ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 594 ปากแตก
ตอนที่ 594 ปากแตก
การกระทำป่าเถื่อนของเซี่ยไห่ทำให้ดวงตาของลินดาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ในตอนแรกหล่อนตกตะลึง แต่หลังจากผ่านไปสองสามวินาทีก็ตระหนักได้ว่าชายคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ หล่อนจึงเริ่มดิ้นรนอย่างเต็มแรง แต่เซี่ยไห่แข็งแกร่งพอ ๆ กับวัว แถมยังไม่ให้โอกาสหล่อนสะบัดหนีด้วยการกอดรัดราวกับหล่อนเป็นอาหารอันโอชะ
ลินดาไม่อาจดิ้นหลุดได้ จึงหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนอ้าปากแล้วใช้ฟันอันแหลมคมกัดลงที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง
“โอ๊ย!”
เซี่ยไห่รู้สึกเจ็บมากจึงรีบปล่อยให้ลินดาเป็นอิสระ จากนั้นมองหน้าหล่อนด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “เธอเป็นหมาหรือไง?”
สายตาลินดาฉายความเย็นชาและไร้ความปรานี ทั้งยังดูดุดัน “ใครบอกให้นายทำตัวอันธพาลกับฉันแต่เช้าแบบนี้?”
เมื่อได้ยินคำพูดของลินดา เซี่ยไห่ก็ขมวดคิ้วและตอบว่า “ตอนนี้เธอเป็นแฟนฉันแล้ว ฉะนั้นการที่ฉันจูบเธอมันผิดกฎหมายตรงไหน? ใครเป็นอันธพาลกันแน่?”
ลินดากำลังจะบอกว่ามันผิดกฎหมายเพราะไม่ได้รับความยินยอมจากหล่อน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นลินดาก็เห็นเลือดเปื้อนที่มุมปากของเซี่ยไห่ ทันใดนั้นสีหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนไปทันที
เมื่อ… เมื่อกี้นี้ หล่อนออกแรงกัดมากเกินไป!
“มองอะไร?”
ขณะพูด เซี่ยไห่รู้สึกว่ามีบางอย่างไหลออกมาจากริมฝีปาก เขาจึงใช้ลิ้นเลียริมฝีปากล่าง จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวคละคลุ้งในปาก
เซี่ยไห่ใช้หลังมือเช็ดเลือดแล้วมองดูก่อนอุทานเสียงดัง จากนั้นหยิบกระจกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาส่อง เขาเห็นเลือดไหลซิบออกมาจากมุมปาก จึงหันมองลินดาด้วยสายตาขุ่นเคือง ดูเหมือนว่าเขากำลังจะร้องไห้
ผู้หญิงคนนี้มุทะลุชะมัด
เมื่อคืนนี้พวกเขาตกลงเรื่องความสัมพันธ์กันแล้ว แล้วการที่เขาจูบเธอมันผิดตรงไหน?
ถึงจะอายุเท่านี้แล้ว แต่หล่อนกลับดูบอบบางเหมือนสาวแรกแย้ม
ลินดารู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าเหยเกของเซี่ยไห่ หล่อนไม่คิดว่าตัวเองจะออกแรงกัดมากเกินไปจนทำให้เขาเลือดออก
“เอ่อ…” ลินดากล่าวคำเบาพลางเดินเข้าไปหาเซี่ยไห่ด้วยความรู้สึกผิด “เอาอย่างนี้ นายไปบ้วนปากล้างแผลก่อนเถอะ”
“ฉันปากแตก จะบ้วนปากไปเพื่ออะไร?” เซี่ยไห่หยิบกระจกขึ้นมาส่องแผลบนริมฝีปากที่ถูกลินดากัด ซึ่งมันสามารถเห็นได้ชัดเจนอย่างมาก
“ถ้าอย่างนั้นติดปลาสเตอร์ก่อนดีไหม?” ลินดาเสนออีกครั้ง
“ใครเขาใช้ปลาสเตอร์ปิดแผลที่ปากกัน?”
เซี่ยไห่มองหล่อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ ขณะที่ลินดายกมือขึ้นลูบจมูกอย่างช้า ๆ นอกจากรู้สึกผิดแล้ว หล่อนยังรู้สึกเสียใจกับการกระทำก่อนหน้านี้
หล่อนไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน การกระทำของเซี่ยไห่กะทันหันเกินไปจนหล่อนไม่สามารถควบคุมความปั่นป่วนในใจได้
ลินดากังวลไม่น้อยว่าเซี่ยไห่จะกลัวตัวเองและเอ่ยปากขอเลิกกับตน!
การสูญเสียบางอย่างก่อนหน้านี้ทำให้หล่อนค่อนข้างหงุดหงิดใจ
ลินดาก้มหน้าลงเหมือนกับเด็กที่เพิ่งทำความผิด
เซี่ยไห่ไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของหญิงสาวที่เด็ดเดี่ยวและดุดันคนนี้มาก่อน อารมณ์ของเขาสงบลงทันที จากนั้นวางกระจกลงแล้วเดินไปหาลินดา พลางลูบหัวหล่อนเบา ๆ “เอาล่ะ ไม่เป็นไร คราวหน้าอย่ากัดอีกก็แล้วกัน”
“คราวหน้า?” เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลินดาก็เงยหน้าขึ้นมองเขา
เซี่ยไห่มองดูท่าทางซื่อบื้อของหล่อนพลางกลอกตา “ใช่ หรือคราวหน้าเธอจะไม่ให้ฉันจูบอีก? เธอนี่เป็นแฟนแบบไหนกัน? เรื่องที่ผ่านมาก็ช่างมันเถอะ”
เซี่ยไห่เป็นคนช่างพูด ส่วนลินดาไม่รู้จะพูดอะไร
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ เซี่ยไห่ก็รู้สึกกังวลอีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าริมฝีปากจะมีเลือดไหลหรือไม่ เขามองหล่อนแล้วถามว่า “ลินดา เธอจะเลิกกับฉันจริง ๆ เหรอ?”
“เปล่า”
ลินดาปฏิเสธเสียงทุ้ม
เซี่ยไห่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หล่อน “ถ้าอย่างนั้นช่วยจูบฉันเพื่อพิสูจน์ความรู้สึกหน่อยสิ”
ลินดา “…”
เซี่ยไห่หน้าหนาเกินไปแล้ว เขาไม่กลัวว่าจะถูกหล่อนกัดอีกเหรอ
เมื่อเห็นว่าหล่อนยังคงยืนนิ่ง เขาจึงรบเร้าให้หล่อนเขยิบเข้ามาใกล้ “เร็วเข้า”
ลินดาไม่เคยคิดว่าก่อนว่าเซี่ยไห่ เถ้าแก่ใหญ่ปากร้ายตรงหน้าจะเป็นคนไร้ยางอายขนาดนี้
แม้จะรังเกียจความไร้ยางอายของเขา แต่เมื่อนึกได้ว่าเซี่ยไห่ไม่ได้โกรธหรือเกลียดที่หล่อนกัดริมฝีปากของเขา ลินดายังคงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย จึงทำได้เพียงโน้มหน้าเข้าไปใกล้และหอมแก้มเขาเท่านั้น
รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยไห่ขณะพูดว่า “ต้องแบบนี้สิ เหมือนโดนเด็กน้อยหอมแก้มเลย”
เขาเช็ดริมฝีปากให้ลินดาพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ตอนอยู่ข้างนอกคุณควรใจดีและอยู่ใกล้ผมเข้าไว้นะ”
ลินดาพูดไม่ออก จงใจผลักเขาออกไปจากห้องนอนเพราะต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า
เซี่ยไห่เดินไปยังห้องนั่งเล่น นึกขึ้นได้ว่าเขาและหล่อนทะเลาะกันนานเกินไปจนอาหารเช้าเย็นชืดหมดแล้ว
เมื่อลินดาออกมาจากห้อง เขาก็รีบส่งซาลาเปาให้หล่อน “มากินซาลาเปาตอนที่มันยังร้อน ๆ ก่อนเถอะ”
ลินดาตอบว่าหล่อนไม่มีเวลามากพอที่จะกินอาหาร เซี่ยไห่จึงฉีกซาลาเปาแล้วยัดเข้าปากของตัวเอง “อย่าบังคับให้ฉันต้องป้อนเธอนะ”
ลินดา “!!!”
ลินดาเชื่อว่าเซี่ยไห่สามารถทำอย่างที่พูดได้แน่นอน จึงรีบหยิบซาลาเปาเข้าปากอย่างรวดเร็ว
เซี่ยไห่รินน้ำอุ่นและเตรียมยาแก้หวัดใส่ลงในฝาขวด เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ เขาก็ยื่นยาใส่ไว้ในมือของเธอ
ขณะที่ลินดากำลังกินยา เขาก็นำรองเท้ามาวางตรงหน้า และส่งสัญญาณให้รีบสวมมัน
เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อลินดาเห็นรองเท้าหนังที่เซี่ยไห่เพิ่งเตรียมให้ หัวใจของหล่อนก็เต้นแรง ระหว่างนั้นไม่วายเงยหน้ามองดูชายที่กำลังสวมรองเท้าให้
หล่อนซาบซึ้งมากจนอยากจะร้องไห้
แม้หลายคนจะบอกว่าหากมีความรัก อย่ารู้สึกหวั่นไหวหรือให้ใจคนคนนั้นเพียงเพราะการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ
แต่ตอนนี้ เซี่ยไห่ดูแลหล่อนอย่างดีด้วยความรอบคอบและอ่อนโยน ลินดาจึงรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริง
หล่อนทำทุกอย่างด้วยตัวเองมานานหลายปีแล้ว แน่นอนว่าไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างนี้มาก่อน
ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้หล่อนประทับใจมากที่สุด คือการได้พบและพูดคุยกับเซี่ยไห่หลายครั้ง ซึ่งในความรู้สึกเดิมทีของลินดา เขาเป็นเจ้านายที่เอาแต่ใจและเรื่องมาก
ในบรรดาพี่น้องตระกูลเซี่ยทั้งสามคน เซี่ยไห่เป็นลูกคนสุดท้อง ถึงพี่ ๆ จะคอยดุด่าบ้าง แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงแน่นแฟ้น ตอนอยู่ที่บ้านตระกูลเซี่ย หล่อนไม่เคยเห็นเซี่ยไห่ทำงานบ้านหรืองานจิปาถะ เพราะเขาเอาแต่แต่งตัวหล่อและทำตัวเจ้าชู้ไปวัน ๆ
แต่วันนี้เขากลับเป่าผมให้หล่อนด้วยความชำนาญ ซื้ออาหารเช้า รินน้ำและเตรียมยา แถมยังเตรียมรองเท้าให้หล่อนอีกด้วย
ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเป็นธรรมชาติและมีทักษะไม่น้อย ลินดาจึงรู้สึกประทับใจปนประหลาดใจมาก
ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้หล่อนจะรู้จักเขาแค่เพียงผิวเผิน
ลินดายังคงตกอยู่ในภวังค์ ขณะที่เซี่ยไห่เร่งเร้า “เร็วเข้า ไม่งั้นเธอจะไปทำงานสายนะ”
“โอ้” หล่อนรีบเปลี่ยนรองเท้าขณะที่เซี่ยไห่ช่วยถือกระเป๋าก่อนออกไปข้างนอกพร้อมกัน
ลินดายังคงไม่หายดี ดังนั้นเซี่ยไห่จึงอาสาขับรถและให้หล่อนนั่งพักตรงที่นั่งผู้โดยสาร
“ฉันต้องขับรถไปที่นั่น ไม่อย่างงั้นต้องสายแน่เลย”
เซี่ยไห่คว้าแขนหล่อนเอาไว้ เขาไม่มีทางปล่อยให้หล่อนขับรถตามลำพัง “ผมจะไปส่งพวกคุณเอง”
เขาผลักหล่อนขึ้นรถแล้วปิดประตู
จากนั้นขับรถกลับไปที่บ้าน
หลินเซี่ยยังอยู่ที่บ้าน ดังนั้นในตอนเช้าเซี่ยอวี่จึงขอให้หลินเซี่ยแต่งหน้าให้หล่อนสวยเป็นพิเศษ
ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เซี่ยอวี่ยังใช้เทคนิคพิเศษ หล่อนขอให้หลินเซี่ยแต่งหน้าให้ ซึ่งการแต่งหน้าและทรงผมได้รับการออกแบบเป็นพิเศษโดยอ้างอิงจากภาพลักษณ์ของตัวละครที่หล่อนได้รับ และแม้แต่เสื้อผ้าก็ยังช่วยส่งเสริมตัวละครอย่างเต็มที่
หลังจากแต่งหน้าเสร็จ หล่อนก็วางแผนจะโทรหาลินดา
เซี่ยอวี่บอกว่าถ้าลินดาไม่มา หล่อนจะขอให้หลินเซี่ยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวจำเป็นและออกไปด้วยกัน
แต่ขณะที่หล่อนกำลังจะโทรหาอีกฝ่าย เสียงหญิงชราที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ดังขึ้น
“เสี่ยวอวี่ เมื่อคืนเสี่ยวไห่ไม่ได้กลับบ้านเหรอ?” คุณแม่เซี่ยเดินเข้ามาถามเซี่ยอวี่
เซี่ยอวี่ที่กำลังสวมต่างหูอยู่หน้ากระจกตอบว่า “ถ้าเขาไม่อยู่บ้าน ก็แสดงว่ายังไม่กลับมาค่ะแม่”
“น้องยังอยู่ที่บ้านลินดาเหรอ? ทั้งคืนเลยเหรอ? สองต่อสองเนี่ยนะ?” คุณแม่เซี่ยจินตนาการถึงภาพที่ไม่สามารถอธิบายได้
นางมองเซี่ยอวี่ด้วยความคาดหวัง และต้องการยืนยันความคาดเดาภายในใจของตัวเอง
เซี่ยอวี่ไม่อยากให้หญิงชราคาดหวังและจมอยู่กับจินตนาการ หล่อนจึงพูดว่า “เขาอาจจะอยู่ที่ห้องเต้นรำก็ได้ค่ะ”
“อ้อ” คุณแม่เซี่ยยังไม่ยอมแพ้และยิ้มให้หลินเซี่ย “เซี่ยเซี่ย หลานช่วยโทรหาอารองแล้วถามว่าเขาอยู่ที่ไหนได้ไหม?”
“ได้ค่ะ”
หลินเซี่ยโทรหาเซี่ยไห่
แต่กลับพบว่าเขาปิดเครื่อง
เซี่ยอวี่โทรหาน้องชายเมื่อคืนนี้ แต่เขาก็ปิดเครื่องเช่นกัน
คุณแม่เซี่ยค่อนข้างผิดหวังจึงเดินออกไปข้างนอก
เซี่ยอวี่อยากโทรหาลินดา แต่ก่อนที่จะกดโทรออก หล่อนก็ได้ยินเสียงหญิงชรากำลังคุยกับใครบางคน
เซี่ยอวี่มองออกไปนอกหน้าต่าง และเห็นเซี่ยไห่กับลินดาเดินเคียงข้างกัน
เมื่อเห็นอย่างนั้น ดวงตาที่ขุ่นมัวของคุณแม่เซี่ยก็สดใสขึ้นทันที รอยยิ้มพลันปรากฏบนใบหน้าของนาง
นางทักทายลินดาอย่างอบอุ่นก่อนถามด้วยความเป็นห่วง “ลินดา ฉันได้ยินเสี่ยวอวี่บอกว่าเธอเป็นไข้ ตอนนี้หายดีหรือยัง?”
เมื่อเห็นสายตาเป็นกังวลของคุณแม่เซี่ย ลินดาก็รู้สึกเขินอาย แต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ “ ฉันอาการดีขึ้นแล้วค่ะคุณป้า”
“เสี่ยวไห่ เมื่อคืนลูกอยู่ดูแลลินดาหรือไปเที่ยวเถลไถลที่อื่น?”
ทันทีที่คุณแม่เซี่ยถามด้วยความสงสัย นางก็สังเกตเห็นว่ามุมปากของเซี่ยไห่แตก จึงโพล่งถามว่า “ปากลูกแตกได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงชรา หลินเซี่ย เซี่ยอวี่ และหลินเยี่ยนก็รีบวิ่งออกมาดู
ปากแตกเหรอ?
พวกเธอเดาถูกจริงด้วย!
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คิดไปถึงไหนกันน่ะสาวๆ ดึงจินตนาการกลับมาก่อน
ไหหม่า(海馬)
……………………………………