ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 581 ไร้วาสนา
ตอนที่ 581 ไร้วาสนา
หลินเซี่ยมองเด็กทารกที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลด้วยสายตาเย็นชา
นี่คือยัยเด็กปีศาจเมื่อตอนแรกเกิดสินะ
ในชาติก่อน หลินเซี่ยรับเลี้ยงเสิ่นเสี่ยวอวี้ตั้งแต่อายุสามขวบจนกระทั่งเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาล
ในตอนที่เด็กอายุครบหนึ่งขวบ เสิ่นอวี้อิ๋งและเสิ่นเถี่ยจวินมักไปทำงานอาสาสมัครที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่บ่อย ๆ และยังร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์โดยมอบความอบอุ่นให้กับเด็ก ๆ ที่อยู่ที่นั่นอีกด้วย ในฐานะผู้ติดตามตัวน้อยของเสิ่นอวี้อิ๋ง เธอก็ได้ไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อทำความดีเช่นกัน
ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าเสิ่นเสี่ยวอวี้ตอนอายุหนึ่งขวบมีหน้าตาเป็นอย่างไร
เด็กที่นอนอยู่บนเตียงร้องไห้จ้าจนน้ำตาอาบแก้ม แต่เมื่อเห็นหลินเซี่ย หล่อนก็หยุดร้องไห้ทันที ก่อนมองดูอีกฝ่ายแล้วใช้มือเล็ก ๆ ดึงมือหลินเซี่ย ใบหน้าของเด็กน้อยบูดเบี้ยว จากนั้นพูดพล่ามราวกับต้องการดึงดูดความสนใจจากหลินเซี่ย
หลินเซี่ยมองเด็กน้อย ก่อนเลื่อนสายตามองเสิ่นอวี้อิ๋งพลางถามว่า “ใครเป็นพ่อของลูกเธอ? หลิวจื้อหมิงเหรอ? ลูกตัวเองป่วยอยู่ แต่ทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่นี่?”
น้ำเสียงของหลินเซี่ยเต็มไปด้วยความถากถาง “หรือว่าหลิวจื้อหมิงทิ้งเธอหลังจากเสิ่นเถี่ยจวินเข้าคุก? เมื่อก่อนเขาทำกับฉันยังไง ตอนนี้เขาก็ทำกับเธอเหมือนกันใช่ไหม?”
“จะว่าไปแล้วลูกของเธอหน้าไม่เหมือนหลิวจื้อหมิงเลย หรือว่าจะเป็นลูกของเจิ้งต้าเฉิงกันแน่ เธอคบกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าและตอนนี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเด็กคนนี้เป็นใครเนี่ยนะ
เจิ้งต้าเฉิงกับคนอื่น ๆ อยู่ที่ไหนล่ะ? เธออยากให้ฉันช่วยตามหาพวกเขาไหม? ถ้าไม่มีพ่อ เด็กก็จะทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นเด็กคนนี้จะเป็นลูกนอกสมรส แล้วเด็กจะโตไปยังไง? เธอจะไม่ส่งเด็กไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเหรอ?”
เมื่อได้ยินว่าหลินเซี่ยจะไปตามหาเจิ้งต้าเฉิง เสิ่นอวี้อิ๋งก็ตกใจมากจนเกือบล้มลงกับพื้น ผู้หญิงคนนี้ได้ทีขี่แพะไล่และบีบบังคับให้หล่อนต้องตายชัดๆ
ถ้าต้องเจอเจิ้งต้าเฉิงเข้าจริงๆ ชีวิตหล่อนคงต้องพังพินาศเพราะผู้ชายเลวระยำคนนี้ ถ้าเขารู้ว่าหล่อนให้กำเนิดลูกของเขา เขาจะต้องไม่มีวันปล่อยหล่อนไปและจะตามหลอกหลอนหล่อนไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
เพียงแค่คิดอย่างนั้น เสิ่นอวี้อิ๋งก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าเป็นอันมาก หล่อนยังมีความฝันอันทะเยอทะยานและยังต้องการเป็นคนเหนือคนอยู่
หล่อนไม่มีวันเอาตัวเองไปผูกติดกับชีวิตสมรส ถึงต่อให้ต้องแต่งงาน หล่อนก็ไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายบ้านนอกหน้าโง่อย่างเจิ้งต้าเฉิงหรอก
อยากได้เงิน แต่ไม่มีเงิน อยากได้หน้าตา แต่ไม่มีหน้าตา แถมยังไม่มีอะไรเลยและไม่เก่งเหมือนหลิวจื้อหมิง
สิ่งที่ทำให้เสิ่นอวี้อิ๋งหวาดกลัวมากกว่าเดิมคือการที่หลินเซี่ยเดาออกว่าหล่อนจะส่งเด็กคนนี้ไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
เมื่อมองหลินเซี่ย กล้ามเนื้อบนใบหน้าของหล่อนก็กระตุกทันที
“หลินเซี่ย เธออย่าดูถูกคนอื่นให้มากนักนะ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของฉัน”
หล่อนทำได้เพียงแก้ตัวต่อหน้าหลินเซี่ยเท่านั้น
หลินเซี่ยเม้มริมฝีปากก่อนพูดประชด “ไม่ใช่งั้นเหรอ? แต่ฉันว่าหุ่นเธอดูเหมือนแม่ลูกอ่อนมากนะ? ข่าวลือที่เธอคลอดลูกนอกสมรสแพร่กระจายไปทั่วทุกโรงงานแล้ว ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังโกหกคนอื่นและทำเหมือนคนอื่นเป็นตัวตลกงั้นเหรอ? กล้าทำแล้วทำไมถึงไม่กล้ายอมรับล่ะ? ตอนที่เธอไปเที่ยวเล่นแล้วก็นอนกับผู้ชายเลวระยำพวกนั้น เธอไม่คิดเหรอว่าพวกมันจะทิ้งเธอหลังคลอดลูก?”
“เสิ่นอวี้อิ๋ง เธอทำตัวเหลวแหลกมาตั้งแต่เด็กและนอนกับผู้ชายไปทั่ว แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ? นี่คือราคาของการเป็นผู้หญิงใจง่าย คนอย่างเธอจะอยู่บนโลกนี้อย่างมีศักดิ์ศรีได้ยังไง?”
ร่างกายของเสิ่นอวี้อิ๋งสั่นเทาเพราะคำพูดเสียดสีของอีกฝ่าย ก่อนตะโกนเสียงดังว่า “พอได้แล้ว ไสหัวออกไปซะ”
“โกรธเหรอ? ฉันขอบอกเอาไว้เลยว่าการคลอดเด็กคนนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของฝันร้ายของเธอเท่านั้นแหละ”
หลินเซี่ยเหลือบมองเด็กทารกที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
เด็กคนนี้คงเป็นไข้หรือหวัด ใบหน้าน้อย ๆ จึงแดงก่ำและดูอ่อนเพลียมาก
แต่เมื่อหลินเซี่ยจ้องมอง เด็กน้อยก็มองเธอกลับด้วยดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความสดใส ขณะโบกมือไปมาอย่างแรกพร้อมส่งเสียงอ้อแอ้ในลำคอ
ในชาติก่อนเธอเลี้ยงดูเด็กคนนี้ถึงสิบห้าปี เธอดูแลเด็กคนนี้อย่างหนักจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องตายด้วยเงื้อมมือของเด็กปีศาจคนนี้
ขณะที่หลินเซี่ยมองดูเด็กทารก ภายในใจของเธอพลันสับสนและรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก
ภาพที่เด็กคนนี้ถอดหน้ากากออกซิเจนของเธอยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจไม่มีวันลืมเลือน เมื่อเป็นเช่นนั้น สายตาที่มองปีศาจตัวน้อยก็ยิ่งเย็นชาและน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
เธออยากจะบีบคอมันให้ตายจริง ๆ
แต่ในชีวิตนี้เธอจะคอยมองดูปีศาจตัวน้อยและเสิ่นอวี้อิ๋งใช้ชีวิตอยู่บนความเลวร้ายเจ็บปวดที่ยิ่งกว่าความตาย
หลินเซี่ยมองปีศาจตัวน้อย จุดประสงค์ในการย้อนอดีตของเธอบรรลุผลสำเร็จแล้ว และเธอก็จะวางแผนขั้นต่อไป
ขณะที่เธอกำลังจะจากไป เซี่ยหลานก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกล่องอาหารกลางวัน
ก่อนที่เซี่ยหลานจะอ้าปากพูด เสิ่นอวี้อิ๋งก็รีบคว้าฟางเส้นสุดท้ายในชีวิต เธอรีบวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกล่าวทั้งน้ำตา
เซี่ยหลานประหลาดใจมากเมื่อเห็นหลินเซี่ยอยู่ที่นี่ “เซี่ยเซี่ย ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่?”
หล่อนมองเสิ่นอวี้อิ๋งที่มีหน้าตื่นตระหนกและมีรอยย่นบนใบหน้าเล็กน้อย
หลินเซี่ยมาที่นี่ได้อย่างไร?
ความลับถูกเปิดเผยแล้ว ดังนั้นเซี่ยหลานจึงมีสีหน้าทุกข์ใจอย่างมาก
แน่นอนว่าความจริงที่ว่าเสิ่นอวี้อิ๋งคลอดลูกถูกเปิดเผยมานานแล้ว แต่พวกหล่อนแค่หลอกลวงตัวเองไปวัน ๆ เท่านั้น
เมื่อหลินเซี่ยเห็นว่าเซี่ยหลานกลับมาแล้ว เธอก็ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติหรือตื่นตระหนก แต่กลับอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“แม่ ฉันขอโทษค่ะ หลังจากที่แม่ออกไปแล้ว ฉันก็ได้ยินเพื่อร่วมงานของแม่พูดว่าหลานสาวของแม่หรือใครสักคนเข้ารับการรักษาที่นี่ แต่ได้ยินไม่ชัดและคิดว่าลูกของลุงเซี่ยตงไม่สบาย ฉันเลยรีบวิ่งมาดู แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเสิ่นอวี้อิ๋งน่ะค่ะ”
ไม่ว่าคำอธิบายของหลินเซี่ยจะเป็นจริงหรือเท็จก็ตาม แต่เรื่องที่เซี่ยหลานบอกกับเพื่อนร่วมงานว่าหลานสาวของหล่อนกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นเป็นเรื่องจริง
เซี่ยหลานไม่ตอบอะไรอีก พูดเสียงแผ่วว่า “กลับก่อนเถอะ แม่จะไปส่ง”
“ค่ะแม่”
เซี่ยหลานวางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะให้เสิ่นอวี้อิ๋งกิน จากนั้นพาหลินเซี่ยเดินออกจากห้องผู้ป่วย
เมื่อมาถึงโถงทางเดิน เซี่ยหลานก็มองหลินเซี่ยพร้อมพูดว่า “เซี่ยเซี่ย ลูกน่าจะเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับอวี้อิ๋งมาบ้างแล้ว แม่หวังว่าลูกจะไม่บอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นวันนี้ เด็กคนนี้จะต้องไม่มีตัวตน เพราะตาและลุงของลูกเป็นที่รู้จักของคนมากมาย แม่ไม่อยากให้พวกเขาถูกคนทั้งไห่เฉิงตราหน้า ตาของลูกท่านแก่มากแล้ว ท่านสั่งสอนและให้ความรู้ผู้คนมาตลอดชีวิตจนมีลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง ดังนั้นแม่ไม่อยากให้คนรุ่นใหม่ไม่เคารพนับถือท่านและทำให้ท่านต้องอับอาย แม่ไม่อยากให้ตารู้สึกผิดและต้องอับอาย แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว แม่จึงตั้งใจที่จะลดความเสียหายให้ลงมากที่สุดและพยายามไม่ดึงผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นลูกจงแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไร ถือว่าเห็นแก่ตาเถอะนะ”
เซี่ยหลานรู้ว่าเสิ่นอวี้อิ๋งทำอะไรไว้กับหลินเซี่ยบ้าง ดังนั้นหล่อนจึงย้ายออกไปอาศัยอยู่กับผู้เฒ่าเซี่ยและเซี่ยตงอย่างชาญฉลาด
ในตอนนี้หลินเซี่ยยังคงเห็นแก่หน้าตาของพ่อหล่อนบ้าง
หลินเซี่ยพยักหน้า “แม่ ฉันเข้าใจค่ะ”
เธอมองเซี่ยหลานแล้วพูดต่อ “แต่แม่ก็รู้สถานการณ์ของเสิ่นอวี้อิ๋งดี หล่อนสร้างความปั่นป่วนมากมายให้กับโรงงานเครื่องจักรจนถูกเปิดโปงเมื่อไม่นานมานี้ ฉันเลือกที่จะปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้ แต่ถ้ามีคนซุบซิบนินทา แม่ก็อย่าสงสัยฉันแล้วกันค่ะ”
เธอได้ยินเจียงอวี่เฟยเล่าว่าตอนที่เสิ่นอวี้อิ๋งตั้งครรภ์อ่อน ๆ แม่ของหลิวจื้อหมิงแทบจะป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ว่าหลิวจื้อหมิงทำลูกสาวของผู้อำนวยการเสิ่นท้องทีเดียว
บางคนจงใจถามเกี่ยวกับหลานชายของหล่อน แต่แม่ของหลิวจื้อหมิงก็ยืนกรานปฏิเสธและบอกว่าลูกชายของตนไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเสิ่นอวี้อิ๋ง
เซี่ยหลานมีท่าทางเศร้าโศกพลางพยักหน้า “แม่รู้แล้ว แต่ตอนนี้ลูกเป็นคนเดียวที่ได้เห็นเด็กคนนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วลูกจงทำเป็นไม่เห็นอะไรเลยจะได้ไหม”
“แม่คะ แม่จะทำยังไงกับเด็กคนนั้น? พ่อของเด็กเป็นใครกันแน่? ทำไมเราถึงไม่ให้เขารับผิดชอบโดยการแต่งงานกับเสิ่นอวี้อิ๋งล่ะ? แม่ดูแลอวี้หลงแล้วยังต้องออกมาทำงานอีก ตอนนี้เสิ่นอวี้อิ๋งมีลูกแล้ว ฉันปล่อยให้แม่ดูแลเด็กคนนั้นเพิ่มอีกคนไม่ได้หรอก มันหนักเกินไปที่แม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้เพียงคนเดียว และฉันก็ทนเห็นแม่ในสภาพนี้ไม่ได้เหมือนกัน”
คำพูดเหล่านี้คือความในใจของหลินเซี่ย ในตอนที่เจอเซี่ยหลาน เธอก็สังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าคนตรงหน้าซูบผอมลงกว่าเดิม
ใบหน้าของคนตรงหน้าเธอดูซีดเซียว ดวงตาหมองคล้ำ และรู้สึกเหมือนว่าน้ำหนักของอีกฝ่ายจะลดลงอีกด้วย
พวกสารเลวตระกูลเสิ่นกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง ซึ่งเซี่ยหลานก็จำเป็นต้องทนทุกข์กับคนพวกนี้ไปด้วย
หลินเซี่ยมองเซี่ยหลานด้วยสายตาทุกข์ใจ
ทำไมเซี่ยหลานถึงต้องแบกรับความอัปยศทั้งหมดที่ตระกูลเสิ่นสร้างขึ้น?
เสิ่นเถี่ยจวินสลับตัวเด็กเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว และเซี่ยหลานก็ต้องเลี้ยงดูลูกสาวของคนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัว
ตอนนี้เสิ่นเถี่ยจวินติดคุก เสิ่นอวี้อิ๋งเป็นผู้หญิงเหลวแหลก ส่วนเสิ่นอวี้หลงก็นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่บ้าน
แล้วเซี่ยหลานจะรับไหวได้อย่างไร?
หลินเซี่ยหวังว่าสองแม่ลูกเสิ่นอวี้อิ๋งและเด็กปีศาจจะหายไปจากโลกใบนี้และหยุดทำร้ายคนบริสุทธิ์สักที
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อือ เห็นด้วยค่ะ หาทางตั้งตัวเร็วๆ แล้วออกไปจากชีวิตทุกคนซะสองแม่ลูกนรกคู่นี้ เซี่ยหลานแบกเอาไว้นานแล้ว ให้นางได้มีความสุขในชีวิตบั้นปลายบ้าง
ไหหม่า(海馬)
……………………………………