“แม่คะ กำลังทำกับข้าวอยู่หรือคะ?” หลินเซี่ยเดินเข้าไปถามด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นลูกสาวและลูกเขย หลิวกุ้ยอิงก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา จึงอธิบายว่า “คุณย่าของลูกบอกว่าวันนี้มีแขกมาที่บ้าน เหล่าเซี่ยเพียงคนเดียวรับมือไม่ไหว จึงเอ่ยปากขอให้แม่มาช่วย”
หลินเซี่ยเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำเรียกขานที่แม่ใช้เอ่ยถึงผู้เป็นพ่อ
ดูจากคำเรียกขานกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งสองเข้ากันได้ดีและคุ้นเคยกันมากขึ้น
หู่จือเดินตามหลังหลิวกุ้ยอิงไป และเฝ้าดูหล่อนตักน้ำใส่กะละมัง จากนั้นจึงเริ่มขูดเกล็ดปลา เด็กชายกลืนน้ำลายแล้วถามว่า “คุณยาย คุณยายจะทำปลาเหรอครับ?”
“ใช่จ้ะ ทำปลาให้เธอกิน”
“สุดยอดไปเลยครับ ผมชอบกินหัวปลาเป็นที่สุด”
หลินเซี่ยต้องการช่วย แต่หลิวกุ้ยอิงไม่ยอม โดยกล่าวบอกว่ามันคาวเกินไป ไม่ยอมให้เธอยื่นมือเข้ามา
“ลูกไม่ต้องทำ เดี๋ยวแม่ล้างเอง ในครัวมีกับข้าวอีกหลายอย่าง แม่กลัวกลิ่นคาวปลาจะกระทบกับจานอื่น ๆ จึงนำออกมาล้างข้างนอก”
เฉินเจียเหอพับแขนเสื้อแล้ววิ่งไปล้างมือที่ก๊อกน้ำ ก่อนเข้าไปในครัวเพื่อช่วยทำอาหาร
เซี่ยเหลยมอบหมายหน้าที่เด็ดผักให้เขา เฉินเจียเหอคล่องแคล่วว่องไวอย่างยิ่ง ทั้งยังพูดคุยกับเซี่ยเหลยในขณะที่ช่วยทำกับข้าวอีกด้วย
เซี่ยเหลยซึ่งกำลังตุ๋นไก่ เหลือบมองเฉินเจียเหอเป็นครั้งคราว และเมื่อเห็นว่าเขาขยันขันแข็ง ใช้การได้ สีหน้าของเซี่ยเหลยจึงค่อย ๆ อ่อนลง
เขาถามเฉินเจียเหอว่า “เซี่ยเซี่ยกับหู่จือก็มาแล้วเหรอ?”
“ครับ อยู่ที่ลานบ้าน”
“ดี”
แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรมากมายนัก ทว่านัยน์ตาของเขาก็เป็นประกาย
การได้ทำอาหารให้พวกเขากินทำให้รู้สึกสุขล้นอยู่ในใจ
แม่เฒ่าเซี่ยเองก็พอใจมากเช่นกันเมื่อเห็นว่าหลานเขยนั้นทั้งใช้การได้ทั้งรู้ความ
“เซี่ยเซี่ย หลานมีสายตาเฉียบแหลมจริง ๆ ที่สามารถหาผู้ชายดี ๆ แบบนี้ได้ หน้าที่การงานก็ดี นิสัยก็ดี แถมยังทำอาหารได้อีกด้วย สมบูรณ์แบบจริง ๆ”
เมื่อแม่เฒ่าเซี่ยกล่าวจบ นางก็มองไปทางประตูอีกครั้งแล้วถอนหายใจ
“ไม่รู้ว่าคุณอาของหลานจะพาผู้ชายแบบไหนมา หากเป็นคนที่รู้ความแบบเจียเหอก็ดีไป อย่าเห็นว่าคุณอาของหลานอายุอานามไม่ใช่น้อย แต่หล่อนเองมีชื่อเสียงตั้งแต่เด็ก ๆ ตลอดหลายปีมานี้ได้รับคำชมเชย รวมถึงการปรนนิบัติพัดวีอยู่เสมอ ข้างในของหล่อนจึงยังเป็นสาวน้อยเอาแต่ใจ ซ้ำยังขาดทักษะในการใช้ชีวิต หล่อนต้องหาผู้ชายที่มีความเป็นผู้ใหญ่สักหน่อยเพื่อมารับมือกับตัวเอง”
หลินเซี่ยได้ยินคุณย่าเอ่ยบอกเช่นนั้นก็ยิ่งสงสัยใคร่รู้
แท้จริงแล้วคนรักของเซี่ยอวี่คือใครกันแน่?
ประเด็นคือแท้จริงแล้วเป็นคนรักจริง ๆ หรือไม่?
การที่หล่อนสละโสดได้ภายในหนึ่งวัน ทำให้หลินเซี่ยรู้สึกอยู่ตลอดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเสียเท่าใด
แน่นอนว่าเธอไม่กล้าเอ่ยกระทบหญิงชรา จึงทำได้เพียงเกี่ยวแขนคุณย่าแล้วทำท่าทางออดอ้อนเท่านั้น
“คุณย่าคะ พวกเรามาตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันดีกว่าค่ะ สายตาของคุณอาต้องไม่แย่แน่นอน”
แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยตอบอย่างภูมิใจว่า “นั่นก็ถูก หล่อนเป็นคนหัวสูงทีเดียว เมื่อหลายปีก่อนมีนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในฮ่องกงตามจีบหล่อนอย่างหนัก แต่หล่อนกลับนิ่งเงียบไม่รับไมตรี มาคราวนี้จู่ ๆ ก็ตอบตกลงรับคำสารภาพรักจากชายคนนี้ อีกฝ่ายจะต้องเป็นดั่งมังกรหงส์เพลิงในหมู่คน ไม่เช่นนั้นคงไม่เข้าตาคุณอาของหลาน”
หลินเซี่ยพยักหน้ารับ “คุณย่าพูดถูกค่ะ”
แท้จริงแล้วจะเป็นมังกรหงส์เพลิงแบบไหนกันนะ?
หลินเซี่ยชะเง้อคอมองไปยังหน้าประตู รอคอยด้วยความร้อนรุ่มใจ
ก่อนหญิงสาวจะเอ่ยถามหญิงชรา
“แล้วอารองล่ะคะ ผู้หญิงที่เขาชอบเป็นคนที่ไหน?”
“ฮ่องกง”
แม่เฒ่าเซี่ยเขยิบเข้ามาใกล้หลินเซี่ย พลางกระซิบกระซาบอย่างมีลับลมคมใน “จะแอบบอกให้ก็ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือผู้จัดการส่วนตัวของคุณอาของหลาน”
“อย่างนั้นเหรอคะ?” ไม่แปลกใจเลยที่แม้แต่เฉินเจียเหอก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
หากเป็นคนฮ่องกงแล้วล่ะก็ เป็นไปได้ที่พวกเขาจะไม่รู้ถึงเรื่องคนที่เซี่ยไห่ชอบ
หญิงชรายังแอบเปิดเผยเรื่องของเซี่ยไห่อีก
“เขาเคยไม่ทันระวังแล้วบังเอิญไปเห็นหล่อนอาบน้ำเข้า บางทีอาจเป็นตอนนั้นก็ได้ที่เขาชอบหล่อน”
มุมปากของหลินเซี่ยพลันเหยียดตรงหลังได้ยินดังนั้น
ดูคนอาบน้ำ?
ทำไมเรื่องประหลาดแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเซี่ยไห่อยู่ร่ำไป?
ได้ยินมาว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเซี่ยตงดึงทึ้งกางเกงของเขา ทำให้ทั้งสองตัดญาติขาดมิตรกันอยู่นานหลายปี
นี่เขายังไปบังเอิญเห็นคนอาบน้ำเมื่อครั้งอยู่ฮ่องกงอีก?
อีกฝ่ายน่าจะคิดอยากฆ่าเขาเสียมากกว่า แต่เขากลับยังชอบหล่อนอีกอย่างนั้นหรือ?
หลินเซี่ยเริ่มคาดเดาอย่างใจแคบว่ารูปร่างของอีกฝ่ายคงดีมาก เซี่ยไห่จึงเริ่มชอบหล่อนจากรูปร่างหน้าตาอย่างนั้นหรือ?
แม่เฒ่าเซี่ยเห็นสีหน้าลุ่มลึกของหลินเซี่ยที่ดูราวกับกำลังกลั้นยิ้มก็พลันกลัวว่าหลินเซี่ยจะมีมุมมองแง่ลบกับเซี่ยไห่ จึงยกยิ้มพร้อมเอ่ยเสริมให้ครบถ้วน “เอาเป็นว่าอารองของหลานถือเป็นคนมีความรับผิดชอบคนหนึ่ง เมื่อไปเห็นเขาอาบน้ำแบบนั้นแล้วก็ย่อมต้องรับผิดชอบใช่ไหมล่ะ”
“ค่ะ ไปดูเขาแล้วก็ต้องรับผิดชอบ”
หลังจากฟังถ้อยคำของหญิงชรา เสียงซุบซิบในใจของหลินเซี่ยก็ร่ำร้องลุกโพลงขึ้นมา หญิงสาวอยากจะเห็นคนรักของเซี่ยอวี่และเซี่ยไห่อย่างมาก
เธอเดินไปเดินมาในลานบ้านด้วยความร้อนใจ “คุณย่าคะ ทำไมพวกเขาถึงยังไม่กลับมาอีกล่ะคะ?”
แม่เฒ่าเซี่ยกังวลไม่ต่างกัน นางเองก็ต้องการพบลูกเขยและลูกสะใภ้โดยเร็ว
หญิงชราระบายยิ้มพลางเอ่ย “ครั้งนี้คุณอาของหลานตกหลุมรักจริง ๆ จึงเป็นฝ่ายไปรับหนุ่มน้อยคนนั้นด้วยเอง นี่ก็ผ่านมาเป็นครึ่งวันแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมาถึง”
เฉินเจียเหอเด็ดผักเสร็จแล้ว ก็เห็นหลิวกุ้ยอิงเข้ามาในครัวและเริ่มหั่นผัก ส่วนเซี่ยเหลยตุ๋นเนื้อเสร็จแล้วก็เริ่มทำอาหารจานปลา
พ่อตาและแม่ยายดูเข้าขากันเป็นอย่างดี ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง เขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พลันรู้สึกว่าตัวเองเป็นก้างขวางคอขวางหูขวางตาคนทั้งคู่ จึงถอยออกมาอย่างรู้งานว่าควรต้องทำตัวอย่างไร
และเป็นเพราะเมื่อครู่ได้รับคำชมเชยจากแม่เฒ่าเซี่ย หัวใจของเฉินเจียเหอจึงเบิกบานมากเสียจนไม่อาจอยู่เฉยและต้องการหาอะไรทำ
เขาเริ่มจากรดน้ำดอกไม้ใบหญ้าในลานบ้าน จากนั้นก็เอ่ยขอให้หญิงชราช่วยหากรรไกรมาตัดแต่งดอกไม้และต้นไม้ และเริ่มตัดแต่งกิ่ง
หู่จือเฝ้ารอมาอย่างยาวนานจนแทบจะรอให้เซี่ยไห่กลับมาพร้อมคนรักไม่ไหว เดิมทีเด็กชายหมดความอดทนอยู่แล้ว เมื่อเห็นเฉินเจียเหอทำงาน เขาจึงติดตามผู้เป็นพ่อไปเก็บกิ่งต้นตงชิงที่ถูกตัด
แม่เฒ่าเซี่ยมองดูเฉินเจียเหอและหู่จือที่ทำงานอย่างรักใคร่เอ็นดู มีความสุขเสียเต็มประดา
หลินเซี่ยมองเฉินเจียเหอที่ทำตัวเหมือนเด็กเมื่อได้รับคำชมเชยก็ขยันขันแข็งขึ้นมา มุมปากของหญิงสาวพลันกระตุกขึ้นเบา ๆ
ชายหนุ่มวัยสามสิบคนนี้ทำไมถึงไม่โตสักนิดเลยนะ?
เหมือนเด็กมากจริง ๆ
“คุณย่าคะ อารองก็ไปรับผู้หญิงคนนั้นด้วยเหรอคะ?”
แม่เฒ่าเซี่ยกล่าวว่า “ใช่จ้ะ ย่าบอกกล่าวให้เขาขับรถไปรับเธอ แต่ดูเหมือนว่าอารองของหลานจะยังไม่ได้เจาะหน้าต่างกระดาษกับผู้หญิงคนนั้น เมื่อหล่อนมาแล้ว พวกเราก็เอ่ยชื่นชมอารองของหลานให้มากหน่อย บอกว่าเขามีความสามารถ ทั้งยังเก่งกาจในเรื่องธุรกิจ ถึงอย่างไรก็ห้ามเอ่ยถึงเรื่องที่เขาแอบดูหล่อนอาบน้ำนะ”
“คุณย่า วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่พูดเรื่องเหลวไหลพรรค์นั้นหรอก”
เซี่ยเหลยกับหลิวกุ้ยอิงทำกับข้าวกับปลาใกล้เสร็จแล้ว แม่เฒ่าเซี่ยจึงกลับเข้าไปในบ้านเพื่อต่อสายหาเซี่ยอวี่
เซี่ยอวี่บอกว่าหล่อนกำลังเดินทางมา อีกไม่นานก็จะถึงบ้านแล้ว
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็สาวเท้าเล็ก ๆ พร้อมตะโกนไปทางหลินเซี่ยด้วยความตื่นเต้น “เซี่ยเซี่ย หล่อนบอกว่าใกล้จะมาถึงแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมเร็ว”
หลินเซี่ยตะโกนบอกสองพ่อลูกที่กำลังทำงาน “พวกคุณพอแล้วค่ะ รีบมาล้างมือเถอะ พวกคุณอา…พวกเขาใกล้จะมาถึงแล้ว”
ด้วยกลัวว่าเซี่ยเหลยจะได้ยิน หลินเซี่ยจึงต้องคอยระมัดระวังสรรพนามเรียกขาน เธอย่อมไม่มีทางเรียกเซี่ยอวี่ว่าคุณอา ทว่าบางครั้งก็มารู้ตัวในวินาทีสุดท้าย
ยังเหลืออีกสามวันในการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดา
เมื่อผลการตรวจสอบออกมา ไม่ว่าจะอย่างไรเธอย่อมยอมรับเขาเป็นพ่อ
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เอ็นดูพี่เหอมากเลยค่ะ ต่อให้จะอยู่วัยเลขสามแล้วก็มีมุมเป็นเด็กได้เหมือนกัน
ไหหม่า(海馬)