ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 438 ทำไมฉันต้องมานั่งดูแลแฟนเธอด้วย?
ตอนที่ 438 ทำไมฉันต้องมานั่งดูแลแฟนเธอด้วย?
ตอนที่ 438 ทำไมฉันต้องมานั่งดูแลแฟนเธอด้วย?
เฉินเจียเหอคิดว่าจะถามเซี่ยไห่เกี่ยวกับสถานการณ์ของอู๋เซิ่งหง แต่พอหลินเซี่ยได้ยิน ก็หงุดหงิดรำคาญขึ้นมาทันที
เซี่ยไห่ไม่ชอบหน้าอู๋เซิ่งหงเอาซะเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสนใจที่เขามีต่อโครงการ
ถ้าเฉินเจียเหอไปถามเขา คนอย่างเซี่ยไห่จะพูดอะไรบ้าง?
“บอกตามตรงนะ อารองของฉันคิดว่าเถ้าแก่อู๋เป็นแค่คนบ้านนอก และคิดว่าเขาไม่มีกำลังทรัพย์มากพอ เขาเลยไม่เห็นด้วยกับการลงทุนของฉัน”
หลินเซี่ยกลัวว่าเฉินเจียเหอจะตัดสินคนอย่างผิวเผินเหมือนกันกับเซี่ยไห่ ดังนั้นเธอจึงเล่าประวัติความเป็นมาของอู๋เซิ่งหงให้เขาฟังอย่างละเอียด
“เขาเกิดในพื้นที่ชนบทก็จริง เติบโตจากอาชีพช่างก่อสร้างมาเป็นผู้รับเหมารายย่อย แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมา เขาคอยติดตามกระแสความนิยมแห่งกาลเวลาและไขว่คว้าโอกาสในการพัฒนาโครงการเล็ก ๆ หลายโครงการ ซึ่งงานทั้งหมดประสบความสำเร็จอย่างมาก เขาไต่เต้าขึ้นจากล่างสุดขึ้นมาทีละขั้น ภาพลักษณ์ภายนอกจึงยังเป็นคนติดดินและเรียบง่ายเหมือนกันกับฉัน เพียงแต่ภาพลักษณ์ในอุดมคติของนักธุรกิจที่น่าเชื่อถือสำหรับอารองไม่ใช่แบบเขา ดังนั้นอารองจึงมีอคติต่อเถ้าแก่อู๋ ต่อให้คุณไปถามเขาก็ไม่ได้อะไรกลับมาหรอกนอกจากคำค่อนแขวะ”
เฉินเจียเหอได้ยินแบบนี้ จึงพูดว่า “งั้นผมไม่ถามเขาก็ได้ ผมจะติดต่อเพื่อนที่ทำงานด้านธุรกิจคนอื่น ๆ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ แล้วค่อยตัดสินใจเรื่องลงทุนอีกครั้ง”
เฉินเจียเหอไม่ได้คัดค้านอย่างออกนอกหน้า ปากบอกว่าจะไม่ยอมให้เธอลงทุน แต่กลับจริงจังมากในการทำความเข้าใจและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ ทำให้หลินเซี่ยรู้สึกประทับใจมากที่เขามีทัศนคติอย่างนี้
ในเวลาเดียวกัน เธอก็กังวลมาก เพราะกลัวว่าเฉินเจียเหอจะไม่เห็นด้วยกับการลงทุนของเธอหลังจากรู้เรื่องทั้งหมด
แต่ในตอนนี้ เธอไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอของเขาตรง ๆ ได้ ทำได้เพียงพูดว่า “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปหาคำตอบจากเพื่อนคนอื่นเถอะ”
หลินเซี่ยอยากนัดเจอเซี่ยอวี่จึงโทรหาหล่อน เซี่ยอวี่บอกว่าตอนนี้หล่อนกำลังดูแลเย่ไป๋อยู่ในโรงพยาบาล
เฉินเจียเหอเองก็นัดเจอเซี่ยไห่ พวกเขาทั้งหมดไปเยี่ยมเย่ไป๋ และหลินเซี่ยก็ไปกับเขาด้วย
เซี่ยไห่ถือถุงของฝากใบใหญ่ใบเล็ก ด้านในบรรจุไปด้วยอาหารเสริมบำรุงร่างกายต่าง ๆ
เมื่อพวกเขามาถึงห้องพักผู้ป่วย เย่ไป๋กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนเตียงเพื่อจิบยา และเซี่ยอวี่กำลังหั่นผลไม้ให้เขา
ทันทีที่เซี่ยไห่เข้ามา เขาเห็นเซี่ยอวี่กำลังหั่นผลไม้ด้วยตัวเอง เขาก็เดาะลิ้นสองครั้ง แล้วอุทาน
“ไอ้หยา ดาราสาวของเราน้ำใจงามขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย? หมอเย่โชคดีมากที่ได้กินผลไม้ที่พี่สาวผมหั่น”
เย่ไป๋มีรอยยิ้มบนใบหน้า ดูเหมือนคนที่ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยความรัก อารมณ์เต็มไปด้วยความเบิกบานใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเข็มที่หลังมือ คงไม่มีใครรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
หลินเซี่ยมองดูฉากตรงหน้าอันเงียบสงบนี้ด้วยสีหน้าละเอียดอ่อน
หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันครั้งนี้ บางทีทั้งสองคนอาจจะได้รับสิ่งที่ไม่คาดคิดคืนกลับมาก็ได้
เซี่ยไห่วางกล่องอาหารเสริมต่าง ๆ ในมือของเขาลง จากนั้นก็ยกนิ้วให้เย่ไป๋ “พี่เขย นายนี่สมกับที่เป็นพี่เขยของฉันจริง ๆ!”
เย่ไป๋ส่งยิ้มตอบอย่างอบอุ่น เห็นได้ชัดว่าคำชมเชยของเซี่ยไห่ที่มีต่อเขานั้นค่อนข้างจะเป็นประโยชน์กับเขามาก
“หมอเย่ ฉันได้ยินมาว่านายยอมต่อสู้ไม่หวั่นตัวตายกับนักเลงร่างกำยำสามคนเพื่อช่วยพี่สาวฉัน และนายก็พยายามปกป้องเธออย่างเต็มที่ แต่นายกลับถูกแทงซะเอง พอรู้ข่าวฉันก็ตกใจมาก นายนี่มันลูกผู้ชายของแท้”
หลังจากที่เซี่ยไห่พูดจบ เขาก็มองไปที่เซี่ยอวี่และพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พี่สาว เธอเห็นแล้วนี่ว่าหมอเย่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะช่วยเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของหมอเย่ หยุดคิดอะไรที่ไม่เข้าท่าได้แล้ว”
เซี่ยไห่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งคู่เป็นของปลอม แต่ตอนนี้เขากลับหวังว่าพี่สาวจะพิจารณามันอย่างรอบคอบ ทำให้มันกลายเป็นความจริงและทะนุถนอมคนตรงหน้าให้มาก
เย่ไป๋สามารถปกป้องเซี่ยอวี่ได้ด้วยชีวิต ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขามีเซี่ยอวี่อยู่ในใจ
เซี่ยอวี่ถือมีดปอกผลไม้อยู่ในมือ มองเซี่ยไห่พลางกลอกตา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญว่า “นายมาที่นี่เพื่อเยี่ยมคนเจ็บ ทำไมเอาแต่ส่งเสียงดังอยู่ได้”
“ได้ๆๆ ฉันจะไม่พูดอะไรแล้วก็ได้ เธอกลับไปคิดเอาเองก็แล้วกัน”
เซี่ยไห่หยิบกระป๋องอาหารเสริมต่าง ๆ ที่เขาซื้อมา และพูดกับเย่ไป๋ด้วยความกังวล “หมอเย่ นี่เป็นอาหารเสริมและสารบำรุงร่างกายที่ฉันซื้อมาฝาก ทั้งหมดนี้ล้วนดีต่อการเสริมสร้างกระดูกและบำรุงเลือด นายเป็นหมอ น่าจะรู้เรื่องพวกนี้ดีกว่าฉัน งั้นดูเอาและเลือกกินเอาเองแล้วกัน”
เย่ไป๋มองไปที่ฉลากต่าง ๆ บนกองบรรจุภัณฑ์อาหารเสริม ริมฝีปากของเขากระตุกเล็กน้อย แต่ก็ยังขอบคุณอีกฝ่ายอย่างสุภาพ “ขอบคุณเถ้าแก่เซี่ยที่เป็นธุระเสียเงินซื้อ”
หลินเซี่ยและเฉินเจียเหอถือถุงผลไม้เข้ามาฝาก หลินเซี่ยยังยกนิ้วโป้งให้เย่ไป๋ และชมเชยเขาโดยไม่ลังเล “หมอเย่ คุณทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากเลยค่ะ”
“อย่าพากันชมเหมือนเป็นเรื่องน่ายกย่องเลย เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่จะต้องปกป้องแฟนตัวเอง”
เย่ไป๋พูด จากนั้นหันมองหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาเปี่ยมรัก
เซี่ยอวี่ “…”
พออยู่ต่อหน้าเฉินเจียเหอและหลินเซี่ย เขาแสดงละครตบตาได้แนบเนียนขนาดนี้เชียวเหรอ?
การแสดงออกของเย่ไป๋เป็นธรรมชาติมากเหมือนไม่ได้เล่นละครอยู่
ถ้าเซี่ยไห่ไม่รู้เรื่องราววงใน เขาก็คงเกือบจะเชื่อแล้ว
“นายพูดถูก เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ผู้ชายอย่างเราจะต้องปกป้องแฟนสาว หมอเย่เป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นมาตรฐานสำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ เกิดเป็นชายควรปกป้องแฟนให้ดี นี่คือสหายที่มีจิตสำนึกและมีความรับผิดชอบสูง เจียเหอ นายหัดเรียนรู้เรื่องพวกนี้จากหมอเย่เข้าไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเซี่ยเซี่ยในอนาคต นายต้องเป็นคนแรกที่ก้าวออกไปเพื่อคุ้มครองหลอน”
เซี่ยไห่มองเย่ไป๋ด้วยความชื่นชม พูดอย่างจริงใจต่อไปว่า “พี่เขย นายเป็นคนดีมาก พี่สาวฉันเลือกคบคนไม่ผิดเลย”
เซี่ยอวี่ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป หล่อนกลอกตาอย่างไร้คำพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืนและพูดกับเซี่ยไห่ว่า “ในเมื่อนายชื่นชมวีรกรรมของเขามากมายขนาดนั้น งั้นวันนี้ฉันจะให้นายอยู่และดูแลเขา ฉันต้องขอตัวกลับก่อน มีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ”
เซี่ยไห่ร้อนรนทันที “ทำไมฉันต้องมานั่งดูแลแฟนเธอด้วยล่ะ?”
เซี่ยอวี่มองเขา และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เขาเป็นพี่เขยของนายไม่ใช่หรือไง? น้องเขยดูแลพี่เขย ก็ถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากพูดจบ เซี่ยอวี่ก็หยิบกระเป๋าถือขึ้นมา แล้วพูดกับหลินเซี่ย
“เซี่ยเซี่ย ไปเถอะ พาฉันไปดูสินค้าที่เธอซื้อมาหน่อย”
“ได้ค่ะ” หลินเซี่ยยังกังวลว่าเธออาจไม่มีโอกาสได้อยู่ตามลำพังกับอาหญิงของเธอเสียแล้ว ไม่คิดว่าอาหญิงจะมีไหวพริบขนาดนี้
เธอพูดกับเฉินเจียเหอ “ฉันกับคุณอาหญิงขอตัวก่อนนะ เสร็จธุระแล้วคุณก็กลับบ้านได้เลย ฉันขอไปจัดการธุระตัวเองก่อน”
“อืม”
ก่อนที่เซี่ยอวี่จะออกไป หล่อนก็ไม่ลืมบอกเซี่ยไห่ว่า “อย่าลืมป้อนผลไม้ให้เขาด้วยล่ะ”
…
เซี่ยอวี่และหลินเซี่ยเดินออกมาจากแผนกผู้ป่วยใน เมื่อพยาบาลในโรงพยาบาลหลายคนเห็นเซี่ยอวี่ พวกหล่อนต่างก็หันไปกระซิบกระซาบกัน
หลินเซี่ยได้ยินพวกเขาพูดถึงเซี่ยอวี่ว่าอาจจะเป็นแฟนสาวของหมอเย่ บางคนยังจดจำหล่อนได้ในฐานะนักแสดงหรืออะไรสักอย่าง
เซี่ยอวี่สวมแว่นกันแดด ใส่รองเท้าส้นสูง เดินเฉิดฉายผ่านพวกเขาไปอย่างมีสง่าราศี
เห็นได้ชัดว่าหล่อนคุ้นเคยกับเสียงซุบซิบนินทาเหล่านั้นแล้ว
หลังออกจากโรงพยาบาล หลินเซี่ยยิ้มและพูดกับเซี่ยอวี่
“คุณหมอเย่เป็นคนที่กล้าหาญและมีความรับผิดชอบมากจริง ๆ ไม่บ่อยนักที่จะหาผู้ชายซึ่งไว้ใจได้แบบนี้ คุณอา คุณต้องรักษาเขาไว้ให้ดีนะคะ”
เซี่ยอวี่ปรับระดับแว่นกันแดดของหล่อน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เซี่ยเซี่ย คิดจะพูดอะไรกันแน่?”
หลินเซี่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อาหญิงคะ ที่จริงฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณกับคุณหมอเย่มีข้อตกลงแสดงละครตบตาผู้ใหญ่กันอยู่ แต่คุณไม่เคยคิดที่จะคบหากับเขาจริง ๆ จัง ๆ บ้างเลยเหรอคะ? เขาเป็นคนดีและซื่อสัตย์จริง ๆ คุณเองก็คงมองออกว่าเขาคิดยังไงกับคุณ”
“เด็กเมื่อวานซืนอย่างเธอจะไปรู้อะไรเรื่องผู้ใหญ่”
เซี่ยอวี่เดินไปข้างหน้า เมื่อไปถึงริมถนน หล่อนก็หยุดเดินและพูดกับหลินเซี่ย
“ฉันยังไม่แวะไปที่ร้านเธอตอนนี้หรอก ไว้เจอกันตอนเปิดร้านอย่างเป็นทางการที่เดียว เราไปนั่งคุยกันที่สวนสาธารณะดีกว่า”
“ได้ค่ะ”
พวกเธอทั้งสองเดินไปที่สวนสาธารณะ หาเก้าอี้ใต้ต้นไม้ร่มรื่นสำหรับนั่งลง เซี่ยอวี่มองหน้าหลินเซี่ย และถามอย่างจริงจังว่า “เธอบอกทางโทรศัพท์ว่าอยากยืมเงินสามแสนหยวนจากฉัน เธอพูดจริงหรือแค่ล้อเล่น ทำไมถึงได้บ้าบิ่นนัก?”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หมอเย่ก็น่าพิจารณาไว้นะคะอาหญิง หายากนะผู้ชายที่มีครบเครื่องแบบนี้
สามแสนหยวนสมัยนั้นถือว่าเยอะมากนา หมื่นหยวนนี่ก็ถือว่ารวยกันแล้ว
ไหหม่า(海馬)