ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 523 คุณท้องเหรอ?
ตอนที่ 523 คุณท้องเหรอ?
เช้าตรู่วันต่อมา เฉินเจียเหอก็ตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าครัวทำอาหาร เนื่องจากวันนี้พวกเขาจะไปดูเฟอร์นิเจอร์ด้วยกัน
เฉินเจียเหอปรุงข้าวต้มและใส่เมล็ดงาลงไปมากเป็นพิเศษ เมื่อมีน้ำมันลอยอยู่บนน้ำข้าวต้มมากเท่าใด ก็ยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นเท่านั้น
แต่กลายเป็นว่า หลังแปรงฟันแล้วหลินเซี่ยก็รู้สึกไม่ค่อยสบาย และทันทีที่เธอนั่งลงแล้วเห็นน้ำมันลอยอยู่ในชามข้าวต้มบนโต๊ะ เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดและอยากอาเจียนขึ้นมา
“ทำไมเหรอ?” เฉินเจียเหอเดินออกมาพร้อมเครื่องเคียงในมือ เมื่อเห็นหลินเซี่ยยกมือปิดปากจึงรีบถาม
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ”
หลินเซี่ยจิบน้ำ แล้วนั่งสงบอารมณ์สักพัก จากนั้นจึงรู้สึกดีขึ้น
เฉินเจียเหอช่วยลูบหลังให้เธอ แล้วรอจนกว่าเธอรู้สึกสบายขึ้น จึงค่อยยื่นช้อนให้เธอ
แต่เมื่อหลินเซี่ยมองน้ำมันลอยอยู่ในชาม ก็รู้สึกเบื่ออาหารและอยากคลื่นไส้
ตอนนี้หู่จือกำลังจัดกระเป๋านักเรียนอยู่ในห้อง เฉินเจียเหอจึงมองหลินเซี่ยด้วยสายตาสงสัย และเขาพูดติดตลกว่า
“ที่รัก คุณท้องเหรอ?”
“หืม?” หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเขาจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความฉงน
เฉินเจียเหอเริ่มนับนิ้ว “ดูเหมือนว่าเดือนนี้ประจำเดือนของคุณยังไม่มาใช่ไหม?”
มุมปากของหลินเซี่ยกระตุก “คุณจำได้แม่นขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็ผมจดเอาไว้”
ใบหน้าหล่อเหลาของเฉินเจียเหอฉายให้เห็นความประหม่าระคนความสุข เขาพูดด้วยความคาดหวังว่า “คุณอยากไปตรวจที่โรงพยาบาลไหม”
“อย่าเพิ่งรีบไป รอดูอีกสักสองสามวันก่อนดีกว่า เพราะเรื่องแบบนี้มันคลาดเคลื่อนได้” จากนั้นหลินเซี่ยเตือนเขาว่า “ตอนนี้อย่าโวยวายไป รออีกไม่กี่วันค่อยว่ากันอีกที”
ปกติแล้วหู่จือจะกินข้าวที่โรงเรียนอนุบาล ดังนั้นเฉินเจียเหอจึงบอกให้หลินเซี่ยกินข้าวก่อน ส่วนเขาก็ไปส่งหู่จือที่โรงเรียน
เมื่อไปส่งหู่จือที่โรงเรียนเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็วางแผนจะไปโรงงานเฟอร์นิเจอร์กันต่อ
ก่อนหน้านี้เซี่ยไห่บอกว่าจะจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์แก่พวกเขา แต่เฉินเจียเหอรู้สึกว่าการขอให้เซี่ยไห่จ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์นั้นไม่เหมาะสม เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากยังต้องพึ่งพิงคนอื่น มันจะดูน่าอายเกินไป
สถานะของเซี่ยไห่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นสหายพี่ชายของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นอารองของหลินเซี่ยอีกด้วย
แม้วันนี้เฉินเจียเหอไม่ได้ตั้งใจจะขอให้อีกฝ่ายจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์ แต่กลายเป็นว่าระหว่างที่เขาไปส่งหู่จือกลับมา ก็บังเอิญพบเซี่ยไห่ระหว่างทาง
ราวกับว่าเซี่ยไห่ตั้งใจรอเขาอยู่ที่นี่ และเมื่อเห็นเฉินเจียเหอ จึงถามว่า “วันนี้พวกนายจะไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ใช่ไหม?”
“ใครบอกล่ะเนี่ย?”
“ก็ครั้งล่าสุดนายนัดแนะไว้กับเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์นั่นไง”
เซี่ยไห่พูดโดยไม่อ้อมค้อม “ไปกันเถอะ”
เฉินเจียเหอเกิดอาการลังเลและไม่ขยับ เขามองอีกฝ่ายแล้วพูดเสียงจริงจังว่า “เหล่าเซี่ย คือพวกเราจะซื้อเฟอร์นิเจอร์กันเอง ส่วนคราวที่แล้วผมแค่ล้อเล่นน่ะ”
“คนที่อยู่ตรงนี้เป็นทั้งอารอง เป็นญาติผู้ใหญ่และเป็นพี่ชายของนาย แล้วฉันจะทำตัวไร้ยางอายได้ยังไง ฉันสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ได้จริงๆ นะ”
ถ้าเซี่ยไห่ไม่ใช่อารองของหลินเซี่ย เขาก็คงไม่ต้องรู้สึกเกรงใจหากต้องพึ่งพาเซี่ยไห่มากขนาดนี้
ทว่าตอนนี้สถานะของอีกฝ่ายแตกต่างออกไป และเขาไม่อาจปล่อยให้ครอบครัวของพ่อตาดูถูกลูกเขยได้
เขาอยากให้อีกฝ่ายฝากฝังหลินเซียไว้กับเขาด้วยความมั่นใจ
หากปล่อยให้อารองของครอบครัวฝ่ายหญิงซื้อเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด แล้วเขาจะแต่งภรรยาแบบใดกัน
“พี่ใหญ่ของฉันกำชับมาว่า พวกฉันจะซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นสินเดิมให้หลานสาวน่ะ”
เซี่ยไห่กลัวว่าเฉินเจียเหอจะไม่เชื่อ เขาจึงกดโทรหาเซี่ยเหลยโดยตรง “พี่ใหญ่ เจียเหอไม่อยากให้ผมตามไปซื้อเฟอร์นิเจอร์น่ะ งั้นพี่บอกเขาหน่อยสิ”
“เจียเหอ ให้อารองไปด้วยนะ ทางฝ่ายเราจะจ่ายเงินเอง ส่วนพวกนายก็เลือกเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยหน่อย เพราะนั่นถือว่าเป็นสินเดิมให้ลูกสาวของฉัน”
เนื่องจากเซี่ยเหลยกำลังยุ่ง เขาจึงพูดแกมบังคับรวดเดียวจบ จากนั้นเขาก็กดวางสายโทรศัพท์โดยไม่ให้โอกาสเฉินเจียเหอได้พูด
ในเมื่อพ่อตาพูดขนาดนี้แล้ว เฉินเจียเหอจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องขึ้นรถของเซี่ยไห่
เมื่อหลินเซี่ยได้ยินว่าครอบครัวมารดาจะมอบสินเดิมให้ เธอก็มีความสุขมาก
เธอจึงบอกว่าเฉินเจียซิ่งอยากไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ด้วย และเมื่อวานนัดหมายให้มาเจอกันหน้าร้านเช่าชุดแต่งงาน
เซี่ยไห่จึงขับรถไปที่ร้านเช่าชุดแต่งงาน
เมื่อไปถึงหน้าประตูร้าน ก็ได้เห็นคนสองสามคนอยู่ที่นั่น โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังส่งเสียงแหลมราวกับว่ากำลังสร้างปัญหา
เซี่ยไห่จอดรถ และทั้งสามคนก็รีบลงจากรถไปดู จึงเห็นผู้หญิงสองคนยืนอยู่ฝั่งหนึ่ง โดยหนึ่งในนั้นกำลังด่าหลินเยี่ยนไม่หยุด
เมื่อหลินเซี่ยเดินเข้ามาใกล้ จึงได้เห็นหน้าของผู้หญิงคนนั้นชัดเจน
ในขณะเดียวกัน เฉินเจียเหอและเซี่ยไห่ก็มองเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้ชัดเจนด้วย
เสิ่นเสี่ยวเหมย
“พี่สาว ผู้หญิงคนนี้กำลังสร้างปัญหา หล่อนมาตามหาพี่เจียซิ่งค่ะ” เมื่อหลินเยี่ยนเห็นว่าพวกหลินเซี่ยกำลังเดินมา หล่อนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบไปยืนเคียงข้างหลินเซี่ย
“เสิ่นเสี่ยวเหมย เธอยังไม่ตายอีกเหรอ?” หลินเซี่ยก้าวเข้าไปพลางมองผู้หญิงตรงเบื้องหน้าที่ดูอ้วนขึ้นกว่าเดิมมาก เสื้อผ้าก็ไม่ทันสมัยเหมือนในอดีต ทั้งบุคลิกเผยออกมาและภาพลักษณ์โดยรวมนั้นไม่อาจเทียบได้กับเมื่อก่อนเลย
“หลินเซี่ย นี่ร้านของเธอเหรอ?” เสิ่นเสี่ยวเหมยมองหลินเซี่ยแล้วถามด้วยความสงสัย
“ใช่น่ะสิ อิจฉาเหรอ?” หลินเซี่ยมองหล่อนด้วยสายตาเย็นชาแกมเย้ยหยัน
เสิ่นเสี่ยวเหมยชี้ไปที่รูปถ่ายหน้าร้านแล้วถามด้วยโทสะ “นี่รูปของเฉินเจียซิ่งเหรอ? หมายความว่าเขาแต่งงานอีกแล้วเหรอ?”
หลินเซี่ยตอบว่า “เสิ่นเสี่ยวเหมย เธอกับเฉินเจียซิ่งหย่ากันแล้ว ไม่ว่าเขาจะแต่งงานกับใครก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอแล้ว ถ้าเธอพอจะได้สติบ้างก็รีบไสหัวไปให้พ้นจากสายตาพวกเราซะ”
“เฉินเจียซิ่งอยู่ที่ไหน?” แต่เสิ่นเสี่ยวเหมยดูเหมือนไม่สามารถยอมรับได้ว่าเฉินเจียซิ่งจะแต่งงานใหม่ได้เร็วขนาดนี้ หล่อนมองรูปถ่ายพรีเวดดิ้งแสนอลังการนั้นแล้วตะโกนเสียงดังลั่น “เธอบอกให้เฉินเจียซิ่งออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
หลินเซี่ยกลัวว่าหากเฉินเจียซิ่งพาหยางหงเสียตามมาทีหลัง แล้วเสิ่นเสี่ยวเหมยไม่หยุดสร้างปัญหาที่นี่ อาจทำให้หยางหงเสียเข้าใจผิดได้
“เฉินเจียซิ่งไม่เกี่ยวข้องกับเธออีกต่อไปแล้ว ยังจะอยากเจอเขาให้ตัวเองขายหน้าอีกทำไม ถ้าไม่อยากเสียหน้าก็รีบออกไปซะ”
เฉินเจียเหอกลัวว่าเสิ่นเสี่ยวเหมยผู้หญิงบ้าๆ คนนี้จะทำร้ายหลินเซี่ย เขาจึงเข้ามาปกป้องหลินเซี่ยไว้ข้างหลัง ขณะที่เขามีสีหน้ามืดมน ดวงตาคมกริบจ้องมองเสิ่นเสี่ยวเหมยพลางตวาดด้วยความโมโห “ไสหัวไปซะ”
เดิมทีเสิ่นเสี่ยวเหมยก็เป็นคนหุนหันพลันแล่นและหงุดหงิดง่าย ยิ่งมาถูกกระตุ้นจากรูปถ่ายพรีเวดดิ้งของเฉินเจียซิ่ง หล่อนก็ไม่กลัวเฉินเจียเหอเลย ใบหน้าของทั้งดุร้ายและบิดเบี้ยว “เฉินเจียเหอ ถ้าคุณบอกให้ฉันออกไป ฉันก็ต้องทำตามเหรอ? พวกคุณรีบไปปลดรูปนั้นออกแล้วปล่อยให้เฉินเจียซิ่งออกมาเดี๋ยวนี้”
“นั่นคือป้ายโฆษณาของร้านเรา เธอมีความสำคัญขนาดไหนถึงมาสั่งให้เราปลดออก?”
เซี่ยไห่เดินเข้ามาและมองเสิ่นเสี่ยวเหมยด้วยความรังเกียจ “เสิ่นเสี่ยวเหมย เธอยังตัดใจจากเฉินเจียซิ่งไม่ได้เหรอ? คิดว่าตัวเองมีความหวังอีกหรือไง? จะอยู่กับเขาโดยไม่หย่าจริงๆ งั้นสิ?”
“ฉันไม่ได้อยากคุยกับพวกคุณ รีบเรียกเฉินเจียซิ่งออกมาเดี๋ยวนี้”
พวกเขาไม่อาจขับไล่เสิ่นเสี่ยวเหมยออกไปได้เลย เพราะหล่อนเอาแต่ตะโกนใส่รูปถ่ายบนผนังต่อไป มิหนำซ้ำยังอยากจะฉีกมันออกด้วย
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ในเวลานี้เฉินเจียซิ่งเดินมาพร้อมหยางหงเสียพอดี
หลินเซี่ยอยากจะเข้าไปขวางทั้งสองไว้ก่อน
แต่ด้วยนิสัยของเฉินเจียซิ่งนั้น เขาจะเข้าร่วมทุกความตื่นเต้น และพร้อมจะหันปากกระบอกปืนเข้าหาตัวเอง
ยิ่งพอมีหยางหงเสียอยู่เคียงข้างเขา หลินเซี่ยจึงเตือนเขาโดยตรงไม่ได้
“เจียซิ่ง นายพาหงเสียเข้าไปรอที่ร้านก่อนดีกว่านะ”
เฉินเจียซิ่งชะเง้อคอมองออกไปยังบุคคลซึ่งถูกเฉินเจียเหอและเซี่ยไห่ขวางไว้ จากนั้นถามด้วยความอยากรู้
“พี่สะใภ้ นั่นพี่ใหญ่กำลังคุยกับใครน่ะ?”
“ไม่มีนะ พวกนายเข้าไปรอในร้านก่อนเถอะ”
แต่เฉินเจียซิ่งต้องการลากหยางหงเสียเข้าไปดูเรื่องน่าตื่นเต้น “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ผมจะไปช่วยพี่ใหญ่สะสางปัญหาด้วย”
ทันใดนั้นเสิ่นเสี่ยวเหมยก็ได้ยินเสียงของเฉินเจียซิ่ง หล่อนจึงผลักเซี่ยไห่ออกไปให้พ้นทาง แล้วรีบเดินมาหาเฉินเจียซิ่ง ถามทันทีว่า “เฉินเจียซิ่ง คุณแต่งงานใหม่แล้วเหรอ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องจะมาแล้วไหมนะ อาการแบบนี
ยัยเหมยเน่ามาก่อเรื่องอะไรอีกกก ตายยากนะเธอเนี่ย
ไหหม่า(海馬)