ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 549 ออกไปทำตัวเสเพล
ตอนที่ 549 ออกไปทำตัวเสเพล
ผู้เฒ่าเฉินรีบวางสายโทรศัพท์เพราะกลัวว่าหยางหงเสียจะเป็นกังวล จากนั้นก็รีบโทรหาเฉินเจียวั่งเพื่อให้เขาออกไปตามหาเฉินเจียซิ่ง
ในขณะนี้ เฉินเจียวั่ง ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลโจว และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่บ้านของเฉินเจียเหอ หลังจากรับประทานอาหารกันแล้ว ผู้อาวุโสทั้งสอง โจวเจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ก็กำลังจะขอตัวกลับไปพักผ่อน
เฉินเจียเหอขอยืมรถของเซี่ยไห่เพื่อขับไปส่งเขาถึงจุดหมายเป็นพิเศษ
ตอนแรกเฉินเจียซิ่งโทรมาหาเฉินเจียเหอ บอกว่าเขาจะแวะมาหลังเลิกงาน ท่าทางเหมือนมีธุระจะคุยด้วย
ผลก็คือตั้งแต่เริ่มจนกินข้าวมื้อเย็นเสร็จ เฉินเจียเหอกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเฉินเจียซิ่ง จึงคิดว่าเขาอาจล่าช้าเพราะอะไรบางอย่าง
ถึงอย่างไรน้องชายคนรองของเขาก็เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้อยู่แล้ว จึงค่อนข้างเคยชินกับการที่อีกฝ่ายเบี้ยวนัด
แต่ตอนนี้พอได้ยินมาว่าเฉินเจียซิ่งไม่กลับบ้าน แถมหยางหงเสียก็กำลังตามหาเขา จึงเกิดความกังวลขึ้นมา
พอส่งผู้ใหญ่ถึงบ้านแล้ว ระหว่างทางกลับพวกเขาก็เริ่มตามหา
เฉินเจียวั่งส่งเพจเจอร์หลายข้อความไปให้เฉินเจียซิ่ง แต่ไร้วี่แววการตอบกลับ
เฉินเจียเหอบังเอิญขับรถออกมาข้างนอกพอดีทำให้สะดวกต่อการเดินทาง เขาพูดว่า “ลองแวะไปดูทุกที่เลยแล้วกัน”
ตอนแรกพวกเขาไปสอบถามกับเพื่อน ๆ ที่เฉินเจียซิ่งรู้จัก แต่พวกเขาทั้งหมดบอกว่าเฉินเจียซิ่งไม่ได้ติดต่อมาเลย
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ขับรถไปจอดตรงทางเข้าห้องเต้นรำ เพื่อดูว่าเขามาเที่ยวสนุกสนานอยู่ที่นี่ไหม
ผลก็คือไม่มีใครเห็นเขา
พี่ชายน้องชายลงทุนเข้าไปข้างในเพื่อตามหา
“เจียซิ่งไม่ได้เข้ามาที่นี่เลยนะครับ”
พอได้ยินว่าไม่มีใครเจอเขา เฉินเจียเหอยิ่งเป็นกังวลมากกว่าเก่า ยกมือขึ้นเท้าสะเอว ใบหน้าเริ่มบูดบึ้ง
เขาเป็นว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังจะแต่งงาน แต่จู่ ๆ กลับหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
ถ้าหยางหงเสียรู้ว่าเขายังละทิ้งนิสัยเสีย ๆ ไม่ได้แบบนี้ บางทีหล่อนอาจไม่กล้าแต่งงานกับเขา
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ต่อให้เฉินเจียซิ่งหายตัวไปจากบ้านสามวัน พวกเขาก็ไม่ใส่ใจจะออกตามหา ต่างจากตอนนี้เพราะหยางหงเสียเป็นคนโทรมาตามตัวเขาเอง
เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเจียซิ่งกับหยางหงเสีย และเพื่อป้องกันไม่ให้หยางหงเสียต้องผิดหวังในตัวเฉินเจียซิ่ง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพี่น้องต้องออกมาตามหากันเอง เจอเมื่อไรค่อยโทรกลับไปหาหล่อน
หลังจากค้นหาไปรอบ ๆ แต่ไม่พบใครเลย เฉินเจียวั่งก็อ้าปากหาวอย่างง่วงนอน “พี่ใหญ่ หยุดตามหาเขาเถอะ เขาน่าจะออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ ละมั้ง”
“ฉันคิดว่าไม่”
พวกเขาทั้งหมดรู้จักเพื่อนสนิทของเฉินเจียซิ่ง เขาเพิ่งติดต่อหนึ่งในนั้นเพื่อสอบถาม แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้เจอหน้าเฉินเจียซิ่งเลย อีกฝ่ายยังขอความช่วยเหลือไปถึงเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย แต่เฉินเจียซิ่งไม่ได้ไปหาใครเลยสักคน
คิ้วของเฉินเจียเหอขมวดเข้าหากันด้วยลางสังหรณ์ไม่ดี
เขาเองก็อยากกลับบ้านไปนอน ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเฉินเจียซิ่ง แต่การที่อยู่ ๆ เฉินเจียซิ่งก็ขาดการติดต่อไปดื้อ ๆ แบบนี้มันผิดวิสัย ทำให้เขาอดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้
…
เซี่ยอวี่และลินดาไปทานอาหารเย็นที่โรงแรมไห่เฉิงในวันนี้กับผู้กำกับเหยียนเป็นการพบปะหารือเกี่ยวกับงาน โดยเฉพาะการปรากฏตัวของเซี่ยอวี่บนจอแก้วในละครเรื่องใหม่ของพวกเขา
ผู้อำนวยการสร้างและผู้เขียนบทโทรทัศน์ก็มาร่วมมื้ออาหารนี้ด้วยเช่นกัน
ลินดาเดินกลับเข้ามาหลังจากออกไปรับโทรศัพท์นอกห้องอาหาร พอเห็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์คุยกัน หล่อนก็โน้มตัวเข้าไปใกล้เซี่ยอวี่แล้วกระซิบว่า
“ฉันว่าเมื่อกี้นี้ฉันเห็นน้องเขยของเซี่ยเซี่ยด้วยล่ะ”
“เฉินเจียซิ่งหรือเฉินเจียวั่งล่ะ?” เซี่ยอวี่ถามอย่างสบาย ๆ
“ผู้ชายที่เพิ่งหย่าและกำลังจะแต่งงานใหม่คนนั้นไง ดูเหมือนเขาจะเมาจนหมดสติ มีผู้หญิงสองคนช่วยหิ้วปีกเขาขึ้นลิฟต์”
เมื่อได้ยินว่าเป็นเฉินเจียซิ่ง เซี่ยอวี่ก็เงยหน้าขึ้นและถามด้วยความประหลาดใจ “เธอไม่ได้จำคนผิดใช่ไหม?”
ลินดาพูดอย่างหนักแน่น “ไม่ผิดแน่ เขายังสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกับครั้งล่าสุดที่เราเจอเซี่ยเซี่ย ผู้หญิงที่ช่วยประคองเขาดัดผมลอนใหญ่ สวมกระโปรงรัดรูป ค่อนข้างทันสมัยทีเดียว ถ้าจำไม่ผิดหล่อนน่าจะเป็นภรรยาเก่าของเขา ส่วนอีกคนเป็นพนักงานเสิร์ฟ พวกหล่อนช่วยหิ้วปีกเฉินเจียซิ่งคนละข้าง ขณะที่ผู้ชายคนนั้นตัวอ่อนปวกเปียกและหลับเป็นตาย”
“ไอ้ผู้ชายสวะเอ๊ย ตัวเองกำลังจะแต่งงานอยู่รอมร่อ ยังมีใจออกมาทำตัวเสเพลข้างนอกอีก”
เนื่องจากพวกหล่อนกำลังคุยกับผู้อำนวยการเหยียน ทั้งสองจึงไม่ได้พูดคุยรายละเอียดกันมากนัก หลังจากที่ผู้อำนวยการเหยียนและโปรดิวเซอร์ตัดสินใจขั้นสุดท้าย เซี่ยอวี่ก็หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและดื่มให้กับพวกเขา
“ฉันก็ดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคนค่ะ ฉันจะทำงานให้ดีสมกับความไว้วางใจของพวกคุณ และทำงานอย่างหนักเพื่อตีความบทบาทที่ได้รับด้วยค่ะ”
“เราทุกคนมั่นใจในทักษะการแสดงของคุณเซี่ยอวี่อยู่แล้ว”
หลังจากที่ทุกคนแลกเปลี่ยนคำอวยพรกัน มื้ออาหารเย็นก็สิ้นสุดลง
โปรดิวเซอร์แนะนำพวกหล่อนไปต่อที่อื่นเพื่อดื่มอีกหน่อย แต่เซี่ยอวี่ปฏิเสธ
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานขึ้นในปินเฉิง ตอนนี้ทั้งคุณแม่เซี่ยและเย่ไป๋ไม่ยอมปล่อยให้หล่อนออกไปสังสรรค์ตอนกลางคืนอีก เซี่ยอวี่เองก็ไม่คิดจะไว้ใจใครง่าย ๆ ระมัดระวังตัวมากขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม
พวกหล่อนทั้งสองต่างก็ดื่มกันไปประมาณหนึ่ง ลินดาจึงแนะนำว่าควรนั่งแท็กซี่กลับ
ลินดาส่งเซี่ยอวี่ถึงประตูหน้าบ้านอย่างปลอดภัย จากนั้นก็นั่งแท็กซี่กลับที่พักของตัวเอง
ทันทีที่เซี่ยอวี่เข้าไปในบ้าน หล่อนก็ได้ยินเซี่ยไห่คุยโทรศัพท์เสียงดัง
“ยังหาไม่เจออีกเหรอ? จะกังวลอะไร? แค่ผู้ใหญ่หายออกจากบ้าน เขาคงออกไปดื่มกับเพื่อน ๆ นั่นแหละ หยุดตามหาหมอนั่นได้แล้ว เอาเวลาไปสนใจเรื่องของตัวเองเถอะ”
เซี่ยไห่วางสาย ไม่วายบ่นเกี่ยวกับคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เมื่อเขาเห็นเซี่ยอวี่เดินเข้ามาก็รีบทักทาย “ไง พี่สาว กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม กลับมาแล้ว” เซี่ยอวี่เตะรองเท้าส้นสูงออก เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะ แล้วถามอย่างสบาย ๆ
“กำลังตามหาใครกันอยู่?”
เซี่ยไห่วางโทรศัพท์ลงแล้วพูดว่า “เจียเหอบอกว่าพวกเขาติดต่อเฉินเจียซิ่งไม่ได้ ก็เลยโทรมาถามฉันว่าเห็นเขาบ้างหรือเปล่า”
เซี่ยไห่อดไม่ได้ที่จะบ่นกับพี่สาวของเขาต่อว่า “เจียเหอกังวลไม่เข้าเรื่อง เฉินเจียซิ่งอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว แค่ติดต่อไม่ได้ถึงกับเป็นเดือดเป็นร้อน คิดว่าเขาจะโดนใครลักพาตัว? หรือโดนพวกค้ามนุษย์จับไปขายงั้นเหรอ?”
“ปกติพฤติกรรมไม่อยู่กับร่องกับรอยของเฉินเจียซิ่งก็เป็นอะไรที่บ้านเขาคุ้นชินอยู่แล้วนี่นา”
โชคดีที่พวกเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่มีนิสัยแย่ ๆ เหมือนกับเฉินเจียซิ่ง
“เฉินเจียซิ่งหายตัวไป?” เซี่ยอวี่เลิกคิ้ว
เซี่ยไห่ถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ต้องสนใจเขาหรอก วันนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? ได้ข้อสรุปเรื่องการรับบทหรือยัง?”
“เบื้องต้นได้ข้อสรุปแล้ว ต้องขอบคุณลินดาที่ช่วยจัดการในส่วนที่เหลืออย่างเต็มที่”
หลังจากได้ยินคำพูดของเซี่ยอวี่ ดวงตาของเซี่ยไห่ก็เปล่งประกายด้วยความชื่นชม “ทอมบอยคนนี้มีความสามารถมากจริง ๆ”
“หยุดพูดจาไม่เข้าหูสักทีได้ไหม?”
เซี่ยอวี่กลอกตามองเขา เซี่ยไห่เงียบไปทันที ไม่กล้าเรียกฉายาลับ ๆ ของลินดาอีก
เซี่ยอวี่กำลังจะกลับเข้าห้องไปพักผ่อน แต่ก่อนจะทำอย่างนั้น หล่อนก็ไม่ลืมหันมาพูดกับเซี่ยไห่ว่า “จริงสิ ยังไงก็โทรหาลินดาหน่อย ดูเหมือนเมื่อกี้หล่อนจะเจอตัวเฉินเจียซิ่งแล้ว”
หลังจากพูดอย่างนั้นก็กลับเข้าห้องตัวเองอย่างไม่ไยดี
เซี่ยไห่พลันสับสน ลินดาเจอเฉินเจียซิ่งเหรอ?
แต่พี่สาวของเขากับลินดาอยู่ด้วยกัน ถ้าลินดาเห็นคนเดียว แปลว่าหล่อนไม่ได้เห็นเหมือนลินดาหรือไง?
เซี่ยไห่กำลังจะถามเซี่ยอวี่ แต่ทันทีที่เดินไปหา เขาเห็นว่าไฟทั้งหมดในห้องของเซี่ยอวี่ดับลง จึงจำใจหันหลังกลับ
ทำได้แค่กดหมายเลขโทรศัพท์ของลินดาแล้วโทรออก
ขณะนี้ลินดายังอยู่ในรถแท็กซี่ เมื่อหล่อนเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเซี่ยไห่ ดวงตาที่เย็นชาก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย ยืดหลังนั่งตัวตรงโดยไม่รู้ตัว
“พี่สาวฉันบอกว่าเธอเจอเฉินเจียซิ่งจริงหรือเปล่า?” เซี่ยไห่ยิงคำถามตรงประเด็น
“แล้วเขาเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ?”
เซี่ยไห่เปิดบทสนทนาด้วยคำถามอันแห้งแล้ง จนความคาดหวังที่อธิบายไม่ได้ในใจของลินดาจมลงอีกครั้ง
เสียงของเซี่ยไห่ดังขึ้นอย่างเร่งด่วน “เกี่ยวมาก ๆ เลย ช่วยบอกฉันเร็วเข้า ฉันต้องไปตามตัวเขาที่ไหน? ครอบครัวเขากำลังตามหาไอ้หมอนั่นกันให้ควั่ก ทุกคนวิตกกังวลมาก”
คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เงียบ
“บอกมาเถอะ ไว้วันอื่นฉันจะพาเธอไปเลี้ยงข้าวนะ” เซี่ยไห่พูดโดยไม่คิด
ลินดาเปลี่ยนมือที่ถือโทรศัพท์ไปอีกข้างและพูดว่า “อยู่ที่โรงแรมไห่เฉิง เขาอาจจะเมาจนหมดสติ แต่มีผู้หญิงที่ชื่อเสิ่นเสี่ยวเหมยช่วยประคองเขาเข้าไปในลิฟต์”
“จริงหรือหลอกเนี่ย?” เซี่ยไห่ตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของลินดา
เขาไปดื่มกับเสิ่นเสี่ยวเหมยเหรอ?
ไอ้บ้านี่ไม่รู้จักขอบเขตเกินไปแล้ว
หรือเขาไปจุดประกายความสัมพันธ์เก่า ๆ กับเสิ่นเสี่ยวเหมย และวางแผนที่จะรื้อฟื้นมันขึ้นมาใหม่?
“รู้หรือเปล่าว่าพวกเขาอยู่ชั้นไหน?” เซี่ยไห่ถาม
“ไม่รู้หรอก แต่ห้องพักในโรงแรมไห่เฉิงมีอยู่แค่ไม่กี่ชั้น ชั้นที่หกเป็นห้องสวีทระดับไฮเอนด์ที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้”
“โอเค เข้าใจแล้ว”
เซี่ยไห่พูดอย่างไม่เห็นแก่ตัว “ขอบคุณมาก ถ้าเธอมีเวลาช่วยติดต่อฉันมาหน่อย ฉันจะพาเธอไปเลี้ยงเป็นการตอบแทน”
เซี่ยไห่วางสาย จากนั้นก็กดหมายเลขของเฉินเจียวั่งอย่างรวดเร็ว
“นายเจอตัวเขาหรือยัง?” เซี่ยไห่ถาม
เฉินเจียเหอเป็นคนรับสาย น้ำเสียงของเขาเหนื่อยหน่าย “ไม่เจอ ฉันว่าจะไม่ตามหาเขาแล้ว ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยโทรกลับหานายอีกที”
ขณะนี้พวกเขามาเจอกันที่หน้าห้องเต้นรำพอดี ตกลงกันว่าจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
หยางหงเสียได้เบอร์โทรศัพท์ของเฉินเจียวั่งมาจึงโทรหาพวกเขาอีกครั้ง แล้วเล่าให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับเรื่องสินสอดที่พ่อแม่เรียกร้องเพิ่มเติม แต่เปลี่ยนใจในภายหลัง
ดังนั้น เฉินเจียเหอและคนอื่น ๆ จึงเข้าใจทันทีว่าเฉินเจียซิ่งน่าจะกำลังวิ่งหาเงินอยู่
เฉินเจียซิ่งยอมแบกรับความลำบากเอาไว้เองในการหาเงินมาจ่ายค่าสินสอดส่วนต่าง ๆ เพื่อที่หล่อนจะได้เห็นความสามารถของเขาอย่างชัดเจนผ่านเรื่องดังกล่าว และเพื่อที่เขาจะได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและมั่นคงในอนาคต
“มีคนเห็นเฉินเจียซิ่งอยู่ที่โรงแรมไห่เฉิง บอกว่าเขาเมามาก โดยมีเสิ่นเสี่ยวเหมยเป็นคนประคองขึ้นลิฟต์ คืนนี้พวกเขาคงนอนหลับฝันดีอยู่ด้วยกันโน่นแหละ ขึ้นอยู่กับพวกนายแล้วว่าจะตัดสินใจยังไง”
“โรงแรมไห่เฉิง?” เฉินเจียเหอถามยืนยัน
“ใช่ โรงแรมหรูที่เพิ่งเปิดทำการได้ไม่นาน”
“เข้าใจแล้ว”
เซี่ยไห่เคยไปที่โรงแรมไห่เฉิงมาก่อน จึงบอกทางให้พวกเขา “จริงด้วย ตามหาถึงแค่ชั้นห้าพอ พวกเขาอาจจะไม่มีเงินถุงเงินถังจนพอจ่ายค่าห้องสวีทชั้นหกก็ได้”
“ขอบคุณมาก”
เฉินเจียเหอวางสายอย่างรวดเร็ว
เฉินเจียวั่งก็ได้ยินสิ่งที่เซี่ยไห่และเฉินเจียเหอคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและพูดไม่ออก “พี่ใหญ่ อย่าบอกนะว่าพี่รองไม่รักดีของเราจะกลับไปคืนดีกับเสิ่นเสี่ยวเหมยจริง ๆ?”
เฉินเจียเหอบอกว่า “ไม่ว่าเขาจะเต็มใจเปิดห้องในโรงแรมเพื่อนอนกับเสิ่นเสี่ยวเหมยหรือไม่ก็ตาม ในฐานะพี่น้อง เราต้องหยุดเขาให้ได้”
ถ้าเฉินเจียซิ่งเปิดห้องในโรงแรมโดยสมัครใจกับเสิ่นเสี่ยวเหมย เขาในฐานะพี่ชายคนโตจะลากน้องชายสารเลวออกมาก่อนแล้วทุบตีเขาซะ จากนั้นจึงตัดความสัมพันธ์กับเขา ปล่อยให้เขาจมปลักอยู่กับเสิ่นเสี่ยวเหมย ไม่ให้ทำร้ายจิตใจหยางหงเสีย
แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกเสิ่นเสี่ยวเหมยใช้วิธีสกปรกปิดล้อมและพาขึ้นห้อง พวกเขายิ่งต้องตามหาให้เจอโดยเร็ว…
เฉินเจียเหอขับรถไปที่โรงแรมไห่เฉิงพร้อมกับเฉินเจียวั่งและหลินจินซาน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โชคดีเหลือเกินที่เซี่ยอวี่กับลินดาไปคุยงานที่นั่นกันพอดี ไม่งั้นก็ดวงจู๋แน่เจียวั่งเอ๊ย
พี่เหอตามตัวน้องชายให้เจอไวๆ นะคะ มีลางสังหรณ์เหมือนยัยบ้าเสี่ยวเหมยมันจะทำอะไรไม่ดีสักอย่าง
ไหหม่า(海馬)