ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 798 รู้สึกตื่นเต้นที่ตึกสำนักงาน 1 กำลังจะสร้างเสร็จแล้ว

ตอนที่ 798 รู้สึกตื่นเต้นที่ตึกสำนักงาน 1 กำลังจะสร้างเสร็จแล้ว

………………..

ตอนที่ 798 รู้สึกตื่นเต้นที่ตึกสำนักงาน 1 กำลังจะสร้างเสร็จแล้ว

พออู๋เซิ่งหงบอกว่าตึกสำนักงานกำลังจะสร้างเสร็จแล้ว หลินเซี่ยก็รู้สึกตื่นเต้นมาก

“ตกลงค่ะ พวกเราจะต้องไปดูแน่นอน”

หลินเซี่ยส่งโทรศัพท์ให้เซี่ยไห่ เพื่อให้เขาคุยกับอู๋เซิ่งหงสักสองสามประโยค

เซี่ยไห่ได้ยินว่าตึกกำลังจะสร้างเสร็จก็รู้สึกดีใจมาก เขาถามอู๋เซิ่งหงทันทีว่าจะสามารถทำกำไรได้หรือไม่

อู๋เซิ่งหงหัวเราะเบาๆ “เถ้าแก่เซี่ย คุณวางใจได้ ตึกของเราสร้างขึ้นมาแล้วไม่มีทางขาดทุนหรอก”

“ได้ งั้นพวกเราจะไปดูตอนนั้น”

เมื่อได้ยินคำพูดซื่อๆ ของอู๋เซิ่งหง เซี่ยไห่ก็รู้สึกโล่งอกอย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดก็ไม่ได้ลงทุนไปเปล่าๆ

พูดตามตรง เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะขาดทุน

แต่หลินเซี่ยน่ะสิไม่เหมือนกัน

เธอไปยืมเงินจากเซี่ยอวี่มาสามแสนหยวน

ถ้าเกิดเสียหายไป มันต้องกระทบเธอหนักแน่

หลังวางสายโทรศัพท์แล้ว เซี่ยไห่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พูดกับหลินเซี่ยด้วยรอยยิ้ม

“เซี่ยเซี่ย ดูเหมือนว่าเราจะเดิมพันถูกแล้วนะ เงินที่ลงทุนไปคงได้คืนมาแน่”

หลินเซี่ยพูดอย่างมั่นใจ ไม่มีความลังเลในความสามารถของอู๋เซิ่งหงแม้แต่น้อย “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันบอกแล้วไงคะว่าเถ้าแก่อู๋ต้องทำสำเร็จ”

จนถึงตอนนี้เซี่ยไห่ก็ยังไม่เข้าใจว่าความเชื่อมั่นอย่างไม่ลืมหูลืมตาที่หลินเซี่ยมีต่ออู๋เซิ่งหงนั้นมาจากไหน

เขาถึงขั้นเริ่มเชื่อเรื่องที่หลินเซี่ยพูดว่าชาติที่แล้วชาตินี้ เป็นเรื่องจริงจังเสียแล้ว

หรือว่าจะเป็นอย่างที่หลินเซี่ยพูดจริงๆ ว่าเธอกับอู๋เซิ่งหงรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว?

คนทั้งคู่มีวาสนาต่อกันอะไรแบบนี้

หลินเซี่ยรับสายจากอู๋เซิ่งหง เธออารมณ์ดีมาก

“คุณอา รอฉันได้กำไรแล้ว ฉันจะรีบเอาเงินไปคืนนะคะ”

ในที่สุดเธอก็ใช้หนี้ได้เสียที

พูดตามตรงว่าการมีหนี้สินสามแสนหยวนอยู่บนบ่ามันค่อนข้างกดดัน

เซี่ยอวี่ไม่เคยใส่ใจเรื่องที่ให้หลินเซี่ยยืมเงินสามแสนหยวน หล่อนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องคืนหรอก เก็บไว้เถอะ ฉันมีเงิน”

เซี่ยอวี่ร่ำรวย แต่หลินเซี่ยมีหลักการ “ไม่ได้หรอก ยืมเงินมาแล้วจะไม่คืนได้ยังไงคะ ตอนนี้ฉันก็หาเงินได้แล้ว”

หลังจากคืนเงินต้นให้เซี่ยอวี่แล้ว เธอต้องได้กำไรส่วนแบ่งอีกก้อนใหญ่แน่ๆ

แค่คิดว่าเงินก้อนโตกำลังจะเข้าบัญชี หลินเซี่ยก็รู้สึกตื่นเต้นแทบหยุดไม่อยู่

แบบนี้มันรู้สึกดีชะมัดเลย ได้เงินง่ายๆ เพียงแค่เกาะหลังเสี่ยใหญ่

เธอต้องลองนึกดีๆ ว่ามีโปรเจ็กต์อะไรบ้างที่ทำกำไรงามๆ จะได้ไปทำความรู้จักกับเสี่ยใหญ่เพิ่มอีกสักคนสองคน แล้วรับทรัพย์สบายๆ ไป

เขาดีใจที่ตอนนั้นฟังคำแนะนำของหลินเซี่ย ยอมทุ่มทุนซื้อที่ดินผืนนั้น และดีใจที่หลินเซี่ยกล้าเสี่ยงลงทุนกับอู๋เซิ่งหงอย่างต่อเนื่อง เขาถึงมีโอกาสได้รู้จักกับอู๋เซิ่งหงในภายหลัง

ไม่งั้นเขาคงพลาดโอกาสทำเงินก้อนโตไปแล้ว

หลังจากคืนดีกับลินดาและจัดการกับข่าวลือที่แพร่สะพัดในกองถ่ายได้แล้ว เซี่ยไห่ก็ต้องกลับ เพราะห้องเต้นรำตอนนี้ขาดเขาไม่ได้ แถมตำรวจยังเรียกตัวไปช่วยงานบ่อยๆ เขาเลยไม่มีเวลาอยู่ต่อ ค่ำวันนั้นเขาจึงเดินทางกลับ

ไม่นานนัก การถ่ายทำละครของเซี่ยอวี่ก็ใกล้จะปิดกล้อง

หลินเซี่ยกับลูกพักอยู่ที่โรงแรมเกือบสองอาทิตย์

ตลอดสองอาทิตย์มานี้ หลิวกุ้ยอิงแทบไม่กล้าออกจากโรงแรม คอยเลี้ยงหลานอยู่แต่ในห้อง

เพื่อความปลอดภัย เมื่อใดที่เซี่ยเหลยอยู่ด้วย ทั้งสองคนถึงจะกล้าอุ้มหลานออกไปสูดอากาศข้างนอก

ในระหว่างนั้น เฉินเจิ้นเจียงกับสองผู้เฒ่าตระกูลเฉินก็อยู่ไม่ติดบ้าน พวกเขารีบร้อนไปมาหลายเที่ยวแล้ว

เฉินเจียซิ่งกับหยางหงเสียก็มาที่นี่ครั้งหนึ่ง โดยที่หยางหงเสียมาเพื่อรายงานภาพรวมการทำงานเป็นหลัก

หล่อนลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ พอถึงเวลาว่างก็ให้พนักงานทุกคนออกไปแจกใบปลิว

นอกจากนี้ยังมีโฆษณาตามสถานบันเทิงที่มีอยู่ทั่วเมืองไห่เฉิง รวมถึงร้านเสริมสวยของพวกเขาด้วย

ครั้งนี้มีนักเรียนมาสมัครมากขึ้น

เฉินเจียซิ่งมาหาหลินเซี่ยพร้อมกับหยางหงเสีย เขายังอยากไปกองถ่ายเพื่อดูว่านักแสดงถ่ายทำกันอย่างไร เขาอยากรู้อยากเห็นมาก

แม้หยางหงเสียจะไม่ได้พูดอะไร แต่หล่อนก็อยากไปดูเหมือนกัน

หล่อนอยากเปิดหูเปิดตาบ้าง

เนื่องจากเฉินเจียซิ่งทำผลงานได้ดีในช่วงนี้ หยางหงเสียก็ทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ หลินเซี่ยจึงตอบตกลงให้พวกเขาไปที่กองถ่าย พาพวกเขาไปเยี่ยมชมกอง

เดิมทีหยางหงเสียเรียนแต่งหน้า ตอนนี้ก็เป็นช่างแต่งหน้าหลักของร้านเช่าชุดแต่งงาน การพาหล่อนมาดูที่ห้องแต่งหน้าของกองถ่าย ทำให้หล่อนได้เห็นว่าช่างแต่งหน้ามืออาชีพแต่งหน้าให้คนอื่นอย่างไร

หยางหงเสียดูอย่างตั้งใจและตื่นเต้นมาก

หล่อนพบว่าตนเองรู้จักเทคนิคการแต่งหน้าของช่างแต่งหน้าเหล่านี้ดีพอ

ถ้าอย่างนั้น หล่อนก็ถือว่าเป็นคนในวงการแล้ว

หยางหงเสียแอบหวังว่าหากครั้งหน้าหลินเซี่ยไปทำงานในกองถ่ายแล้วจะพาหล่อนไปด้วย

……………………………………

จนกระทั่งมาถึงตอนที่เซี่ยอวี่ต้องถ่ายทำฉากสุดท้าย

เย่ไป๋ตั้งใจลางาน เฉินเจียเหอทำงานกะกลางคืน พอได้ยินว่าเซี่ยอวี่ถ่ายทำฉากสุดท้ายเสร็จ และหลินเซี่ยก็จะกลับบ้าน เขาจึงไปที่กองถ่ายพร้อมกับเย่ไป๋และเซี่ยไห่

เพื่อมารับภรรยาและลูกกลับบ้าน

การปรากฏตัวของชายหนุ่มทั้งสามคนนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในกองถ่าย

‘เย่ไป๋’ เคยลงข่าวกับ ‘เซี่ยอวี่’ มาก่อน ดังนั้นหลายคนในวงการจึงจำเขาได้ทันที

พวกเขารู้ว่าเขาเป็นแฟนของ ‘เซี่ยอวี่’

ส่วน ‘เซี่ยไห่’ เพิ่งมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แถมยังมาแบบยิ่งใหญ่อีกต่างหาก ทุกคนจึงรู้ว่าเขาเป็นน้องชายของ ‘เซี่ยอวี่’ และเป็นแฟนของ ‘ลินดา’

แถมเขายังลงทุนให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย

“ผู้ชายคนนั้นก็หล่อเหลาเหมือนกัน เขาเป็นใครกันนะ ฉันรู้สึกว่าเขาดูมีออร่ามากกว่าแฟนและน้องชายของ ‘เซี่ยอวี่’ อีก”

“ใช่ ดูเป็นชายชาตรีมาก”

สายตาของหญิงสาวหลายคนจับจ้องไปที่ ‘เฉินเจียเหอ’ จนไม่อาจละสายตาไปได้

‘เย่ไป๋’ ดูอบอุ่นและสุภาพ ส่วน ‘เซี่ยไห่’ ดูเป็นผู้นำ

ขณะที่เฉินเจียเหอไว้ผมสั้นเกรียน สวมกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ เผยให้เห็นต้นแขนอันแข็งแรงกำยำ

เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคาย ดูลึกลับน่าเกรงขาม บ่งบอกถึงพลังอำนาจบางอย่าง ท่าทางองอาจสมชายชาตรี

ผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้หญิงได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นผู้ชายที่มีลักษณะแบบนี้

เพียงแค่เขายืนอยู่ตรงนั้น รอบกายก็แผ่รังสีแห่งเพศชายออกมาอย่างชัดเจน

เฉินเจียเหอรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาที่เขา เขาจึงขยับไปยืนด้านหลัง เซี่ยไห่อย่างเงียบๆ โดยใช้ร่างของเซี่ยไห่บดบังสายตาเหล่านั้น

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เชื่อเซี่ยเซี่ยแล้วรวยเละกันถ้วนหน้าเลย

พี่เหอชอบให้เซี่ยเซี่ยมองคนเดียวเท่านั้นค่ะ พวกเธอหยุดมองสามีชาวบ้านเดี๋ยวนี้

ไหหม่า(海馬)