ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 752 แต่งงานกันจริง ๆ เหรอ?
ตอนที่ 752 แต่งงานกันจริง ๆ เหรอ?
เซี่ยไห่ร้องอุทานด้วยความตกใจ ขณะที่สายตาของทุกคนจับจ้องยังใบทะเบียนสมรสบนโต๊ะ
หลี่เหม่ยเฟิ่งไม่พูดอะไร ยื่นมือไปหยิบใบหนึ่งขึ้นมาดู จึงเห็นชื่อของเย่ไป๋และเซี่ยอวี่เขียนอยู่อย่างชัดเจน รวมถึงรูปถ่ายของพวกเขาด้วย
ความปีติยินดีแผ่ซ่านบนใบหน้าของหล่อนในทันที มองลูกชายและเซี่ยอวี่ด้วยความไม่อยากเชื่อ จากนั้นจึงรีบส่งใบทะเบียนสมรสให้เย่เจิ้งหัวดู
เย่เจิ้งหัวก็ตรวจดูอย่างละเอียดเช่นกัน ยืนยันว่าเป็นใบสำคัญการสมรสจริง ๆ สายตาที่มองลูกชายพลันเปลี่ยนไป
เด็กคนนี้นับว่ามีของดีอยู่
หลี่เหม่ยเฟิ่งมีท่าทางยินดีปรีดาล้นเหลือจนพูดไม่ออก “เสี่ยวไป๋ พวกลูกแต่งงานกันจริง ๆ เหรอ?”
เย่ไป๋ยิ้มและพยักหน้า “ครับแม่ แน่นอนว่าจริงสิครับ”
เซี่ยไห่ก็หยิบใบทะเบียนสมรสขึ้นมาดูอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน
เขาดูอยู่นาน ด้วยยังไม่กล้าเชื่อว่าสองคนนี้จะไปจดทะเบียนสมรสกันโดยไม่ให้ใครรู้เรื่อง
เขาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“แน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่ของปลอม?”
เซี่ยอวี่ชำเลืองมองเขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดูตราประทับสิ”
เซี่ยไห่พลิกไปพลิกมาเพื่อตรวจสอบ คุณแม่เซี่ยหยิบใบทะเบียนสมรสจากมือเขาไป ส่งต่อให้คนอื่น ๆ ช่วยพิสูจน์
“เสี่ยวเหลย นี่ของจริงใช่ไหม?”
เซี่ยอวี่มองดูปฏิกิริยาของแม่และเซี่ยไห่อยู่ข้าง ๆ แล้วรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจนัก
พวกเขาไม่ไว้ใจเธอกับเย่ไป๋ขนาดนั้นเลยเหรอ?
พวกเขาคิดว่าพวกหล่อนจะทำใบสำคัญการสมรสปลอมมาหลอกพวกเขางั้นเหรอ? ก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นสักหน่อย
ถ้าหล่อนไม่อยากแต่งงาน หล่อนแค่บอกว่าไม่แต่งก็จบ ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อใครทั้งนั้น
เซี่ยเหลยมองแวบหนึ่งแล้วบอกพวกเขาว่า “เป็นของจริง”
เมื่อได้รับคำยืนยันจากเซี่ยเหลย คุณแม่เซี่ยก็ตื่นเต้นจนกอดลูกสาวเข้าไว้ในอ้อมกอดทันที
“โอ้ ลูกสาวของแม่ ในที่สุดเธอก็คิดได้แล้วและยอมแต่งงานซะที แม่ดีใจมากเลย เธอนี่ไม่น่ารักเลยนะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกพวกเราล่วงหน้าเลยล่ะ? แอบไปจดทะเบียนเงียบ ๆ เหมือนไม่ให้ความสำคัญกับพวกเราเลย”
แม้คุณแม่เซี่ยจะบ่นอยู่ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็บ่งบอกว่านางดีใจมากที่ได้ยินข่าวดีนี้
เซี่ยอวี่ได้ยินแม่ตำหนิที่พวกเขาทำไปก่อนโดยไม่บอก จึงพูดว่า
“แม่ งั้นพวกเราไปหย่ากันแล้วค่อยไปจดทะเบียนใหม่ก็ได้นะ”
“เด็กบ้า พูดอะไรของเธอ!” คุณแม่เซี่ยรีบกอดใบสำคัญการสมรสไว้แนบอก กลัวลูกสาวจะทำอะไรโง่ ๆ
ทั้งเย่เจิ้งหัวและหลี่เหม่ยเฟิ่งก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
ข่าวใหญ่นี้เป็นเรื่องที่กะทันหันเกินไปสำหรับพวกเขา
นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง
แม้เย่ไป๋กับเซี่ยอวี่จะคบหากันอยู่ แต่เมื่อมีสะใภ้แต่งเข้าบ้าน พวกเขาก็ยังคงกังวลใจอยู่เสมอ
ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นดาราดังนะ
อายุยังห่างกันหลายปีด้วย
วันนี้เมื่อได้เห็นใบสำคัญการสมรส หัวใจของพ่อแม่ที่แก่ชราก็สบายใจได้แล้ว
เย่เจิ้งหัวมองบุตรชายด้วยสายตาชื่นชม
เด็กคนนี้มีของดีอยู่นะ
หลี่เหม่ยเฟิ่งยิ้มจนหุบปากไม่ลง พูดกับบุตรชายว่า “เสี่ยวไป๋ พวกลูกสองคนปิดบังกันเก่งมาก พวกเราไม่รู้อะไรเลย ไม่ได้เตรียมอะไรเลยนะ”
“แม่ไม่ต้องเตรียมหรอก”
หลี่เหม่ยเฟิ่งมองเย่ไป๋อย่างตำหนิ “จะไม่เตรียมได้ไง วันที่ได้ใบสำคัญการสมรสเป็นวันมงคลขนาดนี้ อย่างน้อยพวกเราสองครอบครัวก็ต้องกินข้าวด้วยกันสักมื้อสิ”
“ไม่ใช่สิ พวกเธอสองคนไปจดทะเบียนสมรสจริง ๆ เหรอ?” เซี่ยไห่ยังคงเหม่อลอยอยู่ ทุกคนคุยกันจบไปแล้ว เขายังคงสงสัยอยู่
เขามองคู่บ่าวสาวที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข จนถึงตอนนี้ยังคงตกตะลึง มองพวกเขาพลางทวนซ้ำไปมา “พวกเธอไปจดทะเบียนสมรสกันจริง ๆ เหรอ?”
ทำไมสองคนนี้ถึงได้ทำอะไรรวดเร็วแบบนี้นะ ใจร้อนเกินไปแล้ว
ที่สำคัญคือไม่ได้บอกให้พวกเขารู้ล่วงหน้าเลยสักนิด เย่ไป๋เพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด พวกเขาเตรียมเอกสารแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
หรือว่าเย่ไป๋วางแผนไว้ก่อนที่จะไปต่างจังหวัดแล้ว? พวกเขาปิดปากกันเงียบจริง ๆ
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง” เย่ไป๋มองไปที่เซี่ยไห่กับลินดา ยิ้มแล้วพูดว่า “พวกคุณก็รีบหน่อยสิ”
ลินดานั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าเรียบเฉย มองพวกเขาฉลองกันอย่างคึกคัก ตอนนี้ในหัวกำลังคิดถึงปัญหาที่แตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง
หล่อนกำลังคิดว่าจะปล่อยข่าวการแต่งงานของนางเอกหนังได้อย่างเหมาะสมอย่างไร หรือจะให้พวกเขาแต่งงานกันอย่างเงียบ ๆ ดี
เซี่ยอวี่เป็นบุคคลสาธารณะ การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จำเป็นต้องมีคำอธิบายให้กับโลกภายนอก
หล่อนไม่รู้ว่าเซี่ยอวี่คิดอย่างไรถึงไม่ได้บอกให้หล่อนรู้ล่วงหน้าเลย ทำให้หล่อนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมาก
พอดีกับที่ตอนนี้เซี่ยไห่เข้ามาหาอย่างไม่เข้าใจ “ลินดา คุณดูสิ พี่สาวผมกับพี่เขยเขาจดทะเบียนสมรสกันแล้ว พวกเราไม่ควรพิจารณาเรื่องนี้บ้างหรือ?”
ลินดากำลังคิดเรื่องงาน ไม่ได้ยินที่เซี่ยไห่พูด เซี่ยไห่เห็นหล่อนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจเขาเลย เขาก็หน้าเศร้าลง
ช่างน่าเสียดาย
ดูจากสถานการณ์แล้ว กลัวว่าเส้นทางแห่งความสุขของเขาจะยังอีกยาวไกล
หลินจินซานไม่ได้พูดอะไรเลย จนกระทั่งตอนนี้ทุกคนยืนยันข่าวการแต่งงานของทั้งสองคนแล้ว เขาจึงมีโอกาสแสดงความคิดเห็นของตัวเอง “คุณอา คุณอาเขย พวกคุณทำอะไรก็รวดเร็วเกินไปแล้ว ไม่ต้องหมั้นหรือสู่ขอเลย แต่งงานกันเลยเชียว ไม่มีขั้นตอนอะไรเลย”
เขากับชุนฟางหมั้นหมายกันตอนปีใหม่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งงานเลย รอให้ฝ่ายชายส่งของหมั้นก่อนถึงจะกำหนดวันแต่งงานได้
เซี่ยอวี่พูดว่า “พวกเราอายุมากแล้ว ไม่ต้องทำตามแบบพวกเด็ก ๆ หรอก คนสองคนมั่นใจในความรู้สึกที่มีต่อกันและกันก็ควรตัดสินใจได้แล้ว”
เซี่ยอวี่พูดความคิดของตัวเองตรง ๆ “พวกเราไม่จัดงานแต่งงานหรอก รอว่างแล้วจะไปเที่ยวต่างประเทศ”
เย่เจิ้งหัวยิ้มแล้วแสดงความเห็น “ตอนนี้การแต่งงานแบบไปเที่ยวกำลังเป็นที่นิยม พวกเราสนับสนุนเต็มที่ ค่าใช้จ่ายฉันออกให้เอง”
เห็นพ่อแม่ให้การสนับสนุนขนาดนี้ เย่ไป๋กับเซี่ยอวี่ก็รู้สึกมีความสุขมาก
การแต่งงานที่ได้รับการสนับสนุนและคำอวยพรจากครอบครัว ความสุขจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
“คุณอา คุณอาเขย ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ขอให้ท่านทั้งสองแก่เฒ่าไปด้วยกัน มีลูกเร็ว ๆ นะ” หลินเซี่ยมองพวกเขาแล้วส่งคำอวยพรจากใจจริง
“ใช่ ๆ ต้องมีความสุขกันนะ”
“ขอให้มีเร็ว ๆ กลายเป็นครอบครัวสามคน”
“ขอบคุณทุกคนนะ”
เพราะข่าวดีที่มาอย่างกะทันหันนี้ ทั้งสองครอบครัวต่างดีใจมาก โดยเฉพาะคุณแม่เซี่ยกับเย่เจิ้งหัว พวกเขาหวังมานานแล้วว่าอยากให้ทั้งคู่เร็ว ๆ แต่งงานกันเสียที
แม้จะคอยกดดันเบา ๆ อยู่ตลอด แต่เพราะสถานะของทั้งคู่ พวกเขาจึงไม่กล้าสร้างแรงกดดันใด ๆ ให้
ไม่คิดเลยว่าในขณะที่พวกเขาไม่มีการเตรียมใจใด ๆ ทั้งสองคนกลับมอบเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้แบบนี้
ตามหลักแล้ว คุณแม่เซี่ยที่ต้องยกลูกสาวให้คนอื่นไปน่าจะเศร้า แต่นางกลับแสดงออกว่าดีใจที่สุด
ในที่สุดลูกสาวก็มีที่พึ่งพิงแล้ว
อีกทั้งเย่ไป๋ยังเป็นคนหน้าตาดี มาจากตระกูลที่มีการศึกษา พ่อแม่มีความรู้ เป็นคนเข้าใจผู้อื่น แถมเย่เจิ้งหัวยังเป็นไอดอลของเซี่ยอวี่อีกด้วย
มีครอบครัวลูกเขยยอดเยี่ยมขนาดนี้ ทางบ้านของพวกเขาก็พอใจมาก
คุณแม่เซี่ยคิดว่าพอพวกเขาจดทะเบียนสมรสแล้ว ก็จะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ลูกสาวของนางก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ดังนั้นนางก็จะกระตุ้นเรื่องการมีลูกได้อย่างมีเหตุผล
ก่อนหน้านี้นางพูดเตือนอยู่เสมอว่ากลัวลูกสาวอายุมากเกินไปจะมีลูกยาก
ตอนนั้นเซี่ยอวี่กับเย่ไป๋ยังเป็นแค่คู่รัก นางไม่สามารถกระตุ้นเรื่องการมีลูกได้อย่างเปิดเผย
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
หญิงชราคิดว่าในตอนกลางคืนจะมาจับเข่าคุยกับเซี่ยอวี่ตามลำพัง ในเมื่อจดทะเบียนแล้ว ก็ให้พวกเขาเอาเรื่องการมีลูกขึ้นมาวางแผนด้วย
ดีที่สุดคือไปหาหมอแผนจีนเย่ให้ช่วยปรับสมดุลร่างกายแก่ลูกสาวเพื่อเตรียมตัวตั้งครรภ์
คุณแม่เซี่ยเพิ่งคิดในใจ ก็ได้ยินเย่ไป๋พูดอีกว่า “อืม… เอ่อ… พวกเรายังมีข่าวอีกอย่างที่อยากจะบอกกับทุกคนน่ะครับ”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ข่าวแรกว่าช็อคแล้ว ข่าวต่อไปน่าจะช็อกหนักกว่าเดิม บ้านเซี่ยเตรียมเฮ ลินดาเตรียมกุมขมับได้เลย
ไหหม่า(海馬)