ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 736 โจวลี่หรงผู้ไม่เข้าพวก
ตอนที่ 736 โจวลี่หรงผู้ไม่เข้าพวก
โจวเจี้ยนกั๋วและหวังอวี้เสียมาที่บ้านของเฉินเจียเหอแล้วก็ทำตัวเหมือนกับอยู่บ้านตัวเอง ทั้งยังปฏิบัติต่อเฉินเจียเหอหลานชายคนโตเหมือนลูกของตัวเอง
ในทางกลับกัน โจวลี่หรงกลับเป็นเหมือนคนนอก
หล่อนรู้สึกไม่เข้ากับคนอื่น ๆ เวลาอยู่ด้วยกัน
ตอนกลับบ้านเกิด ถึงหล่อนจะพูดน้อย แต่นั่นก็เป็นบ้านของตัวเอง ซึ่งหล่อนก้มหน้าช่วยพ่อแม่ล้างจานเช็ดถูเพื่อทำงานให้ได้มากที่สุด แต่แทบไม่ได้คุยหรือแลกเปลี่ยนกับคนอื่นเลย
ยิ่งตอนนี้มาอยู่บ้านลูกชายก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้ทำ ทั้งที่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่หล่อนก็ไม่อาจเข้าร่วมบทสนทนาของพวกเขาได้ เพราะหวังอวี้เสียกำลังให้หลินเซี่ยแนะนำเครื่องสำอางให้ฟัง
โจวเจี้ยนกั๋วและหวังอวี้เสียต่างรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนระหว่างโจวลี่หรงกับหลินเซี่ยและคนอื่น ๆ
ตอนที่เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยแต่งงานกัน พวกเขาก็มางานด้วย และรู้สึกว่าโจวลี่หรงกับหลินเซี่ยเข้ากันได้ดี อย่างน้อยก็ดูสุภาพต่อกัน
ตอนนั้นพวกเขายังชื่นชมในการเปลี่ยนแปลงของโจวลี่หรงเลย
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนกับตอนที่เฉินเจียเหอกับหลินเซี่ยเพิ่งแต่งงานกันที่บ้านเกิด แล้วโจวลี่หรงมาหาที่หมู่บ้านเลย
โจวเจี้ยนกั๋วและหวังอวี้เสียไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่กล้าถามออกมาตรง ๆ
ทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้
“พี่สาว มาอุ้มหลานหน่อยสิคะ นี่หลานชายพี่เองนะ ทำไมถึงนั่งไกลเป็นโยชน์ทำตัวเป็นแขกอย่างนั้นล่ะ?” หวังอวี้เสียยื่นเด็กให้โจวลี่หรงอุ้ม
โจวลี่หรงรับหลานชายมา สีหน้าอ่อนโยนขึ้นในทันที
บางอย่างก็อาศัยการกระทำได้โดยไม่ต้องพูด
ครั้นโจวเจี้ยนกั๋วพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของพ่อแม่และเรื่องราวในหมู่บ้าน บรรยากาศก็ผ่อนคลายขึ้น
“พี่สาว ในเมื่อพี่เกษียณแล้วก็กลับไปอยู่ที่หมู่บ้านสักพักเถอะ” โจวเจี้ยนกั๋วมองโจวลี่หรงอย่างกังวล “ผมดูแล้วว่าปีนี้สุขภาพแม่ไม่ค่อยดี ท่านอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว กลัวว่าสักวันหนึ่งจะล้มไป พี่ช่วยกลับไปอยู่เป็นเพื่อนท่านหน่อยเถอะ”
พอได้ยินสิ่งที่โจวเจี้ยนกั๋วพูด สีหน้าของโจวลี่หรงก็หม่นหมองลง
“แม่สุขภาพไม่ดีเหรอ?” หล่อนถาม
“พ่อแม่มีลูกแค่เราสองคน แถมพวกท่านก็อายุมากแล้ว เราต้องสามัคคีกัน ปรึกษาหารือกันเรื่องดูแลท่าน”
“แน่นอนว่าผมเป็นลูกชาย สามารถทำหน้าที่เลี้ยงดูพวกท่านได้ ไม่จำเป็นต้องให้พี่มาดูแล แต่ผมแค่หวังว่าพี่จะไม่เสียใจภายหลัง พี่มาแต่งงานไกลถึงเมืองไห่เฉิง เวลาอยู่กับพวกท่านก็น้อย ตอนนี้เกษียณมีเวลาแล้วก็กลับบ้านไปเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ นะ”
โจวลี่หรงซาบซึ้งใจมากที่น้องชายพูดแบบนี้ ถามว่า “พวกเธอมาคราวนี้อยู่กี่วัน”
“ดื่มฉลองครบเดือนลูกเสร็จแล้วพวกเราก็จะกลับ พวกผมลาพักร้อนมา ไม่มีเวลามาก”
โจวลี่หรงตอบรับ “ฉันจะลองปรึกษาสามีดูว่าจะกลับไปพร้อมพวกเธอได้ไหม”
ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกัน ก็มีคนมาเคาะประตู
เฉินเจียเหอวิ่งไปเปิดประตู ก็เห็นเซี่ยเหลย หลิวกุ้ยอิง เซี่ยอวี่ และเซี่ยไห่ยืนอยู่ที่หน้าประตู
แถมเซี่ยไห่ยังถือถังไม้ใบใหญ่มาด้วย
“พ่อ แม่ อารอง อาหญิง ทุกคนมาแล้วเหรอครับ?” เฉินเจียเหอรับถังไม้จากเซี่ยไห่ แล้วเชิญทุกคนเข้าไปข้างใน
“พวกเรามาเยี่ยมน้ากับน้าสะใภ้ของเธอสักหน่อยน่ะ”
โจวเจี้ยนกั๋วไม่เพียงแต่เป็นน้าของเฉินเจียเหอ แต่ยังเป็นชาวบ้านร่วมหมู่บ้านเดียวกับหลิวกุ้ยอิงพวกเขาด้วย ดังนั้นเมื่อเซี่ยเหลยได้ยินว่าพวกเขามาเมืองไห่เฉิงอีกครั้ง เขาจึงทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีโดยนำอาหารมาส่งด้วยตัวเอง
เซี่ยไห่กับเซี่ยอวี่ไม่มีอะไรทำ ต่างคิดถึงหลานชายมาก จึงฉวยโอกาสนี้มาเยี่ยมเด็กน้อยด้วย
“น้าเจียเหอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เซี่ยเหลยเดินไปยิ้มทักทายและจับมือกับโจวเจี้ยนกั๋ว
โจวเจี้ยนกั๋วเคารพเซี่ยเหลยผู้เป็นวีรบุรุษจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเห็นเขามาด้วยตัวเอง ก็ยิ้มรีบลุกขึ้นต้อนรับ
“เดินทางสะดวกราบรื่นไหม?” เซี่ยเหลยถาม
“สะดวกมากครับ” โจวเจี้ยนกั๋วยิ้มตอบ “จินซานขับรถพาพวกเรามาส่งถึงบ้าน ไม่ต้องไปเบียดกันในรถเมล์ ตอนนี้มาเมืองไห่เฉิงสะดวกขึ้นทุกครั้งเลย”
เซี่ยเหลยคุยกับโจวเจี้ยนกั๋ว ส่วนหลิวกุ้ยอิงเริ่มจัดจานบนโต๊ะ
พวกเขานำอาหารมาทั้งหมดแปดจาน จัดเตรียมมาอย่างอุดมสมบูรณ์
หวังอวี้เสียมองอาหารบนโต๊ะที่อุดมสมบูรณ์ทั้งกลิ่นสีและรสชาติ หล่อนถึงกับตะลึงงัน
หล่อนมองหลิวกุ้ยอิงในตอนนี้ แล้วนึกย้อนไปถึงหลิวกุ้ยอิงที่เคยเห็นในหมู่บ้านก่อนหน้านี้ ในใจก็รู้สึกหลากหลายอารมณ์ปนเปกัน
ก็จริงอย่างที่โจวเจี้ยนกั๋วพูด พอพวกเขามาเมืองไห่เฉิงแล้วก็เหมือนกับเกิดใหม่ ผลัดเปลี่ยนโฉมหน้าไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
เซี่ยไห่กับเซี่ยอวี่เข้ามาก็รุดเข้าไปหาเด็ก ๆ ทันที
แน่นอนว่าต้องรีบวิ่งไปล้างมือมาก่อน
เซี่ยไห่เดินออกมาจากห้องน้ำ ยื่นมือที่เพิ่งล้างเสร็จใหม่ ๆ ให้โจวลี่หรงดู พลางพูดว่า “พี่โจว ผมล้างมือแล้วนะ”
การกระทำของเขาทำให้โจวลี่หรงรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
หวังอวี้เสียมองโจวลี่หรง แล้วก็มองเซี่ยไห่ ถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “เถ้าแก่เซี่ย ทำไมคุณต้องไปบอกพี่สาวด้วยล่ะว่าคุณล้างมือแล้ว?”
เซี่ยไห่พูดน้ำเสียงยานคาง ถอนหายใจ “ถ้าผมไม่รายงาน ผมกลัวว่าหล่อนจะไม่ให้ผมอุ้มเด็ก”
“หา? พวกเราสองคนก็ไม่ได้ล้างมือเลยนะ”
หวังอวี้เสียมองโจวลี่หรงก่อนมองหลินเซี่ย และเข้าใจในทันทีว่าทำไมบรรยากาศระหว่างพวกเธอถึงได้แปลก ๆ แบบนี้
เรื่องนี้ทำให้หวังอวี้เสียรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย
จริง ๆ แล้วการล้างมือก็ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมเลย
คนในเมืองใหญ่ให้ความสำคัญกับความสะอาด แต่เมื่อกี้นี้พวกเขาเผลอปล่อยปละละเลยไปแล้ว
โจวลี่หรงรีบไปหยิบชามและตะเกียบที่ครัว ก่อนช่วยหลิวกุ้ยอิงทำงานเพื่อกลบเกลื่อนความอึดอัดใจ
หลินเซี่ยเห็นเซี่ยอวี่แล้วก็ถามอย่างเป็นห่วง “อาหญิง ช่วงนี้คุณทำอะไรอยู่ที่บ้านคะ ทำไมฉันรู้สึกว่าสีหน้าของคุณไม่ค่อยดีเลย”
เซี่ยอวี่ลูบหน้าแล้วพูดว่า “อาจจะเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอมั้ง ฉันรู้สึกง่วงตลอดเลย”
“คุณหมอเย่ล่ะคะ ยังไม่กลับมาอีกเหรอ” หลินเซี่ยถามต่อ
“เขาจะกลับเมืองไห่เฉิงพรุ่งนี้ ทันงานฉลองครบรอบหนึ่งเดือนของลูกเธอพอดี”
หลิวกุ้ยอิงยิ้มแล้วเชิญชวนทุกคน “มา ทุกคนมากินข้าวกันเถอะค่ะ น้าเจียเหอ น้าสะใภ้เจียเหอ พวกคุณเหนื่อยมาตลอดทางแล้ว อาหารที่พวกเราเอามาจากร้านยังร้อนๆ อยู่เลย ทุกคนรีบกินตอนที่ยังร้อนสิ”
“พี่สะใภ้ ดูคุณสิ ทำไมทำตัวเกรงใจกันขนาดนี้ ทุกครั้งที่พวกเรามา คุณก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นตลอด พวกคุณเปิดร้านอาหารก็เหนื่อยมากแล้ว ยังต้องเอาอาหารมาให้พวกเราอีก”
“ไม่เหนื่อยหรอก เชิญนั่งทางนี้แล้วกินข้าวเถอะ”
หลิวกุ้ยอิงดึงเก้าอี้ให้พวกเขา พูดกับโจวลี่หรงอย่างสุภาพว่า “แม่สามีเชิญค่ะ คุณก็รีบมานั่งเถอะ”
ทุกคนนั่งลงด้วยกัน กินไปคุยไป
หลินเซี่ยถามโจวเจี้ยนกั๋วว่า “น้าคะ ช่วงนี้โรงงานของพวกคุณมีผลประกอบการเป็นยังไงบ้างคะ มีการผลิตเครื่องจักรใหม่ ๆ ไหม”
โจวเจี้ยนกั๋วพูดด้วยน้ำเสียงสดใส “ยังไม่ได้พัฒนาเครื่องจักรใหม่ ๆ ต่อก็จริง แต่เครื่องจักรกลการเกษตรที่เราผลิตก่อนหน้านี้ได้รับความนิยมมาก ตอนนี้มียอดสั่งซื้อเยอะมาก ผลประกอบการของโรงงานดีกว่าสองปีก่อนมาก ครั้งนี้ที่ฉันมา ผู้จัดการโรงงานยังฝากของขวัญของเด็ก ๆ มาด้วยนะ”
โจวเจี้ยนกั๋วพูดพลางหยิบซองแดงออกมาจากกระเป๋า ยัดใส่อ้อมแขนของเด็กน้อย
ครั้นหลินเซี่ยได้ยินว่าผู้จัดการโรงงานเครื่องจักรที่บ้านเกิดใจดีขนาดเอาของขวัญมาให้ด้วย เธอก็หัวเราะแล้วพูดว่า
“ผู้จัดการโรงงานช่างมีน้ำใจจริง ๆ เลยค่ะ ตอนนั้นที่พวกเราแต่งงานกัน พวกเขาก็ให้ของขวัญมาแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอาใจช่วยให้สหายโจวเข้ากับคนอื่นๆ ได้นะคะ อยู่ที่สูงนานเกินไปก็เหงาเข้ากับใครไม่ได้จูนกับใครไม่ติดแบบนี้แหละ
ไหหม่า(海馬)
……….