ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 741 ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่
ตอนที่ 741 ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? พวกนายทะเลาะกันหรือเปล่า?” เฉินเจียเหอถามต่อ เมื่อเห็นเขาเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง
“ไม่ได้ทะเลาะกันหรอก”
เย่ไป๋นั่งลงบนโซฟา จิบน้ำที่หู่จือยื่นให้แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็ไม่ปิดบังพวกเขาอีกต่อไป “เสี่ยวอวี่อาจจะท้องน่ะ”
“หา?”
เฉินเจียเหอกับหลินเซี่ยต่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“นายแน่ใจเหรอ?” เฉินเจียเหอมองเขาพลางถาม
เย่ไป๋ก้มหน้าลงตอบ “น่าจะไม่ผิดแน่”
“นายนี่มัน…”
เส้นขีดสีดำพลันปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเฉินเจียเหอ ไม่รู้จะวิจารณ์เรื่องนี้อย่างไรดี
ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่
แถมยังพลาดมีลูกด้วย
นี่มันพฤติกรรมอะไรกัน?
เย่ไป๋ทำแบบนี้ได้อย่างไร?
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่ดูสุภาพเรียบร้อยอย่างนายจะเปิดกว้างขนาดนี้”
“อาหญิงรู้เรื่องนี้หรือยัง? หล่อนว่ายังไงบ้าง?”
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเย่ไป๋แล้ว ทันใดนั้นก็นึกถึงเซี่ยอวี่ที่ดูอ่อนเพลียตลอดเวลาตอนมาหาเธอเมื่อวานนี้
ไม่แปลกใจเลยที่หล่อนบอกว่าง่วงนอนบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นอาการของคนท้อง
เธอยังคิดว่าเซี่ยอวี่อ่านบทละครจนดึกและไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอเสียอีก
ดูเหมือนเซี่ยอวี่จะไม่อยากแต่งงานและมีลูกเท่าใดนัก หรือหล่อนรู้ตัวแล้วว่ากำลังตั้งครรภ์แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงปิดโทรศัพท์หนีไปเลย?
อย่างน้อยเช้านี้หล่อนก็ยังไม่รู้แน่ ๆ
ไม่อย่างนั้นตอนที่เขาจับชีพจรให้หล่อน หล่อนคงไม่มีปฏิกิริยาแบบนั้น
แต่เย่ไป๋กลับรู้สึกกังวลใจมาก เขากลัวว่าถ้าเซี่ยอวี่รู้เรื่องนี้ขึ้นมากะทันหันแล้วต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้เพียงลำพัง หล่อนจะรู้สึกหลงทางและไร้ที่พึ่งแค่ไหน
เขารู้สึกเสียใจที่ตัวเองไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหล่อนตั้งแต่เมื่อเช้า
“ในเมื่อท้องแล้ว พวกนายก็ต้องรีบแต่งงานกันสิ”
เฉินเจียเหอมองเย่ไป๋ด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า “เย่ไป๋ นายเป็นผู้ชายนะ ตอนนี้นายต้องรับผิดชอบให้ได้”
“ฉันจะรับผิดชอบแน่นอน แต่กลัวว่า…”
เย่ไป๋ทำหน้าเศร้า “ฉันกลัวว่าเซี่ยอวี่จะไม่อยากเก็บเด็กคนนี้ไว้ พวกนายก็รู้ว่าหล่อนยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานและมีลูก”
หลินเซี่ยพูดว่า “ไม่มีทางหรอก ช่วงนี้อาหญิงของฉันชอบเสี่ยวหู่ที่บ้านมากเลย ฉันรู้สึกได้ว่าตอนนี้หล่อนเองก็ปรารถนาจะเป็นแม่มาก เรื่องนี้คุณวางใจได้เลย หล่อนไม่ทำเรื่องโง่ ๆ หรอก”
ผู้หญิงย่อมเข้าใจผู้หญิงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นอาหญิงของเธอเอง
ทุกครั้งที่เซี่ยอวี่มา สายตาที่มองเสี่ยวหู่ของบ้านเธอล้วนเต็มไปด้วยความรักใคร่ ส่องประกายแห่งความเป็นแม่ จนหลินเซี่ยรู้สึกได้จริง ๆ ว่าอาจเพราะเด็กคนนี้ที่บ้านของเธอ จึงทำให้เซี่ยอวี่เริ่มใฝ่ฝันที่จะเป็นแม่
“คุณบอกหล่อนตรง ๆ ไปเลย เด็กอยู่ในท้องของหล่อนแบบนั้น ถึงคุณไม่บอกหล่อนก็ต้องรู้อยู่ดี ถ้าคุณปิดบังแล้วทำให้คุณสองคนไม่พอใจกันมันก็ไม่เป็นการดีนะ”
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ปิดบังไม่ได้หรอก
อีกอย่าง มันก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังด้วย
“ฉันคิดมากไปเอง”
ประเด็นคือตอนนี้ไม่รู้เลยว่าเซี่ยอวี่ไปไหน หล่อนกำลังตั้งครรภ์ ออกไปคนเดียว และยังติดต่อไม่ได้ ทำให้คนเป็นห่วงมาก
เย่ไป๋นั่งไม่ติดที่ เขาลุกขึ้นตั้งใจจะออกไป “ฉันไปตามหาหล่อนก่อนนะ”
“จะให้ฉันไปหาด้วยกันไหม” เฉินเจียเหอถาม
เย่ไป๋ส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ต้อง ฉันจะไปดูที่บ้านอีกที หรือไม่หล่อนอาจจะกลับบ้านไปแล้ว”
เย่ไป๋ออกจากบ้านของเฉินเจียเหอตรงไปที่บ้านของตระกูลเซี่ย ซึ่งคุณแม่เซี่ยกับเซี่ยไห่กลับมาแล้ว แต่เซี่ยอวี่ยังคงไม่กลับมา
“เสี่ยวเย่ เธอกลับมาจากไปทำงานต่างเมืองแล้วสินะ” คุณแม่เซี่ยไม่ได้เจอเย่ไป๋นานแล้ว พอเห็นเขาก็มีท่าทางกระตือรือร้นมาก เดินนำเขาเข้าประตูบ้าน
เย่ไป๋ตอนนี้ไม่มีใจไปดูของขวัญเด็กพวกนั้นกับพวกเขาสักนิด เขาต้องรีบไปเจอเซี่ยอวี่โดยเร็วที่สุด
เขาหันไปถามคุณแม่เซี่ยอย่างร้อนรน “คุณน้า คุณรู้ไหมครับว่าเสี่ยวอวี่ไปไหน”
“เสี่ยวอวี่?” คุณแม่เซี่ยเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีลินดาอยู่ด้วย แต่ไม่เห็นเงาเซี่ยอวี่เลย
“ฉันไม่รู้เลย” หญิงชรามองลินดา ก่อนถามว่า “ลินดา เธอรู้ไหมว่าเสี่ยวอวี่ไปไหน”
ลินดาส่ายหน้าเช่นกัน “คุณน้า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พวกเราไม่มีตารางงานช่วงนี้นี่นา”
“งั้นหล่อนจะไปไหนได้ล่ะ” คุณแม่เซี่ยเดา “หรือว่าไปดูลูกของเซี่ยเซี่ยหรือเปล่า หล่อนชอบลูกของเซี่ยเซี่ยมากเลยนะ”
“ผมเพิ่งมาจากที่นั่นเองครับ หล่อนไม่อยู่”
เย่ไป๋ตอนนี้ร้อนใจไปหมด รีบออกไปตามหาคน
เซี่ยไห่กับลินดาก็ตามไปด้วย
เซี่ยไห่กับลินดาก็เริ่มกังวลขึ้นมาเหมือนกัน
ลินดากังวลในฐานะที่เซี่ยอวี่เป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าออกไปข้างนอกคนเดียว แล้วเจอแฟนคลับหรืออะไรทำนองนั้น หล่อนอาจจะถูกรุมล้อมได้
เย่ไป๋ร้อนใจมาก เลยถามลินดาเกี่ยวกับคนที่เซี่ยอวี่อาจจะติดต่อด้วยในเรื่องงาน
ในตอนนั้นเอง เซี่ยไห่ก็ได้รับโทรศัพท์จากหลินจินซาน
เขาพูดในโทรศัพท์ว่า “อารอง ช่วยมารับอาหญิงของผมหน่อยได้ไหมครับ”
“หล่อนอยู่ที่ไหน” เซี่ยไห่รีบถาม
“หล่อนอยู่ฝั่งร้านเราเอง กำลังร้องเพลงอยู่”
เซี่ยไห่วางสายแล้วพูดกับเย่ไป๋ว่า “ไปกัน พี่สาวฉันอยู่ที่ห้องเต้นรำ”
พอพวกเขาไปถึงห้องเต้นรำ ลู่เจิ้งอวี่ก็บอกว่าเซี่ยอวี่ตามหลินจินซานมาตั้งแต่ตอนบ่าย ซึ่งหลินจินซานเป็นเพื่อนร้องเพลงกับหล่อนมาได้ชั่วโมงกว่าแล้ว
“หล่อนไม่ได้ดื่มเหล้าใช่ไหม?” เย่ไป๋รีบถามลู่เจิ้งอวี่
เย่ไป๋ได้ยินดังนั้นก็คลายความกังวลลงในที่สุด
พวกเขาขึ้นไปชั้นบน เข้าไปในห้องคาราโอเกะ ก็เห็นเซี่ยอวี่ถือไมโครโฟนยืนอยู่หน้าจอทีวี กำลังร้องเพลง ‘ยากที่จะพบรักแท้*’ อย่างเพลิดเพลิน
(*เพลง 难得有情人 ขับร้องโดย กวนซู่อี้ หรือ Shirley Kwan)
หลินจินซานเห็นพวกเซี่ยไห่มาแล้วก็ทำท่าจะเรียก แต่เย่ไป๋ห้ามเขาไว้
เขาไม่อยากรบกวนหล่อน และอยากฟังเสียงเพลงอันไพเราะของเธอด้วย
“เกิดอะไรขึ้น”
เซี่ยไห่เรียกหลินจินซานออกไป สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยไม่เข้าใจ
ทำไมเซี่ยอวี่ถึงมาร้องเพลงคนเดียวแบบนี้
แถมยังไม่บอกล่วงหน้าสักคำ เขาจะได้ต้อนรับหล่อนสักหน่อย
หลินจินซานพูดว่า “ตอนบ่ายผมต้องมาทำงาน พอดีเจอคุณอาระหว่างทาง หล่อนบอกว่าหิวแล้วไม่อยากกินข้าวคนเดียว เลยพาผมไปกินด้วยกันที่ร้านอาหารแล้วสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ วันนี้หล่อนดูอารมณ์ดีกินอาหารได้เยอะมาก ไม่ลดน้ำหนักหรืออดอาหารแล้ว หลังจากนั้นหล่อนก็บอกว่าอยากผ่อนคลายอารมณ์หน่อย ในเมื่อหล่อนเลี้ยงฉันมื้อใหญ่แล้ว ผมเลยพาหล่อนมาร้องเพลงที่นี่โดยที่ผมเป็นฝ่ายเลี้ยงเอง”
หลินจินซานมองพวกเขาแล้วอธิบายว่า “ผมตั้งใจจะชวนพวกคุณมาเล่นกับคุณอาด้วย แต่หล่อนไม่ยอม บอกว่าอยากผ่อนคลายคนเดียว”
หลินจินซานพูดกับพวกเขาเสร็จพอดี เซี่ยอวี่ก็ร้องเพลงจบพอดี
หล่อนร้องเสร็จแล้วก็ถามขึ้นมาว่า “จินซาน คุยกับใครอยู่เหรอ?”
พอพูดจบก็หันหน้ามาเห็นเย่ไป๋ยืนอยู่ที่ประตู รวมถึงเซี่ยไห่และลินดาที่เดินเข้ามาด้วย
หล่อนจ้องหลินจินซานอย่างน้อยใจ
หลินจินซานเกาหัว หัวเราะเบา ๆ แล้วอธิบายว่า “คุณอาครับ ผมต้องทำงาน ไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนคุณ เลยเรียกพี่ชายให้มาหาคุณไงครับ”
ไม่อย่างนั้น ถ้าเถ้าแก่เซี่ยรู้ว่าเขาแอบมาเล่นตอนทำงาน จะต้องดุเขาอย่างหนักแน่ ๆ
แถมยังจะหักเงินเดือนอีกต่างหาก
เขากำลังเก็บเงินเพื่อแต่งงาน ใครก็ห้ามขัดขวางเขาหาเงินไม่ได้
เย่ไป๋เห็นเซี่ยอวี่ร้องเพลงอย่างมีความสุขแบบนี้ไม่บ่อยนัก จึงมองหล่อนด้วยสายตารักใคร่ แล้วพูดว่า “เสี่ยวอวี่ อยากร้องเพลงอะไรอีกไหม เดี๋ยวผมเลือกให้”
เซี่ยอวี่วางไมโครโฟนลง “ไม่ร้องแล้ว ร้องต่อเดี๋ยวเสียงแหบหมด”
หล่อนเดินมาข้าง ๆ เย่ไป๋
“ไปกันเถอะ กลับบ้าน”
จากนั้นหันไปถามลินดาว่า “ลินดา เธอจะกลับไปด้วยไหม?”
ลินดาพยักหน้า “กลับเถอะ คืนนี้ต้องพักผ่อนให้เร็ว พรุ่งนี้ต้องไปร้านอาหารแต่เช้า”
“เถ้าแก่เซี่ย คุณไปส่งลินดากลับบ้านเถอะ” เย่ไป๋พูดกับพวกเขาอย่างจริงใจ “วันนี้รบกวนพวกคุณแล้ว”
เจตนาของเย่ไป๋ชัดเจนมาก นั่นคือไม่อยากให้พวกเขาอยู่ต่อจนกลายเป็นก้างขวางคอ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมอเย่ไป๋จะโดนโทษทัณฑ์อะไรจากภรรยาในเรื่องที่ไม่ยอมบอกความจริงไหมน้อ เอาใจช่วยนะคะ แต่ดูท่าทางแล้วโทษน่าจะไม่หนักมาก
ไหหม่า(海馬)