ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 755 ความอิจฉาของเซี่ยไห่
ตอนที่ 755 ความอิจฉาของเซี่ยไห่
คุณแม่เซี่ยมองไปที่เย่ไป๋ เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวดอย่างหาได้ยาก “เย่ไป๋เอ๋ย ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีต พวกเราตระกูลเซี่ยต้องสั่งสอนเธอให้ดีแน่ ๆ แต่เพราะเห็นว่าเธอยังพอมีความรับผิดชอบ รู้จักแก้ไขสถานการณ์ทันเวลา และรับผิดชอบต่อลูกสาวของฉัน พวกเราเลยจะไม่เอาความใดๆ แต่เธอต้องสัญญานะว่าต่อไปจะต้องดูแลเสี่ยวอวี่ให้ดี ห้ามทำเรื่องที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อหล่อนเด็ดขาด แล้วก็ห้ามทำให้หล่อนต้องเสียใจด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งครอบครัวจะไม่ยอมแน่”
คุณแม่เซี่ยในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านพูดจบอย่างเป็นทางการ รอให้สมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้านเห็นด้วย
เซี่ยเหลยมีสีหน้าดุดันน่าเกรงขาม ความหมายของเขาชัดเจนมาก
ถ้ารังแกเซี่ยอวี่ เขาจะสู้กับเย่ไป๋จนตัวตาย
หลินเซี่ยก็พูดว่า “คุณหมอเย่ คุณต้องดูแลอาหญิงของฉันให้ดีนะ ไม่อย่างนั้นพวกเราทุกคนจะช่วยหนุนหลังหล่อน”
หลินจินซานพูดต่อ “ใช่แล้ว พวกเราทุกคนเป็นญาติฝ่ายแม่ของอาหญิง ใครรังแกอา ฉันจะเอาส้อมเหล็กไปแทงเขา”
ในหมู่บ้านของพวกเขา ถ้าลูกสาวที่แต่งงานออกไปถูกรังแกที่บ้านสามี พี่น้องฝ่ายแม่จะถือส้อมเหล็กไปแทงคน
ดังนั้นผู้หญิงในชนบทที่มีพี่น้องฝ่ายแม่เยอะ แทบไม่มีใครกล้ารังแกหล่อนเลยหลังจากแต่งงานออกไป
เย่ไป๋รับปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พวกคุณวางใจได้ ผมจะดูแลเซี่ยอวี่ให้ดี จะไม่ทำให้หล่อนต้องเสียใจแม้แต่นิดเดียว”
เย่เจิ้งหัวในฐานะผู้ใหญ่ของบ้าน ก็แสดงท่าทางอย่างจริงจังมาก “พวกเราทั้งครอบครัวจะดูแลหล่อนเป็นอย่างดี”
ทุกคนพูดกันคนละประโยค ฝ่ายตระกูลเซี่ยกำลังข่มขู่เย่ไป๋ ส่วนฝ่ายตระกูลเย่กำลังแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ
มีเพียงเซี่ยไห่กับลินดาสองคนเท่านั้นที่เหมือนถูกแยกออกจากพวกเขา นั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีส่วนร่วมในหัวข้อสนทนานี้เลย
คุณแม่เซี่ยเห็นเซี่ยไห่ที่ปกติชอบพูดมาก วันนี้กลับเงียบกริบ ไม่ได้ทำหน้าที่น้องชายฝ่ายแม่ที่ควรจะทำ คือพูดจาดุดันใส่เย่ไป๋
ถ้าเป็นปกติตอนนี้ เซี่ยไห่ต้องกระฉับกระเฉงและดุร้ายที่สุดแน่ ๆ
คุณแม่เซี่ยรู้สึกไม่คุ้นเคยเล็กน้อย มองไปที่เซี่ยไห่ เรียกเขาว่า “เสี่ยวไห่ แกคิดอะไรอยู่น่ะ? ทำไมไม่พูดอะไรเลย?”
เซี่ยไห่ได้ยินคำพูดของแม่แล้วก็ได้สติ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ?”
ก้าวไปถึงจุดนั้นเลยเชียว
ตอนนี้เซี่ยไห่มีแต่ความอิจฉาเต็มหัว
ทำไมเขากับเย่ไป๋ถึงได้แตกต่างกันนัก?
เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้ามีตาในครอบครัวนี้เลย
เขามีเงินแล้วจะทำอะไรได้? ก็ยังโดนกดขี่อยู่ดี
หลี่เหม่ยเฟิ่งเห็นเซี่ยไห่หน้าบึ้ง ก็พูดอย่างเอาใจว่า “เถ้าแก่เซี่ย อย่าโกรธเลยนะคะ คุณกำลังจะได้เป็นคุณน้าแล้วนะ ต่อไปเย่ไป๋ต้องดูแลพี่สาวของคุณเป็นอย่างดีแน่ ๆ พวกเราในฐานะพ่อแม่ก็จะคอยกำกับดูแลเขา ถ้าเขาทำอะไรบกพร่อง พวกคุณตีเขาได้เลย”
เซี่ยไห่ส่งเสียงฮึดฮัด พึมพำว่า “ผมไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอก”
เซี่ยอวี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นเซี่ยไห่ทำหน้าไม่พอใจ
ไอ้หนูนี่ ไม่ได้กลัวว่าพี่สาวจะถูกรังแกซะหน่อย
สายตาของเซี่ยอวี่มองไปที่ใบหน้าเคร่งเครียดของลินดา
ว่าตามตรง ตอนนี้สิ่งที่หล่อนกลัวที่สุดคือการเผชิญหน้ากับลินดา
ในฐานะศิลปิน หล่อนทำเรื่องใหญ่สองเรื่องโดยไม่ได้ปรึกษาผู้จัดการส่วนตัว
แถมยังมีงานในมืออีกด้วย
ตอนนี้ลินดาคงเครียดที่สุดแล้ว
หล่อนรู้สึกผิดในใจพอสมควร
แต่ตอนนี้เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องหาทางแก้ปัญหาต่อไป
หลี่เหม่ยเฟิ่งถามเย่ไป๋เบา ๆ “เสี่ยวไป๋ วันนี้เสี่ยวอวี่จะกลับไปกับพวกเราหรือเปล่า”
เย่ไป๋ตอบว่า “แม่ครับ พวกเราจะกลับไปจัดบ้านให้เรียบร้อยก่อน พรุ่งนี้ผมจะมารับเสี่ยวอวี่ ให้หล่อนพักผ่อนคืนนี้ดีๆ”
วันนี้เรื่องจดทะเบียนสมรสเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ที่บ้านยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย ตอนนี้เขาต้องกลับไปจัดการก่อน
“เสี่ยวอวี่ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม นี่เป็นเรื่องจริงทั้งหมดเลยเหรอ?”
เซี่ยอวี่มองนางแวบหนึ่ง พูดอย่างเรื่อย ๆ “แม่ ถ้าคิดว่ากำลังฝัน แม่ก็หยิกขาตัวเองดูสิ”
“เอาล่ะ พวกเรายังมีงานต้องคุยกัน ขอตัวก่อนนะคะ”
เซี่ยอวี่กับลินดากลับเข้าห้องแล้วปิดประตู
ลินดามองหล่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ยังคงไม่พูดไม่จา
เซี่ยอวี่รู้ตัวว่าผิด น้ำเสียงมีความหวังดี “ขอโทษจริง ๆ นะ ฉันก็ไม่คิดว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปแบบนี้ ฉันเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองว่าฉันท้อง เธอน่าจะเข้าใจฉันนะ ถ้าไม่แต่งงานกับเย่ไป๋ ลูกคนนี้ก็เกิดไม่ได้”
ถึงแม้พวกเขาจะอ้างว่าตัวเองเป็นผู้หญิงอิสระ สามารถเลี้ยงลูกเองได้โดยไม่มีพ่อ
แต่พูดง่ายกว่าทำจริงมาก
พี่น้องของพวกเขาไม่มีพ่อตั้งแต่เด็ก จึงได้รับความทุกข์ยากและความลำบากมากมาย
เหมือนอย่างที่เซี่ยไห่พูด เด็กที่ไม่มีพ่อ ความคิดมักจะไม่สมบูรณ์
ลินดาไม่อยากฟังหล่อนอธิบายเรื่องไร้สาระ ถามตรง ๆ “แล้วต่อไปเธอจะทำยังไง?”
เซี่ยอวี่พูดว่า “ฉากที่ฉันต้องถ่ายต่อไปนี้ไม่ค่อยมีฉากแอ็คชั่นมากนัก ร่างกายตอนนี้รับมือได้สบาย ๆ ถ่ายให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มท้องโตได้”
ละครที่กำลังถ่ายอยู่ตอนนี้เป็นละครสมัยใหม่ เน้นการแสดงและบทพูด ไม่ได้ใช้พละกำลังมากนัก
หล่อนพูดต่อว่า “ส่วนละครใหม่ต่อไป เรายังไม่ได้ตกลงกันเลย ตอนนี้ไม่ต้องกังวล”
“เธอต้องรับเล่นละครเรื่องต่อไป” ลินดามีท่าทางแข็งกร้าวผิดปกติ มองเซี่ยอวี่แล้วพูดว่า “เธอจะแต่งงานมีลูกฉันไม่ยุ่ง แต่เธอต้องมีจรรยาบรรณในอาชีพ อย่าให้ความพยายามของฉันสูญเปล่า ไม่งั้นฉันจะลาออกกลับฮ่องกง”
ลินดาพูดจบด้วยน้ำเสียงรุนแรง แล้วกำลังจะหันหลังเดินออกประตู
เซี่ยอวี่รีบคว้าแขนหล่อนไว้ แล้วปลอบโยน
“เธออย่าใจร้อนแบบนี้สิ เรามาปรึกษากันดี ๆ เถอะ”
ถ้าลินดาลาออกแล้วกลับฮ่องกง แค่เซี่ยไห่คนเดียวก็สามารถทำให้หล่อนปวดหัวได้แล้ว
เซี่ยอวี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย แล้วเอ่ยปาก “พรุ่งนี้ฉันจะไปบ้านเย่ไป๋แล้วคุยกับพ่อสามี ให้เขาไปหาผู้อำนวยการสร้าง บอกว่าฉันจะรับบทหว่านหลินโดยเฉพาะ ให้พวกเขาเตรียมงานขั้นต้นไปก่อน ส่วนฉากของฉันค่อยเริ่มถ่ายทำหลังจากฉันคลอดลูกแล้ว”
คุณเย่หัวกลายเป็นพ่อสามีหล่อนแล้ว ยังจะกลัวอะไรอีกล่ะ
ในที่สุดน้ำเสียงของลินดาก็อ่อนลง “อืม ถ้าเธอตกลงกับคุณเย่หัวได้ก็ดี”
เซี่ยอวี่รู้สึกว่าลินดากำลังรอประโยคนี้จากหล่อนอยู่
“งั้นเธอโทรถามผู้กำกับเหยียนหน่อยสิว่าฉากที่นั่นถ่ายเสร็จหรือยัง จะกลับมาถ่ายทำที่เมืองไห่เฉิงเมื่อไหร่ บอกเขาไปเลยว่าหลินเซี่ยออกจากอยู่เดือนแล้ว เข้ากองถ่ายเพื่อทำหน้าที่ช่างแต่งหน้าได้แล้ว”
ตอนนี้หล่อนเพิ่งตั้งครรภ์ได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยเห็นท้องนูนออกมาชัดเจน ต้องรีบถ่ายทำเสียแต่เนิ่นๆ
เซี่ยอวี่พูดจบ ลินดาก็ไม่ได้รีบโทรหาผู้กำกับเหยียน
เพื่อความรอบคอบ หล่อนพูดว่า “เธอไปถามเซี่ยเซี่ยก่อนแล้วกัน ลูกหล่อนยังเล็กมาก เธอแน่ใจหรือว่าหล่อนจะไปกองถ่ายได้”
“ฉันจะไปถามดู”
เซี่ยอวี่กำลังจะลุกขึ้น ลินดามองใบหน้าอ่อนล้าของหล่อน จึงห้ามเอาไว้ “ค่อยถามทีหลังเถอะ พักผ่อนสักหน่อยก่อน ท้องแล้วก็ต้องรู้จักดูแลตัวเอง”
ลินดาเป็นคนใจดีแต่ใบหน้าเย็นชา หล่อนช่วยถอดเสื้อโค้ทให้เซี่ยอวี่อย่างเอาใจใส่ ให้หล่อนนอนพักสักครู่
จากนั้นก็ตั้งใจจะออกไป “ฉันกลับไปก่อนนะ พอคุยกับเซี่ยเซี่ยเสร็จแล้วค่อยโทรหาฉัน”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่ไห่ก็พยายามเข้านะ อย่าให้แพ้พี่สองคนนะ
มีพ่อสามีเป็นเจ้าของบทประพันธ์มันดีอย่างนี้นี่เอง