ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 534 ไปเยี่ยมเซี่ยหลาน
ตอนที่ 534 ไปเยี่ยมเซี่ยหลาน
หมอแผนจีนเย่เต็มใจที่จะรับเลี้ยงเอ้อร์เลิ่งไว้ เพราะไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารหรือภาระด้านการรักษา มันจะทำให้เอ้อร์เลิ่งมีสถานที่ที่มั่นคงในการดำรงชีวิต
ดีกว่าถูกส่งไปเป็นยามในหมู่บ้านมาก
แม้ว่าอาการของเขาจะดีขึ้นมากแล้ว แต่ถ้าเขาถูกส่งตัวกลับไปอยู่ที่หมู่บ้านจริง ๆ เห็นทีเขาคงอยู่ได้ไม่นานและอาการอาจกลับมากำเริบอีก
เฉินเจียเหอบอกกับเอ้อร์เลิ่ง
“เอ้อร์เลิ่ง รีบขอบคุณหมอเย่เร็วเข้า”
“ขอบคุณครับหมอเย่” เอ้อร์เลิ่งโค้งคำนับหมอแผนจีนเย่อย่างตื่นเต้นด้วยรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า
หมอแผนจีนเย่ตบบ่าเขาด้วยสีหน้าสง่าผ่าเผย “อย่าเลียนแบบคำพูดไร้สาระของพวกเขาเลย คนจากบริษัทยาจะมาส่งยาในอีกไม่ช้า เธอไปจัดตู้ยาเถอะ”
“ครับ” เอ้อร์เลิ่งกำลังจะวิ่งไปทำงาน เขาหันกลับมาแล้วพูดกับเฉินเจียเหอว่า “ต้าเหอ พวกนายนั่งรอก่อน ฉันขอตัวไปทำงานเดี๋ยว”
เอ้อร์เลิ่งไปทำงานของตัวเอง เฉินเจียเหอก็ต้องกลับไปทำงานในช่วงบ่าย ดังนั้นเขาจึงวางแผนว่าจะออกเดินทางเร็วหน่อย
“คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะอยู่จนถึงบ่าย ๆ โน่นแหละค่ะ” หลินเซี่ยไปเยี่ยมเสิ่นอวี้หลงเมื่อสักครู่นี้ สังเกตเห็นว่าผมของเขายาวขึ้นมาก เธอจึงอยากอยู่ต่อเพื่อตัดผมให้เสิ่นอวี้หลงและผู้เฒ่าเซี่ย พอเห็นคนแก่อย่างเขาไว้ผมยาวแล้วทำให้ดูเฉื่อยชาไร้ชีวิตชีวาไปหน่อย
“คุณตา ฉันจะตัดผมให้อวี้หลงเองค่ะ ผมของคุณก็ยาวพอสมควรแล้วเหมือนกัน งั้นฉันขอตัดผมให้คุณด้วยนะคะ”
“ได้ อย่าโกนหัวฉันอีกเป็นพอ”
หลินเซี่ยกลอกตาขึ้นฟ้าทันที
ชายชราคนนี้ยังไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อแปดร้อยชาติที่แล้วอีก
เนื่องจากเธอต้องการตัดผมให้กับผู้เฒ่าเซี่ยและคนอื่น ๆ ดังนั้นเฉินเจียเหอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้เธออยู่ต่อ
เฉินเจียเหอบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะกลับไปขอให้จินซานหรือเจิ้งอวี่เอาอุปกรณ์ตัดผมมาส่งให้คุณนะ”
“ค่ะ ให้พี่ชายมาเถอะ เขายังไม่ได้เจอเอ้อร์เลิ่งเลย ถึงยังไงพวกเขาก็มาจากหมู่บ้านเดียวกัน ให้เขามาเยี่ยมกันเสียหน่อย แล้วอย่าลืมหยิบขวดแชมพูติดมาด้วยนะคะ”
เฉินเจียเหอควบรถมอเตอร์ไซค์ ไม่นานหลังจากนั้นหลินจินซานก็นำกล่องเครื่องมือตัดผมของหลินเซี่ยกลับมาโดยขับมอเตอร์ไซค์คันเดิมต่อจากเขา
เฉินเจียเหอกำชับเป็นพิเศษว่าให้อยู่รอจนกว่าหลินเซี่ยจะตัดผมให้ทุกคนที่นี่เสร็จ จากนั้นสองพี่น้องค่อยกลับมาพร้อมกัน
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเสิ่นอวี้หลงที่จะตัดผมได้โดยนอนราบเพียงอย่างเดียว หลินเซี่ยตัดแต่งทรงให้เขาได้ไม่มากนัก แถมยังพบว่าเขามีรังแคบนศีรษะจำนวนมาก ดูแล้วชวนให้รู้สึกไม่สบายใจ
ผู้สูงอายุสระผมให้เขาโดยที่ไม่ใช้แชมพูด้วยซ้ำ พอนอนทับนานเข้าอาจส่งผลให้เป็นเหาได้ง่าย
เธอจัดการโกนผมให้เขาทันที
อีกหน่อยจะได้เช็ดทำความสะอาดพร้อมกับใบหน้าได้ง่าย จะได้ถูกสุขอนามัยมากขึ้น
“คุณตา ฉันขอถือวิสาสะโกนผมให้อวี้หลงเลยนะคะ ถ้าคุณหมอเซี่ยแวะมาที่นี่ คุณช่วยอธิบายให้หล่อนฟังทีว่าฉันทำแบบนี้ก็เพราะอวี้หลงมีรังแคบนศีรษะ มันไม่ถูกสุขลักษณะค่ะ”
คำที่หลินเซี่ยใช้เรียกเซี่ยหลานทำให้ผู้เฒ่าเซี่ยที่ได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว แต่ยังคงตอบรับว่า “ไม่ต้องห่วง หล่อนไม่ตำหนิเธอหรอก”
เอ้อร์เลิ่งต้มน้ำหม้อใหญ่ หลังจากที่ผู้เฒ่าเซี่ยและหมอแผนจีนเย่ซักผ้าเสร็จแล้วปรากฏว่ายังเหลือน้ำอยู่จำนวนหนึ่ง เขาเห็นแชมพูที่หลินจินซานนำมาให้ จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่สะใภ้ วันนี้สระผมให้ผมด้วยสิ”
เอ้อร์เลิ่งจำได้เสมอว่าตอนที่เขายังอยู่ในบ้านเกิด ภรรยาของเฉินเจียเหอใช้แชมพูกลิ่นหอมนี้สระผมให้เขา แถมยังตัดผมให้เขาจนทำให้เด็กหนุ่มทุกคนในหมู่บ้านอิจฉาอีกด้วย
วันนี้เขาอยากให้เธอตัดผมให้ตัวเองแบบนั้นอีกครั้ง
“ได้สิ ฉันจะสระให้นายด้วยเหมือนกัน”
หลินเซี่ยตัดผมให้ชายชราสองคนตามลำดับ ผู้เฒ่าเซี่ยมองไปที่ผมทรงมาตรฐานของชายชราในกระจก จากนั้นมองหลินเซี่ยตัดผมให้กับหมอแผนจีนเย่ด้วยการเคลื่อนไหวที่มีทักษะและมีสมาธิ รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่หลากหลายในใจ
เธอคนนี้ใช่เด็กโง่ที่ตัดผมจนแหว่งเห็นหนังศีรษะเป็นหย่อม ๆ และวิ่งหนีความผิดไปด้วยความกลัวหรือเปล่า?
เมื่อประสบการณ์ชีวิตของเธอชัดเจนขึ้น จู่ ๆ ดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเติบโตขึ้นและกลายเป็นคนมีความสามารถเสียอย่างนั้น ท่าทางซุ่มซ่ามที่เคยมีก็หายไปด้วย
ผู้เฒ่าเซี่ยถอนหายใจ บางทีการที่เธออยู่ใกล้กับพวกเขามากเกินไป พวกเขาจึงมองว่าเธอดูโง่เขลา ไม่ฝักใฝ่การเรียน ดูเหมือนทำอะไรไม่ดีสักอย่าง อาจเป็นเพราะสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พูดเกี่ยวกับทฤษฎีสนามแม่เหล็ก(1)ก็ได้
สภาพแวดล้อมไม่ทำให้เธอมีที่ว่างเพียงพอสำหรับการพัฒนา
ตอนที่เธอกำลังสระผมให้เอ้อร์เลิ่ง เธอบีบแชมพูจำนวนมากเกินกว่าปกติ และถึงแม้จะเปลี่ยนน้ำไปสองอ่างแล้ว ความมันก็ยังไม่ถูกชะล้างออกไป หลินจินซานมองภาพนั้นด้วยความรังเกียจ
ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ช่วยตักน้ำจากในครัวมาเปลี่ยนให้อีกรอบ
เอ้อร์เลิ่งยิ้มร่าเมื่อเขาเห็นอ่างน้ำที่หลินจินซานยกมาให้ “ขอบคุณ”
และแล้วเขาก็ตกตะลึง ราวกับว่าเขาจำหลินจินซานได้ “ผมเคยเห็นคุณจากที่ไหนสักแห่งหรือเปล่า?”
หลินจินซานวางอ่างบนขั้นบันได เหลือบมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายเคยเจอใครนอกจากคนในหมู่บ้านนี้ด้วยเหรอ?”
ตอนแรกเขาต้องการแวะมาหาเอ้อร์เลิ่งเพื่อพบปะกับเพื่อนร่วมบ้านเกิด แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวัง เพราะกลับกลายเป็นว่าเด็กคนนี้จำเขาไม่ได้เลย
“อ้อ ในหมู่บ้านนั่นเอง”
ปฏิกิริยาทางสมองของเอ้อร์เลิ่งยังคงเชื่องช้า เขามองไปที่หลินจินซาน หลังจากตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เขาก็ถามว่า “นายใช่พี่ชายของเซี่ยเซี่ยไหม ฉันจำได้ว่าชื่อของนายคือจินซาน นายกับหวังต้าจ้วงและคนอื่น ๆ เคยรุมหัวเราะเยาะฉันมาก่อน แถมยังเรียกฉันว่าเจ้าโง่”
หลินจินซาน “!!!”
ยังจำเรื่องพรรค์นั้นได้ด้วยเรอะ?
แปลว่าสมองของเขาเริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้วจริง ๆ
หมอแผนจีนเย่สามารถรักษาเอ้อร์เลิ่งที่กลายเป็นคนเสียสติโง่เขลาในหมู่บ้านได้ แถมยังเป็นหมอมหัศจรรย์ที่ยื้อชีวิตเสิ่นอวี้อิ๋งกลับมาจนรอดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราช สมควรแล้วที่เขาได้รับชื่อเสียงในฐานะหมอเทวดา
หลินเซี่ยเห็นเอ้อร์เลิ่งยืนอยู่ตรงนั้น หัวยังมีฟองฟูฟ่องเนื่องจากมัวคุยกับหลินจินซาน เธอจึงตะโกนว่า “เอ้อร์เลิ่ง ล้างผมแล้วเช็ดให้แห้งเร็วเข้า ฉันจะตัดผมให้”
“ได้ มาแล้ว” พูดจบเอ้อร์เลิ่งก็จุ่มหัวตัวเองลงไปในอ่าง
หลินเซี่ยตัดผมสั้นให้เขาจนดูหล่อเหลาเหมือนกับตอนที่เขาอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนบนของศีรษะปล่อยยาว แต่ไถด้านข้างให้สั้นลง เอ้อร์เลิ่งเหมาะกับทรงผมนี้มาก เขาจะกลายเป็นคนละคนทันทีเมื่อเห็นในแวบแรก
ผู้เฒ่าเซี่ยมองไปที่ชายหนุ่มซึ่งเปลี่ยนทรงผมใหม่แล้วมีสง่าราศีเปี่ยมพลังมากขึ้น จากนั้นก็ถอนหายใจ “เมื่อก่อนเด็กคนนี้น่าจะไม่ธรรมดาเลย”
หมอแผนจีนเย่พูดเสริม “เขาไม่เพียงแต่เป็นคนที่ไม่ธรรมดาเท่านั้น ยังอาจเป็นชายหนุ่มอนาคตไกลได้ ถ้าเขาไม่ได้บ้าไปซะก่อน”
ยิ่งคนคนนั้นมีไอคิวสูงและตั้งความหวังให้กับผลลัพธ์มากเท่าใด ผลกระทบจะยิ่งหนักหนาขึ้นเมื่อได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตครั้งใหญ่
ดังนั้น บางครั้งผู้คนจึงไม่ค่อยเทใจให้กับอะไรจนเกินตัว ความเฉื่อยชาจึงถือเป็นเกราะป้องกันตัวอย่างหนึ่ง
ผู้เฒ่าเซี่ยไม่ค่อยเห็นด้วยกับสิ่งที่หมอแผนจีนเย่กล่าวไว้
จากการได้คลุกคลีอยู่กับอีกฝ่าย เขาค้นพบว่าเอ้อร์เลิ่งน่าจะเป็นคนที่อ่านหนังสือมาเยอะพอสมควร มีความรู้แตกฉานทุกแขนงอยู่ในใจ แต่เขากลับไม่มีระบบความคิดที่ชัดเจน เอาแต่พูดประโยคเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา
ผู้เฒ่าเซี่ยเป็นนักวิชาการเก่า ชอบคนหนุ่มสาวที่รักและฝักใฝ่ในการเรียนเขียนอ่าน เขาจึงพยายามสื่อสารกับเอ้อร์เลิ่งอยู่เนือง ๆ และเอ้อร์เลิ่งก็เรียนรู้การเล่นหมากรุกจนเก่งกาจ การอยู่ที่นี่กับชายชราสองคนทำให้เขาดูมีความสุขมาก สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายทำให้อารมณ์และโรคภัยไข้เจ็บของเขาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หลังจากที่หลินเซี่ยตัดผมให้ทุกคนเสร็จแล้วก็เป็นเวลาบ่ายสามโมง หมอแผนจีนเย่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวหลิน ถ้าไม่มีอะไรทำก็แวะมาเยี่ยมที่นี่ให้บ่อยหน่อยนะ ถึงตาของเธอไม่พูดอะไร แต่ความจริงเขาคิดถึงเธอเสมอ”
หลังจากได้ยินสิ่งที่หมอเย่พูด ผู้เฒ่าเซี่ยก็เบือนหน้าหนี ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขาเคยบ่นคิดถึงหลินเซี่ย
หลินเซี่ยยิ้มและพูดว่า “หมอเย่ ฉันจะมาเยี่ยมแน่นอนเมื่อมีเวลาค่ะ”
“คุณตา หมอเย่ เฉินเจียเหอกับฉันกำลังวางแผนว่าจะจัดงานแต่งอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเมือง ถึงเวลานั้นเราจะเชิญคุณทั้งสองคนมาร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานนะคะ”
หมอแผนจีนเย่ตอบกลับ “ได้ ถือว่าไปดื่มฉลองให้คู่สมรสแล้วกัน”
หลังออกมาจากบ้านและคลินิกของหมอเย่ หลินเซี่ยก็นึกถึงเซี่ยหลานทันที
อยากแวะไปหาหล่อนสักหน่อย
หลังจากที่หลินจินซานขี่มอเตอร์ไซค์ไปถึงสี่แยก หลินเซี่ยขอให้เขาเดินกลับ ในขณะที่เธอซื้อผลไม้ แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ตรงไปยังโรงพยาบาลไห่เฉิง
เธอได้ยินมาว่าตอนนี้เซี่ยหลานอาศัยอยู่ที่หอพักของบุคลากรในโรงพยาบาล และจะไปหาหมอแผนจีนเย่เพื่อดูแลเสิ่นอวี้หลงทุก ๆ สองวัน วันหยุดสุดสัปดาห์ถึงจะกลับบ้านพักผ่อน
หลินเซี่ยรออยู่ตรงทางเข้าแผนกผู้ป่วยนอกซึ่งเป็นห้องตรวจของเซี่ยหลานพร้อมกับถุงผลไม้ในมือ
พยาบาลที่เดินผ่านมาบอกว่าหมอเซี่ยเข้าเวรกะกลางคืน หลินเซี่ยจึงสอบถามและไปที่หอพักของเซี่ยหลาน
เมื่ออีกฝ่ายเห็นหลินเซี่ย หล่อนก็ตกตะลึงไปไม่กี่วินาที ก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจ “เซี่ยเซี่ย มาที่นี่ได้ยังไง?”
……………………………………………………………………………………………………………….
ทฤษฎีสนามแม่เหล็ก = เมื่อนำแม่เหล็กสองอันมาอยู่ใกล้กัน ขั้วเหมือนกันจะผลักกัน ขั้วต่างกันจะดูดกัน เปรียบกับสถานการณ์ที่อยู่ใกล้แล้วมองไม่เห็นความดี ต้องออกห่างถึงจะมองเห็น
สารจากผู้แปล
เอ้อร์เลิ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นจนน่าดีใจจริงๆ โชคดีที่ได้รักษากับหมออาวุโสเย่
ไหหม่า(海馬)