ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 744 งานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือน
ตอนที่ 744 งานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือน
……….
ตอนที่ 744 งานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นขณะที่เซี่ยอวี่ยังหลับอยู่ เย่ไป๋ก็กลับไปที่บ้านก่อน
เขาตั้งใจจะคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาจะไปจดทะเบียนสมรสหลังจากกลับถึงบ้าน
แต่ปรากฏว่าพ่อแม่ยังไม่ตื่น มีเพียง เย่เชี่ยนคนเดียวที่เดินหาวหวอดออกมาจากห้อง
เย่เชี่ยนเห็นเย่ไป๋เข้ามาในบ้านอย่างกะทันหัน จึงเอ่ยทักด้วยความประหลาดใจ “พี่ กลับมาเช้าจังเลยนะ”
เมื่อวานนี้เย่ไป๋เพิ่งกลับมาถึงเมืองไห่เฉิงหลังจากไปทำงานต่างจังหวัด เขาทำแค่โทรมาบอกที่บ้านว่ากลับมาแล้ว แต่ไม่ได้กลับมาที่บ้าน
แน่นอนว่าทุกคนในบ้านเข้าใจลักษณะงานของเขา อีกทั้งตั้งแต่เขามีแฟน เขาก็ย้ายไปอยู่ข้างนอก
พ่อแม่และน้องสาวแทบจะไม่ยุ่งกับชีวิตของเขา นอกจากในวันพิเศษหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทุกคนจะมากินข้าวด้วยกัน
ครอบครัวของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือพี่น้องทั้งสอง ต่างมีความคิดและพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
นอกจากเรื่องสำคัญที่ต้องมีส่วนร่วมกันแล้ว พวกเขาจะไม่ก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนเลย
สำหรับลูก ๆ ที่ทำงานมาหลายปีแล้ว พวกเขาแทบจะไม่ถามไถ่มากนัก
“ฉันมาเอาของน่ะ”
แม้เย่ไป๋จะไม่ได้เจอน้องสาวหลายวัน แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีเวลามานั่งคุยเล่น
ทำเพียงยิ้มและถามว่า “ลูกของเจียเหออายุครบเดือนแล้ว เธอจะไปไหม?”
เย่เชี่ยนพยักหน้า “ไปสิ แต่เช้านี้ฉันมีเรียนหนึ่งคาบ หลังฉันเรียนเสร็จน่าจะไปทันนะ”
“ทันสิ งานเลี้ยงจัดตอนเที่ยง”
เย่ไป๋มองไปทางห้องนอนของพ่อแม่ แล้วถามหล่อนว่า “พ่อแม่ยังไม่ตื่นเหรอ?”
เย่เชี่ยนอธิบาย “ช่วงนี้พ่อชอบเขียนหนังสือตอนกลางคืน เช้าขนาดนี้คงยังไม่ตื่นหรอก ส่วนแม่ก็นอนดึกตื่นสายเหมือนกัน”
พอหล่อนเห็นว่าจวนจะได้เวลาไปเรียนแล้ว จึงพูดอย่างร้อนรนว่า “พี่ ฉันไม่คุยแล้วนะ ฉันไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน”
พูดจบก็เข้าห้องน้ำไป
นับตั้งแต่เย่ไป๋กลับมาเมื่อวาน สภาพจิตใจของเซี่ยอวี่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก แม้จะเพิ่งตื่นนอนตอนเช้า หล่อนก็ยังดูสดใสร่าเริง
สายตาของเซี่ยอวี่มองไปยังถุงอาหารเช้าที่เย่ไป๋ถือมา ถามว่า “คุณไปซื้ออาหารเช้ามาเหรอ”
เย่ไป๋ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม วางถุงอาหารเช้าลง แล้วหยิบซองหนังวัวใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขา “เอกสารที่ใช้จดทะเบียนสมรสอยู่ในนี้หมดแล้ว”
“แม้แต่จดหมายแนะนำตัวก็ได้มาแล้วเหรอ” เซี่ยอวี่เลิกคิ้ว ถามอย่างสงสัย
พวกเขาเพิ่งตกลงเรื่องนี้กันเมื่อคืนนี้เอง เช้าขนาดนี้แล้วเขาจะไปขอจดหมายแนะนำตัวที่ไหนได้
ถึงแม้จะตกลงกับเย่ไป๋ว่าจะไปจดทะเบียนวันนี้ แต่จริง ๆ แล้วเซี่ยอวี่ไม่ได้หวังอะไรมากนัก
หล่อนมั่นใจว่าเอกสารของเย่ไป๋ยังมีไม่ครบ
ส่วนตัวหล่อนไม่ได้มีทะเบียนบ้านอยู่ที่เมืองไห่เฉิง และตอนนี้หล่อนก็เป็นเจ้าของกิจการเอง จึงจัดการเอกสารได้ง่าย
เย่ไป๋ยิ้มมุมปาก “ผมได้จดหมายแนะนำตัวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
ทันทีที่เขากลับมาถึงเมืองปินเฉิงเมื่อวานนี้ เขาก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องพูดให้ เซี่ยอวี่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาให้ได้
ทั้งโรงพยาบาลรู้กันหมดแล้วในเรื่องที่เขาคบหากับนางเอกภาพยนตร์
ผู้นำดีใจยิ่งกว่าเขาเสียอีกที่นางเอกตกลงจะแต่งงานกับเขา จึงอนุมัติจดหมายแนะนำตัวให้อย่างรวดเร็ว
เมื่อวานก่อนจะไปคุยกับเซี่ยอวี่ เขาได้เตรียมตัวมาพร้อมสรรพแล้ว
เย่ไป๋เก็บจดหมายแนะนำตัวใส่กระเป๋า วางนมถั่วเหลืองและปาท่องโก๋ที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะอาหาร ช่วยหล่อนแกะห่อ
“เสี่ยวอวี่ กินอาหารเช้าเร็วเข้า เดี๋ยวผมจะขับรถพาคุณกลับบ้านไปเอาเอกสาร”
เซี่ยอวี่ไม่คิดว่าเขาจะเตรียมพร้อมมาขนาดนี้ จึงลังเลเล็กน้อย “วันนี้จะไปจดทะเบียนกันจริง ๆ เหรอ”
หล่อนมองเย่ไป๋ด้วยสีหน้ากังวล ยืนลังเลอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน
คำพูดและท่าทางของหล่อนทำให้เย่ไป๋ตกใจ
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวขวางหน้าเซี่ยอวี่ สายตาลึกล้ำจ้องมองหล่อน เอ่ยน้ำเสียงทุ้มต่ำลง “คุณเซี่ยอวี่ คุณห้ามกลับคำพูดนะ”
“ฉันหมายถึง วันนี้เป็นงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนของหลานชายฉัน ถ้าเราไม่ไปคงไม่ค่อยดี”
วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดี จดทะเบียนเสร็จก็ไปร่วมงานเลย สองความสุขมาพร้อมกัน เป็นการส่งต่อโชคดีให้แก่กันและกัน
เย่ไป๋กลัวว่าถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเกินไป อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นได้
เขาเข้าใจดีว่าตอนนี้เซี่ยอวี่กำลังรู้สึกอย่างไร การผัดวันประกันพรุ่งมีแต่จะเพิ่มความเสี่ยง
“ได้ค่ะ กินข้าวก่อนแล้วค่อยคุยกัน ฉันหิวแล้ว” เซี่ยอวี่นั่งลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มกินอาหารเช้า
ก่อนหน้านี้หล่อนไม่ค่อยมีความอยากอาหารเลย แต่วันนี้พอตื่นมาก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
เนื่องจากวันนี้เป็นวันงานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือนของเฉินจิ่งชู โจวเจี้ยนกั๋วกับหวังอวี้เสียต่างตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนแต่เช้าตรู่ พร้อมทั้งอาบน้ำให้หู่จือ แล้วให้เฉินเจียเหอหาเสื้อผ้าใหม่ของหู่จือมาใส่ โดยเน้นแต่งตัวให้หู่จือเป็นพิเศษ
หลินเซี่ยก็ใส่ชุดใหม่ที่สวยที่สุดให้เสี่ยวหู่ แล้วจัดการแต่งองค์ทรงเครื่องตัวเองเล็กน้อย
เธออยู่เดือนหลังคลอดมาหนึ่งเดือน ตัวอ้วนขึ้นมาก ทั้งยังดูโทรมไม่สดใส
เมื่อคืนนี้เฉินเจียเหอต้มยาจีนที่เขาเอามาจากหมอแผนจีนเย่ล่วงหน้า แล้วใช้น้ำต้มยาจีนอาบน้ำให้หลินเซี่ย
นี่เป็นยาจีนที่ใช้ขจัดความเย็นชื้นโดยเฉพาะ ป้องกันอาการหนาวเย็นระหว่างอยู่เดือน การอาบน้ำต้มยาจีนขนานนี้จึงช่วยป้องกันโรคและขจัดความชื้นได้
พออาบน้ำสระผมเสร็จ เธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ในช่วงนี้เฉินเจียเหอเรียนรู้วิธีมัดผมให้หลินเซี่ยบ้างแล้ว เช้านี้เขาจึงมัดผมหางม้าให้เธออย่างคล่องแคล่ว
จากนั้นก็หาชุดกีฬามาให้เธอใส่
หวังอวี้เสียเห็นหลินเซี่ยแต่งตัวสดใสเหมือนวัยรุ่น จึงอุทานด้วยความประหลาดใจ “เซี่ยเซี่ย เธอไม่เหมือนผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูกเลยนะ นี่มันนักศึกษาชัด ๆ เลย”
โจวเจี้ยนกั๋วถือถาดอาหารเช้าออกมา หัวเราะพลางพูดว่า “เซี่ยเซี่ยก็อายุเท่านักศึกษานี่นา”
เฉินเจียเหออุ้มลูกออกมาจากห้องนอน พอได้ยินคำพูดของน้าและน้าสะใภ้ เขาก็มองไปที่ภรรยาของตน
จริง ๆ แล้วทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดว่าหลินเซี่ยดูเหมือนนักเรียน ในใจเขาจะรู้สึกผิดเล็กน้อยเสมอ
บางครั้งเขาก็ถามหลินเซี่ยว่าอยากกลับไปเรียนหนังสือใหม่หรือเปล่า
ทุกครั้งที่เธอได้ยินเขาถามแบบนี้ เธอจะแสดงสีหน้าตกใจมาก
บอกว่าตัวเองไม่ใช่พวกหัวกะทิที่เรียนหนังสือเก่ง
คนเรามีความปรารถนาแตกต่างกัน
วันนี้ผู้เฒ่าเฉินให้คนขับรถมารับเป็นพิเศษ ตั้งใจจะให้เหลนของเขานั่งรถไปร้านอาหาร
ทันทีที่ครอบครัวใหญ่เข้ามาในบ้านแล้วเห็นเด็กน้อยในชุดเอี๊ยมสีฟ้า ทุกคนก็เข้ามารุมล้อม
ผู้เฒ่าเฉินบอกว่ารถกำลังจอดรออยู่ข้างนอก ให้หลินเซี่ยกับลูกนั่งรถของเขาไป
เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยได้ยินคำพูดของชายชราแล้วก็มองหน้ากัน หัวเราะเบา ๆ ด้วยความประหลาดใจ
ไม่คิดว่าวันนี้คุณปู่จะยอมทำลายกฎของตัวเองได้ขนาดนี้
เฉินเจียซิ่งหัวเราะพลางพูดว่า “จิ่งชู มีแค่เธอคนเดียวในครอบครัวใหญ่ของพวกเราจริงๆ ที่ได้รับการปฏิบัติแบบนี้ พวกเราไม่เคยได้นั่งรถของคุณปู่เลยนะ”
ผู้เฒ่าเฉินมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “เธอจะมาเทียบอะไรกับเหลนของฉัน?”
เนื่องจากหลินเซี่ยใส่ชุดกีฬาในวันอากาศร้อนอบอ้าว หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เธอก็รู้สึกร้อนมาก ขยับแขนแล้วบอกว่าอยากจะถอดเสื้อ
คนอื่น ๆ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น แต่เธอยังไม่ทันได้ออกจากบ้านก็เหงื่อไหลแล้ว
“เซี่ยเซี่ย เธอเพิ่งคลอดลูก ห้ามโดนลมนะ ใส่แบบนี้ไปก่อนเถอะ”
ทั้งโจวลี่หรงและหวังอวี้เสียต่างก็ยืนกรานไม่ให้หลินเซี่ยเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอจึงต้องสวมชุดฤดูใบไม้ร่วงออกจากบ้าน
โจวลี่หรงไม่เพียงแต่ไม่ให้เธอถอดเสื้อ แต่ยังสวมหมวกกันแดดให้เธออีกด้วย
หลินเซี่ยรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ ก็มีหมวกปรากฏบนหัว จากนั้นก็ได้ยินแม่สามีพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ใส่ไว้เถอะ จะได้กันลมกันแดด”
“ค่ะ” หลินเซี่ยขานรับ แล้วไม่ได้ถอดหมวกออก
ถึงแม้โจวลี่หรงจะไม่ค่อยพูดคุยกับพวกเขามากนัก แต่ก็มีน้ำใจดีต่อคนในครอบครัว
เพียงแต่หล่อนชอบแสดงความห่วงใยในแบบของตัวเอง
หลินเซี่ยและเฉินเจียเหออุ้มทารกน้อยพร้อมกับจูงมือหู่จือขึ้นรถของผู้เฒ่าเฉิน ส่วนคนอื่น ๆ นั่งรถประจำทางไปยังร้านอาหาร
เมื่อคืนนี้เฉินเจียเหอได้โทรหาเย่ไป๋ถามอย่างอ้อมๆ ว่าเช้านี้เขาจะขับรถมารับได้เร็วขึ้นหน่อยได้ไหม แต่เย่ไป๋บอกว่าเช้านี้เขามีธุระสำคัญมาก ไปไม่ได้จริง ๆ
ครอบครัวเฉินมาถึงร้านอาหารอย่างรวดเร็ว โดยที่ครอบครัวเซี่ยและญาติ ๆ ยังไม่มาถึง พอหลินเซี่ยเข้าไป เธอก็เห็นว่าห้องโถงของร้านอาหารตกแต่งได้อบอุ่นมาก มีลูกโป่งประดับเป็นวงกลมบนผนัง ตรงกลางมีข้อความเขียนด้วยปากกาสีว่า “ขอแสดงความยินดีกับเฉินจิ่งชูที่ครบรอบหนึ่งเดือน” ล้อมรอบด้วยกระดาษรูปทรงต่าง ๆ ที่ตัดด้วยมืออย่างสวยงาม
การตกแต่งนั้นดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมอเย่พร้อมมากเลยนะคะ วางแผนทุกอย่างไว้หมด
ไหหม่า(海馬)
……….