ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 756 คำสัญญาของพ่อเลี้ยง
ตอนที่ 756 คำสัญญาของพ่อเลี้ยง
ลินดาต้องการกลับบ้าน เซี่ยไห่จึงรีบตามไปและบอกว่าจะไปส่งหล่อน
ลินดารู้สึกรำคาญเซี่ยไห่ที่ตามติดตนเหมือนแมลงวัน “ไม่ต้องส่งหรอก ฉันกลับเองได้”
ถ้านายเหาฉลามนี่ตามหล่อนกลับไปด้วย หล่อนจะไม่สามารถจัดการงานได้อย่างเหมาะสม
ตอนนี้ลินดาไม่อยากเห็นหน้าพวกคนแซ่เซี่ยเลยสักนิด
เซี่ยอวี่ก่อปัญหาให้หล่อนมากมาย ทำให้งานเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แถมเซี่ยไห่ยังจะมาแย่งเวลาส่วนตัวของหล่อน ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของหล่อนอีก
ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก หล่อนน่าจะอยู่ที่ฮ่องกงต่อไป
คุณแม่เซี่ยพูดว่า “ลินดา ให้เซี่ยไห่ไปส่งสิ เธอกลับคนเดียวมันไม่ปลอดภัย”
เซี่ยไห่หยิบเสื้อโค้ทแล้วเดินตามหลังลินดา
เนื่องจากคุณแม่เซี่ยพูดแล้ว ลินดาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก หล่อนบอกลาทุกคน แล้วก็จากไป
คุณแม่เซี่ยเห็นลูกชายเดินตามหลังลินดาอย่างกลัวว่าตัวเองจะถูกทิ้ง นางก็หัวเราะและพูดว่า “พอเซี่ยอวี่แต่งงาน เซี่ยไห่ก็เริ่มรู้จักร้อนใจซะที พวกเธอดูสิ เขาเดินตามติดหล่อนเป็นเงาเลย”
ถ้าเขามีท่าทีแบบนี้ตั้งแต่แรก ป่านนี้คงมีลูกโตขนาดไปโรงเรียนได้แล้ว
เซี่ยเหลยพูดว่า “ปล่อยให้เขาเร่งความสัมพันธ์หน่อย รีบแต่งงานกับลินดาซะ ครอบครัวของเราก็จะสมบูรณ์แบบ”
ในใจเซี่ยเหลยรู้สึกผิดต่อน้องชายและน้องสาวอยู่เสมอ
เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงพวกเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนป่วยอย่างเขาอยู่ในบ้าน บางทีพวกเขาอาจจะได้พบเจอคนที่ถูกใจและแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วในช่วงวัยที่ดีที่สุด
เนื่องจากสถานการณ์ครอบครัวที่พิเศษ น้องชายและน้องสาวจึงมีความกดดันทางจิตใจมาก ไม่กล้าที่จะคบหาหรือพูดคุยเรื่องความรัก และเพื่อเลี้ยงดูเขาที่เป็นคนป่วย พวกเขาจึงต้องทำงานหาเงินอย่างหนัก ไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องอื่น ๆ เลย
คุณแม่เซี่ยคิดไปไกลกว่าเซี่ยเหลย
จริง ๆ แล้วนางรู้ว่าทัศนคติเรื่องการแต่งงานของเซี่ยอวี่กับเซี่ยไห่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อที่ไม่จริงใจของพวกเขา
เหตุการณ์บ้านแตกสาแหรกขาดในครอบครัวเดิมทำให้พวกเขาต่อต้านและปฏิเสธการแต่งงานอย่างรุนแรง
นับตั้งแต่รู้ว่าเซี่ยเหลยมีลูกสาว ชีวิตของครอบครัวพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
โดยเฉพาะหลังจากที่หลิวกุ้ยอิงแต่งงานกับเซี่ยเหลย หล่อนก็ใช้ความรักความอบอุ่นจากลูกๆ มาสมานหัวใจที่ด้านชาของแม่ลูกอย่างพวกเขา
และทำให้น้องชายน้องสาวของเซี่ยเหลยได้นิยามความหมายของการแต่งงานใหม่
คุณแม่เซี่ยมองดูหลิวกุ้ยอิงที่กำลังยุ่งอยู่ด้วยสายตาที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก
นางเรียกหลิวกุ้ยอิงให้นั่งลง
“แม่ค่ะ ฉันขอเก็บบ้านให้เรียบร้อยก่อนนะคะ”
หลิวกุ้ยอิง มักจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ถึงในบ้านจะไม่มีฝุ่นผงเลยสักนิด แต่ถ้ามีหล่อนอยู่ในบ้าน หล่อนก็ยังคงตามเช็ดล้างอยู่ดี
“ไม่ต้องเก็บแล้ว สะอาดอยู่แล้ว” คุณแม่เซี่ยบอกให้หล่อนนั่งลงพร้อมกับหลินจินซานและหลินเยี่ยน
บอกว่าอยากคุยกับพวกเขาสักหน่อย
พวกหลิวกุ้ยอิงจำใจต้องนั่งลง
“คุณย่า จะเรียกเซี่ยเซี่ยกับน้องเขยออกมาด้วยไหมครับ” หลินจินซานคิดว่าคุณแม่เซี่ยมีเรื่องสำคัญจะคุย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรขาดหลินเซี่ยที่เป็นหลานสาวแท้ ๆ
คุณแม่เซี่ยพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ปล่อยให้พวกเขาพักผ่อนไปเถอะ ห้ามให้เซี่ยเซี่ยเหนื่อยเชียว”
คุณแม่เซี่ยดึงหลิวกุ้ยอิงมานั่งข้าง ๆ ตน
นางมองครอบครัวใหญ่ของเซี่ยเหลยด้วยสีหน้าเมตตา ตอนนี้รู้สึกขอบคุณพวกเขามาก
“แม่คะ เป็นอะไรไปคะ มีอะไรหรือเปล่า?” หลิวกุ้ยอิงที่ถูกคุณแม่เซี่ยกุมมือเอาไว้ถึงกับงุนงงมาก เห็นได้ว่าอารมณ์ของคุณย่าดูตื่นเต้นอยู่บ้าง
แน่นอนว่าเมื่อน้องสามีมีข่าวดี ในฐานะผู้สูงอายุก็เป็นเรื่องปกติที่จะตื่นเต้น
“อิงจื่อ ตอนนี้ฉันรู้สึกยินดีมากเหลือเกิน”
เซี่ยเหลยมองแม่ของเขาที่พูดจาอ่อนโยนแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
หลิวกุ้ยอิงยิ้มแล้วพูดว่า “แม่คะ พวกเราก็ดีใจกับเสี่ยวอวี่มากเหมือนกัน”
คุณแม่เซี่ยมองหลิวกุ้ยอิงด้วยสีหน้าจริงจังมากแล้วเอ่ยปากว่า “อิงจื่อ ฉันคิดว่า การที่ครอบครัวเราถึงจุดนี้ได้ก็เพราะเธอเข้ามามีบทบาทสำคัญ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราคงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบนี้หรอก”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องในอดีตหรอก เธอลองดูสิ ตั้งแต่แต่งงานกับเสี่ยวเหลย บ้านเราก็มีหลานสามคน ทำให้ในบ้านอบอุ่นและครึกครื้นขึ้น แถมยังมีอิทธิพลต่อความคิดของคนหัวรั้นอย่างเสี่ยวอวี่กับเสี่ยวไห่ด้วย”
คุณแม่เซี่ยถอนหายใจ “พวกเธอไม่รู้หรอกว่าตอนที่พวกเราอยู่ฮ่องกง เราใช้ชีวิตแบบไหน”
คนแก่มักจะเป็นแบบนี้ พอได้ใช้ชีวิตดี ๆ ก็ยิ่งชอบย้อนนึกถึงอดีต นึกถึงความขมขื่นและหวานชื่นที่ผ่านมา
“ก่อนหน้านี้ บ้านของพวกเราไม่เรียกว่าบ้านเลย ถึงแม้ว่าเสี่ยวอวี่จะเป็นนักแสดงแล้ว ฐานะการเงินจะดีกว่าคนส่วนใหญ่ แต่เราไม่มีความอบอุ่นและเสียงหัวเราะเหมือนครอบครัวอื่น ๆ เสี่ยวไห่แทบจะไม่ได้กลับบ้านสองครั้งต่อปี เสี่ยวอวี่ก็ทำงานยุ่ง ในบ้านก็มีแค่ฉันกับเสี่ยวเหลยสองคน ความทรงจำของเขาก็ขาดๆ หายๆ นิสัยเงียบขรึม สุขภาพก็ไม่ดี พวกเธอไม่รู้หรอกว่าฉันผ่านช่วงเวลาสิบกว่าปีนั้นมาได้ยังไง”
พูดไปพูดมา คุณแม่เซี่ยก็เผลอร้องไห้ออกมา
หลิวกุ้ยอิงเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่เซี่ยได้เป็นอย่างดี
ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา หล่อนก็ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเช่นกัน
แน่นอนว่าตอนที่หลินต้าฝูยังมีชีวิตอยู่ หล่อนก็พอมีที่พึ่งพิง ไม่ได้ทรมานขนาดนั้น
แต่ช่วงหลัง ๆ นี้ หล่อนต้องผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบาก
พอหลิวกุ้ยอิงเช็ดน้ำตาให้ คุณแม่เซี่ยก็รู้สึกอายนิดหน่อย ยิ้มแล้วพูดว่า “อิงจื่อ ฉันพูดไม่ค่อยเป็น วันนี้อารมณ์ค่อนข้างรุนแรงหน่อย พวกเธออย่าถือสานะ ต่อไปพวกเราทุกคนในครอบครัวต้องสามัคคีกัน ใช้ชีวิตให้ดี ๆ นะ”
“ค่ะแม่ คุณสบายใจได้ พวกเราจะดูแลบ้านนี้อย่างดีเลยค่ะ”
คุณแม่เซี่ยหันไปพูดกับหลินจินซาน “จินซาน ต่อไปก็ถึงตาเธอแล้วนะ”
“เสี่ยวเหลย พวกเธอพาจินซานไปดูบ้านหรือยัง? ช่วงว่าง ๆ ก็ไปเดินเล่นให้มาก ๆ นะ เลือกบ้านให้เร็ว ๆ เราจะได้จัดงานให้เด็ก ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง”
หลินจินซานพูดกับคุณแม่เซี่ยว่า “คุณย่าครับ ผมได้ปรึกษากับชุนฟางแล้ว พวกเราทั้งสองยังเด็ก ตอนนี้เช่าบ้านอยู่ก่อนก็ได้ครับ รอจนกว่าเรามีเงินเองค่อยว่ากัน”
ชุนฟางเป็นหญิงสาวที่มีเหตุผลมาก หล่อนเข้าใจสถานะและสถานการณ์ของตัวเองเป็นอย่างดี การให้เซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิงซื้อบ้านให้นั้นไม่เป็นการเหมาะสมเลย
ดังนั้น พวกเขาทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะเช่าบ้านอยู่ก่อน รอให้ทั้งคู่พยายามอีกสองปี เก็บเงินซื้อบ้านเอง
ตอนนี้หลินเซี่ยให้ตำแหน่งงานที่มีศักยภาพสูงแก่ชุนฟางในการบริหารร้านใหม่ด้วยตัวคนเดียว ขอแค่ทำธุรกิจให้ดี เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นก็จะตามมา
หลินจินซานก็ทำงานอยู่ที่ห้องเต้นรำของเซี่ยไห่ ได้ค่าจ้างมากกว่าที่อื่น ๆ
เมื่อเทียบกับคนหนุ่มสาวทั่วไปในสังคมที่ไม่มีพื้นฐานหรือคนรู้จัก พวกเขาทั้งสองได้เดินทางลัดแล้ว
“อย่างนั้นไม่ได้” เซี่ยเหลยพูดด้วยท่าทีแข็งกร้าว “เรื่องบ้านพวกเธอไม่ต้องกังวล ผู้ใหญ่อย่างพวกเราจะจัดเตรียมให้เอง”
เซี่ยเหลยเคยสัญญากับหลินต้าฝูที่หน้าหลุมศพของเขาว่าจะรับผิดชอบจัดการเรื่องแต่งงานของหลินจินซาน
เมื่อเขาให้คำมั่นสัญญาแล้ว ก็ต้องทำให้ได้
นี่ก็เป็นเรื่องที่หลิวกุ้ยอิงกังวลใจที่สุดมาโดยตลอด
ตอนที่เขาแต่งงานกับหลิวกุ้ยอิง หล่อนลังเลที่จะตอบตกลง สิ่งที่หล่อนกังวลใจก็คือเรื่องแต่งงานของหลินจินซาน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
คุณพ่อสมกับเป็นทหารเก่ามากค่ะ สัญญาอะไรคำไหนคำนั้น
ไหหม่า(海馬)
………………..