ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 740 เซี่ยอวี่ตั้งครรภ์
ตอนที่ 740 เซี่ยอวี่ตั้งครรภ์
หลังจากที่เย่ไป๋จับชีพจรให้เสร็จ เซี่ยอวี่ก็เงยหน้ามองเย่ไป๋ และเห็นความกังวลใจในแววตาของเขาเช่นกัน
หัวใจของเซี่ยอวี่เต้นตึกตัก เย่ไป๋สบตากับดวงตาที่ตื่นตระหนกของหล่อน เขาลูบศีรษะหล่อนเบา ๆ หัวเราะและพูดว่า “คุณอย่าคิดมากไปเลย จะเป็นโรคอะไรกันเล่า ร่างกายของคุณแข็งแรงมากเลย”
“จริงเหรอ?” เซี่ยอวี่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเย่ไป๋สักเท่าไร แน่นอนว่าหล่อนพลอยไม่เชื่อถือวิชาแพทย์ของเย่ไป๋ด้วย
“เอาล่ะ รีบลุกขึ้นมาเถอะ”
เย่ไป๋เปิดถุงที่เขาเอามา แล้วหยิบขนมที่ซื้อมาจากเมืองหลวงออกมาเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเขาก็หยิบกล่องอันประณีตงดงามออกมาจากกระเป๋าถือของตัวเอง
แล้วค่อย ๆ เปิดออก
เมื่อเซี่ยอวี่เห็นของในกล่อง ดวงตาก็เป็นประกาย พูดด้วยความดีใจว่า “สร้อยคอเหรอ”
เย่ไป๋หยิบสร้อยคออันประณีตออกมาจากกล่องด้วยมือข้างหนึ่ง ยิ้มแล้วถามว่า “ชอบไหม?”
สร้อยคอทองคำเส้นนี้มีดีไซน์ที่เรียบง่ายมาก เป็นสร้อยห้อยจี้ธรรมดาทั่วไป ซึ่งเซี่ยอวี่ชอบแบบเรียบ ๆ แบบนี้มาก เพราะใส่แล้วดูอ่อนเยาว์
พอเย่ไป๋เห็นหล่อนชอบของขวัญที่เขาให้มาก อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นตามไปด้วย
“รีบไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวผมจะใส่ให้คุณ”
เซี่ยอวี่ลุกจากเตียงไปที่ห้องน้ำ พอหล่อนออกมา ก็เห็นเย่ไป๋นั่งอยู่ที่ขอบเตียง สีหน้าเคร่งเครียด ท่าทางเหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจ
เมื่อเซี่ยอวี่อาบน้ำเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เย่ไป๋ก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวอวี่ เธออยากกินอะไร? จะกินข้างนอกหรือให้ผมทำให้ล่ะ?”
พอพูดถึงเรื่องอาหาร เซี่ยอวี่ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าใด ขมวดคิ้วตอบว่า “อาหารข้างนอกมันเลี่ยนเกินไป ไม่อยากกิน”
“งั้นผมทำอาหารให้คุณเอง คุณอยากกินอะไรล่ะ?”
เขาเดินเข้าไปหา ยืนอยู่ด้านหลังของหล่อน แล้วบรรจงสวมสร้อยคอให้หล่อนอย่างอ่อนโยน
หล่อนสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน เผยลำคอระหงและเรียบเนียน เมื่อสวมสร้อยคอแล้ว ก็ดูเหมือนผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
“สวยมากเลย”
แต่เมื่อฝ่ามือใหญ่ของเขาลูบท้องของหล่อนเบา ๆ หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านรุนแรงขึ้นมาทันที ริมฝีปากที่จูบหล่อนพลอยชะงักไปด้วย
เซี่ยอวี่มองผ่านกระจกเห็นสีหน้าผู้ชายที่กำลังกอดหล่อนอยู่ดูซับซ้อนไป จึงเอียงคอไปด้านหลังแล้วถามว่า “เป็นอะไรไป?”
หลายวันมานี้ที่ไม่ได้เจอกัน หล่อนก็อยากใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา แต่พอเห็นเขาเหม่อลอยแบบนี้ ก็รู้สึกผิดหวัง
“เสี่ยวอวี่ พวกเราไปจดทะเบียนสมรสกันเถอะ” เย่ไป๋กอดหล่อนจากด้านหลัง กระซิบถามความเห็นที่ข้างหู
เซี่ยอวี่มองเขาด้วยความสงสัย “ทำไมอยู่ๆ ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ?”
“รอจนฉันเสร็จงานแล้ว ค่อยมาใหม่ตอนบ่ายนะ”
เย่ไป๋มองนาฬิกาแล้วลุกขึ้นยืน ด้วยกลัวว่าผู้นำจะรอนานเกินไป
เขาหยิบกระเป๋าหนังใบเล็กของตัวเอง ข้างในเต็มไปด้วยเอกสารการประชุมวิชาการครั้งนี้
เซี่ยอวี่ที่กำลังกินข้าวอยู่พูดกับเขาว่า
“ตอนบ่ายคุณกลับบ้านไปก่อน ออกไปนานขนาดนี้ก็น่าจะกลับบ้านก่อน พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”
เย่ไป๋จูบเบา ๆ ที่หน้าผากของหล่อน แล้วรีบร้อนจากไป
ถึงแม้อาหารตรงหน้าจะเป็นฝีมือคนรักทำ แต่เซี่ยอวี่ก็ยังไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไร
ตอนที่เย่ไป๋จับชีพจรให้หล่อน สายตาเคร่งเครียดของเขายังคงลอยขึ้นมาในความคิดของหล่อนอย่างห้ามไม่ได้
เมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยในใจยิ่งงอกงามขึ้นเรื่อย ๆ
กินข้าวเสร็จ หล่อนก็เปลี่ยนรองเท้า สวมแว่นตากันแดด ถือกระเป๋าออกจากบ้านไป
กว่าเย่ไป๋จะเสร็จงานออกมาจากโรงพยาบาลก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว
เขาไม่ได้กลับบ้าน แต่กลับไปที่บ้านตระกูลเซี่ยอีกครั้ง
หลังจากคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็ตัดสินใจจะบอกเรื่องที่หล่อนตั้งครรภ์ให้เซี่ยอวี่รู้
ตอนที่ปู่รองของเขาจับชีพจรให้เซี่ยอวี่ในครั้งก่อน ชายชราไม่ได้เอ่ยปากรับประกันเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเซี่ยอวี่เลย
อีกทั้งเขายังกลัวด้วยว่าถ้าเซี่ยอวี่ที่ยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ได้รู้เรื่องนี้แล้ว หล่อนอาจจะมีความคิดอย่างอื่น
วันนี้เขาจับชีพจรให้เซี่ยอวี่แล้ว ยืนยันได้ว่าหล่อนท้องจริง ๆ
ถ้านับวันเวลาก็น่าจะถึงช่วงที่มีอาการแพ้ท้องแล้ว
ที่หล่อนง่วงนอนบ่อย ๆ นั่นก็เป็นอาการของคนท้อง
แต่ตอนนี้หล่อนยังไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้น
วันนี้เขาจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับหล่อน ไม่ว่าหล่อนจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็จะเคารพการตัดสินใจของหล่อน
รถของเย่ไป๋จอดอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด เขาจึงขับรถมุ่งหน้าตรงไปที่บ้านของตระกูลเซี่ย
ปรากฏว่าประตูใหญ่ของบ้านตระกูลเซี่ยถูกล็อคไว้
ไม่มีใครอยู่
เย่ไป๋โทรหาเซี่ยอวี่ แต่หล่อนปิดเครื่อง
เขารู้สึกร้อนใจ จึงโทรหาเซี่ยไห่อีกครั้ง
เซี่ยไห่กำลังเดินเล่นกับลินดาอยู่ บอกว่าตั้งแต่เขาออกจากบ้านตอนเช้าก็ยังไม่ได้กลับไป และไม่เห็นเซี่ยอวี่ด้วย
เย่ไป๋ขับรถไปที่ร้านอาหารอีกครั้ง ปรากฏว่าหล่อนก็ไม่ได้อยู่ที่ร้านอาหาร
ความวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา
สถานที่ที่เซี่ยอวี่น่าจะไปได้ก็มีแต่บ้านของหลินเซี่ยเท่านั้น
เย่ไป๋รีบขับรถไปที่บ้านของเฉินเจียเหออย่างเร่งด่วน
เมื่อเพิ่งมาถึงชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ ก็เจอกับเฉินเจียเหอที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับมาพอดี
เย่ไป๋บีบแตรรถอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ของเฉินเจียเหอจอดอยู่ข้าง ๆ เขา
“นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เฉินเจียเหอถามด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นเย่ไป๋ โผล่มาอย่างกะทันหัน
“เพิ่งกลับมาวันนี้”
เฉินเจียเหอดันรถมอเตอร์ไซค์ สั่งให้เขาจอดรถให้เรียบร้อย
“นายมีธุระอะไรหรือเปล่า” เฉินเจียเหอเพิ่งสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเย่ไป๋ดูร้อนรนมาก
เย่ไป๋ตอบ “ฉันมาหาเซี่ยอวี่”
เฉินเจียเหอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเซี่ยอวี่อยู่ที่บ้านของพวกเขาหรือไม่ ทั้งสองขึ้นไปบนตึก ปรากฏว่าในบ้านมีแค่หลินเซี่ยกับหู่จือที่กำลังเล่นกับลูกน้อย
ทันทีที่เข้าประตูมา เย่ไป๋ก็ถามตรง ๆ ว่า “เซี่ยเซี่ย อาหญิงของเธอไม่ได้มาหาเหรอ”
หลินเซี่ยเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นเป็นเย่ไป๋ เธอตอบว่า “ไม่ได้มาค่ะ อาหญิงของฉันมาเมื่อวานนี้ วันนี้ไม่ได้มา”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเย่ไป๋ยิ่งดูหนักอึ้งและร้อนรุ่มมากขึ้น
หลินเซี่ยถามต่อ “คุณหมอเย่ ติดต่ออาหญิงของฉันไม่ได้เหรอคะ”
“อืม โทรไปก็ติดต่อไม่ได้ คนก็ไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ไปไหนแล้ว”
“ฉันจะลองดูค่ะ” หลินเซี่ยใช้โทรศัพท์บ้านของเธอโทรหาเซี่ยอวี่ ผลก็คือมีเสียงข้อความแจ้งว่าอีกฝ่ายปิดเครื่อง
หลินเซี่ยเดา “ถ้าหล่อนไม่อยู่บ้าน ก็แสดงว่าน่าจะมีธุระเรื่องงานล่ะมั้ง”
เย่ไป๋ส่ายหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ลินดากำลังช็อปปิ้งอยู่ หล่อนไม่น่าจะไปทำงานคนเดียวหรอก”
หลินเซี่ยมองสีหน้าหนักใจของเย่ไป๋ ถามด้วยความสงสัย “คุณหมอเย่ คุณไม่ได้ทะเลาะกับอาหญิงของฉันใช่ไหมคะ”
“ไม่ ผมเพิ่งกลับมาวันนี้เอง”
“งั้นคุณก็ไม่ต้องร้อนใจหรอก อาหญิงของฉันเป็นผู้ใหญ่แล้ว หล่อนต้องมีธุระส่วนตัวที่ต้องจัดการแน่ ๆ ไม่งั้นโทรศัพท์มือถือหล่อนก็แบตหมด อีกสักพักคงกลับมาแล้ว”
เห็นเย่ไป๋เป็นห่วงเซี่ยอวี่ขนาดนี้ หลินเซี่ยก็รู้สึกประทับใจมาก ชัดเจนว่าเขารักเซี่ยอวี่มากจริง ๆ
ความห่วงใยมักทำให้วุ่นวายใจเสมอ
สีหน้าของเย่ไป๋ไม่ได้ผ่อนคลายลงเลยแม้จะได้ฟังคำพูดของหลินเซี่ย ตรงกันข้ามเขากลับยิ่งร้อนใจมากขึ้น
บางทีอาจเป็นเพราะในใจเขามีเรื่องปิดบังอยู่ จึงรู้สึกไม่สบายใจ
“เย่ไป๋ นายมีอะไรหรือเปล่า” เฉินเจียเหอสังเกตสีหน้าของเขา แล้วเอ่ยถาม “มีอะไรหรือเปล่า พูดได้ไหม”
ถ้าแค่ติดต่อเซี่ยอวี่ไม่ได้ชั่วคราว เขาคงไม่กังวลขนาดนี้หรอก
เซี่ยอวี่เป็นผู้หญิงวัยสามสิบกว่าแล้ว หล่อนมีเพื่อนฝูงของตัวเอง ก่อนที่จะรู้จักพวกเขา หล่อนก็ใช้ชีวิตได้ดีอยู่แล้วนี่นา
ไม่ใช่น้องสะใภ้ที่จะหลงทางสักหน่อย
“เจียเหอ เซี่ยเซี่ย เรื่องนั้น…”
เย่ไป่พูดถึงตรงนี้แล้วหยุดชะงัก ดวงตาเป็นประกายวาบขึ้นมา แต่กลับดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อาหญิงหายไปทีเดียวเสียวทั้งครอบครัวเลยทีนี้ จะไปตามหาได้จากที่ไหนล่ะนั่น คงต้องรอเจ้าตัวกลับมาเองแล้วล่ะ
ไหหม่า(海馬)
……….