ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 409 ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับบุคคลต้นแบบ
ตอนที่ 409 ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับบุคคลต้นแบบ
ตอนที่ 409 ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับบุคคลต้นแบบ
หลี่เหม่ยเฟิ่งเห็นว่าเซี่ยอวี่จ้องมองอาหารบนโต๊ะอย่างตะลึงงัน หล่อนจึงพลันรีบอธิบาย “เสี่ยวไป๋บอกว่าคุณกลัวน้ำหนักขึ้น ดังนั้นวันนี้ฉันเลยเตรียมอาหารที่รสชาติไม่ค่อยจัดนัก ฉันถามนักโภชนาการมาแล้วว่าอาหารเหล่านี้กินแล้วไม่อ้วน คุณกินอย่างสบายใจได้เลย”
ความรู้สึกอุ่นซ่านอวลขึ้นในหัวใจของเซี่ยอวี่ หล่อนมองหลี่เหม่ยเฟิ่งพลางยิ้มและกล่าว “ขอบคุณนะคะ”
“รีบนั่งลงเถอะ”
หลี่เหม่ยเฟิ่งมองดูอาหารบนโต๊ะและแนะนำ “คุณเซี่ยอวี่ ฉันอ่านในหนังสือพิมพ์มาว่าคุณเป็นคนเมืองไห่เฉิงที่ไปพัฒนาตนเองในฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อน งั้นคุณก็น่าจะกินอาหารเมืองไห่เฉิงได้ ฉันจึงตั้งใจเตรียมอาหารสองอย่างมาโดยเฉพาะน่ะค่ะ”
เซี่ยอวี่ยิ้มพลางกล่าว “ขอบคุณสำหรับความเอาใส่ใจนะคะ ฉันเป็นคนเมืองไห่เฉิงและฉันชื่นชอบอาหารของที่นี่มากค่ะ”
“แม่ พี่ใหญ่ของเซี่ยอวี่ก็คือคุณเซี่ยเหลยพ่อของหลินเซี่ย ไม่ใช่ว่าวันนั้นแม่ไปร้านอาหารของเขาหรอกเหรอ? เขาเองก็ทำอาหารเมืองไห่เฉิง เป็นรสชาติที่คุ้นเคยทั้งนั้นเลยนะครับ”
ได้ยินคำพูดนี้ของเย่ไป๋ เย่เจิ้งหัวและหลี่เหม่ยเฟิ่งต่างก็ประหลาดใจ “หา? อย่างนี้ก็หมายความว่าเซี่ยอวี่คืออาของหลินเซี่ยเหรอ?”
เย่ไป๋พยักหน้า “ใช่ครับ”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกแกมีโอกาสได้รู้จักกัน”
หลี่เหม่ยเฟิ่งเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างชัดเจน จากนั้นรู้สึกวางใจ
ที่แท้รู้จักกันผ่านเฉินเจียเหอและหลินเซี่ย
เช่นนั้นก็เชื่อถือได้อย่างแน่นอน
“คุณเซี่ยเหลยเป็นพี่ใหญ่ของคุณงั้นเหรอ? ช่างเป็นโชคชะตาที่วิเศษจริงๆ” เมื่อเอ่ยถึงเซี่ยเหลย สีหน้าของเย่เจิ้งหัวเต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส “พี่ใหญ่คุณเป็นวีรบุรุษที่ยอดเยี่ยมมาก”
“ค่ะ เขายอดเยี่ยมมาก”
ในใจของเย่เจิ้งหัวรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเย่เชี่ยน “เสี่ยวเชี่ยน ไปเอาไวน์แดงที่ห้องหนังสือของฉันมา วันนี้พวกเรามาดื่มกันสักหน่อย”
เย่เชี่ยนหยิบไวน์แดงซึ่งเป็นของสะสมของพ่อหล่อนออกมา
สิ่งนี้คือของขวัญจากเพื่อนนักเขียนของพ่อหล่อน กล่าวว่าเป็นไวน์ต่างประเทศ ทำให้พ่อของหล่อนรู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่ยอมดื่มมาโดยตลอด
สิ่งนี้สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าพ่อของหล่อนให้ความสำคัญกับการที่พี่ใหญ่พาแฟนสาวคนนี้กลับมาบ้านเป็นอย่างมาก
เย่ไป๋รินไวน์ให้กับทุกคน เย่เจิ้งหัวเป็นฝ่ายเริ่มหยิบแก้วขึ้น “คุณเซี่ยอวี่ ยินดีต้อนรับที่คุณมากินข้าวที่บ้านของพวกเรานะครับ”
เซี่ยอวี่หยิบแก้วไวน์ขึ้นและพยักหน้า “ขอบคุณทุกคนนะคะ”
ยิ่งผู้คนภายในตระกูลเย่จริงใจมากเท่าไร ภายในใจของหล่อนก็ยิ่งตื่นตระหนกมากเท่านั้น
เย่เจิ้งหัวมองลูกชายและเซี่ยอวี่ จากนั้นยิ้มพลางกล่าว “เย่ไป๋คบหากับคุณได้ ทำให้ตระกูลของพวกเรามีความสุขมาก พวกคุณคบหาดูใจกันดีๆ หากเขาทำอะไรไม่ดีตรงไหน คุณบอกพวกเราได้ทันทีเลย พวกเขาจะสั่งสอนเขาและให้เขาปรับเปลี่ยนเอง”
สีหน้าของเซี่ยอวี่ดูอึดอัดเล็กน้อย “เขาดีมากเลยค่ะ”
เย่เจิ้งหัวมองดูลูกชายด้วยสายตาที่ยากจะปกปิดความภาคภูมิใจ “เย่ไป๋เองก็โดดเด่นมาก ตั้งแต่เด็กเขาก็ไม่เคยทำให้กังวลเลย เรื่องเรียนก็ไม่เคยทำให้พวกเราต้องกังวล หลังจากสอบเรียนแพทย์ก็เรียนต่อปริญญาเอก ไม่ต้องเอ่ยเรื่องธุรกิจเลย ถือเป็นแพทย์เฉพาะทางที่อายุน้อยที่สุดภายในแผนกประสาทวิทยา เขาจบปริญญาเอกโดยใช้ระยะเวลาไม่ถึงสองปี ตลอดหลายปีมานี้เขาเรียนหนังสือและศึกษาทักษะทางการแพทย์ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร
ถึงอายุของเขาจะไม่น้อยแล้ว แต่พวกฉันก็กลัวว่าจะทำให้เขาเสียศูนย์ เลยไม่กล้ากดดันเขา และเคารพความต้องการของเขา ไม่อยากให้เขาต้องรีบเลือกเพราะอายุ วันนี้เห็นเขาพาแฟนกลับมาบ้านแล้วพวกเรารู้สึกมีความสุขมาก”
“เห็นได้ว่าพวกคุณทั้งสองคนฉลาดและมีความรู้เป็นอย่างมาก” คำพูดเมื่อครู่นี้ของเย่เจิ้งหัวนั้นสะกิดเซี่ยอวี่เป็นอย่างมาก
หล่อนเข้าใจเหตุผลที่เย่ไป๋โสดมาจนถึงตอนนี้แล้ว
ที่แท้เขาก็เรียนถึงระดับปริญญาเอก จึงใช้เวลาและพลังงานทั้งหมดไปกับการเรียนและการศึกษาทักษะทางการแพทย์
หล่อนมองเย่ไป๋ด้วยสายตาชื่นชมเล็กน้อย
นี่คือหนุ่มหล่อมากความสามารถอย่างแท้จริง
“เรื่องความฉลาดนั้นไม่ต้องกล่าวแล้ว”
เย่เจิ้งหัวมองดูคู่รักชายหญิงที่กำลังนั่งอยู่ข้างกัน สีหน้าแสดงถึงความยินดี “ในเมื่อพวกคุณดึงดูดเข้าหากันและกันแล้ว หลังจากนี้จะต้องอดทนและประคับประคองกันและกัน หากเย่ไป๋ทำอะไรไม่ถูกต้องก็พูดออกมาได้เลยและให้เขาปรับปรุงตัว”
เซี่ยอวี่ไม่ได้ตอบรับ หล่อนเพียงยิ้มเล็กน้อยพลางมองเย่ไป๋
เย่ไป๋ตอบรับด้วยเสียงจริงจัง “พ่อครับ พวกเราจะจำใส่ใจไว้ พ่อวางใจเถอะ”
อาจเป็นเพราะกลัวเซี่ยอวี่จะอึดอัด ดังนั้นเย่ไป๋จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
เอ่ยถึงเรื่องการประกวดนางงามของพวกหล่อน
เจียงอวี่เฟยกำลังรับฟังครอบครัวคุณลุงพูดคุยกับลูกพี่ลูกน้องชายของหล่อนและเซี่ยอวี่อย่างตั้งใจ แต่เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการประกวดนางงาม สีหน้าของหล่อนก็มืดมนลงในทันใด จากนั้นทอดถอนหายใจ
เซี่ยอวี่เห็นสีหน้าหดหู่ของเจี่ยงอวี่เฟย จึงเอ่ยถามอย่างกังวล “อวี่เฟย ฉันได้ยินเซี่ยเซี่ยบอกว่าพ่อของคุณไม่ยินยอมให้เข้าร่วมการแข่งขันต่อเหรอ?”
“อือ”
เจี่ยงอวี่เฟยพยักหน้าด้วยความหดหู่ “ค่ะ”
เซี่ยอวี่ให้กำลังใจหล่อน “คุณจะยอมแพ้ไม่ได้ เหลือการแข่งขันรอบสุดท้ายแล้ว คุณเป็นตัวเต็งเลยนะ ทุกคนต่างก็ชื่นชอบคุณมาก คุณจะต้องสู้ด้วยตนเอง”
เจียงอวี่เฟยพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจนัก “ค่ะ”
หลี่เหม่ยเฟิ่งกล่าว “คุณเซี่ยอวี่ คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันกับลุงของอวี่เฟยจะไปพูดคุยกับลุงเจียงเอง ไม่มีทางปล่อยให้อวี่เฟยถอนตัวออกจากการแข่งขันช่วงสำคัญเช่นนี้”
“มีพวกคุณออกหน้าให้ ฉันก็วางใจแล้วค่ะ”
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เย่เชี่ยนก็เอ่ยถามความคิดเห็นของเซี่ยอวี่อย่างระมัดระวัง “พี่เซี่ยอวี่ พวกเราถ่ายรูปได้หรือเปล่าคะ? วันนี้มีความสุขมาก ฉันรู้สึกประทับใจมาก ฉันอยากถ่ายรูปกับคุณเก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ”
เซี่ยอวี่ชะงักชั่วขณะ จากนั้นยิ้มพลางตอบรับ “ได้เลย”
เย่เชี่ยนรีบวิ่งไปยังห้องนอนและหยิบกล้องถ่ายรูปที่เพิ่งซื้อใหม่ออกมา จากนั้นให้เย่ไป๋ถ่ายรูปให้หล่อนกับเซี่ยอวี่
เมื่อหลี่เหม่ยเฟิ่งเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หล่อนเองก็เดินไปส่องกระจกและจัดทรงผม “ถ่ายให้พวกฉันสักหนึ่งรูปด้วย”
เย่เจิ้งหัวมองท่าทางรีบร้อนเช่นนี้ของพวกหล่อน จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“พวกคุณไม่ต้องรีบร้อน หลังจากนี้คุณเซี่ยก็จะมาบ้านพวกเราบ่อยๆแล้ว อย่าทำเหมือนจะมีโอกาสได้พบกันเพียงแค่ครั้งนี้เลย”
เมื่อเย่เจิ้งหัวกล่าวเช่นนี้ เย่ไป๋ที่กำลังถือกล้องถ่ายรูปพลันจ้องมองผู้หญิงคนนั้นและกดถ่ายรูปให้กับแม่และน้องสาวโดยไม่รู้ตัว
หวังว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
เย่เชี่ยนยืนอยู่ด้านข้างเซี่ยอวี่ เอียงศีรษะเข้าหาหล่อนเล็กน้อย “การพบกันครั้งแรกของพวกเรานั้นมีความสุขมาก บ้านของพวกเรามีกล้องถ่ายรูปพอดี ถ่ายให้ฉันหนึ่งภาพ พรุ่งนี้พวกเราจะนำไปล้างและนำมาวางไว้ภายในบ้าน”
เย่เชี่ยนและหลี่เหม่ยเฟิ่งผลัดกับถ่ายรูปกับเซี่ยอวี่ เย่เชี่ยนหยิบกล้องถ่ายรูปไปจากมือของเย่ไป๋ จากนั้นกล่าว
“พี่คะ พี่เองก็มายืนตรงนี้เถอะค่ะ ฉันจะถ่ายรูปให้พี่กับพี่เซี่ยอวี่สักรูปหนึ่ง”
เย่ไป๋ชำเลืองมองเซี่ยอวี่และเห็นว่าใบหน้าของหล่อนยังประดับด้วยรอยยิ้ม ไม่มีร่องรอยของความไม่พอใจ ดังนั้นเขาเดินไปยืนข้างกายหล่อน
เย่เชี่ยนโบกมือให้กับเย่ไป๋ “พี่คะ พี่ขยับเข้ามาใกล้อีกหน่อย วางมือโอบไหล่ของพี่เซี่ยอวี่ด้วย พวกคุณเป็นคู่รักกัน ไม่ต้องอายหรอก”
เย่ไป๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกแขนขึ้นและวางลงบนไหล่ของเซี่ยอวี่
เสียงแชะดังขึ้น ภาพอันงดงามพลันหยุดนิ่ง
……………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะมีคนหวั่นไหวกับความสัมพันธ์นี้เพิ่มหรือเปล่านะ
ไหหม่า(海馬)