ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 754 ความน่าเกรงขามของพี่ใหญ่
ตอนที่ 754 ความน่าเกรงขามของพี่ใหญ่
เซี่ยอวี่มองสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของแม่ด้วยความรู้สึกค่อนข้างไร้คำพูด
หล่อนรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้
นั่นเป็นเหตุผลที่เย่ไป๋เพิ่งจะเหงื่อตกและประหม่าจนพูดติดอ่าง ในขณะที่หล่อนยังคงใจเย็นและไม่กังวลเลยว่าครอบครัวจะยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้
ในแนวคิดแบบดั้งเดิม การตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานของผู้หญิงอาจถือเป็นการทำลายศีลธรรมและเป็นบาปที่ไม่อาจให้อภัยได้ หากเป็นช่วงก่อนการปลดแอกระบอบศักดินา อาจถูกจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำเลยทีเดียว
แต่ในสายตาของหญิงชรา ไม่ว่าหล่อนจะแต่งงานแล้วหรือยัง ตราบใดที่ตั้งครรภ์ได้ก็ถือเป็นข่าวดี
ท้ายที่สุดแล้ว แม่ก็กังวลมาตลอดว่าหล่อนจะอายุมากเกินไปจนอาจมีบุตรไม่ได้
นี่ถือเป็นการคลายความกังวลให้หญิงชราไปได้
“เสี่ยวอวี่ สิ่งที่เย่ไป๋พูดเป็นความจริงหรือ?” เซี่ยเหลยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและหม่นหมอง มองไปที่เซี่ยอวี่เพื่อยืนยันความจริงของเรื่องนี้
“เธอ…” สายตาของเซี่ยเหลยกวาดมองร่างของหล่อน ดูเหมือนจะพูดคำนั้นออกมาได้ยากลำบาก
เดิมทีเซี่ยอวี่ไม่รู้สึกอับอายที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน และมั่นใจว่าครอบครัวจะไม่ตำหนิตน
แต่เมื่อสบตากับดวงตาคมกริบของพี่ใหญ่ เซี่ยอวี่ก็ตกใจจนหัวใจสั่นไหว
หล่อนลืมพี่ใหญ่ไปเสียสนิท
ความคิดของพี่ใหญ่ไม่ได้เปิดกว้างเหมือนแม่และเซี่ยไห่
ว่ากันตามตรง เซี่ยอวี่รู้สึกเกรงกลัวและเคารพพี่ใหญ่เซี่ยเหลยจากใจจริง
พี่ใหญ่มักจะไม่ยุ่งเรื่องของหล่อนง่าย ๆ
ดังนั้น ตอนนี้หล่อนจึงไม่ค่อยกล้าสบตากับพี่ใหญ่เท่าใดนัก
“พี่ใหญ่ เรื่องนี้เป็นความผิดของผม ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวอวี่” เย่ไป๋เห็นเซี่ยเหลยมีสีหน้าไม่ค่อยดี จึงรีบก้าวออกมารับผิดชอบเพื่อปกป้องเซี่ยอวี่
พ่อตาของเขากำลังถามเซี่ยอวี่อยู่ หากเย่ไป๋โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน เซี่ยเหลย จะไม่คิดว่าเขามีความรับผิดชอบ แต่จะยิ่งโกรธมากขึ้น
พ่อตาของเขาไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล เซี่ยอวี่เป็นน้องสาวของเขา ในฐานะพี่ใหญ่ที่เผชิญสถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ก็จะผิดปกติแล้ว
เซี่ยอวี่ก็ตกใจกับสีหน้าของเซี่ยเหลยเช่นกัน
หล่อนกลืนน้ำลาย พูดอย่างระมัดระวังว่า “พี่ใหญ่ พวกเราไปตรวจที่โรงพยาบาลมาแล้ว มันเป็นความจริงค่ะ”
เซี่ยอวี่ตัวสั่นเทา หยิบผลอัลตราซาวด์จากโรงพยาบาลออกมาจากกระเป๋า วางไว้บนโต๊ะ
คุณแม่เซี่ยเห็นรายงานการตรวจอย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาลแล้ว ในใจก็ยิ่งดีใจมากขึ้น
ดูเหมือนว่าลูกสาวจะท้องจริง ๆ
บรรพบุรุษคุ้มครอง ร่างกายของลูกสาวไม่มีปัญหา สามารถคลอดลูกได้อย่างสมบูรณ์
คุณแม่เซี่ยในตอนนี้แทบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ
แต่เซี่ยเหลยยังคงทำหน้าบึ้งตึง แม้ว่าคุณแม่เซี่ยจะดีใจแค่ไหน แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะแสดงออกไป
นางไม่สามารถทำให้ครอบครัวเย่รู้สึกว่าครอบครัวของพวกเขากระตือรือร้นที่จะไล่ตามอย่างมากมายได้
เซี่ยเหลยมองไปที่ใบอัลตราซาวด์บนโต๊ะ สีหน้าของเขาเย็นชาลงอีกสองสามส่วน
เขามองเย่ไป๋เปิดปากพูดเสียงเย็น “คุณหมอเย่ ที่คุณรีบจดทะเบียนสมรสกับน้องสาวผมก็เพราะหล่อนตั้งท้องใช่ไหม”
เย่ไป๋รีบอธิบาย “พี่ใหญ่ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คุณอย่าเข้าใจผิด พวกเราสองคนเข้ากันได้ดี ตั้งแต่รู้จักกันจนถึงรู้ใจกันก็ผ่านมาไม่น้อยแล้ว พวกเราคิดอย่างรอบคอบแล้ว และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การแต่งงาน ผมแต่งงานกับหล่อนเพราะอยากให้หล่อนเป็นภรรยาของผม ไม่ใช่แค่แม่ของลูกเท่านั้น”
เซี่ยอวี่ก็มองไปที่เซี่ยเหลย เปิดปากพูดอย่างจริงใจ “พี่ใหญ่ ฉันก็คิดดีแล้วถึงยอมแต่งงานกับเขา ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าการแต่งงานมีอะไรดี คิดว่าแต่งงานเป็นเรื่องของคนโง่ แต่หลังจากนั้นพี่กับพี่สะใภ้ก็สร้างครอบครัว ดูพวกคุณรักใคร่กลมเกลียวกัน เอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน ฉันที่เป็นโสดก็อิจฉาในใจ แล้วยังมีเซี่ยเซี่ยกับจินซานที่กลับบ้านบ่อย ๆ ครอบครัวใหญ่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ฉันอายุมากแล้ว ก็อยากมีคนที่เข้าใจความรู้สึกอยู่ข้าง ๆ พี่กับแม่ก็พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าการคบหากันโดยไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะแต่งงานก็เหมือนเป็นนักเลงทั้งนั้น ฉันไม่อาจเป็นนักเลงไปตลอดได้ ซึ่งพวกคุณก็คงไม่ยอมอยู่แล้ว”
“ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องแต่งงาน” ความคิดของเซี่ยเหลยชัดเจนมาก ไม่สับสนปนเปกันเลย พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แต่เป็นเรื่องของการตั้งท้องก่อนแต่ง”
เซี่ยเหลยมองสีหน้าหวาดกลัวและสำนึกผิดของน้องสาว หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นทันที
สายตาของเขามองหลิวกุ้ยอิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่รู้ตัว
ตอนนั้นภรรยาของเขาก็เคยเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
หล่อนตั้งท้องก่อนแต่ง และเขาในฐานะคนรักที่ไม่ได้รับผิดชอบก็ไปรบในสงคราม เมื่อครอบครัวของหล่อนรู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงขังหล่อนไว้ในโรงเก็บฟืนเพื่อพยายามทำให้หล่อนแท้ง
หล่อนต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเรื่องนี้ แต่หล่อนก็ใช้ร่างกายอันบอบบางปกป้องลูกของพวกเขาไว้
เพราะความกล้าหาญและเข้มแข็งของหลิวกุ้ยอิงในตอนนั้น ทุกคนจึงมีชีวิตที่มีความสุขในวันนี้
คิดถึงเรื่องนี้แล้ว เซี่ยเหลยก็ไม่อาจเข้มงวดกับเซี่ยอวี่ได้อีกต่อไป
สายตาที่มองเย่ไป๋ก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
เย่ไป๋มีความรับผิดชอบมากกว่าเขาในตอนนั้น
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็อยู่เคียงข้างหล่อน
ถึงเย่ไป๋จะไม่ออกมารับผิดชอบ พวกเขาในฐานะครอบครัวฝ่ายหญิงก็ควรเป็นกำลังใจให้เซี่ยอวี่อย่างเข้มแข็ง
เขาไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นคนที่ตัวเองเกลียดที่สุดได้
“ในเมื่อมีแล้ว ก็จัดการงานใหม่ แล้วดูแลครรภ์ให้ดี” เซี่ยเหลยเอ่ยกับเซี่ยอวี่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้นมาก
หัวใจของเซี่ยอวี่กำลังเต้นไม่เป็นระส่ำ แต่พอได้ยินคำพูดนี้ของพี่ใหญ่อย่างกะทันหัน บวกกับใบหน้าอันแข็งกร้าวของเขาที่ฉายแววอ่อนโยนขึ้นมา หล่อนก็ตอบสนองไม่ทัน
เมื่อครู่พี่ใหญ่โกรธมาก หล่อนคิดว่าเขาคงต้องชกเย่ไป๋สักหมัด หรืออย่างน้อยก็ต้องสั่งสอนหล่อนสักหน่อย บอกให้หล่อนรักนวลสงวนตัวต่อไปในอนาคต
ทำไมถึงพัฒนาไปในทิศทางนี้อย่างกะทันหันล่ะ?
“ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่” เซี่ยอวี่รีบขอบคุณ “มีพี่ใหญ่คอยหนุนหลังให้ฉัน ฉันรู้สึกโชคดีมากเลยค่ะ”
เซี่ยอวี่เอ่ยชมเชยเซี่ยเหลย
เซี่ยเหลยไม่สนใจหล่อน หันไปมองเย่ไป๋ ถามเขาด้วยท่าทีจริงจังมาก
ในฐานะครอบครัว นี่คือสิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดในตอนนี้
เรื่องท้องก่อนแต่ง ขึ้นรถก่อนซื้อตั๋ว สำหรับพวกเขาแล้วไม่ได้มีอะไรมากมาย
พวกเขาไม่สนใจเรื่องนี้
ในเมื่อเซี่ยอวี่ตั้งครรภ์แล้ว สุขภาพและความปลอดภัยของหล่อนต่างหากที่สำคัญที่สุด
เย่ไป๋กล่าวว่า “ถือว่าเป็นสตรีมีครรภ์สูงอายุ แต่ทุกคนไม่ต้องกังวล ร่างกายของเสี่ยวอวี่แข็งแรงมาก ขอแค่ตรวจครรภ์เป็นประจำ รับประทานอาหารให้ครบถ้วน ก็จะไม่มีปัญหาอะไร ตอนคลอดเราจะไปโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงกว่านี้ ผมจะจัดการเอง”
เย่ไป๋เป็นแพทย์มืออาชีพ คำพูดของเขามีน้ำหนัก พอเขาพูดแบบนี้ ทุกคนก็วางใจ
เย่เจิ้งหัวกล่าวว่า
“ใช่ ๆ ตอนคลอด พวกเราเลือกไปคลอดที่ปักกิ่งหรือฮ่องกงก็ได้ ไปต่างประเทศก็ได้”
ในที่สุดสีหน้าของคุณแม่เซี่ยและคนอื่น ๆ ก็ผ่อนคลายลง
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ดีกว่าสมัยของพวกเขามากแล้ว
ครอบครัวของพวกเขาก็มีฐานะ สามารถขอทำเรื่องคลอดในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดได้อย่างสบาย ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อกสั่นขวัญแขวนนึกว่าพี่ใหญ่จะชกเย่ไป๋เข้าสักหมัดแล้ว พอออกมาเป็นแบบนี้ก็โล่งใจค่ะ
ไหหม่า(海馬)
………………..