ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 501 โยนความผิดให้เหยื่อ
ตอนที่ 501 โยนความผิดให้เหยื่อ
เซี่ยอวี่เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าที่ลินดานำมาให้ เปิดกระเป๋าเดินทาง หยิบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาจัดการใบหน้าตัวเองสักครู่ จากนั้นทั้งสามก็ลงไปชั้นล่างด้วยกัน
แน่นอนว่าเถ้าแก่จางและภรรยาของเขากำลังยืนรออยู่ข้างนอก
เมื่อเห็นเซี่ยอวี่เดินออกมา ทั้งสองก็รีบวิ่งไปทักทายหล่อน
“คุณเซี่ยครับ ผมขอโทษจริง ๆ เราไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดเรื่องน่าละอายแบบนี้ พวกเราต้องขอโทษคุณมากจริง ๆ” เถ้าแก่จางมองดูเซี่ยอวี่และขอโทษหล่อนอย่างจริงใจ
ใบหน้าของเซี่ยอวี่เคร่งขรึม “คุณจางคะ ฉันยอมรับคำเชิญของบริษัทของคุณอย่างจริงใจ การถ่ายทำโฆษณาก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นมาก เดิมทีเราตั้งใจว่าจะเดินทางกลับไปที่ไห่เฉิงอยู่แล้ว แต่เป็นคุณเองที่ต้องการแนะนำเราให้รู้จักกับน้องเขยของคุณเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ ตอนนี้พอเกิดเรื่องคุณกลับบอกว่าเสียใจ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าคุณนั่นแหละที่มีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น”
“คุณเซี่ยครับ คุณเข้าใจผมผิดไปจริง ๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผม ผมแค่เป็นตัวกลางช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างคุณกับบริษัทของน้องภรรยาผมเท่านั้น เพราะกล้องที่พวกเขาผลิตและจัดจำหน่ายมีคุณภาพดีเยี่ยม ทั้งยังมีโอกาสทางการตลาดที่ดีมาก น้องภรรยาเป็นคนเสนอให้ทาบทามคุณมาเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วยซ้ำ ผมไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะกล้าขนาดนี้ กล้าดียังไงถึงไม่ให้เกียรติคุณเซี่ย”
ภรรยาของเถ้าแก่จางยิ้มขอโทษและอธิบาย
“คุณเซี่ย คุณลินดา น้องชายฉันแค่นิสัยเสียหลังจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าปากน่ะค่ะ ไม่ว่ายังไงเขาก็ได้ชดใช้การกระทำอันผิดพลาดของเขาไปแล้ว”
ภรรยาเถ้าแก่จางพูดแบบนั้นก็เหล่มองไปที่เย่ไป๋
ความหมายชัดเจนในตัวมันเอง
“นี่ไม่ใช่ความนิสัยเสีย แต่เป็นอาชญากรรม”
เย่ไป๋มีสีหน้าเคร่งขรึม พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาลักลอบใช้ยาเสพติดผิดกฎหมายเพื่อวางยาและข่มขืนแฟนผม คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมมาช่วยหล่อนไม่ทันเวลา และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาคงได้รับโทษหนักกว่านี้”
เมื่อภรรยาของเถ้าแก่จางเห็นเย่ไป๋โกรธ หล่อนก็รีบเปลี่ยนคำพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันรู้ค่ะว่าเขาทำผิดไปจริง ๆ การดื่มเหล้าก่อให้เกิดปัญหา แต่โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก จะเห็นได้ว่าธุรกิจของเขาเฟื่องฟูแค่ไหน เขาแค่ติดนิสัยชอบดื่ม และมักจะทำผิดพลาดแบบนี้อยู่เนือง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ดื่มหนักเกินไป อันที่จริงมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย”
ภรรยาของเถ้าแก่จางมองดูเซี่ยอวี่ และพูดด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “เหตุผลหลักคงเป็นเพราะคุณเซี่ยสวยและมีเสน่ห์มากเกินไป พอเขาได้เจอหน้าผู้หญิงที่ทั้งสวยสง่า และมีเสน่ห์แบบคุณ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแน่นอนว่าต้องคิดไม่ซื่อเป็นธรรมดา แถมเขายังดื่มจนมึนเมาด้วย บางทีอาจขาดสติสัมปชัญญะจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ดังนั้น โปรดยกโทษให้เราด้วยนะคะคุณเซี่ย”
หลังจากได้ยินสิ่งที่ภรรยาเถ้าแก่จางพูด ก่อนที่เซี่ยอวี่และลินดาจะพูดอะไร ใบหน้าที่อ่อนโยนของเย่ไป๋ก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม
“คุณผู้หญิง ผมไม่ได้คาดคิดเลยว่าคำพูดเหล่านี้จะออกจากปากผู้หญิงด้วยกันเองแบบคุณ คนเราสวยก็ผิดด้วยเหรอ? ฟังจากคำพูดของคุณแล้ว หรือคุณคิดว่าแฟนผมสมควรถูกผู้ชายไร้สมองพวกนั้นเอาเปรียบ หล่อนไม่มีสิทธิ์เรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเองหรือไง?”
“คุณจะมาพูดจาผลักภาระว่าเป็นความผิดของเหยื่อไม่ได้”
เซี่ยอวี่ขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับพวกเขา หล่อนเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาหลายครั้งเกินไป
“ลินดา จากนี้ช่วยคุยกับเถ้าแก่จางเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาด้วย”
หลังจากพูดอย่างนั้น หล่อนก็กระทืบรองเท้าส้นสูง คว้าแขนของเย่ไป๋แล้ววางแผนจะจากไป
เถ้าแก่จางตื่นตระหนก
รีบไปขวางทางพวกเขาทันที
“คุณเซี่ย อย่าโกรธไปเลย ภรรยาผมเลือกใช้คำพูดไม่ดี เธอไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
เถ้าแก่จางมองดูเย่ไป๋และเซี่ยอวี่ พยายามอ้อนวอนราวกับขอความกรุณา “พวกคุณสองคนอย่าโกรธเลยนะครับ ไปเถอะ ไปหาที่นั่งกินอาหารเช้าและพูดคุยกันระหว่างกินอาหารกันดีกว่า”
“ไม่จำเป็นแล้วค่ะเถ้าแก่จาง ฉันไม่กล้าตอบรับคำเชิญไปกินข้าวกับใครสุ่มสี่สุ่มห้าอีกแล้ว เมื่อคืนนี้บทเรียนจากน้องภรรยาคุณถือว่ายังไม่เพียงพออีกหรือไง?”
เซี่ยอวี่มองเขาด้วยสายตาเฉียบคมแล้วพูดว่า “สัญญาของเราได้รับการลงนามแล้ว ความจริงคุณควรปกป้องฉันในฐานะผู้ว่าจ้าง แต่ในเมื่อคุณไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการปกป้องฉัน คุณยังช่วยเหลือผู้กระทำความผิด และแก้ตัวแทนอาชญากรด้วย ดังนั้นฉันขอพูดตรงนี้เลยว่าฉันอาจจะต้องทบทวนความร่วมมือระหว่างเราเสียใหม่
นอกจากนี้ ฉันจะไม่ประนีประนอมกับผู้ชายเลวทรามคนนั้น เขากล้าก่ออาชญากรรม ก็สมควรโดนจับเข้าคุก”
เมื่อเซี่ยอวี่กำลังจะจากไป เถ้าแก่จางชิงพูดว่า “สัญญาของเราได้รับการลงนามแล้ว นั่นหมายความว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย”
เซี่ยอวี่ตระหนักว่าเถ้าแก่จางกำลังข่มขู่ หล่อนจึงเม้มปาก “เถ้าแก่จาง ฉันเซี่ยอวี่ ทำงานในวงการนี้มาหลายปีแล้ว คิดว่าคนระดับฉันไม่มีปัญญาจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาหรือไง”
หล่อนพูดเสริมว่า “และแน่นอน ฉันจะอธิบายให้สื่อทราบถึงสาเหตุของการผิดสัญญาในครั้งนี้อย่างละเอียด”
คำพูดของเซี่ยอวี่ทำให้การแสดงออกของเถ้าแก่จางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ในขณะนี้เขาตระหนักได้อย่างแท้จริงแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ที่เขาและคนอื่น ๆ เผลอไปสร้างความขุ่นเคืองไม่ใช่นักแสดงที่ไร้ชื่อเสียง
หล่อนถึงกับยอมจ่ายค่าเสียหายจำนวนมหาศาลจากการผิดสัญญา ดีกว่ายอมเสียซึ่งเกียรติยศ
เถ้าแก่จางรีบพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธออยู่ต่อ
“คุณเซี่ยครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นบริษัทอื่นอาจจะไม่กล้าเสนอความร่วมมือกับคุณอีกในอนาคต ดังนั้นผมยังหวังว่าคุณคิดทบทวนเรื่องนี้ให้ดี แน่นอนว่าเรื่องของน้องภรรยาผมทำลงไปไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผม นั่นเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของเขา ถ้าเขาทำอะไรผิดก็ควรรับผิดชอบกับพฤติกรรมที่เขาทำลงไป”
เถ้าแก่จางรู้ว่าเขาไม่สามารถปกป้องน้องภรรยาที่รนหาที่ตายเองได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดจะตัดความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายทิ้งไป
เซี่ยอวี่แก้ไขคำพูด “ฉันจะพูดอีกครั้ง นั่นไม่ใช่การกระทำความผิดธรรมดา แต่เป็นอาชญากรรม”
“ใช่ เขาก่ออาชญากรรม สมควรได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ผมเป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดีมากพอ ในเมื่อคุณยืนกรานว่าจะไม่ยอมประนีประนอม ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเถอะ”
เมื่อเถ้าแก่จางพูดแบบนี้ ภรรยาของเขาก็เริ่มกังวล “เหล่าจาง นี่คุณหมายความว่ายังไง?”
เถ้าแก่จางมองภรรยาของเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “หยุดเข้าข้างการกระทำของเขาได้แล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ผมไม่ยอมเอาอนาคตของบริษัทเราไปเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือปกป้องเขาหรอกนะ แถมนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่สองแล้ว จำไม่ได้หรือไง?”
ผู้หญิงคนนั้นไม่พอใจและโกรธมาก “หมายความว่าคุณจะตัดหางน้องชายฉันปล่อยวัดงั้นเหรอ? คุณอยากเห็นเขาโดนคุณเซี่ยฟ้องและถูกส่งตัวเข้าคุกหรือไง?”
“แต่สิ่งที่เขาทำก็สมควรได้รับโทษจำคุกจริง ๆ”
ผู้ชายคนนั้นทำตัวเหลวแหลกแบบนี้มานานหลายปี คดีเก่า ๆ รวมกันก็เพียงพอที่จะรับโทษประหารชีวิต
“คุณคงไม่ใจจืดใจจำขนาดนั้นแน่ นั่นคือน้องชายแท้ ๆ ของฉันเลยนะ ถ้าคุณไม่ยอมช่วยเขา ฉันจะหย่ากับคุณซะ”
คำขู่ของผู้หญิงคนนั้นไม่มีผลในการยับยั้งเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายแต่อย่างใด เถ้าแก่จางมีสีหน้าเย็นชา และพูดอย่างแน่วแน่
“ก็ได้ ถ้าคุณยังโง่สนับสนุนอาชญากรอย่างเขาต่อไป ผมเองก็ไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือนับจากนี้อยู่ร่วมกับคุณแล้วเหมือนกัน
ผม จางเหว่ย ทุ่มแรงกายแรงใจทำงานอย่างหนักมาหลายปีเพื่อสร้างตัวจากธุรกิจ ในที่สุดตอนนี้ผมก็ทำให้บริษัทเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นได้แล้ว ทั้งยังโชคดีที่ได้ราชินีภาพยนตร์ฮ่องกงมาเป็นพรีเซนเตอร์ ในอนาคตผลิตภัณฑ์ของเราจะเปิดตลาดในระดับชาติ และขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้ตัวถ่วงอย่างพวกคุณมาทำลายอาชีพของผม”
ถ้าเซี่ยอวี่ยุติความร่วมมือกับพวกเขาจริง ๆ แล้วยอมจ่ายค่าเสียหายให้กับพวกเขาจะเป็นอย่างไร?
เซี่ยอวี่พูดไว้อย่างชัดเจนว่าหล่อนเป็นบุคคลสาธารณะ รายละเอียดทุกอย่างจากการผิดสัญญาจ้างของหล่อนก็จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเช่นกัน โดยเฉพาะสำนักหนังสือพิมพ์ฮ่องกงที่ชอบเขียนข่าวซุบซิบประเภทนี้เป็นพิเศษ เมื่อชื่อเสียงของบริษัทถูกทำลาย อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น การเปิดตลาดจะยังทำได้อยู่ไหม? อนาคตของบริษัทจะเป็นอย่างไร?
จางเหว่ยชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย ในที่สุดก็ตัดสินใจตัดญาติขาดมิตรเพื่อความชอบธรรม
น้องภรรยาไม่รักดีรังแต่จะเป็นตัวถ่วงความเจริญของเขาก็เท่านั้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาตามล้างตามเช็ดพฤติกรรมของอีกฝ่ายมาไม่รู้ตั้งกี่หนแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มาโทษว่าเหยื่อสวยเกินไปเลยอดใจไม่ไหวอีก ภรรยาเถ้าแก่ควรไปเช็คสมองนะคะ ความ misogyny กินเนื้อสมองไปถึงไหนแล้ว
สมค่า โดนหย่าเลย น้องชายกระทำความผิดขนาดนี้ยังจะปกป้องได้อีกเหรอ
ไหหม่า(海馬)